สวัสดีค่ะ เราเองเป็นอีกคนที่เล่นพันทิปมานานแล้ว
แต่เรื่องที่จะเล่านี้ คนรอบตัวน่าจะคาดเดาได้
login ตัวเอง เพื่อนก็รู้จักค่อนข้างเยอะ
จึงขออนุญาต ถอด login ออกก่อนนะคะ
(ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมบางกระทู้ ส่วนใหญ่เค้าถอด login กัน)
มันเป็นเรื่องราวความรักของเราค่ะ
เราคบผู้ชายคนนึง ของแทนชื่อย่อว่า น นะคะ
ตั้งแต่ ม4 จนถึงตอนนี้จะ 27 ปีแล้ว ระยะเวลาที่คบกันน่าจะราวๆ 11-12ปี
ในช่วงปีแรกๆก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ตั้งแต่ ม4-ม6 ก็ช่วยกันเรียน ช่วยกันติว มีบางครั้งก็ไปเที่ยวดูหนังเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป
แต่มีครั้งนึงตอน ม5 เค้าไม่สบอารมณ์เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ลากเราไปหลังรร ซึ่งเป็นอาณาเขตของวัด
เค้าทำร้ายเราค่ะ ต่อยท้องเรา จนเราแทบทรุดไปกองกับพื้น
บังเอิญตอนนั้นเจอเพื่อนเราที่เรียนด้วยกันตอนมอต้น เค้าเป็นลูกศิกษ์วัดผ่านมาพอดี
มาถามว่าเราเป็นไรไหมเห็นหน้าซีดๆ เราก็บอกเพื่อนไม่เป็นไร เราไล่ให้เพื่อนออกไป
เพราะส่วนนึงก็ห่วงเพื่อน เพราะแฟนเรา น ตัวสูง เพื่อนเราสูงพอกับเราเอง เราไม่อยากให้เพื่อนเป็นอันตราย
อีกส่วนนึงก็กลัวเข้าถูกลงโทษจากทางโรงเรียน เพราะช่วงนั้นมันต้องเตรียมตัวที่จะอ่านหนังสือสอบ O-Net A-Net แล้วด้วย
เค้าก็มาขอโทษ เค้าอารมณ์วู่วามไปนิดนึง เพราะคิดว่าเราเป็นต้นเหตุที่ทำให้เค้าไม่พอใจ จนเข้าใจเราผิด
เราก็อ่ะ โอเค ให้อภัย เพราะรักหรือโง่ก็ไม่รู้...
ตอน มอ6 ก็เริ่มระหองระแหงกัน เพราะเค้าคุยกับเด็กที่อยู่พะเยา ชื่อ ม คุยกันเกินเลยมากกว่าพี่น้อง
เค้าก็อ้างว่า น้องเค้าปรึกษาเรื่องเรียน เราก็ไม่อยากเป็นแฟนที่ขี้ระแวงนะ พยายามไม่คิดมาก
จนเจอข้อความอวยพรของน้อง ม ขอให้พี่ น สอบได้นะคะ รักแฟนที่สุดเลย ใน msn
เรานี้ตัวชาไปเลย แล้วพีคกว่านั้น เราเจอตอนช่วงสอบ A-Net ค่ะ สมงสมอง หนังสือที่อ่าน ตีกันกระจาย (แอบสมเพชตัวเองนิดๆ)
เราเลยให้เค้าเลือกอ่ะ เค้าจะเลือกใคร เราไม่ไหวแล้ว เราระแวง สุดท้ายเค้าเลือกเรา เค้าปิดเมลนั้นทิ้ง สมัครเมลและเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ทั้งคู่
เราใช้เวลาเกือบสองปี ที่จะเลิกระแวงน้อง ม กับ แฟนเรา
จนในที่สุดเรากับแฟนเรา เข้ามหาลัยเดียวกันย่านพระราม7
คณะเดียวกันค่ะ แต่คนละเอก วิทยาเหมือนกัน
ตั้งแต่ขึ้นมหาลัย เราทำงานพิเศษ หลังเลิกเรียน (คือตั้งแต่ปี 1 ยัน ปี 4 เราทำงานส่งตัวเองเรียนค่ะ ทั้งกู้กยศ ทั้งขอทุนมหาวิทยาลัย)
จนช่วงปี 4 ใกล้สอบโปรเจค เราทำโปรเจคกับอีกมหาลัยนึง
เดินทางจากมหาลัยไป แถวๆสุวรรณภูมิ เกือบ 3ใน5 วัน
ก็มีน้องคนใหม่คนนึงชื่อย่อ ว่า จ อยู่ในจังหวัดปริมณฑลเหมือนของเราแหละแต่คนละจังหวัดกัน
น กับ จ เค้าก็คุยกันเพราะทั้งคู่ชอบภาษาญี่ปุ่น พยายามหัดเรียนอยู่ จนน้อง จ มาปรึกษาเรื่องหัวใจ เค้าทะเลาะกับแฟนเค้า
เลยมาปรึกษาแฟนเราเพราะอยากได้ความคิดเห็นจากผู้ชายบ้าง จนบางครั้งเค้าทั้งสองออกไปเจอกันข้างนอก ไปสวนรถไฟ ไปดูหนัง
จริงๆบางครั้งเราก็บอกแฟนนะ ว่าไม่อยากให้ไป ไม่ชอบไม่สบายใจ เค้าให้เหตุผลมาว่า
เค้ามาบอกเพราะเค้าบริสุทธิ์ใจ ถ้าเค้าจะหนีไปเที่ยวกับน้องสองคน เค้าไปเงียบๆ ไม่บอกเราได้
เราก็เหมือนถูกต้อนจนจนมุด้วยเหตุผลนี้
สุดท้ายเรื่องมาแดงขึ้น เพราะน้องคนนี้หายตัวไป เพื่อนๆเค้าออกตามหา และผลปรากฎว่า น้องคนนี้ไปอยู่กับแฟนเราค่ะ
เช่าห้องพักรายวันไว้คืนนึง น้องเค้าร้องไห้เสียใจที่เลิกกับแฟน ให้แฟนเราพาน้องเค้าออกไปคลายเครียด ไม่อยากกลับบ้าน
และน้องคนนั้นก็กินยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย แต่แฟนเราพาน้องไปล้างท้องทัน
ที่เรารู้เพราะผู้ใหญ่ของน้องเรียกให้เราไปหาค่ะ
เราช๊อกเหมือนถูกฟ้าผ่า เพราะครั้งนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าค้างคืนด้วยกัน ก่อนหน้านั้น เค้าเคยไปเที่ยวหัวหินด้วยกันด้วย
เขียนรูปบนหาดทรายชื่อ น รัก จ ถ่ายรูปลงเฟส แต่แฟนเราหลอกเราว่า ไปหัวหินกับที่บ้าน
เราก็นะ เชื่อสนิทใจจริงๆ ช่วงนั้นเลยไม่โทรหาเค้า เพราะทราบมาว่า พ่อเค้าหยุดงานลำบาก คงอยากมีเวลาให้ครอบครัว
แต่นึกไม่ถึงว่าจะหลอกเราซับซ้อนขนาดนี้
มาต่อเรื่องของผู้ใหญ่ฝ่ายน้อง จ เรียกเราไปพบ เพราะเค้าอยากคุยกับเรา และให้ผู้ชายเลือก(น) ว่า จะเลือกเราหรือน้อง จ
ถ้าเลือก น้อง จ ให้น้อง จ จบม6 ก่อนแล้วให้แฟนเราแต่งกับ จ
แต่ถ้าเลือกเรา ให้เลิกติดต่อกับน้อง จ ซะ
ตอนนั้นเค้าเลือกเรานะ แต่สองคนนั้นแอบคุยกันจนเราจับได้ เราทนไม่ไหวแล้ว เลยพูดคำขาดเลยว่าถ้าจะเลือกน้องจ ก็ไปเลยนะ อย่ามาหาเรา
เราทนไม่ไหวแล้ว สุดท้าย เค้าก็โทรไปหา น้อง จ แล้วบอกว่า "พี่เลือกเค้า"
เค้าพาเราไปเปลี่ยนซิม เปลี่ยนเบอร์ (ผู้ใหญ่ฝ่ายนู้นมีเบอร์โทรเราด้วยค่ะ)
เรานี้แบบ ทำไมต้องมารู้เรื่องราวแย่ๆ ช่วงสอบทุกครั้งเลย (ครั้งแรกตอน admission ครั้งสองตอนเตรียมสอบจบปตรี)
หลังเหตุการณ์นี้ เรากับเค้าก็จบรับปริญาบัตรกันทั้งคู่ แต่เค้าได้เกียรติยมอันดับ1
หลังจากนั้น เค้าก็ไปเรียนต่อปโท Insurance
เค้าก็มีเพื่อนในมหาลัยที่ใหม่ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแหละค่ะ เราก็เข้าใจ ไม่ได้หึงหวงตามติดอะไรกับ น เค้า
จนเรามาเห็นบันทึกแชท ที่เค้าชวนเพื่อนไปเที่ยวดูหนังสองคน แล้วเพื่อนผู้หญิงถามว่า ไม่กลัวแฟนว่าเหรอ
เค้าบอกว่าเรื่องแบบนี้ "ใครเร็วใครได้"
แต่เรามาเห็นแชทนี้ก็ผ่านไป สาม สี่ปีอ่ะ555 เขางอกไปถึงไหนก็ไม่รู้
จริงๆ ก่อหน้านั้นเราก็สงสัยนะ ว่าทำไมวันซ้อมรับปริญญาโท เค้าไม่ให้เรามา เพราะอย่างนี้นี่เอง
เค้าถึงขั้นอาลาวาดและทำร้ายร่างกายเรา
คำว่าทำร้ายร่างกายเรา ก็จะเป็นประเภท ทุบ ตบ ตี กระท ื บ
มีครั้งนึงเรื่อง น้อง จ เราไม่ฟังเค้าแก้ตัว เค้าตบหน้าเราหูดับเลย พอเราล้ม เค้าก็เตะลำตัวเราอย่างแรง
มีบีบคอจนเราหายใจไม่ออก จนตาเหลือก
หรือจับหัวเรา โขกกระแทกกับกำแพง จิกผม
ซึ่งเหตุการณ์นี้เจอบ่อยตอนที่เค้าติดต่อ น้อง จ จน เค้าเรียนปโท
เค้าให้เหตุผลว่า เวลาเค้าทะเลาะกับเค้า แล้วเราเงียบไม่อยากตอบ เพราะเค้าชอบเสียงดัง และดังขึ้นเรื่อยๆ ตะคอก จนได้ยินกันทั้งตึก
เค้าก็เลยลงไม้ลงมือกับเรา เพื่อให้เราเปิดปากพูดค่ะ
มีครั้งนึง เค้าปัดจานเข้าเราที่กำลังทานอยู่ปาเข้ากำแพง
(เดือดร้อนเราที่ต้องมาทำความสะอาดกำแพงหออีก)
ซึ่งอารมณ์รุนแรงเค้าจะเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ตัวนะ อย่างเช่น เรา พ่อ แม่ น้องชายเค้า
ตอนนั้นเค้าทะเลาะกับแม่ แล้วเค้าเขวี้ยงกะทะใส่ แถวๆที่แม่ยืนอยู่ เค้าบอกเราว่าเค้าตั้งใจให้ไม่โดน และเค้าก็เสียใจที่ได้ทำอย่างนั้น
ตอนเค้าทะเลากับพ่อ เค้าไม่ยอมกลับบ้าน (สมัยเรียนเราไม่ให้เค้าค้างหอเรานะคะ) เค้าหนีไปบ้านเพื่อน
จนพ่อส่งข้อความมาง้อแล้วติดแอร์ที่ห้องนอนเค้าให้ในอาทิตย์ถัดมา
ตอนเค้าทะเลาะกับน้องชาย น้องชายเค้าคุยกับเราใน inbox facebook เรื่องน้อง จ
เค้าเอามือถือเราไปเล่นตอนรอเราทำผม ก็ไปอาละวาตะคอกใส่น้องตัวเอง จากนั้นมาอาละวาดใส่เราต่อที่ติดต่อกับญาติเค้า
แม่เค้าเคยเล่าให้เราฟัง ว่าเค้าโกรธแม่ ไม่ยอมพูดกับแม่ ตอนเค้ากลับบ้าน เจอแม่เค้าคุยกับเพื่อนบ้านอยู่
เค้าไหว้สวัดดีเพื่อนบ้านนะ แต่ไม่ทักทายแม่ตัวเองเลยแล้วเข้าบ้านไป แม่เค้าเล่าว่าแม่เค้าน้ำตาร่วงเลย
เค้ามาคุยกับแม่เค้าตอนนั้นปลายปี เรากับเค้าไปเที่ยวตจวค่ะ เราซ้อนมอเตอร์ไซด์เค้า แล้วเค้าแหกโค้ง
หัวเรากระแทกกับพื้น จนหัวโนปูนมาถึงทุกวันนี้ ส่วนเค้าก็เย็บ20 เข็ม
จากเหตุการณ์นั้นเอง เค้าได้มาคุยกับแม่ เพราะพ่อแม่พาเค้าไปรพ หาหมอ ทำแผล
ส่วนกับเราเค้าขอเราแต่งงาน หลังจากเค้าเรียนโทจบ ให้รออีกสองปี
พอเค้าเรียนจบขึ้นมา ระหว่างที่เค้าเรียนเราก็ช่วยเค้านะ ในเรื่องจิปาถะหลายๆอย่าง
เรื่องงานก็เหมือนกัน ถามเจ้านาย คนสนิท หางานให้เค้า ถามทุกคนทุกสายที่เราพอมีก็ให้เค้าไปสมัคร
เค้าว่างงานมาประมาณ 8-9 เดือน เค้าเครียดเรื่องานและทะเลาะกับที่บ้านเรื่องงาน
เลยมาหาเราต่อ แล้วทะเลาะกับเราอีก จนจะทำลายข้าวของในห้องเรา เช่น ทีวี ตู้เย็น โน๊ตบุ๊ค มือถือ
เราอดทนมาตลอดนะ ช่วงที่เค้าเครียดเรื่องหางานไม่ได้ เราพยายามอดทนใจเย็น
ก่อนหน้านั้น เราพาเค้าไปเที่ยวไหว้พระให้สบายใจ (โดยส่วนตัวแล้วเค้าไม่เชื่อในเรื่องศาสนา)
พยายามทำทุกอย่าที่เค้าต้องการ ให้เค้าดีขึ้นแต่เค้าก็มาทำร้ายเราต่อ บอกเลิกเราเกือบสิบหน
แล้วก็เป็นคนมาขอโทษและส่งข้อความมาให้เรายกโทษให้
พอพายุอารมณ์ น เค้าแรงขึ้นเรื่อยๆ จนจะเขวี้ยงโน๊ตบุ๊คเรา
เหมือนฟางเส้นสุดท้ายเราหลุด เลยพูดกับเค้าว่า
"นายไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายข้าวของเรา ของทุกอย่างทุกชิ้น
เราหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราคนเดียว
นายขอเงินพ่อแม่อยู่ไม่มีสิทธิ์มาทำลายของคนอื่น"
พอเค้าได้ยินเค้าน้ำตาร่วง กอดเราขอโทษร้องไห้
บอกตัวเอง ว่าเค้าประสบความสำเร็จเรื่องเรียน จบปตรีได้เกียรตินิยม พอต่อปโท ก็จบก่อนเพื่อนในรุ่น จนตอนนี้เพื่อนในรุ่นจะจบแล้ว
เค้ายังหางานไม่ได้ เค้ารู้สึกตัวเองล้มเหลว ที่บ้านก็ไม่มีใครเข้าใจเค้า อยากให้เค้าทำงานอะไรก็ได้ไปก่อน เค้าไม่อยากไปเสียเวลางานกับงานที่ไม่ใช่
แต่ที่บ้านไม่มีใครเข้าใจเค้าเลย
การที่เค้าออกจากบ้านไปหางาน เค้ารู้สึกเหนื่อย เพราะเค้าอยู่ไม่ได้อยู่ฟังเมืองแบบเรา
เราก็เลยอ่ะ ถ้าจะมาพักเป็นบางวัน มาหางานเราก็ไม่ว่านะ
ปีนั้น เค้าก็ไปๆมาๆ ระหว่างหอเรากับที่บ้าน เสื้อผ้าไปสัมภาษณ์งานก็ให้แม่ดู
พออยู่หอเรา เราก็เป็นคนดูแล ทั้งเสื้อผ้าส่วนตัว อาหารการกิน
หลายๆอย่าง ค่าน้ำไฟเนต ค่ากิน เราไม่เคยเก็บเค้านะ
ส่วนเรื่องอาหาร ตั้งแต่คบกัน คู่ของเราเป็นพวกอเมริกันแชร์ ต่างคนต่างจ่าย
จนเราทำงาน บางครั้งเราก็อาจจะออกให้เค้าก่อนเช่นไปเที่ยว หรือ ออกค่าอาหารมากว่านิดหน่อย
เพราะเราถือว่าเราทำงาน เค้าไม่มีรายได้
เรายังยินดีอยู่เคียงข้างเค้าไหม
เราบอกเรายินดี เพราะเราทั้งสองคนก็ผ่านทั้งเรื่องร้ายและเรื่องดี เราไม่ได้ต้องการผู้ชายที่สมบูรณ์ที่สุด
แต่เราต้องการเค้าคนเดียว
จากความรัก และ ความอดทนของผู้หญิงคนนึง
แต่เรื่องที่จะเล่านี้ คนรอบตัวน่าจะคาดเดาได้
login ตัวเอง เพื่อนก็รู้จักค่อนข้างเยอะ
มันเป็นเรื่องราวความรักของเราค่ะ
เราคบผู้ชายคนนึง ของแทนชื่อย่อว่า น นะคะ
ตั้งแต่ ม4 จนถึงตอนนี้จะ 27 ปีแล้ว ระยะเวลาที่คบกันน่าจะราวๆ 11-12ปี
ในช่วงปีแรกๆก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ตั้งแต่ ม4-ม6 ก็ช่วยกันเรียน ช่วยกันติว มีบางครั้งก็ไปเที่ยวดูหนังเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป
แต่มีครั้งนึงตอน ม5 เค้าไม่สบอารมณ์เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ลากเราไปหลังรร ซึ่งเป็นอาณาเขตของวัด
เค้าทำร้ายเราค่ะ ต่อยท้องเรา จนเราแทบทรุดไปกองกับพื้น
บังเอิญตอนนั้นเจอเพื่อนเราที่เรียนด้วยกันตอนมอต้น เค้าเป็นลูกศิกษ์วัดผ่านมาพอดี
มาถามว่าเราเป็นไรไหมเห็นหน้าซีดๆ เราก็บอกเพื่อนไม่เป็นไร เราไล่ให้เพื่อนออกไป
เพราะส่วนนึงก็ห่วงเพื่อน เพราะแฟนเรา น ตัวสูง เพื่อนเราสูงพอกับเราเอง เราไม่อยากให้เพื่อนเป็นอันตราย
อีกส่วนนึงก็กลัวเข้าถูกลงโทษจากทางโรงเรียน เพราะช่วงนั้นมันต้องเตรียมตัวที่จะอ่านหนังสือสอบ O-Net A-Net แล้วด้วย
เค้าก็มาขอโทษ เค้าอารมณ์วู่วามไปนิดนึง เพราะคิดว่าเราเป็นต้นเหตุที่ทำให้เค้าไม่พอใจ จนเข้าใจเราผิด
เราก็อ่ะ โอเค ให้อภัย เพราะรักหรือโง่ก็ไม่รู้...
ตอน มอ6 ก็เริ่มระหองระแหงกัน เพราะเค้าคุยกับเด็กที่อยู่พะเยา ชื่อ ม คุยกันเกินเลยมากกว่าพี่น้อง
เค้าก็อ้างว่า น้องเค้าปรึกษาเรื่องเรียน เราก็ไม่อยากเป็นแฟนที่ขี้ระแวงนะ พยายามไม่คิดมาก
จนเจอข้อความอวยพรของน้อง ม ขอให้พี่ น สอบได้นะคะ รักแฟนที่สุดเลย ใน msn
เรานี้ตัวชาไปเลย แล้วพีคกว่านั้น เราเจอตอนช่วงสอบ A-Net ค่ะ สมงสมอง หนังสือที่อ่าน ตีกันกระจาย (แอบสมเพชตัวเองนิดๆ)
เราเลยให้เค้าเลือกอ่ะ เค้าจะเลือกใคร เราไม่ไหวแล้ว เราระแวง สุดท้ายเค้าเลือกเรา เค้าปิดเมลนั้นทิ้ง สมัครเมลและเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ทั้งคู่
เราใช้เวลาเกือบสองปี ที่จะเลิกระแวงน้อง ม กับ แฟนเรา
จนในที่สุดเรากับแฟนเรา เข้ามหาลัยเดียวกันย่านพระราม7
คณะเดียวกันค่ะ แต่คนละเอก วิทยาเหมือนกัน
ตั้งแต่ขึ้นมหาลัย เราทำงานพิเศษ หลังเลิกเรียน (คือตั้งแต่ปี 1 ยัน ปี 4 เราทำงานส่งตัวเองเรียนค่ะ ทั้งกู้กยศ ทั้งขอทุนมหาวิทยาลัย)
จนช่วงปี 4 ใกล้สอบโปรเจค เราทำโปรเจคกับอีกมหาลัยนึง
เดินทางจากมหาลัยไป แถวๆสุวรรณภูมิ เกือบ 3ใน5 วัน
ก็มีน้องคนใหม่คนนึงชื่อย่อ ว่า จ อยู่ในจังหวัดปริมณฑลเหมือนของเราแหละแต่คนละจังหวัดกัน
น กับ จ เค้าก็คุยกันเพราะทั้งคู่ชอบภาษาญี่ปุ่น พยายามหัดเรียนอยู่ จนน้อง จ มาปรึกษาเรื่องหัวใจ เค้าทะเลาะกับแฟนเค้า
เลยมาปรึกษาแฟนเราเพราะอยากได้ความคิดเห็นจากผู้ชายบ้าง จนบางครั้งเค้าทั้งสองออกไปเจอกันข้างนอก ไปสวนรถไฟ ไปดูหนัง
จริงๆบางครั้งเราก็บอกแฟนนะ ว่าไม่อยากให้ไป ไม่ชอบไม่สบายใจ เค้าให้เหตุผลมาว่า
เค้ามาบอกเพราะเค้าบริสุทธิ์ใจ ถ้าเค้าจะหนีไปเที่ยวกับน้องสองคน เค้าไปเงียบๆ ไม่บอกเราได้
เราก็เหมือนถูกต้อนจนจนมุด้วยเหตุผลนี้
สุดท้ายเรื่องมาแดงขึ้น เพราะน้องคนนี้หายตัวไป เพื่อนๆเค้าออกตามหา และผลปรากฎว่า น้องคนนี้ไปอยู่กับแฟนเราค่ะ
เช่าห้องพักรายวันไว้คืนนึง น้องเค้าร้องไห้เสียใจที่เลิกกับแฟน ให้แฟนเราพาน้องเค้าออกไปคลายเครียด ไม่อยากกลับบ้าน
และน้องคนนั้นก็กินยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย แต่แฟนเราพาน้องไปล้างท้องทัน
ที่เรารู้เพราะผู้ใหญ่ของน้องเรียกให้เราไปหาค่ะ
เราช๊อกเหมือนถูกฟ้าผ่า เพราะครั้งนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าค้างคืนด้วยกัน ก่อนหน้านั้น เค้าเคยไปเที่ยวหัวหินด้วยกันด้วย
เขียนรูปบนหาดทรายชื่อ น รัก จ ถ่ายรูปลงเฟส แต่แฟนเราหลอกเราว่า ไปหัวหินกับที่บ้าน
เราก็นะ เชื่อสนิทใจจริงๆ ช่วงนั้นเลยไม่โทรหาเค้า เพราะทราบมาว่า พ่อเค้าหยุดงานลำบาก คงอยากมีเวลาให้ครอบครัว
แต่นึกไม่ถึงว่าจะหลอกเราซับซ้อนขนาดนี้
มาต่อเรื่องของผู้ใหญ่ฝ่ายน้อง จ เรียกเราไปพบ เพราะเค้าอยากคุยกับเรา และให้ผู้ชายเลือก(น) ว่า จะเลือกเราหรือน้อง จ
ถ้าเลือก น้อง จ ให้น้อง จ จบม6 ก่อนแล้วให้แฟนเราแต่งกับ จ
แต่ถ้าเลือกเรา ให้เลิกติดต่อกับน้อง จ ซะ
ตอนนั้นเค้าเลือกเรานะ แต่สองคนนั้นแอบคุยกันจนเราจับได้ เราทนไม่ไหวแล้ว เลยพูดคำขาดเลยว่าถ้าจะเลือกน้องจ ก็ไปเลยนะ อย่ามาหาเรา
เราทนไม่ไหวแล้ว สุดท้าย เค้าก็โทรไปหา น้อง จ แล้วบอกว่า "พี่เลือกเค้า"
เค้าพาเราไปเปลี่ยนซิม เปลี่ยนเบอร์ (ผู้ใหญ่ฝ่ายนู้นมีเบอร์โทรเราด้วยค่ะ)
เรานี้แบบ ทำไมต้องมารู้เรื่องราวแย่ๆ ช่วงสอบทุกครั้งเลย (ครั้งแรกตอน admission ครั้งสองตอนเตรียมสอบจบปตรี)
หลังเหตุการณ์นี้ เรากับเค้าก็จบรับปริญาบัตรกันทั้งคู่ แต่เค้าได้เกียรติยมอันดับ1
หลังจากนั้น เค้าก็ไปเรียนต่อปโท Insurance
เค้าก็มีเพื่อนในมหาลัยที่ใหม่ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแหละค่ะ เราก็เข้าใจ ไม่ได้หึงหวงตามติดอะไรกับ น เค้า
จนเรามาเห็นบันทึกแชท ที่เค้าชวนเพื่อนไปเที่ยวดูหนังสองคน แล้วเพื่อนผู้หญิงถามว่า ไม่กลัวแฟนว่าเหรอ
เค้าบอกว่าเรื่องแบบนี้ "ใครเร็วใครได้"
แต่เรามาเห็นแชทนี้ก็ผ่านไป สาม สี่ปีอ่ะ555 เขางอกไปถึงไหนก็ไม่รู้
จริงๆ ก่อหน้านั้นเราก็สงสัยนะ ว่าทำไมวันซ้อมรับปริญญาโท เค้าไม่ให้เรามา เพราะอย่างนี้นี่เอง
เค้าถึงขั้นอาลาวาดและทำร้ายร่างกายเรา
มีครั้งนึงเรื่อง น้อง จ เราไม่ฟังเค้าแก้ตัว เค้าตบหน้าเราหูดับเลย พอเราล้ม เค้าก็เตะลำตัวเราอย่างแรง
มีบีบคอจนเราหายใจไม่ออก จนตาเหลือก
หรือจับหัวเรา โขกกระแทกกับกำแพง จิกผม
ซึ่งเหตุการณ์นี้เจอบ่อยตอนที่เค้าติดต่อ น้อง จ จน เค้าเรียนปโท
เค้าให้เหตุผลว่า เวลาเค้าทะเลาะกับเค้า แล้วเราเงียบไม่อยากตอบ เพราะเค้าชอบเสียงดัง และดังขึ้นเรื่อยๆ ตะคอก จนได้ยินกันทั้งตึก
เค้าก็เลยลงไม้ลงมือกับเรา เพื่อให้เราเปิดปากพูดค่ะ
มีครั้งนึง เค้าปัดจานเข้าเราที่กำลังทานอยู่ปาเข้ากำแพง
(เดือดร้อนเราที่ต้องมาทำความสะอาดกำแพงหออีก)
ซึ่งอารมณ์รุนแรงเค้าจะเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ตัวนะ อย่างเช่น เรา พ่อ แม่ น้องชายเค้า
ตอนนั้นเค้าทะเลาะกับแม่ แล้วเค้าเขวี้ยงกะทะใส่ แถวๆที่แม่ยืนอยู่ เค้าบอกเราว่าเค้าตั้งใจให้ไม่โดน และเค้าก็เสียใจที่ได้ทำอย่างนั้น
ตอนเค้าทะเลากับพ่อ เค้าไม่ยอมกลับบ้าน (สมัยเรียนเราไม่ให้เค้าค้างหอเรานะคะ) เค้าหนีไปบ้านเพื่อน
จนพ่อส่งข้อความมาง้อแล้วติดแอร์ที่ห้องนอนเค้าให้ในอาทิตย์ถัดมา
ตอนเค้าทะเลาะกับน้องชาย น้องชายเค้าคุยกับเราใน inbox facebook เรื่องน้อง จ
เค้าเอามือถือเราไปเล่นตอนรอเราทำผม ก็ไปอาละวาตะคอกใส่น้องตัวเอง จากนั้นมาอาละวาดใส่เราต่อที่ติดต่อกับญาติเค้า
แม่เค้าเคยเล่าให้เราฟัง ว่าเค้าโกรธแม่ ไม่ยอมพูดกับแม่ ตอนเค้ากลับบ้าน เจอแม่เค้าคุยกับเพื่อนบ้านอยู่
เค้าไหว้สวัดดีเพื่อนบ้านนะ แต่ไม่ทักทายแม่ตัวเองเลยแล้วเข้าบ้านไป แม่เค้าเล่าว่าแม่เค้าน้ำตาร่วงเลย
เค้ามาคุยกับแม่เค้าตอนนั้นปลายปี เรากับเค้าไปเที่ยวตจวค่ะ เราซ้อนมอเตอร์ไซด์เค้า แล้วเค้าแหกโค้ง
หัวเรากระแทกกับพื้น จนหัวโนปูนมาถึงทุกวันนี้ ส่วนเค้าก็เย็บ20 เข็ม
จากเหตุการณ์นั้นเอง เค้าได้มาคุยกับแม่ เพราะพ่อแม่พาเค้าไปรพ หาหมอ ทำแผล
ส่วนกับเราเค้าขอเราแต่งงาน หลังจากเค้าเรียนโทจบ ให้รออีกสองปี
พอเค้าเรียนจบขึ้นมา ระหว่างที่เค้าเรียนเราก็ช่วยเค้านะ ในเรื่องจิปาถะหลายๆอย่าง
เรื่องงานก็เหมือนกัน ถามเจ้านาย คนสนิท หางานให้เค้า ถามทุกคนทุกสายที่เราพอมีก็ให้เค้าไปสมัคร
เค้าว่างงานมาประมาณ 8-9 เดือน เค้าเครียดเรื่องานและทะเลาะกับที่บ้านเรื่องงาน
เลยมาหาเราต่อ แล้วทะเลาะกับเราอีก จนจะทำลายข้าวของในห้องเรา เช่น ทีวี ตู้เย็น โน๊ตบุ๊ค มือถือ
เราอดทนมาตลอดนะ ช่วงที่เค้าเครียดเรื่องหางานไม่ได้ เราพยายามอดทนใจเย็น
ก่อนหน้านั้น เราพาเค้าไปเที่ยวไหว้พระให้สบายใจ (โดยส่วนตัวแล้วเค้าไม่เชื่อในเรื่องศาสนา)
พยายามทำทุกอย่าที่เค้าต้องการ ให้เค้าดีขึ้นแต่เค้าก็มาทำร้ายเราต่อ บอกเลิกเราเกือบสิบหน
แล้วก็เป็นคนมาขอโทษและส่งข้อความมาให้เรายกโทษให้
พอพายุอารมณ์ น เค้าแรงขึ้นเรื่อยๆ จนจะเขวี้ยงโน๊ตบุ๊คเรา
เหมือนฟางเส้นสุดท้ายเราหลุด เลยพูดกับเค้าว่า
"นายไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายข้าวของเรา ของทุกอย่างทุกชิ้น
เราหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราคนเดียว
นายขอเงินพ่อแม่อยู่ไม่มีสิทธิ์มาทำลายของคนอื่น"
พอเค้าได้ยินเค้าน้ำตาร่วง กอดเราขอโทษร้องไห้
บอกตัวเอง ว่าเค้าประสบความสำเร็จเรื่องเรียน จบปตรีได้เกียรตินิยม พอต่อปโท ก็จบก่อนเพื่อนในรุ่น จนตอนนี้เพื่อนในรุ่นจะจบแล้ว
เค้ายังหางานไม่ได้ เค้ารู้สึกตัวเองล้มเหลว ที่บ้านก็ไม่มีใครเข้าใจเค้า อยากให้เค้าทำงานอะไรก็ได้ไปก่อน เค้าไม่อยากไปเสียเวลางานกับงานที่ไม่ใช่
แต่ที่บ้านไม่มีใครเข้าใจเค้าเลย
การที่เค้าออกจากบ้านไปหางาน เค้ารู้สึกเหนื่อย เพราะเค้าอยู่ไม่ได้อยู่ฟังเมืองแบบเรา
เราก็เลยอ่ะ ถ้าจะมาพักเป็นบางวัน มาหางานเราก็ไม่ว่านะ
ปีนั้น เค้าก็ไปๆมาๆ ระหว่างหอเรากับที่บ้าน เสื้อผ้าไปสัมภาษณ์งานก็ให้แม่ดู
พออยู่หอเรา เราก็เป็นคนดูแล ทั้งเสื้อผ้าส่วนตัว อาหารการกิน
หลายๆอย่าง ค่าน้ำไฟเนต ค่ากิน เราไม่เคยเก็บเค้านะ
ส่วนเรื่องอาหาร ตั้งแต่คบกัน คู่ของเราเป็นพวกอเมริกันแชร์ ต่างคนต่างจ่าย
จนเราทำงาน บางครั้งเราก็อาจจะออกให้เค้าก่อนเช่นไปเที่ยว หรือ ออกค่าอาหารมากว่านิดหน่อย
เพราะเราถือว่าเราทำงาน เค้าไม่มีรายได้
เรายังยินดีอยู่เคียงข้างเค้าไหม
เราบอกเรายินดี เพราะเราทั้งสองคนก็ผ่านทั้งเรื่องร้ายและเรื่องดี เราไม่ได้ต้องการผู้ชายที่สมบูรณ์ที่สุด
แต่เราต้องการเค้าคนเดียว