สวัสดีครับ คราวนี้มาสายหนังมาเวลกันบ้าง ผมเองก็ติดตามมาเวลมาตั้งเเต่ไอออนเเมนเช่นกัน
เเต่ไม่ได้มารีวิวนี่ตั้งเเต่เเรก เพิ่งจะได้เข้ามาก็เรื่องนี้เเหละ เพราะงั้นฝากตัวด้วยนะครับ
สำหรับเจ้าเสือดำที่ใครหลายคนน่าจะตั้งตารออย่าง Black Panther พยัคฆ์ทมิฬมหากาฬ
ซึ่งน่าจะมีใครหลายคนที่ได้ดูไปเเล้ว เเต่มันดีเเบบที่ใครหลายคนได้บอกไว้หรือเปล่ามาดูกันครับ
"หลังจากเหตุการณ์ใน CAPTAIN AMERICA : CIVIL WAR ทีชาล่า ต้องขึ้นเเบกรับหน้าที่ในการเป็นกษัตริย์คนใหม่ของวากานด้า ประเทศที่เต็มไปด้วยความลึกลับเเละมหัศจรรย์ เเทนบิดาเเละรับผิดชอบในความผิดที่ใครบางคนก่อไว้ พร้อมกับต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศจากปีศาจที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นเอง"
เรื่องราว
- เดินเร็วมาก ตัดฉากนึงไปฉากนึงเเบบไม่ทันตั้งตัว ยังไม่ทันอินเลย รู้สึกช่วงนี้หนังมาเวลจะมีปัญหากับการจูนให้ผมติดในช่วงเเรกของเรื่องนะ เหมือนธอร์ เเต่หลังจากนั้นก็พลิกกลับมาคืนฟอร์มได้ โดยเฉพาะช่วงหลังจากการทำหน้าที่กษัตริย์ของทีชาล่า มันจะเริ่มสนุกขึ้น ปูไปหาอีเวนต์ใหม่ๆ เเบบไม่ทันตั้งตัว เรียกได้ว่าถ้ายังตามไม่ทัน ก็คือไม่ทันจริงๆ หนังค่อยๆใช้กราฟที่สูงเเล้วลดลงมา ก่อนจะสูงอีกครั้ง ซึ่งมันก็ดีครับ เเต่ข้อเสียคือเราจะตามอารมณ์หนังไม่ทันจริงๆ ช่วงท้ายคือการปล่อยของทุกตัวละคร จนจบเรื่องได้อย่างเท่ค่อดๆ ซึ่งมีฉากทำนองนี้หลายฉากมาก
ในส่วนเทคโนโลยี นี่เป็นครั้งเเรกที่อยากจะบอกเลยว่า
- เเฮงก์ พิมเหรออย่าหวัง โทนี่ สตาร์คอย่าเเหยม เพราะซูริคือตัวจริงในตอนนี้
ส่วนเมืองดูมีความทันสมัย เเต่ก็ผสมผสานกับวัฒนธรรมโบราณเป็นอย่างดี ดูเเล้วก็นึกถึงแอฟริกาจริงๆ เเต่มันล้ำกว่านั้นมาก
ทั้งอาวุธ ยานพาหนะ วิทยาการ บ้านเมือง การเเต่งกาย นี่คิดตามว่า เเอบโลกมานานขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย
ตัวละคร
- เฉลี่ยบทได้ดีเลย พอๆกับ CIVIL WAR ทุกคนมีมิติด้านการกระทำเป็นของตัวเอง เเม้เเต่ตัวร้ายที่ดูจบเเล้ว เสียน้ำตาให้ตัวร้ายครั้งเเรกก็เรื่องนี้เเหละ เข้าใจหัวอกเลยว่ามันเจ็บปวดเเค่ไหน ในขณะที่เหล่าพี่น้องวากานด้าก็ขนทัพมาพร้อมนักเเสดงล้นฝีมือที่การันตีว่าไม่มีที่ติ
- แชดวิก โบสแมน รับบทเป็น ทีชาล่า ผู้เต็มบารมีเเละศักดิ์ศรี เเต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ที่มีทั้งความรัก ความรู้สึกผิด ความเเค้น ซึ่งเเสดงออกมาให้เราเชื่อได้ เเละเท่มากๆในการเป็นเเบล็ค เเพนเธอร์
- ไมเคิล บี จอร์เเดน นี่คือหนังท็อปฟอร์มของเขาเลยจริงๆ ปมของเขาทำให้เราอยากเขย่าเเล้วบอกเขาว่า "เฮ้ย คิดดีๆดิ" เเต่ก็ยอมให้ตัวละครพาไปจนถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขาจนทำใครหลายคนน้ำตาตก
- ลูพีตา ญองอ กับบทสตรีเคียงข้างฝ่าบาท ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ เเละอ่อยเก่งเหลือเกิน เจตนาดี ชอบที่เคียงข้างฝ่าบาทตลอด
- ดาไน กูริรา มิโชนโกนหัวเป็นสาวเผ่าถือหอกชัดๆ เธอเป็นอย่างไรในซีรีย์เรื่องนี้เธอไม่ต่างกัน เเต่อารมณ์มันจะมีความซับซ้อนมากๆ ในการตัดสินใจ ฝีมือการต่อสู้ก็ยอดเยี่ยม
- มาร์ติน ฟรีเเมน คนอะไรมันจะดูเเบ๊วได้เเม้เเต่ตอนสู้ เขาเล่นหนังดีนะ เเต่บทของเขาในเรื่องนี้ น่าเอ็นดูมาก ดูมึนๆ เอ๋อๆ ดี เเต่เห็นเเบบนี้เวลาสู้ก็สู้สุดใจนะ
- เลทิเทีย ไรท์ ชอบคนนี้สุดในเรื่องละ ชูริ สาวน้อยยยย ฉลาด ขี้เล่น มีไหวพริบ ไม่หวาดหวั่น ชอบตอนอยู่กับฝ่าบาทมากดูเกรียนดี
- แอนดี้ เซอร์คิส เเอบผิดหวังบทภาคนี้ เหมือนมาเพื่อเสริมตัวละครมากกว่า ทั้งๆที่น่าจะเล่นอะไรได้มากกว่านี้
เเอ็คชั่น
- การต่อสู้ระยะประชิดของตัวละครเท่มาก อาวุธเเต่ละคนทำเอาทีมอเวนเจอร์บางคนต้องกลับไปคิดใหม่หลายรอบ เเละทุกคนมีฉากบู๊เป็นของตัวเอง เว้นเสียเเต่จะค่อนข้างธรรมดาไปนิด เเต่ฉากที่สู้กันด้วยอาวุธนี่มันสุดจริงๆ เเบบตีเป็นตี เเทงเป็นเเทง เเต่ไม่โหดขนาดเด็กดูไม่ได้นะ
มุขตลกเเละอารมณ์อื่นๆ
- มันขำกว่าธอร์อีกนะ เอาเข้าจริง ฉากบางฉากก็กล้าเล่น ฉากบางฉากก็กล้าตบคนดูหงายกระเจิง จังหวะจะโคนหนังถ้าไม่นับช่วงเเรก ถือว่าค่อนข้างดี ดีมากเลย เพียงเเต่ดราม่าของตัวละครดูจะให้ความสัมพันธ์อย่างผิวเผิน ซึ่งอาจเป็นข้อดีที่ทำให้เราไม่ฟูมฟายไปกับหนังมากนัก
CG + 1.5
- มีบางฉากลอยๆ อยู่บ้าง เเต่มันคงเป็นฉากที่ถ่ายยากพอสมควรเเหละ เลยต้องทำเเบบนั้น
ดนตรีประกอบ (เเก้หลังจากดูรอบสอง) + 3.5
- อาจจะเฉยไปนิด ไม่ค่อยติดหู แต่พึ่งมารู้ทีหลังว่า จริงๆ เเล้ว มันก็มีดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ เเฝงไปด้วยอารมณ์ไม่ใช่ตูมตาม อาจเพราะเน้นไปทางชนเผ่าวากานด้า เลยมีเเต่ดนตรีเเอ็คชั่นซ้ำๆ ไม่เหมือนเรื่องอื่น เเต่ก็ใช้ได้ผลนะ เพลงประกอบของ The Weeknd, Kendrick Lamar อย่าง Pray For Me ใส่มาในฉากได้ไม่คุ้มเลย เหมือนเพลงประกอบฉากเเค่นั้น ทั้งๆที่เพลงเล่าเรื่องของมันได้ดี ... เเต่เพลงที่ผมชอบที่สุดเลยคือ ALL THE STAR ที่เปิดมาตอนท้ายเครดิตนี่เเหละ ทำไมเหรอครับ...ผมไม่เคยเห็นหนังมาเวลเรื่องไหนเลย ที่ใช้เพลงเครดิตที่มีคนร้องมาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นดนตรีฮึกเหิมประกอบฮีโร่ทั่วๆไป ทำให้หนังของฝ่าบาททรงเท่ไปอีก โดยเฉพาะท่อนเเร็พของ Kendrick Lamar กับท่อนร้องของ SZA ที่สอดรับเนื้อเรื่องเป็นอย่างดี
นอกจากนี้เพลงประกอบหลายเพลงที่เเต่งมาจนมีเป็นอัลบั้มก็ไม่ได้ใช้ไปหมดทุกเพลงนะครับ
เเต่เหมือนเเต่งมาเล่าเรื่องราวของหนังมากกว่า ลองหามาฟังกันได้
ข้อเสีย
- นอกจากการเล่าเรื่องที่เร็วเเล้ว บางฉากนี่เเหละที่ไม่ค่อยขยี้มันสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่มันยังขยี้ได้อีก ฉากเเอ็คชั่นที่บางครั้งก็ลายตาจนอยากตบกบาลคนถ่าย บางจังหวะของหนังดูง่ายไปนิด เเถมฉากท้ายของเรื่องน่าจะมีคนบ่นมาพอสมควร มันเลยไม่พีคพอให้เราตราตรึง (เเต่ก็ไม่ได้เเย่เกินจะรับได้) บางตัวละครจะหมดบทก็หมดเอาดื้อๆ เล่นเอางงเลยว่า หา!
เเต่ข้อดีของมันเลยที่ผมนับถือหนังมากที่นำมาเล่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ตบหน้าผู้นำประเทศได้เเบบไม่ต้องพูดมาก เเค่ประเด็นนึงก็ทำเอาหน้าสั่นกันหมดเเล้ว การพยายามที่จะเเบ่งเเยก เหยียดมนุษย์ด้วยกัน มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย นอกจากสงคราม สิ่งที่ควรจะทำคือการเเชร์สิ่งที่มี เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่เดือดร้อน เเม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนในประเทศก็ตาม
- บางครั้งการเป็นกษัตริย์ ไม่ได้หมายความว่า จะต้องสมบูรณ์เเบบ ไร้มลทิน
- การตัดสินใจของผู้นำนี่เเหละจะชี้ชะตาประเทศของตัวเองว่าจะเป็นยังไง
- คนดีชอบเเก้ไข คนอะไรชอบเเก้ตัว ใช้ได้กับบางตัวละครในเรื่องนี้จริงๆ
- โลกเปลี่ยนไป วิถีก็ต้องเปลี่ยนเป็นธรรมดา
- ถ้ามันผิดตั้งเเต่เริ่ม มันก็ผิดไปเรื่อยๆ จนเกินหวนกลับ
- จริงๆเเล้ว การที่เราต้องทำสงครามไม่ใช่เพื่ออำนาจหรอก เเต่เพื่อปกป้องอำนาจเเละสิทธิ์ตัวเองมากกว่า (อ้างอิงจากวิชา IR)
สรุปหลังจากรอบสองไปเเล้ว
(8/10)
ถึงเเม้ว่ามันจะไม่ได้ดีมากตามที่หลายๆคนคิด ธรรมดาไปหน่อย เเต่ประเด็นที่เเอบเเฝงมาของมันของมันที่ดูจะหนักเเน่นพอให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังมาเวลที่ดูฉลาด เท่ เเละเเพงที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลย ถือเป็นรสชาติใหม่ที่อาจจะไม่ถูกปากตอนเเรกเเต่ถ้าจับใจความของมันได้ มันก็มีอะไรให้ขบคิดตามอยู่ ซึ่งเเล้วเเต่คนทานนะครับ
ดูหนังกับทานอาหารก็เหมือนกัน ตรงที่รสชาติขึ้นอยู่กับคนทาน...
มันอาจเป็นหนังคั่นเวลาก่อนเข้าศึกหนักอินฟินิตี้วอร์ในเดือนเมษายนนี้
แต่สำหรับผม มันก็เป็นหนังที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองสูงมาก ดูเพลิน ไฮเทค
เเละ ทรงพระSWAGมากพะยะค่ะ 555555
ความรู้สึกหลังจากดูจบ
อยากดูอินฟินิตี้วอร์เเล้วตอนนี้!! อยากเห็นฝ่าบาทกระโดดใส่ลุงม่วง!!!
มีสองเอนเครดิตนะ ถ้าอยากรู้ความเป็นไปของตัวละครก็ควรอยู่จนจบเครดิตนะครับ
คิดว่าคงไม่พลาดกันอยู่เเล้วใช่มั้ยครับ?
ก่อนจากกันไป ขอลาด้วยคำว่า WAKANDA FOREVER!
สวัสดี
ปล.จากรอบสอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความสัมพันธ์ของฝ่าบาทกับคิลมองเกอร์มันสวนทางกันก็จริง เเต่ฝ่าบาทก็ดูจะเห็นด้วยนิดๆ เรื่องที่ให้ช่วยเหลือผู้คน ในขณะที่วาการด้าอยู่สุขสบาย เเละหันหลังให้ทั้งโลก เเต่พอคิลมองเกอร์เลือกใช้ความรุนเเรง เขาเลยต้องจำใจต้องกำจัด เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ สายตาดูห่วงเเละสงสารคิลมองเกอร์มาก ยิ่งตอนที่คิลมองเกอร์พรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมดออกมาตอนสู้กัน ทำเอาไม่อยากสู้ด้วยเลย ตอนท้ายก็รู้สึกผิดที่ต้องฆ่า เเต่ดูก็รู้เเล้ว ว่าคิลมองเกอร์ไม่ได้โกรธฝ่าบาทเเล้ว เเต่ยอมรับความตายเเต่โดยดี เพราะสิ่งที่เขาคิด มันผิดมาตลอด เเต่มันก็เกินจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เเล้ว เหมือนที่เขาบอกก่อนตายว่า "ตายไป ยังดีกว่าไร้ชีวิต" เสียดายที่ฉากฝ่าบาทมองร่างไร้วิญญาณของคิลมองเกอร์น่าจะขยี้มากกว่านี้
รีวิวเรื่องที่ 7 : Black Panther ฝ่าบาททรงพระSWAGมากพะยะค่ะ
สวัสดีครับ คราวนี้มาสายหนังมาเวลกันบ้าง ผมเองก็ติดตามมาเวลมาตั้งเเต่ไอออนเเมนเช่นกัน
เเต่ไม่ได้มารีวิวนี่ตั้งเเต่เเรก เพิ่งจะได้เข้ามาก็เรื่องนี้เเหละ เพราะงั้นฝากตัวด้วยนะครับ
สำหรับเจ้าเสือดำที่ใครหลายคนน่าจะตั้งตารออย่าง Black Panther พยัคฆ์ทมิฬมหากาฬ
ซึ่งน่าจะมีใครหลายคนที่ได้ดูไปเเล้ว เเต่มันดีเเบบที่ใครหลายคนได้บอกไว้หรือเปล่ามาดูกันครับ
"หลังจากเหตุการณ์ใน CAPTAIN AMERICA : CIVIL WAR ทีชาล่า ต้องขึ้นเเบกรับหน้าที่ในการเป็นกษัตริย์คนใหม่ของวากานด้า ประเทศที่เต็มไปด้วยความลึกลับเเละมหัศจรรย์ เเทนบิดาเเละรับผิดชอบในความผิดที่ใครบางคนก่อไว้ พร้อมกับต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศจากปีศาจที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นเอง"
เรื่องราว
- เดินเร็วมาก ตัดฉากนึงไปฉากนึงเเบบไม่ทันตั้งตัว ยังไม่ทันอินเลย รู้สึกช่วงนี้หนังมาเวลจะมีปัญหากับการจูนให้ผมติดในช่วงเเรกของเรื่องนะ เหมือนธอร์ เเต่หลังจากนั้นก็พลิกกลับมาคืนฟอร์มได้ โดยเฉพาะช่วงหลังจากการทำหน้าที่กษัตริย์ของทีชาล่า มันจะเริ่มสนุกขึ้น ปูไปหาอีเวนต์ใหม่ๆ เเบบไม่ทันตั้งตัว เรียกได้ว่าถ้ายังตามไม่ทัน ก็คือไม่ทันจริงๆ หนังค่อยๆใช้กราฟที่สูงเเล้วลดลงมา ก่อนจะสูงอีกครั้ง ซึ่งมันก็ดีครับ เเต่ข้อเสียคือเราจะตามอารมณ์หนังไม่ทันจริงๆ ช่วงท้ายคือการปล่อยของทุกตัวละคร จนจบเรื่องได้อย่างเท่ค่อดๆ ซึ่งมีฉากทำนองนี้หลายฉากมาก
ในส่วนเทคโนโลยี นี่เป็นครั้งเเรกที่อยากจะบอกเลยว่า
- เเฮงก์ พิมเหรออย่าหวัง โทนี่ สตาร์คอย่าเเหยม เพราะซูริคือตัวจริงในตอนนี้
ส่วนเมืองดูมีความทันสมัย เเต่ก็ผสมผสานกับวัฒนธรรมโบราณเป็นอย่างดี ดูเเล้วก็นึกถึงแอฟริกาจริงๆ เเต่มันล้ำกว่านั้นมาก
ทั้งอาวุธ ยานพาหนะ วิทยาการ บ้านเมือง การเเต่งกาย นี่คิดตามว่า เเอบโลกมานานขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย
ตัวละคร
- เฉลี่ยบทได้ดีเลย พอๆกับ CIVIL WAR ทุกคนมีมิติด้านการกระทำเป็นของตัวเอง เเม้เเต่ตัวร้ายที่ดูจบเเล้ว เสียน้ำตาให้ตัวร้ายครั้งเเรกก็เรื่องนี้เเหละ เข้าใจหัวอกเลยว่ามันเจ็บปวดเเค่ไหน ในขณะที่เหล่าพี่น้องวากานด้าก็ขนทัพมาพร้อมนักเเสดงล้นฝีมือที่การันตีว่าไม่มีที่ติ
- แชดวิก โบสแมน รับบทเป็น ทีชาล่า ผู้เต็มบารมีเเละศักดิ์ศรี เเต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดา ที่มีทั้งความรัก ความรู้สึกผิด ความเเค้น ซึ่งเเสดงออกมาให้เราเชื่อได้ เเละเท่มากๆในการเป็นเเบล็ค เเพนเธอร์
- ไมเคิล บี จอร์เเดน นี่คือหนังท็อปฟอร์มของเขาเลยจริงๆ ปมของเขาทำให้เราอยากเขย่าเเล้วบอกเขาว่า "เฮ้ย คิดดีๆดิ" เเต่ก็ยอมให้ตัวละครพาไปจนถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขาจนทำใครหลายคนน้ำตาตก
- ลูพีตา ญองอ กับบทสตรีเคียงข้างฝ่าบาท ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ เเละอ่อยเก่งเหลือเกิน เจตนาดี ชอบที่เคียงข้างฝ่าบาทตลอด
- ดาไน กูริรา มิโชนโกนหัวเป็นสาวเผ่าถือหอกชัดๆ เธอเป็นอย่างไรในซีรีย์เรื่องนี้เธอไม่ต่างกัน เเต่อารมณ์มันจะมีความซับซ้อนมากๆ ในการตัดสินใจ ฝีมือการต่อสู้ก็ยอดเยี่ยม
- มาร์ติน ฟรีเเมน คนอะไรมันจะดูเเบ๊วได้เเม้เเต่ตอนสู้ เขาเล่นหนังดีนะ เเต่บทของเขาในเรื่องนี้ น่าเอ็นดูมาก ดูมึนๆ เอ๋อๆ ดี เเต่เห็นเเบบนี้เวลาสู้ก็สู้สุดใจนะ
- เลทิเทีย ไรท์ ชอบคนนี้สุดในเรื่องละ ชูริ สาวน้อยยยย ฉลาด ขี้เล่น มีไหวพริบ ไม่หวาดหวั่น ชอบตอนอยู่กับฝ่าบาทมากดูเกรียนดี
- แอนดี้ เซอร์คิส เเอบผิดหวังบทภาคนี้ เหมือนมาเพื่อเสริมตัวละครมากกว่า ทั้งๆที่น่าจะเล่นอะไรได้มากกว่านี้
เเอ็คชั่น
- การต่อสู้ระยะประชิดของตัวละครเท่มาก อาวุธเเต่ละคนทำเอาทีมอเวนเจอร์บางคนต้องกลับไปคิดใหม่หลายรอบ เเละทุกคนมีฉากบู๊เป็นของตัวเอง เว้นเสียเเต่จะค่อนข้างธรรมดาไปนิด เเต่ฉากที่สู้กันด้วยอาวุธนี่มันสุดจริงๆ เเบบตีเป็นตี เเทงเป็นเเทง เเต่ไม่โหดขนาดเด็กดูไม่ได้นะ
มุขตลกเเละอารมณ์อื่นๆ
- มันขำกว่าธอร์อีกนะ เอาเข้าจริง ฉากบางฉากก็กล้าเล่น ฉากบางฉากก็กล้าตบคนดูหงายกระเจิง จังหวะจะโคนหนังถ้าไม่นับช่วงเเรก ถือว่าค่อนข้างดี ดีมากเลย เพียงเเต่ดราม่าของตัวละครดูจะให้ความสัมพันธ์อย่างผิวเผิน ซึ่งอาจเป็นข้อดีที่ทำให้เราไม่ฟูมฟายไปกับหนังมากนัก
CG + 1.5
- มีบางฉากลอยๆ อยู่บ้าง เเต่มันคงเป็นฉากที่ถ่ายยากพอสมควรเเหละ เลยต้องทำเเบบนั้น
ดนตรีประกอบ (เเก้หลังจากดูรอบสอง) + 3.5
- อาจจะเฉยไปนิด ไม่ค่อยติดหู แต่พึ่งมารู้ทีหลังว่า จริงๆ เเล้ว มันก็มีดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ เเฝงไปด้วยอารมณ์ไม่ใช่ตูมตาม อาจเพราะเน้นไปทางชนเผ่าวากานด้า เลยมีเเต่ดนตรีเเอ็คชั่นซ้ำๆ ไม่เหมือนเรื่องอื่น เเต่ก็ใช้ได้ผลนะ เพลงประกอบของ The Weeknd, Kendrick Lamar อย่าง Pray For Me ใส่มาในฉากได้ไม่คุ้มเลย เหมือนเพลงประกอบฉากเเค่นั้น ทั้งๆที่เพลงเล่าเรื่องของมันได้ดี ... เเต่เพลงที่ผมชอบที่สุดเลยคือ ALL THE STAR ที่เปิดมาตอนท้ายเครดิตนี่เเหละ ทำไมเหรอครับ...ผมไม่เคยเห็นหนังมาเวลเรื่องไหนเลย ที่ใช้เพลงเครดิตที่มีคนร้องมาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นดนตรีฮึกเหิมประกอบฮีโร่ทั่วๆไป ทำให้หนังของฝ่าบาททรงเท่ไปอีก โดยเฉพาะท่อนเเร็พของ Kendrick Lamar กับท่อนร้องของ SZA ที่สอดรับเนื้อเรื่องเป็นอย่างดี
นอกจากนี้เพลงประกอบหลายเพลงที่เเต่งมาจนมีเป็นอัลบั้มก็ไม่ได้ใช้ไปหมดทุกเพลงนะครับ
เเต่เหมือนเเต่งมาเล่าเรื่องราวของหนังมากกว่า ลองหามาฟังกันได้
ข้อเสีย
- นอกจากการเล่าเรื่องที่เร็วเเล้ว บางฉากนี่เเหละที่ไม่ค่อยขยี้มันสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่มันยังขยี้ได้อีก ฉากเเอ็คชั่นที่บางครั้งก็ลายตาจนอยากตบกบาลคนถ่าย บางจังหวะของหนังดูง่ายไปนิด เเถมฉากท้ายของเรื่องน่าจะมีคนบ่นมาพอสมควร มันเลยไม่พีคพอให้เราตราตรึง (เเต่ก็ไม่ได้เเย่เกินจะรับได้) บางตัวละครจะหมดบทก็หมดเอาดื้อๆ เล่นเอางงเลยว่า หา!
เเต่ข้อดีของมันเลยที่ผมนับถือหนังมากที่นำมาเล่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปหลังจากรอบสองไปเเล้ว
(8/10)
ถึงเเม้ว่ามันจะไม่ได้ดีมากตามที่หลายๆคนคิด ธรรมดาไปหน่อย เเต่ประเด็นที่เเอบเเฝงมาของมันของมันที่ดูจะหนักเเน่นพอให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังมาเวลที่ดูฉลาด เท่ เเละเเพงที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลย ถือเป็นรสชาติใหม่ที่อาจจะไม่ถูกปากตอนเเรกเเต่ถ้าจับใจความของมันได้ มันก็มีอะไรให้ขบคิดตามอยู่ ซึ่งเเล้วเเต่คนทานนะครับ
ดูหนังกับทานอาหารก็เหมือนกัน ตรงที่รสชาติขึ้นอยู่กับคนทาน...
มันอาจเป็นหนังคั่นเวลาก่อนเข้าศึกหนักอินฟินิตี้วอร์ในเดือนเมษายนนี้
แต่สำหรับผม มันก็เป็นหนังที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองสูงมาก ดูเพลิน ไฮเทค
เเละ ทรงพระSWAGมากพะยะค่ะ 555555
ความรู้สึกหลังจากดูจบ
อยากดูอินฟินิตี้วอร์เเล้วตอนนี้!! อยากเห็นฝ่าบาทกระโดดใส่ลุงม่วง!!!
มีสองเอนเครดิตนะ ถ้าอยากรู้ความเป็นไปของตัวละครก็ควรอยู่จนจบเครดิตนะครับ
คิดว่าคงไม่พลาดกันอยู่เเล้วใช่มั้ยครับ?
ก่อนจากกันไป ขอลาด้วยคำว่า WAKANDA FOREVER!
สวัสดี
ปล.จากรอบสอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้