วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้คือ 1. เพื่อยืนยันว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าปฏิบัติแล้วได้ผลจริงๆ การบรรลุธรรมไม่ใช่เป็นของเกินเอื้อมที่หาไม่ได้ในยุคนี้อย่างที่คนส่วนมากเชื่อกัน 2. เผยแพร่ความรู้ ว่าลักษณะของผู้ที่บรรลุธรรมแล้วนั้น ที่จริงเป็นอย่างไร
ยุคนี้เห็นจะเป็นช่วงขาลงของพระพุทธศาสนา เพราะถึงแม้พระพุทธเจ้ารับรองในพระไตรปิฎกอย่างแน่ชัดว่า ใครก็ตาม ไม่ว่าจะสงฆ์หรือฆราวาส หากฝึกสติปัฎฐาน 4 ไม่เกิน 7 ปีอย่างน้อยต้องได้อนาคามีผล แต่พอมีคนออกมาบอกว่าบรรลุธรรมแต่ละครั้ง คนดันไม่เชื่อแถมยังพูดจาออกแนวถากถางใส่เป็นส่วนมาก ไม่ค่อยจะไต่ถามกันดีๆว่าทำไมผู้นั้นถึงคิดแบบนั้น ทั้งนี้ไม่ได้จะกล่าวว่าผู้ที่บอกว่าบรรลุแล้วนั้นบรรลุจริงๆทุกคน แต่มันน่าหดหู่ที่การถกเถียงแบบใช้เหตุผลหรือปัญญาแทบไม่ได้เกิดขึ้นเลย ในเกือบทุกครั้งที่มีคนกล้าออกมาประกาศรับรองว่าธรรมะนั้นปฏิบัติแล้วได้ผล
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังไม่ใช่พระอนาคามีหรือแม้แต่พระอรหันต์ ข้อมูลในกระทู้นี้มาจากประสบการณ์ของตัวเองและการเรียนรวมถึงค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อันได้แก่ พระไตรปิฎก หนังสือ บทความ เทปธรรมะ เป็นต้น ผู้ที่จะให้ข้อมูลได้ครบถ้วนถูกต้องทุกอย่างมีเพียงหนึ่งเดียว คือ พระพุทธเจ้า และที่ครอบคลุมรองลงมาคือบรรดาพระอรหันต์ พึงใช้หลักการตรวจสอบที่ท่านให้ไว้แล้วและใช้ได้ในทุกสถานการณ์ อันได้แก่ หลักกาลามสูตร
ประเด็นต่างๆ
1. ยุคนี้ไม่มีผู้บรรลุธรรมแล้ว
ยุคนี้ยังมีผู้บรรลุธรรม ในพันทิปมี 3 คนขึ้นไปที่ผู้เขียนค้นเจอ หากไม่นับผู้เขียน หากผู้เขียนซึ่งเป็นฆราวาสสามารถทำผลให้สำเร็จได้ แน่นอนว่าต้องมีฆราวาสและพระสงฆ์ที่ทำได้ และทำได้ดียิ่งกว่า
2. ผู้ที่บรรลุธรรมแล้ว ไม่เล่นพันทิป ไม่อยากรวย ไม่อยากมีครอบครัว ฯลฯ
เป็นความเข้าใจที่ผิดที่เห็นได้โดยทั่วไปที่ปุถุชนมีต่อผู้ที่บรรลุธรรมขั้นต้น เมื่อสังโยชน์ 3 ข้อแรกถูกทำลาย แน่นอนว่าความเห็นว่าจิตและกายเป็นตัวเองแล้วย่อมไม่มี แต่สังโยชน์อื่นๆยังมีครบ (เว้นพระสกิทาคามีที่บางข้อเบาบางลง)
บรรลุแล้วเคยใช้ชีวิต เลี้ยงตัวเองแบบใด มีนิสัยแบบใด มีงานอดิเรกคืออะไร ส่วนมากก็ยังเป็นแบบเดิมเว้นส่วนที่มันผิดศีลธรรม (เพราะเลิกมานานแล้ว) ไม่ใช่ว่าเล่นพันทิปมานาน แต่พอบรรลุแล้ว จบกัน ลาขาด มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะเลิกใช้ เว็บบอร์ดเป็นแหล่งหาความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น ต่อผู้ที่สนใจในสิ่งเดียวกัน เว็บบอร์ดเป็นของมีประโยชน์ เช่นเดียวกับอินเตอร์เน็ต
ความจริงเกี่ยวกับการบรรลุธรรม
ยุคนี้เห็นจะเป็นช่วงขาลงของพระพุทธศาสนา เพราะถึงแม้พระพุทธเจ้ารับรองในพระไตรปิฎกอย่างแน่ชัดว่า ใครก็ตาม ไม่ว่าจะสงฆ์หรือฆราวาส หากฝึกสติปัฎฐาน 4 ไม่เกิน 7 ปีอย่างน้อยต้องได้อนาคามีผล แต่พอมีคนออกมาบอกว่าบรรลุธรรมแต่ละครั้ง คนดันไม่เชื่อแถมยังพูดจาออกแนวถากถางใส่เป็นส่วนมาก ไม่ค่อยจะไต่ถามกันดีๆว่าทำไมผู้นั้นถึงคิดแบบนั้น ทั้งนี้ไม่ได้จะกล่าวว่าผู้ที่บอกว่าบรรลุแล้วนั้นบรรลุจริงๆทุกคน แต่มันน่าหดหู่ที่การถกเถียงแบบใช้เหตุผลหรือปัญญาแทบไม่ได้เกิดขึ้นเลย ในเกือบทุกครั้งที่มีคนกล้าออกมาประกาศรับรองว่าธรรมะนั้นปฏิบัติแล้วได้ผล
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังไม่ใช่พระอนาคามีหรือแม้แต่พระอรหันต์ ข้อมูลในกระทู้นี้มาจากประสบการณ์ของตัวเองและการเรียนรวมถึงค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อันได้แก่ พระไตรปิฎก หนังสือ บทความ เทปธรรมะ เป็นต้น ผู้ที่จะให้ข้อมูลได้ครบถ้วนถูกต้องทุกอย่างมีเพียงหนึ่งเดียว คือ พระพุทธเจ้า และที่ครอบคลุมรองลงมาคือบรรดาพระอรหันต์ พึงใช้หลักการตรวจสอบที่ท่านให้ไว้แล้วและใช้ได้ในทุกสถานการณ์ อันได้แก่ หลักกาลามสูตร
ประเด็นต่างๆ
1. ยุคนี้ไม่มีผู้บรรลุธรรมแล้ว
ยุคนี้ยังมีผู้บรรลุธรรม ในพันทิปมี 3 คนขึ้นไปที่ผู้เขียนค้นเจอ หากไม่นับผู้เขียน หากผู้เขียนซึ่งเป็นฆราวาสสามารถทำผลให้สำเร็จได้ แน่นอนว่าต้องมีฆราวาสและพระสงฆ์ที่ทำได้ และทำได้ดียิ่งกว่า
2. ผู้ที่บรรลุธรรมแล้ว ไม่เล่นพันทิป ไม่อยากรวย ไม่อยากมีครอบครัว ฯลฯ
เป็นความเข้าใจที่ผิดที่เห็นได้โดยทั่วไปที่ปุถุชนมีต่อผู้ที่บรรลุธรรมขั้นต้น เมื่อสังโยชน์ 3 ข้อแรกถูกทำลาย แน่นอนว่าความเห็นว่าจิตและกายเป็นตัวเองแล้วย่อมไม่มี แต่สังโยชน์อื่นๆยังมีครบ (เว้นพระสกิทาคามีที่บางข้อเบาบางลง)
บรรลุแล้วเคยใช้ชีวิต เลี้ยงตัวเองแบบใด มีนิสัยแบบใด มีงานอดิเรกคืออะไร ส่วนมากก็ยังเป็นแบบเดิมเว้นส่วนที่มันผิดศีลธรรม (เพราะเลิกมานานแล้ว) ไม่ใช่ว่าเล่นพันทิปมานาน แต่พอบรรลุแล้ว จบกัน ลาขาด มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะเลิกใช้ เว็บบอร์ดเป็นแหล่งหาความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น ต่อผู้ที่สนใจในสิ่งเดียวกัน เว็บบอร์ดเป็นของมีประโยชน์ เช่นเดียวกับอินเตอร์เน็ต