สวัสดีค่าาาา
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ การไปทานอาหารค่ำที่ Wanghinghoi หรือ วังหิ่งห้อย กันนะคะ เนื่องมาจากเห็นรูปมาจากในไอจีเลยเข้าไปเผือกดู และพบว่ามันอยู่แถว RCA นี่เองง ใกล้บ้านมากกก แถมในชีวิตนี้เกิดมาสามสิบกว่าปี ปียังไม่เคยเห็นหิ่งห้อยซักครั้งเลยในชีวิต เลยเข้าไปหาข้อมูล ซึ่ง presentation จากในเพจเฟสบุค Wanghinghoi เค้าก็พรีเซ้นต์ร้านเค้าไว้แบบนี้ค่ะ
"ร้านอาหารวังหิ่งห้อยของเรานั้นเป็นมากกว่าร้านอาหารทั่วไป เรานำเสนอประสบกาณ์การรับประทานอาหารที่มากกว่ารสชาติ พร้อมทั้งให้คุณได้ชื่นชมและสัมผัสกับ"หิ่งห้อย"เป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างจังหวัด
เราเสิร์ฟอาหารที่ใช้ไอเดียจากส่วนประกอบหลักของโลกใบนี้ ซึ่งประกอบด้วยดิน น้ำ ลม และไฟ ในทุกๆ 4 เดือนคุณจะได้สัมผัสประการณ์ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงและแสงที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญความพิเศษในแต่ละส่วนทั้งหมดที่กล่าวไปนี้เราจัดเพียง 18 เดือนเท่านั้น ซึ่งเปรียบเสมือนกับอายุของหิ่งห้อยหนึ่งตัวที่มีเวลาส่องแสงให้คนทั้งโลกได้รับรู้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ...."
อ่านแค่นี้แหล่ะ พี่นี่รีบชวนเพื่อนเลยครับ นี่เป็นภาพหน้าร้านตอนไปถึงค่ะ
พอเราเดินมาถึงตรงจุดนี้ เราก็จะมีพนักงานมาต้อนรับเราตั้งแต่ด้านหน้าเลยค่ะ พร้อมเปิดพรีเซนเทชั่นแรกว่า กำแพงที่เห็นอยู่นี้ สร้างขึ้นมาจากดิน "จริงๆ" เลยนะคะ ก็เลยขอถ่ายรูปกับพี่กำแพงเค้าซะหน่อย เค้าอุตส่าห์เป็นดินจริงๆเลยนะ
แล้วเค้าก็พาเราเดินเข้าไปในร้านค่ะ ตัวร้านค่อนข้างมืดถ่ายรูปอะไรไม่ค่อยสวยเลยค่ะ พอพามานั่งที่โต๊ะ ก็เริ่มถามถึงน้องหิ่งห้อย ก็ได้รับคำตอบว่า
พนง: "อ๋อ หิ่งห้อยจะอยู่อีกห้องนึงค่ะ เดี๋ยวพาไปดูนะคะ
เรา: ว้อทท!!!
คือนึกว่าจะได้มานั่งทานข้าวไปดูหิ่งห้อยบินวิบวับวิบวับไปสวยๆ ดันต้องโดนพาเข้าห้องมืด ไปเจอกับสิ่งนี้ค่ะ
ค่ะ!! เรามาเพื่อสิ่งนี้ค่ะ 555555555
แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะ เนื่องจากอาหารเค้ามีจัดเซ็ทให้ แต่เราเลือกที่จะสั่งแบบ a la carte มากกว่า เพราะ set คือ หัวละ 2,400 บาท และไม่สามารถเลือกที่อยากทานได้หมด เพราะจะสั่งสเต๊กต้องเพิ่มเงินอีก 900 บาท แต่สั่งต่างหากจานละ 1,400 เราก็เลยสั่งแบบจานเดี่ยวๆมาค่ะ จะได้ทานกัน 2 คนได้ ระหว่างรอก็เห็นสเต็กจากโต๊ะข้างๆที่เป็นเนื้อก้อนใหญ่ๆมา น่าทานมากกกก ก็รอแทบไม่ไหวเลยค่ะ มี starter มาให้ทานฟรีๆขำๆ
ทานกับ ซอสมะเขือเทศ ซึ่งไม่รู้มาจากประเทศอะไรค่ะ หวานม๊ากกกกกกกกกก
เปิดประเดิมจากแรกกันที่ Pomelo Salad (ยำส้มโอ 220 บาท) และนี่คือหน้าตาของยำส้มโอราคาจานละ 220 บาทค่ะ
4 คำค่ะท่านผู้ช๊มม เปิดพรีเซนต์เทชั่นต่อด้วยว่า ส้มโอของเรานั้น มาจาก 2 สายพันธ์นะคะ บลา บลา บลา ซึ่ง กว่าเค้าจะพูดจบ 2 คนจกไปเรียบจานแล้วค่าาาาาาาาาา
แล้วก็ต่อด้วยน้องคำน้อย 4 คำ ประกอบด้วย ทะเลอบ ตับเป็ด เมี่ยงคำ และ ลาบดิบ คำละ 80 บาทถ้วนค่าาาา
ต่อด้วยน้องปลากระพงฉู่ฉี่ค่ะ มีมา 2 ชิ้น สงสัยเค้าเห็นมากัน 2 คน ไม่อยากให้ทานเยอะ จานนี้ 680 บาทค่ะ!!
และแล้วจานที่เรารอคอยก็มาถึง เนื้อน้ำจิ้มแจ่วจานละพันสี่ แต่น แตน แต๊นนนนน
ผ่าม!!!! เฮ้ยย นี่มันเค้กเนื้อแบ่งก้อนมาจากใครรึป่าววว แล้วไอ้ก้อนใหญ่ๆแบบโต๊ะข้างๆคือเมนูไหน??? 2 คนแบ่งกัน ได้คนละ 2-3 ชิ้นค่ะ เอ็นดูในความน่ารักของชิ้นเนื้อ T_T
หมดแล้วค่ะ อย่าถามว่าอิ่มไหมนะคะ งานนี้ต้องท่องไว้ เรามาดูหิ่งห้อย ไม่ได้มาเน้นทานข้าว 5555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)
สรุปโดยรวมทั้งหมดนะคะ ร้านนี้เน้นขายคอนเซปต์ และบรรยากาศค่ะ คืออาหารก็ไม่ได้แย่นะคะ ค่อนไปทางรสชาติดีด้วยซ้ำ แต่ราคาเกินเบอร์ไปมาก ถึงมากที่สุด และน้องหิ่งห้อยที่เป็นพระเอกของงาน ก็ไปหลบมุมอยู่ในห้องมืด (เค้าสร้างเป็นระบบนิเวศน์ให้น้องเค้าอยู่ได้นะคะ) แทนที่จะมาบินอยู่กลางสวนให้เราชมระหว่างนั่งทานอาหาร อาหารใช้ได้ แต่ราคาไม่น่ารักเลย เลยต้องถือไว้เป็นเรื่องราวดีๆเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ฮาาา ให้ 3 ดาวพอโทษฐานแพงเกินเบอร์ แต่ถ้าใครอยากจะลองสัมผัสอาหารอร่อยๆพร้อมบรรยากาศแปลกใหม่ ก็ไปทานกันได้นะคะ ร้านอยู่ ถนนเพชรอุทัย แถวๆ RCA ค่ะ จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่าา ใครอยากดูรีวิวอื่นๆที่เราไปมา เข้าไปกด like page ได้นะคะ
https://www.facebook.com/monsterreview/
[CR] เหตุเกิดเพราะความอยากเห็นหิ่งห้อยกลางเมืองกรุง รีวิว wanghinghoi fine dining แห่งใหม่ ลองแล้วมาเล่าให้ฟังค่า
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ การไปทานอาหารค่ำที่ Wanghinghoi หรือ วังหิ่งห้อย กันนะคะ เนื่องมาจากเห็นรูปมาจากในไอจีเลยเข้าไปเผือกดู และพบว่ามันอยู่แถว RCA นี่เองง ใกล้บ้านมากกก แถมในชีวิตนี้เกิดมาสามสิบกว่าปี ปียังไม่เคยเห็นหิ่งห้อยซักครั้งเลยในชีวิต เลยเข้าไปหาข้อมูล ซึ่ง presentation จากในเพจเฟสบุค Wanghinghoi เค้าก็พรีเซ้นต์ร้านเค้าไว้แบบนี้ค่ะ
"ร้านอาหารวังหิ่งห้อยของเรานั้นเป็นมากกว่าร้านอาหารทั่วไป เรานำเสนอประสบกาณ์การรับประทานอาหารที่มากกว่ารสชาติ พร้อมทั้งให้คุณได้ชื่นชมและสัมผัสกับ"หิ่งห้อย"เป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างจังหวัด
เราเสิร์ฟอาหารที่ใช้ไอเดียจากส่วนประกอบหลักของโลกใบนี้ ซึ่งประกอบด้วยดิน น้ำ ลม และไฟ ในทุกๆ 4 เดือนคุณจะได้สัมผัสประการณ์ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงและแสงที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญความพิเศษในแต่ละส่วนทั้งหมดที่กล่าวไปนี้เราจัดเพียง 18 เดือนเท่านั้น ซึ่งเปรียบเสมือนกับอายุของหิ่งห้อยหนึ่งตัวที่มีเวลาส่องแสงให้คนทั้งโลกได้รับรู้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ...."
อ่านแค่นี้แหล่ะ พี่นี่รีบชวนเพื่อนเลยครับ นี่เป็นภาพหน้าร้านตอนไปถึงค่ะ
พอเราเดินมาถึงตรงจุดนี้ เราก็จะมีพนักงานมาต้อนรับเราตั้งแต่ด้านหน้าเลยค่ะ พร้อมเปิดพรีเซนเทชั่นแรกว่า กำแพงที่เห็นอยู่นี้ สร้างขึ้นมาจากดิน "จริงๆ" เลยนะคะ ก็เลยขอถ่ายรูปกับพี่กำแพงเค้าซะหน่อย เค้าอุตส่าห์เป็นดินจริงๆเลยนะ
แล้วเค้าก็พาเราเดินเข้าไปในร้านค่ะ ตัวร้านค่อนข้างมืดถ่ายรูปอะไรไม่ค่อยสวยเลยค่ะ พอพามานั่งที่โต๊ะ ก็เริ่มถามถึงน้องหิ่งห้อย ก็ได้รับคำตอบว่า
พนง: "อ๋อ หิ่งห้อยจะอยู่อีกห้องนึงค่ะ เดี๋ยวพาไปดูนะคะ
เรา: ว้อทท!!!
คือนึกว่าจะได้มานั่งทานข้าวไปดูหิ่งห้อยบินวิบวับวิบวับไปสวยๆ ดันต้องโดนพาเข้าห้องมืด ไปเจอกับสิ่งนี้ค่ะ
ค่ะ!! เรามาเพื่อสิ่งนี้ค่ะ 555555555
แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะ เนื่องจากอาหารเค้ามีจัดเซ็ทให้ แต่เราเลือกที่จะสั่งแบบ a la carte มากกว่า เพราะ set คือ หัวละ 2,400 บาท และไม่สามารถเลือกที่อยากทานได้หมด เพราะจะสั่งสเต๊กต้องเพิ่มเงินอีก 900 บาท แต่สั่งต่างหากจานละ 1,400 เราก็เลยสั่งแบบจานเดี่ยวๆมาค่ะ จะได้ทานกัน 2 คนได้ ระหว่างรอก็เห็นสเต็กจากโต๊ะข้างๆที่เป็นเนื้อก้อนใหญ่ๆมา น่าทานมากกกก ก็รอแทบไม่ไหวเลยค่ะ มี starter มาให้ทานฟรีๆขำๆ
ทานกับ ซอสมะเขือเทศ ซึ่งไม่รู้มาจากประเทศอะไรค่ะ หวานม๊ากกกกกกกกกก
เปิดประเดิมจากแรกกันที่ Pomelo Salad (ยำส้มโอ 220 บาท) และนี่คือหน้าตาของยำส้มโอราคาจานละ 220 บาทค่ะ
4 คำค่ะท่านผู้ช๊มม เปิดพรีเซนต์เทชั่นต่อด้วยว่า ส้มโอของเรานั้น มาจาก 2 สายพันธ์นะคะ บลา บลา บลา ซึ่ง กว่าเค้าจะพูดจบ 2 คนจกไปเรียบจานแล้วค่าาาาาาาาาา
แล้วก็ต่อด้วยน้องคำน้อย 4 คำ ประกอบด้วย ทะเลอบ ตับเป็ด เมี่ยงคำ และ ลาบดิบ คำละ 80 บาทถ้วนค่าาาา
ต่อด้วยน้องปลากระพงฉู่ฉี่ค่ะ มีมา 2 ชิ้น สงสัยเค้าเห็นมากัน 2 คน ไม่อยากให้ทานเยอะ จานนี้ 680 บาทค่ะ!!
และแล้วจานที่เรารอคอยก็มาถึง เนื้อน้ำจิ้มแจ่วจานละพันสี่ แต่น แตน แต๊นนนนน
ผ่าม!!!! เฮ้ยย นี่มันเค้กเนื้อแบ่งก้อนมาจากใครรึป่าววว แล้วไอ้ก้อนใหญ่ๆแบบโต๊ะข้างๆคือเมนูไหน??? 2 คนแบ่งกัน ได้คนละ 2-3 ชิ้นค่ะ เอ็นดูในความน่ารักของชิ้นเนื้อ T_T
หมดแล้วค่ะ อย่าถามว่าอิ่มไหมนะคะ งานนี้ต้องท่องไว้ เรามาดูหิ่งห้อย ไม่ได้มาเน้นทานข้าว 5555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)
สรุปโดยรวมทั้งหมดนะคะ ร้านนี้เน้นขายคอนเซปต์ และบรรยากาศค่ะ คืออาหารก็ไม่ได้แย่นะคะ ค่อนไปทางรสชาติดีด้วยซ้ำ แต่ราคาเกินเบอร์ไปมาก ถึงมากที่สุด และน้องหิ่งห้อยที่เป็นพระเอกของงาน ก็ไปหลบมุมอยู่ในห้องมืด (เค้าสร้างเป็นระบบนิเวศน์ให้น้องเค้าอยู่ได้นะคะ) แทนที่จะมาบินอยู่กลางสวนให้เราชมระหว่างนั่งทานอาหาร อาหารใช้ได้ แต่ราคาไม่น่ารักเลย เลยต้องถือไว้เป็นเรื่องราวดีๆเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ฮาาา ให้ 3 ดาวพอโทษฐานแพงเกินเบอร์ แต่ถ้าใครอยากจะลองสัมผัสอาหารอร่อยๆพร้อมบรรยากาศแปลกใหม่ ก็ไปทานกันได้นะคะ ร้านอยู่ ถนนเพชรอุทัย แถวๆ RCA ค่ะ จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่าา ใครอยากดูรีวิวอื่นๆที่เราไปมา เข้าไปกด like page ได้นะคะ
https://www.facebook.com/monsterreview/