คำบอกลาของชายหนุ่มเจ้าของสวนดอกมะลิที่มีต่ออดีตชายคนรักที่กำลังจะจากโลกนี้ไปด้วยมะเร็งระยะสุดท้าย บายศรีที่บรรจงประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีต่างๆก่อนจะเหี่ยวเฉาและถูกปล่อยให้ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ที่เป็นเหมือนสิ่งที่เชื่อมโยงเขาทั้งสองเข้าหากัน และเป็นสัญลักษณ์ของการจากลาและสัจธรรมของความไม่เที่ยงแท้ การออกบวชและธุดงค์เพื่อค้นหาความหมายของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และการปล่อยวางที่จะปลดปล่อยตัวเองจากห้วงพันธนาการ
ผลงานหนังไทยสุดละเมียดจากผู้กำกับอนุชา บุญยวรรธนะ ที่ผสมผสานเรื่องราวความรักแสนเศร้าของคู่รักชายชาย เข้ากับเรื่องราวของพุทธศาสนา ผ่านการกำกับที่คุมบรรยากาศ โทนหนังและการแสดงที่เป็นธรรมชาติ สมจริง รวมถึงการสื่อสารผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ บายศรี สายน้ำ ป่ารกร้าง สุสาน และซากศพ เพื่ออุปมาหลักธรรมคำสอนทางศาสนาให้เป็นภาพที่ปรากฏ และสร้างชื่อจากเทศกาลหนังต่างๆ ก่อนจะลงโรงฉายในไทย ที่มีผู้คำจำนวนหนึ่งที่เฝ้ารอจะได้ชมหนังเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับอย่าง อนธการ (The Blue Hour) มาก่อน รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย
โดน 1: การแสดงของเวียร์ ศุกลวัฒน์ที่แบกรับหนังทั้งเรื่อง และให้การแสดงที่สามารถก้าวข้ามความเป็นดาราละครโทรทัศน์สู่การเป็นนักแสดงได้อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่เหมาะกับบท การแสดงออกทางกายภาพอย่างเป็นธรรมชาติ การถ่ายทอดอารมณ์ที่ทำให้คนดูรู้สึกตาม และความท้าทาย และกล้าที่จะหลุดออกจากกรอบของตัวเองในการแสดงบทที่อาจหมิ่นเหม่ต่อภาพลักษณ์การเป็นดารากับบทชายรักชาย แต่ผลงานที่ออกมากลับทำให้สามารถมองข้ามเพศสภาพ และมองผ่านลงไปถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวละครได้สำเร็จ
โดน 2: ผู้ที่มา support การแสดงของเวียร์ให้เข้มข้นสมจริง อย่าง โอ อนุชิต และสำเร็จ เมืองพุทธ โดยโอ อนุชิต ความหลากหลายของบทอาจไม่เท่าเวียร์ และเคยเห็นการรับบทชายรักชายมาก่อนหน้านี้ แต่จุดเด่นของโอคือการทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการประดิษฐ์บายศรี การจับดอกไม้ ใบตอง เข็มกลัด หรือร่างกายที่ดูซูบโทรม อมทุกข์ และแววตาที่ปล่อยวาง ส่วนสำเร็จ เมืองพุทธ เป็นการเซอร์ไพรซ์มากกว่าเพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นเขาในบทพระเอกหนังแอ็กชั่นสไตล์จา พนมมาก่อนในวานรสู้ฟัด แต่กลับมารับบทพระสายวัดป่า ที่นิ่ง น่าศรัทธาเลื่อมใส และพูดจาภาษาพระอย่างเป็นธรรมชาติ
โดน 3: ผู้กำกับอนุชา บุญยวรรธนะ ที่มีทั้งความลุ่มลึก ความเข้าใจเนื้อหาสาระที่ตัวเองต้องการถ่ายทอดลึกซึ้งเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักของเพศเดียวกัน หรือหลักศาสนา และตัวตนของตัวเธอเองที่ส่งผ่านมาทางนักแสดง และองค์ประกอบต่างๆของหนังด้วยความละเอียดละออ ทำให้ตัวละครทุกตัว ฉากทุกฉาก มีชีวิต มีวิญญาณ และมีน้ำหนักขึ้นมา ด้วยอากัปกิริยาเล็กๆน้อยๆของตัวละคร การขยับตัว การสัมผัส การถ่ายทอดสีหน้า แววตา ท่าทางของตัวละคร และเมื่อเข้าสู่เรื่องทางธรรม ก็ถ่ายทอดจนรับรู้ได้ว่าเธอเข้าถึงเรื่องราวเหล่านี้จริงๆอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจอย่างแท้จริง จีงสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพได้ขนาดนี้ และเมื่อรวมกับผลงานก่อนหน้านี้อย่างอนธการ ทำให้เธอกลายเป็นผู้กำกับหนังไทยที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งไปแล้ว
โดน 4: การกำกับภาพ กำกับศิลป์ และออกแบบเสียงประกอบ ที่มีจุดร่วมเหมือนกันคือความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง คลุมเครือ แต่ก็โอบอุ้มเรื่องราวทั้งหมดของหนังเอาไว้ โดยงานภาพที่มักเป็นภาพขมุกขมัว ไม่สดใส แต่มีการวางมุมกล้องและการจัดองค์ประกอบภาพอย่างสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเป็นภาพโคลสอัพบายศรีต่างๆ และมีตัวละครเลือนรางอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับฉากที่เน้นความสมจริง ที่ถึงจะไม่สวยงามและดูสกปรก เช่นป่ารกชัฏ หญ้าและวัชพืชที่ขึ้นสูงท่วมหัว หรือกระทั่งซากศพ แต่ก็เป็นไปตามธีมที่วางไว้คือธรรมชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงประกอบที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และบันทึกมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม ฝน น้ำไหล และที่สำคัญคือเสียงแมลงต่างๆ เช่นแมลงหวี่ แมลงวัน ที่ทั้งช่วยเพิ่มความสมจริง และทำให้บรรยากาศของหนังจับต้องได้
โดน 5: การสื่อสารของหนังที่นำหลักศาสนามาแสดงถึงการเรียนรู้ของตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของการปล่อยวาง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เป็นสัจธรรมของชีวิต
ไม่โดน 1: เป็นคำเตือนไปยังผู้ที่ชอบดูหนังตลาด หนังที่มีพล็อตสนุกสนาน หรือหนังแมสต่างๆ หนังเรื่องนี้ยังจัดอยู่ในกลุ่มหนังอินดี้ เฉพาะกลุ่ม การเดินเรื่องสาระที่สื่อสาร โครงเรื่อง จังหวะการเดินเรื่องต่างๆ เป็นสไตล์ของหนังอินดี้ชัดๆ แถมยังมีเนื้อหาและฉากที่แสดงความรักระหว่างชายกับชาย (ซึ่งอารมณ์ก็จะแตกต่างจากพวกซีรีส์วาย หรือจิ้นทั้งหลายไปคนละเรื่อง) ดังนั้น เช็คตัวเองให้ดีก่อน ว่าเหมาะที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ไหม ดีกว่าไปดูแล้วมาบ่นว่าหนังอะไรไม่รู้
ไม่โดน 2: และส่วนตัวผู้เขียนเองที่ค่อนข้างห่างไกลจากเรื่องราวทางศาสนา และรู้จักธรรมะต่างๆเพียงแค่ผิวเผิน เลยต้องยอมรับว่ายังไม่เข้าถึงหนังเท่าไหร่ โดยเฉพาะพาร์ทที่เกี่ยวกับธรรมะ
ติดตามอ่านรีวิวอื่นๆของผู้เขียน รวมทั้งสปอยด์หนังเรื่องนี้ได้ที่เพจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/MovieReviewByPong/
[CR] (รีวิวหนัง) มะลิลา: The Farewell Flowers: บรรจง..ร้อยเป็นมาลัย
ผลงานหนังไทยสุดละเมียดจากผู้กำกับอนุชา บุญยวรรธนะ ที่ผสมผสานเรื่องราวความรักแสนเศร้าของคู่รักชายชาย เข้ากับเรื่องราวของพุทธศาสนา ผ่านการกำกับที่คุมบรรยากาศ โทนหนังและการแสดงที่เป็นธรรมชาติ สมจริง รวมถึงการสื่อสารผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ บายศรี สายน้ำ ป่ารกร้าง สุสาน และซากศพ เพื่ออุปมาหลักธรรมคำสอนทางศาสนาให้เป็นภาพที่ปรากฏ และสร้างชื่อจากเทศกาลหนังต่างๆ ก่อนจะลงโรงฉายในไทย ที่มีผู้คำจำนวนหนึ่งที่เฝ้ารอจะได้ชมหนังเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนผลงานก่อนหน้านี้ของผู้กำกับอย่าง อนธการ (The Blue Hour) มาก่อน รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย
โดน 1: การแสดงของเวียร์ ศุกลวัฒน์ที่แบกรับหนังทั้งเรื่อง และให้การแสดงที่สามารถก้าวข้ามความเป็นดาราละครโทรทัศน์สู่การเป็นนักแสดงได้อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่เหมาะกับบท การแสดงออกทางกายภาพอย่างเป็นธรรมชาติ การถ่ายทอดอารมณ์ที่ทำให้คนดูรู้สึกตาม และความท้าทาย และกล้าที่จะหลุดออกจากกรอบของตัวเองในการแสดงบทที่อาจหมิ่นเหม่ต่อภาพลักษณ์การเป็นดารากับบทชายรักชาย แต่ผลงานที่ออกมากลับทำให้สามารถมองข้ามเพศสภาพ และมองผ่านลงไปถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวละครได้สำเร็จ
โดน 2: ผู้ที่มา support การแสดงของเวียร์ให้เข้มข้นสมจริง อย่าง โอ อนุชิต และสำเร็จ เมืองพุทธ โดยโอ อนุชิต ความหลากหลายของบทอาจไม่เท่าเวียร์ และเคยเห็นการรับบทชายรักชายมาก่อนหน้านี้ แต่จุดเด่นของโอคือการทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการประดิษฐ์บายศรี การจับดอกไม้ ใบตอง เข็มกลัด หรือร่างกายที่ดูซูบโทรม อมทุกข์ และแววตาที่ปล่อยวาง ส่วนสำเร็จ เมืองพุทธ เป็นการเซอร์ไพรซ์มากกว่าเพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นเขาในบทพระเอกหนังแอ็กชั่นสไตล์จา พนมมาก่อนในวานรสู้ฟัด แต่กลับมารับบทพระสายวัดป่า ที่นิ่ง น่าศรัทธาเลื่อมใส และพูดจาภาษาพระอย่างเป็นธรรมชาติ
โดน 3: ผู้กำกับอนุชา บุญยวรรธนะ ที่มีทั้งความลุ่มลึก ความเข้าใจเนื้อหาสาระที่ตัวเองต้องการถ่ายทอดลึกซึ้งเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักของเพศเดียวกัน หรือหลักศาสนา และตัวตนของตัวเธอเองที่ส่งผ่านมาทางนักแสดง และองค์ประกอบต่างๆของหนังด้วยความละเอียดละออ ทำให้ตัวละครทุกตัว ฉากทุกฉาก มีชีวิต มีวิญญาณ และมีน้ำหนักขึ้นมา ด้วยอากัปกิริยาเล็กๆน้อยๆของตัวละคร การขยับตัว การสัมผัส การถ่ายทอดสีหน้า แววตา ท่าทางของตัวละคร และเมื่อเข้าสู่เรื่องทางธรรม ก็ถ่ายทอดจนรับรู้ได้ว่าเธอเข้าถึงเรื่องราวเหล่านี้จริงๆอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจอย่างแท้จริง จีงสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพได้ขนาดนี้ และเมื่อรวมกับผลงานก่อนหน้านี้อย่างอนธการ ทำให้เธอกลายเป็นผู้กำกับหนังไทยที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งไปแล้ว
โดน 4: การกำกับภาพ กำกับศิลป์ และออกแบบเสียงประกอบ ที่มีจุดร่วมเหมือนกันคือความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง คลุมเครือ แต่ก็โอบอุ้มเรื่องราวทั้งหมดของหนังเอาไว้ โดยงานภาพที่มักเป็นภาพขมุกขมัว ไม่สดใส แต่มีการวางมุมกล้องและการจัดองค์ประกอบภาพอย่างสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเป็นภาพโคลสอัพบายศรีต่างๆ และมีตัวละครเลือนรางอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับฉากที่เน้นความสมจริง ที่ถึงจะไม่สวยงามและดูสกปรก เช่นป่ารกชัฏ หญ้าและวัชพืชที่ขึ้นสูงท่วมหัว หรือกระทั่งซากศพ แต่ก็เป็นไปตามธีมที่วางไว้คือธรรมชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงประกอบที่เน้นความเป็นธรรมชาติ และบันทึกมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม ฝน น้ำไหล และที่สำคัญคือเสียงแมลงต่างๆ เช่นแมลงหวี่ แมลงวัน ที่ทั้งช่วยเพิ่มความสมจริง และทำให้บรรยากาศของหนังจับต้องได้
โดน 5: การสื่อสารของหนังที่นำหลักศาสนามาแสดงถึงการเรียนรู้ของตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของการปล่อยวาง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เป็นสัจธรรมของชีวิต
ไม่โดน 1: เป็นคำเตือนไปยังผู้ที่ชอบดูหนังตลาด หนังที่มีพล็อตสนุกสนาน หรือหนังแมสต่างๆ หนังเรื่องนี้ยังจัดอยู่ในกลุ่มหนังอินดี้ เฉพาะกลุ่ม การเดินเรื่องสาระที่สื่อสาร โครงเรื่อง จังหวะการเดินเรื่องต่างๆ เป็นสไตล์ของหนังอินดี้ชัดๆ แถมยังมีเนื้อหาและฉากที่แสดงความรักระหว่างชายกับชาย (ซึ่งอารมณ์ก็จะแตกต่างจากพวกซีรีส์วาย หรือจิ้นทั้งหลายไปคนละเรื่อง) ดังนั้น เช็คตัวเองให้ดีก่อน ว่าเหมาะที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ไหม ดีกว่าไปดูแล้วมาบ่นว่าหนังอะไรไม่รู้
ไม่โดน 2: และส่วนตัวผู้เขียนเองที่ค่อนข้างห่างไกลจากเรื่องราวทางศาสนา และรู้จักธรรมะต่างๆเพียงแค่ผิวเผิน เลยต้องยอมรับว่ายังไม่เข้าถึงหนังเท่าไหร่ โดยเฉพาะพาร์ทที่เกี่ยวกับธรรมะ
ติดตามอ่านรีวิวอื่นๆของผู้เขียน รวมทั้งสปอยด์หนังเรื่องนี้ได้ที่เพจ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้