คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สวัสดีค่ะเราเป็นคนหนึ่งที่เคยทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นและตัดสินใจ กลับไทย
เราชอบอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกันเพราะว่าใช้ชีวิตง่าย
ด้วยความที่ทุกอย่างเค้าเป็นระเบียบหมดนั่นแหละ
อาหารซื้อกินเอา ถูกกว่าไปซื้อมาทำเอง
(ไม่เหมือน อเมริกาหรือยุโรป ที่กินข้างนอกทุกวัน คงไม่มีเงินเหลือเก็บ)
แต่ชีวิตในที่ทำงานไม่มีความสุขเลย เพราะว่ามีความกดดันเยอะ
บางครั้งต้องทำงานวันเสาร์ด้วย ซึ่งเราไม่ชอบเลย
(ก่อนหน้านี้เราทำงานกับอเมริกัน ซึ่งเราคิดว่าเหมาะกับนิสัยเรามากกว่า เลิกงานคือเลิก กลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์ก็ใช้ชีวิต)
นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานที่เป็นญี่ปุ่น ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกจะไม่พูดตรงๆ จะใช้วิธีฝากคนอื่นมาบอก หรือไปบอกหัวหน้าเลย
ต่อหน้าเราเขายิ้มเขาดีเหมือนไม่มีอะไร
(ผิดกับฝรั่งถ้ามีอะไรก็จะบอกกันเดี๋ยวนั้นเลยว่าไม่โอเค)
คุณเชื่อไหม คนญี่ปุ่นที่เราเจอ ที่นิสัยดีน่าคบ คือคนที่เราเจอนอกที่ทำงาน ทั้งนั้นเลย
ไม่ว่าจะเป็นคุณป้าเจ้าของบ้านเช่า ช่างตัดผม
มันเหมือนกับว่าปกติทุกคนก็คงดีแหละ แต่พอเข้าออฟฟิศ ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน
จะต้องหาทางจับผิดและ กดดันกันเอง
เหมือนเค้าโฟกัสกันแต่เรื่องลบ เราทำอะไรดีไม่เคยชื่นชมเลย
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคุณเจอแบบนี้หรือเปล่า
แต่ ที่กลับไทยเราก็ไม่ได้แฮปปี้นะ
กลับมารับเงินเดือนน้อยกว่ามาก
จนแทบจะใช้ชีวิตสนุกสนานไม่ได้เลย
(แต่ อยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้สนุกเหมือนกัน เพราะไม่มีเวลา แต่อย่างน้อยก็มีเงินเก็บเนอะ)
แถมที่คาดหวังว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนพ่อกับแม่
กลายเป็นว่าเค้าไม่ได้ต้องการให้เรากลับมาเลยแม้แต่น้อย
เหมือนกับเค้า ไม่ได้คิดว่าเราจะกลับมาแล้ว
พอเรากลับไปที่บ้าน กลายเป็นว่าเราไม่มีที่ทางเป็นของตัวเองเลย
จนถึงจุดหนึ่ง ที่เราต้องทะเลาะกับพ่อ
พ่อถึงกับไล่เราด้วยความโมโห แบบ เออ ออกไปเลยไป
ซึ่งเราก็รู้แหละว่าเค้าพูดไปด้วยความโมโหเท่านั้น แต่มันเป็นอะไรที่เจ็บลึกนะ
แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่มี ที่ทางอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป
สุดท้ายเราก็ต้องออกไปหางานทำ ต่างประเทศใหม่
ก็ดีที่ได้มีงาน มีเงินเดือน มั่นคงดูแลตัวเองได้
แต่ทุกวันนี้ เวลาเรากลับไปเมืองไทยก็คือ ต้องไปพักโรงแรมเท่านั้น ไม่มีบ้านอยู่แล้ว
อันนี้ไม่ใช่ว่าเราหยิ่งไม่กลับบ้านนะ แต่ที่บ้าน ไม่มีที่ให้เราอยู่อีกแล้ว
พ่อกับแม่จะบอกว่าไม่สะดวก บ้านแคบ ของรก ไปพักที่อื่นเถอะ
ที่เล่ามาเนี่ย อยากให้คุณลองคิดดูว่า ที่บ้าน เค้ายินดีต้อนรับคุณกลับมาหรือเปล่า
เขาเอ่ยปากหรือเปล่า ว่าอยากให้คุณกลับ
ตอนที่เรากลับมา เราคิดไปเองทั้งหมด ว่าพ่อแม่คงจะดีใจ
กลายเป็นว่ากลับมาแล้วคนละเรื่องเลย มาทำงานที่ไทยเงินเดือนน้อย เราไม่สามารถจุนเจือเขาได้
จากที่เคยเป็นนางฟ้านางสวรรค์ ก็กลายเป็นตกสวรรค์ในบัดดล
เราไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่คุณ มีแนวคิดอย่างไรนะคะ
แต่คิดว่าคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ก็น่าจะดี ว่าจะกลับไปอยู่ยังไง ทำอะไร
ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิด เราก็ไม่อยากให้เป็นเหมือนแบบเรา
เราเคยมานั่งคิดนะว่า ถ้าตอนนั้นรู้ว่ามันจะลงเอยแบบนี้
เอาจะอดทนทำงานอยู่ญี่ปุ่นต่อ เก็บเงินให้ได้
อาจจะทำไปจนเกษียณเลยด้วยซ้ำ
อย่างน้อยก็ มีเงิน อาจจะได้เรียนภาษา ได้สมัครเป็นซิติเซ่น
ได้มีเงินกลับมาซื้อบ้านที่ไทย
แต่มันก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้วเนาะ
ฝากไว้นะคะ ลองคิดดูก่อนว่าถ้ากลับมาเมืองไทย มีหนทางรองรับ มีทางที่จะไปต่อหรือเปล่า
ถ้ายังไม่ดี เราคิดว่าบางทีการอยู่ญี่ปุ่นต่ออาจจะไม่ได้แย่อะไร
อย่างน้อยคุณก็ได้ชื่อว่าเคยทำงานในประเทศญี่ปุ่น ได้ประสบการณ์ในการทำงาน
เราแนะนำให้หาเพื่อนทั้งญี่ปุ่น ทั้งคนไทย ทั้งต่างชาติ ข้างนอกที่ทำงาไว้
มันจะช่วยคลายเหงา ความโดดเดี่ยวได้เยอะ
บางทีการ ได้คุยกับคนเยอะๆ มันก็เหมือนกับการแลกเปลี่ยนความคิด
เผื่อเราจะได้ดูว่าคนอื่นเค้ามีเป้าหมายอย่างไร
มีแนวทางการใช้ชีวิตอย่างไร
เป็นการเปิดโลกทัศน์เราด้วย
หรืออาจจะไปเรียนคอร์สเพิ่มเติมก็ได้
(เราเคยคิดอยากจะไปเรียนมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่มาเปิดสาขาที่โตเกียวอยู่ แต่ก็ยังไม่ทันได้ไปก็กลับไทยเสียก่อน)
ก็จะได้ทั้งวุฒิการศึกษาและได้ทั้งเพื่อนเพิ่มขึ้นด้วย
สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็ขอให้เจ้าของกระทู้ได้สิ่งที่ต้องการ และมีความสุขนะคะ
เพิ่มเติมค่ะ กลับไปอ่านอีกครั้งเลยเห็นว่าเจ้าของกระทู้เป็นลูกคนเดียว ถ้าอย่างนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร พ่อแม่คงดีใจมากที่จะกลับไป ของเราบังเอิญมีพี่น้อง บางคนเค้าเห็นเรากลับไป ก็นึกว่าเราจะไป ขอแบ่งสมบัติ อะไรเลยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
เราชอบอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกันเพราะว่าใช้ชีวิตง่าย
ด้วยความที่ทุกอย่างเค้าเป็นระเบียบหมดนั่นแหละ
อาหารซื้อกินเอา ถูกกว่าไปซื้อมาทำเอง
(ไม่เหมือน อเมริกาหรือยุโรป ที่กินข้างนอกทุกวัน คงไม่มีเงินเหลือเก็บ)
แต่ชีวิตในที่ทำงานไม่มีความสุขเลย เพราะว่ามีความกดดันเยอะ
บางครั้งต้องทำงานวันเสาร์ด้วย ซึ่งเราไม่ชอบเลย
(ก่อนหน้านี้เราทำงานกับอเมริกัน ซึ่งเราคิดว่าเหมาะกับนิสัยเรามากกว่า เลิกงานคือเลิก กลับบ้าน เสาร์-อาทิตย์ก็ใช้ชีวิต)
นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานที่เป็นญี่ปุ่น ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกจะไม่พูดตรงๆ จะใช้วิธีฝากคนอื่นมาบอก หรือไปบอกหัวหน้าเลย
ต่อหน้าเราเขายิ้มเขาดีเหมือนไม่มีอะไร
(ผิดกับฝรั่งถ้ามีอะไรก็จะบอกกันเดี๋ยวนั้นเลยว่าไม่โอเค)
คุณเชื่อไหม คนญี่ปุ่นที่เราเจอ ที่นิสัยดีน่าคบ คือคนที่เราเจอนอกที่ทำงาน ทั้งนั้นเลย
ไม่ว่าจะเป็นคุณป้าเจ้าของบ้านเช่า ช่างตัดผม
มันเหมือนกับว่าปกติทุกคนก็คงดีแหละ แต่พอเข้าออฟฟิศ ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน
จะต้องหาทางจับผิดและ กดดันกันเอง
เหมือนเค้าโฟกัสกันแต่เรื่องลบ เราทำอะไรดีไม่เคยชื่นชมเลย
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคุณเจอแบบนี้หรือเปล่า
แต่ ที่กลับไทยเราก็ไม่ได้แฮปปี้นะ
กลับมารับเงินเดือนน้อยกว่ามาก
จนแทบจะใช้ชีวิตสนุกสนานไม่ได้เลย
(แต่ อยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้สนุกเหมือนกัน เพราะไม่มีเวลา แต่อย่างน้อยก็มีเงินเก็บเนอะ)
แถมที่คาดหวังว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนพ่อกับแม่
กลายเป็นว่าเค้าไม่ได้ต้องการให้เรากลับมาเลยแม้แต่น้อย
เหมือนกับเค้า ไม่ได้คิดว่าเราจะกลับมาแล้ว
พอเรากลับไปที่บ้าน กลายเป็นว่าเราไม่มีที่ทางเป็นของตัวเองเลย
จนถึงจุดหนึ่ง ที่เราต้องทะเลาะกับพ่อ
พ่อถึงกับไล่เราด้วยความโมโห แบบ เออ ออกไปเลยไป
ซึ่งเราก็รู้แหละว่าเค้าพูดไปด้วยความโมโหเท่านั้น แต่มันเป็นอะไรที่เจ็บลึกนะ
แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่มี ที่ทางอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป
สุดท้ายเราก็ต้องออกไปหางานทำ ต่างประเทศใหม่
ก็ดีที่ได้มีงาน มีเงินเดือน มั่นคงดูแลตัวเองได้
แต่ทุกวันนี้ เวลาเรากลับไปเมืองไทยก็คือ ต้องไปพักโรงแรมเท่านั้น ไม่มีบ้านอยู่แล้ว
อันนี้ไม่ใช่ว่าเราหยิ่งไม่กลับบ้านนะ แต่ที่บ้าน ไม่มีที่ให้เราอยู่อีกแล้ว
พ่อกับแม่จะบอกว่าไม่สะดวก บ้านแคบ ของรก ไปพักที่อื่นเถอะ
ที่เล่ามาเนี่ย อยากให้คุณลองคิดดูว่า ที่บ้าน เค้ายินดีต้อนรับคุณกลับมาหรือเปล่า
เขาเอ่ยปากหรือเปล่า ว่าอยากให้คุณกลับ
ตอนที่เรากลับมา เราคิดไปเองทั้งหมด ว่าพ่อแม่คงจะดีใจ
กลายเป็นว่ากลับมาแล้วคนละเรื่องเลย มาทำงานที่ไทยเงินเดือนน้อย เราไม่สามารถจุนเจือเขาได้
จากที่เคยเป็นนางฟ้านางสวรรค์ ก็กลายเป็นตกสวรรค์ในบัดดล
เราไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่คุณ มีแนวคิดอย่างไรนะคะ
แต่คิดว่าคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ก็น่าจะดี ว่าจะกลับไปอยู่ยังไง ทำอะไร
ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิด เราก็ไม่อยากให้เป็นเหมือนแบบเรา
เราเคยมานั่งคิดนะว่า ถ้าตอนนั้นรู้ว่ามันจะลงเอยแบบนี้
เอาจะอดทนทำงานอยู่ญี่ปุ่นต่อ เก็บเงินให้ได้
อาจจะทำไปจนเกษียณเลยด้วยซ้ำ
อย่างน้อยก็ มีเงิน อาจจะได้เรียนภาษา ได้สมัครเป็นซิติเซ่น
ได้มีเงินกลับมาซื้อบ้านที่ไทย
แต่มันก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้วเนาะ
ฝากไว้นะคะ ลองคิดดูก่อนว่าถ้ากลับมาเมืองไทย มีหนทางรองรับ มีทางที่จะไปต่อหรือเปล่า
ถ้ายังไม่ดี เราคิดว่าบางทีการอยู่ญี่ปุ่นต่ออาจจะไม่ได้แย่อะไร
อย่างน้อยคุณก็ได้ชื่อว่าเคยทำงานในประเทศญี่ปุ่น ได้ประสบการณ์ในการทำงาน
เราแนะนำให้หาเพื่อนทั้งญี่ปุ่น ทั้งคนไทย ทั้งต่างชาติ ข้างนอกที่ทำงาไว้
มันจะช่วยคลายเหงา ความโดดเดี่ยวได้เยอะ
บางทีการ ได้คุยกับคนเยอะๆ มันก็เหมือนกับการแลกเปลี่ยนความคิด
เผื่อเราจะได้ดูว่าคนอื่นเค้ามีเป้าหมายอย่างไร
มีแนวทางการใช้ชีวิตอย่างไร
เป็นการเปิดโลกทัศน์เราด้วย
หรืออาจจะไปเรียนคอร์สเพิ่มเติมก็ได้
(เราเคยคิดอยากจะไปเรียนมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่มาเปิดสาขาที่โตเกียวอยู่ แต่ก็ยังไม่ทันได้ไปก็กลับไทยเสียก่อน)
ก็จะได้ทั้งวุฒิการศึกษาและได้ทั้งเพื่อนเพิ่มขึ้นด้วย
สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็ขอให้เจ้าของกระทู้ได้สิ่งที่ต้องการ และมีความสุขนะคะ
เพิ่มเติมค่ะ กลับไปอ่านอีกครั้งเลยเห็นว่าเจ้าของกระทู้เป็นลูกคนเดียว ถ้าอย่างนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร พ่อแม่คงดีใจมากที่จะกลับไป ของเราบังเอิญมีพี่น้อง บางคนเค้าเห็นเรากลับไป ก็นึกว่าเราจะไป ขอแบ่งสมบัติ อะไรเลยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
แสดงความคิดเห็น
คนที่ทำงานอยู่เมืองนอก แล้วตัดสินใจกลับไทย รู้สึกยังไงบ้าง เตรียมตัวยังไง ลังเลมั้ย
- ห่วงพ่อแม่ และ หมา เราเป็นลูกคนเดียว ก็อยากมีเวลาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้พ่อแม่จะ 70 แล้ว
- เราตัวคนเดียว แฟนไม่มี ไม่มีครอบครัวหรือญาติเลยที่นี่ เพื่อนหลายคนที่ยังอยู่ที่นี่ยาว ๆ ส่วนมากก็เพราะมีครอบครัว แม่มาแต่งงานใหม่ที่นี่บ้าง หรือ ก็มีแฟนที่นี่ (เราก็มีความโดดเดี่ยวไปอีก)
- งานที่ทำอยู่ มันเป็นงานแบบทำไปวัน ๆ เราว่ามันไม่มีอนาคตอะไร
- สถานการณ์ในออฟฟิศก็ดูไม่ค่อยน่าทำงาน คนลาออกกันเยอะมาก แม้แต่คนที่อยู่มานาน เรียกได้ว่า รู้ทุกอย่างมากกว่า CEO ยังลาออก !
หลากหลายเหตุผลบางคนก็ออก เพราะ ค่าจ้างที่น้อย และ บางคนก็เหตุผลส่วนตัว รวม ๆ มันไม่มีความสุขเหมือนตอนแรก เหมือนไฟหมดอ่ะ
เพื่อนนั่งข้าง ๆ ก็นั่งหางานใหม่ตลอดเวลา เห็นแล้วก็แบบชั้นเองก็ควรไปมั้ย?
ตอนแรกอยากทำงานที่นี่มาก เพราะเค้าจะออกวีซ่าให้ เลยอารมณ์ตื่นเต้นที่แบบ เห้ยขนาด พูดญี่ปุ่นไม่ได้ ก็ยังอุตส่าเจองานที่ไม่ต้องใช้ญี่ปุ่น รู้สึกสวยมากจริง ๆ
- ความมั่นคง สวัสดิการ แน่นอนว่าไม่ดี และ อาจไม่มี ห้า ๆ แต่เราไม่ได้คิดจะฝากชีวิตไปจนเกษียณนะ เราเลยไม่ได้แคร์ตรงนั้นมาก
- ข้อจำกัดทางภาษา ภาษามันมีส่วนที่ทำให้การหางานของเรามีข้อจำกัด
เพื่อนก็น้อย เพื่อนต่างชาติด้วยกันที่เคยสนิทก็แยกย้ายไปคนละทางแล้ว เรียกว่าตัวคนเดียว
- แล้วสภาพจิตใจมันกำลังจะแย่ลง แบบอัตโนมัติ
สาเหตุที่ลังเล:
- เราชอบประเทศนี้ ชอบความเป็นระเบียบของผู้คน
และเราก็แปลกใจมาก ที่เราบังเอิญดันปรับตัวได้ง่ายแบบน่าประหลาด
เราชอบอ่ะ เราชอบที่คนไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด เราเป็นคนที่อยู่ไทย เราจะถือขยะไว้ในมือ จนกว่าจะเจอถังขยะ หรือเก็บไปทิ้งบ้าน
มันเลยทำให้เราไม่รู้สึกว่าการอยู่ญี่ปุ่นมันยาก ทั้งที่ภาษาก็ไม่ได้ ฟังได้อย่างเดียว
- ความปลอดภัย ยกให้ไปเลยที่สุดของโลก
- กลัวการกลับไปหางานใหม่ เริ่มต้นใหม่ เหมือนกับว่าอยู่นี่ก็มีงานอยู่แล้วจะหาเรื่องกลับไทยไปทำซากอะไร
ใครที่กลับไทยไปแล้วมาแชร์ให้ฟังหน่อยได้มั้ยว่า เป็นยังไงบ้าง