รู้จัก 4 มะเร็งที่ "ไม่แสดงอาการ" ในระยะแรก แต่ตรวจพบได้ก่อน

มะเร็งบางชนิดไม่มีอาการ แต่สามารถ "รู้ก่อน" ได้ด้วยการตรวจคัดกรอง
          หลายคนอาจเข้าใจว่า “มะเร็งจะต้องมีอาการก่อนเสมอ” เช่น เจ็บ ปวด คลำเจอก้อน หรือรู้สึกเหนื่อยผิดปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มะเร็งหลายชนิดสามารถซ่อนตัวได้โดยไม่มีอาการใด ๆ ในระยะเริ่มต้น และนั่นคือเหตุผลที่การตรวจคัดกรองจึงสำคัญ เพราะ “การรู้ก่อน” คือโอกาสในการรักษาหายได้มากกว่า

4 มะเร็งที่ "ไม่แสดงอาการ" ในระยะแรก แต่ตรวจพบได้ก่อน
1. มะเร็งลำไส้ใหญ่
          หนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปี มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่เซลล์ปกติในลำไส้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างไม่หยุดยั้งจนควบคุมไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจใช้เวลาเป็นปี ในระยะแรกๆ เซลล์อาจเป็นเพียงแค่ติ่งเนื้อธรรมดา แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษาหรือตัดทิ้ง ติ่งเนื้อนี้อาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวจนกว่าโรคจะลุกลาม อาการอย่างเลือดออกทางทวาร หน้าท้องโต หรืออุจจาระผิดปกติมักแสดงในระยะหลัง
           🔶 การตรวจหาเลือดในอุจจาระ (Fecal occult blood test) หรือการตรวจหาความผิดปกติของ DNA Methylation ในยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ใหญ่จากอุจจาระเป็นหนึ่งในวิธีการประเมินสัญญาณมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากผลมีความผิดปกติ แนะนำติดตามผลด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตามคำแนะนำของแพทย์
           🔶 การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) แนะนำให้ตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 45 ปี สามารถตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่รวมถึงตัดติ่งเนื้อ (polyps) ได้ในขั้นตอนเดียวตั้งแต่ก่อนมีอาการ

2. มะเร็งเต้านม
          มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทย ส่วนในผู้ชายก็พบมะเร็งเต้านมได้เช่นกันแต่ไม่บ่อยนัก โดยประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเกิดจากต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม จึงมีโอกาสมากที่จะพบการเกิดมะเร็งในเต้านมทั้งสองข้าง ทั้งในระยะแรกและหลังจากการตรวจวินิจฉัย มะเร็งเต้านมแม้จะสามารถคลำพบก้อนด้วยตัวเองได้ในบางราย แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใดเลยในระยะแรกเริ่ม การตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้สูงถึง 95%
           🔶 การตรวจหาก้อนเนื้อหรือความผิดปกติในเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เต้านม (Digital Mammogram & Ultrasound Breast)  เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการหรือคลำเจอก้อนจุดผิดปกติที่ยังไม่สามารถสัมผัสได้

3. มะเร็งปากมดลูก
          มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิง เนื่องจากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านการสัมผัสทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และไม่มีเพศสัมพันธ์โดยตรง ส่วนปัจจัยอื่นที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย มีคู่นอนหลายคน การสูบบุหรี่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน
           🔶 การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส  HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้สูงถึง 70-90%  แม้ว่าฉีดวัคซีนแล้วยังต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ ตามคำแนะนำของแพทย์
           🔶 การตรวจภายใน Pap test เพื่อตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ร่วมกับ HPV test เพื่อตรวจหาเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็ง เป็นเครื่องมือสำคัญในการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

4. มะเร็งปอด
          มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่คนทั่วโลกป่วยและเสียชีวิตมากที่สุด อย่างไรก็ดีมะเร็งปอดสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะต้น ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ สูบหรือรับควันบุหรี่ สัมผัสสารก่อมะเร็งและสารพิษ ควันจากท่อไอเสียและมลภาวะทางอากาศ โดยในปัจจุบันพบได้มากขึ้นในคนที่ไม่สูบบุหรี่ อาการมักไม่แสดงจนกระทั่งโรคเข้าสู่ระยะลุกลาม เช่น ไอเรื้อรัง เหนื่อยง่าย หรือเจ็บหน้าอก
           🔶 การตรวจ Low-dose CT scan (LDCT) หรือเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Photon-counting CT สามารถช่วยตรวจเจอก้อนขนาดเล็กในปอดได้แม้ยังไม่แสดงอาการ

          การตรวจคัดกรองไม่ใช่แค่ "การหาโรค" แต่คือ "การรู้ความเสี่ยง" ซึ่งสามารถระบุความเสี่ยงเฉพาะบุคคลได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่หาความผิดปกติในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมการใช้ชีวิต, พันธุกรรม หรือ ประวัติครอบครัว เพราะการรู้ก่อน…คือโอกาสหายที่มากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่