วันนี้วันที่12ก.พ.2560 ฉันไม่เคยรู้เลยว่าที่เป็นอยู่มันคืออะไร ความเหนื่อยที่ไร้ที่สิ้นสุด ความพยายามที่ไม่รู้จุดหมายปลายทาง ฉันแทบไม่มีอารมณ์จะทำอะไร ไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีแรงกระตุ้น มันดูเหมือนคนปลงโลก และอยู่ใช้ชีวิตรอวันตายไปเรื่อยๆ บางครั้งฉันก็คิดว่าจะไปฉีดวัคซีนต้านมะเร็งปากมดลุกไปทำไม ในเมื่อลึกๆอยากเป็นมะเร็งแล้วตายไปซะ ฉันเคยคิดว่าถ้าเป็นมะเร็งจะรักษาไปทำไม ถ้าฉันเป็นขึ้นมาก็จะลาออกจากงาน ใช้เงินทั้งหมดที่หามาได้ พาฉันเที่ยวรอบโลก พออาการทรุดหนักก็เข้าโรงพยาบาลทีเดียวแล้วก็ตายซะที่นั่นซะเลย พอตายแล้วก็บริจาคร่างกายซะ จะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องงานศพ แถมร่างกายที่ตายแล้วเอาไปไม่ได้ก็ยังมีประโยชน์ ฉันเหนื่อย ท้อแท้ ดูล่องลอยยิ่งกว่าคนที่ตอนนี้ยังไม่มีมหาลัย หรือยังไม่มีงานทำ ฉันพยายามเรียนไปเพื่อไปทำงานหรอ ลึกๆในใจยังไม่ค้นพบตัวตนของตัวเองเลยด้วยซ้ำว่าชอบอะไร การมีคู่ครองยิ่งแล้วใหญ่ มันเป็นเหมือนอารมณ์ชั่ววูบของเด็กๆที่เวลาเหงาอยากมีใครสักคน แต่คนๆนั้นต้องไม่อยู่ใกล้ ต้องไม่มาวุ่นวาย ต้องไม่เข้ามาในชีวิตมากไป อีฟบอกว่ามันคือปมที่ฉันเห็นมาเกี่ยวกับเรื่องไม่ดีของผู้ชาย ฉันจึงไม่อยากมีใคร บางครั้งฉันก็ร้องไห้ แต่ยิ่งร้องมันยิ่งทำให้ฉันคิดว่าพยายามไปทำไม ไม่เคยสบายใจที่ได้ระบาย อยากปรึกษาใครสักคนแต่ก็อายเกินไปที่จะเล่าความสับสนในใจ ลางทีมันก็อธิบายยากว่ารู้สึกยังไง ช่วงนี้ฉันเริ่มจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ฉันเริ่มเครียดมากขึ้นเมื่อเริ่มสนิทกับใครสักคน มันเหมือนฉันผุกติดเขามากเกินไป แต่ฉันก็ต้องการเขา ทั้งอยากออกมาแต่ก็อยากเข้าไป อารมณ์แปรปรวนจนยากจะเข้าใจตัวเอง บางทีฉันก็คิดว่าควรพบจิตแพทย์สักครั้ง แต่บางทีก็คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรเลย มันเป็นแบบนี้ทั้งหมดมาจากความเครียด แต่ตอนนี้ฉันเริ่มหาวิธีแก้ความเครียดและความล่องลอยในใจไม่ได้แล้ว อีฟบอกว่ามันคือความหมดหวังกับทุกสิ่ง มันคือความที่ฉันไม่มีแรงจูงใจที่จะอยู่บนโลกนี้ ฉันเริ่มหัวตื้อ คิดอะไรไม่ออก ไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากนอน ไม่อยากเดิน ไม่อยากนั่ง เริ่มคิดว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะตายสักที เริ่มคิดว่าอยู่บนโลกนี้นานเกินไปแล้ว เริ่มคิดว่าการรอให้ตัวเองอายุ20เริ่มนานเกินไป บางทีฉันเหนื่อยจนแทบอยากจะขี่มอเตอร์ไซค์ปาดหน้ารถฟรีในมอให้รู้แล้วรุ้รอด แต่พ่อ แม่ น้องฉันยังคงค้ำคออยู่ เหมือน3คนนี้คือสิ่งที่ทำให้ฉันคิดว่า อย่าเพิ่งตาย บางครั้งฉันก็รู้ตัวว่าทำแบบนี้มันงี่เง่ามาก เหมือนฉันพยายามทำตัวเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า บางครั้งก็คิดว่าดึกไปบบนี้ถ้าฉันผูกคอตายหนีปัญหาตรงระเบียงยามที่หลับพักผ่อนก้คงจะไม่เห็น แต่ก็กลัวว่าถ้าตายที่นี่คนที่หอก็คงจะระแวงแล้วย้ายออกไป เป็นตัวที่ทำให้คนใหญ่คนโตเขาด่าตามหลังอีกว่าสร้างปัญหาให้คนเป็น ช่วงนี้ฉันเริ่มปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ มันปวดทั้งท้องเหมือนคนเป็นไส้ติ่ง ถ้าฉันเป็นอะไร แม่ฉันคงอกแตกตายแน่ๆ ฉันไม่อยากเป็นมันตอนนี้สักเท่าไหร่ ฉันยังแบกความหวังของแม่ไว้เต็มบ่า ถึงแม้วันๆฉันจะคิดแต่ว่าโลกของฉันมันน่าเบื่อและฉันควรตายๆไปซะก้เถอะ ฉันรู้ว่าคุณอาจจะไม่เชื่อฉันแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกแบบนี้จริงๆ ฉันเหงา รู้สึกอ้างว้าง อยากไปที่ไหนสักที่ที่ทำให้ฉันหลุดออกจากความรู้สึกนี้ บางคนบอกว่าตายแล้วตกนรก ฉันว่าฉันไม่ค่อยเชื่อมันเท่าไหร่ เขานู้ได้อย่างไร เขาเคยตายหรอ บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลย ฉัเริ่มคิดว่าความตายคือความเงียบที่แสนสงบและสบาย มันไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องหวัง ไม่ต้องพยายาม มันเหมือนของขวัญสำหรับคนที่เหน็ดเหนื่อยมาแล้วทั้งชีวิต ฉันอยากพูดให้ใครสักคนฟังแล้วเขาก็หาทางแก้ให้ฉันได้ ไม่ใช่บอกว่าเข้าใจหรือบอกให้ฉันพยายามทำแบบนั้น ฉันอยากหลุดจากความพยายามแต่คุณกลับบอกให้ฉันพยายาม มันยิ่งทำให้ฉันเครียดเพราะฉันไม่อยากทำมัน ฉันไม่อยากกอดใครหรอกตอนนี้ ฉันอยากร้องไห้คนเดียว อยากรุ้ว่าพอฉันหมดวิธีทางแก้ปัญหาในหัวฉันสามารถคุยกับใครได้ มันเป็นความรู้สึกแย่มากๆ มากที่ว่าคือจุดสูงสุดของนิยามคำว่ามากจะไปถึง มันเหมือนในนิยายหลายเรื่องที่เขียน แต่ฉันจะบอกว่ามันแย่กว่านั้นมาก บางทีฉันอาจจะเป็นโรคคิดมากหรืออะไรก็ได้ที่มาจากด้านความคิดเยอะหรือจินตนาการเยอะ หรือดูหนังเยอะ หรือเพ้อเยอะ แต่ฉันจะบอกว่ามันเเย่จริงๆ ฉันรู้สึกว่าการมีฉันมันทำให้คนอื่นแย่ ฉันเริ่มพูดไม่ดี ฉันเริ่มเสแสร้ง ฉันเริ่มรู้สึกว่าที่เป็นอยู่ไม่ใช่ตัวฉันอีกต่อไป ฉันเริ่มน้อยใจกับการที่เพื่อนไปชวนฉันไปนั่นนี่ด้วย ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้เพื่อน หรือว่าฉันจะทำตัวไม่ดี เรื่องมันเริ่มยาวจนไร้ที่สิ่นสุด แต่ถ้าให้เล่าให้หมดก็คงยากมากๆเพราะมีอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เลย รู้แค่ว่าตอนนี้สิ่งที่ฉันเป็นอยู่คือหมดหวังแล้วกับชีวิต
ฉันควรทำอย่างไรดี?
ชีวิต และความหมดหวังกับโลก
ฉันควรทำอย่างไรดี?