สวัสดีครับ จขกท. คิดถึงทุกคนมาก และขอขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจกลับมาให้ จขกท. อย่างล้นหลามสำหรับกระทู้ก่อนหน้านี้ "ประสบการณ์ตรงเรื่องการงานและเงินเดือนที่สูงมากของเด็กจบใหม่ที่สื่อสารได้ 3 ภาษา (ไทย-อังกฤษ-จีน)" สามารถเข้าไปอ่านได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://pantip.com/topic/37240720 ขอบอกว่าปลื้มใจสุดๆที่ได้เห็นคนที่กำลังท้อมีพลังลุกขึ้นสู้ต่อไป จขกท. เข้าใจดีเลยว่าเราทุกคนต่างก็เจออะไรมาเยอะ โดนคนแทงข้างหลังหรือโดนคนที่รักทำให้เสียใจมาก็ไม่น้อย มันไม่รู้ว่าจะเอาแรงจากไหนลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆ ใจมันแตกสลายไม่มีชิ้นดี แต่วันนี้ จขกท. อยากจะขอเอาวิธีการวางใจที่จะทำให้เราทุกคนสามารถมีพลังก้าวข้ามเรื่องท้าทายไปได้ ให้ท่องแนบใจไว้เสมอเลยว่า "เราต้องหยุดถามคำถามที่ผิดว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเรา แต่จงถามคำถามที่ถูกต้อง ว่าเราจะทำให้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ส่งชีวิตเราไปในจุดที่ดีที่สุดได้อย่างไร"

สิ่งที่ จขกท. จะขอเอามาแบ่งปันเราทุกคนในวันนี้ คือ
1. ความรักคือทุกอย่างของชีวิต
2. ยึดเหนี่ยวใจให้แข็งแกร่งด้วยความรักจากพ่อแม่
3. ทำอย่างไรถึงจะรักพ่อแม่ได้อย่างซาบซึ้งจริงๆ เพราะเค้าเคยทำให้เราเสียใจมาก่อน
4. สรุปและเน้นย้ำพลังของความรักจากพ่อแม่
บ้านยังต้องมีเสาไว้เป็นที่ยึด ใจของคนเราก็จำเป็นต้องมีที่ยึดเช่นกันซึ่งก็คือ "ความรัก" ความรักคือ ทุกอย่างของชีวิต เรามีชีวิตเพราะมีความรัก ทุกสิ่งที่เราทำมีคุณค่าเพราะว่าเรารักใครบางคน เราจะมีชีวิตที่ดีที่ประสบความสำเร็จไปเพื่ออะไร เมื่อมองกลับมาแล้วมันว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่เคียงข้างเราเลย เราอาจจะเคยเห็นข่าวดาราดัง ทั้งๆที่เค้ามีชื่อเสียง เงินทอง และประสบความสำเร็จ แต่แล้วทำไมเค้าถึงเล่นยาหรือฆ่าตัวตาย
ความรักที่ จขกท. กำลังพูดถึงคือ "รักตัวเอง รักครอบครัว และรักในสิ่งที่ทำ" หลายคนอาจจะเถียงในใจว่า โอ้ย มันเรื่องเดิมๆ เรื่องเบสิค เพราะเราก็รักตัวเอง รักพ่อแม่ และรักครอบครัวอยู่แล้ว แต่ จขกท. อยากให้เราทุกคนลองกลับมาถามใจตัวเองลึกๆอีกครั้งว่าเรารักจริงหรือเปล่า ถ้ารักตัวเองจริง ทำไมเราถึงทำร้ายตัวเอง คบคนแย่ๆ ทิ้งคนที่ทำให้เราเสียใจไม่ได้ เสพสิ่งที่อันตรายต่อร่างกาย ทนทำงานหนักที่มีผลตอบแทนในแบบที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตให้สุขสบายได้ หรือแม้แต่ไม่ลุกขึ้นมาเป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
หรือบางคนอาจจะเถียงในใจว่าเราเองก็รักพ่อแม่อยู่แล้ว ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนนะ กินข้าวด้วยกันอยู่บ่อยๆด้วย แต่ลองนึกดูดีๆว่าทั้งๆที่มีเวลาว่างทำไมเราไม่อยากโทรหาพ่อแม่ คุยกันได้ไม่ถึง 5 นาที ก็รู้สึกรำคาญขัดแย้งในใจ หรืออยู่บ้านหลังเดียวกันก็แทบไม่ได้คุยกัน
"เราจะไม่มีทางมีชีวิตที่ดีที่สุดได้เลย ถ้าเราไม่รู้สึกรักและเคารพตัวเอง และการที่เราจะรู้สึกรักและเคารพตัวเองอย่างแท้จริงได้ เราจะต้องให้อภัยพ่อแม่และรักพ่อแม่ได้อย่างลึกซึ้งก่อน" หลายคนอาจจะกำลังแอบเถียงในใจอีกว่า รักตัวเองกับรักพ่อแม่มันเกี่ยวกันตรงไหน ความสำเร็จในชีวิตของเรามันเกี่ยวกับการรักพ่อแม่ตรงไหน เราทุกคนพอนึกออกไหมครับ "อะไรก็ตามที่เราโกรธหรือแอบดูหมิ่นพ่อแม่ลึกๆในใจ เราจะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาในชีวิต หรือไม่เราก็จะเป็นคนแบบนั้นไปเอง" ย้ำอีกครั้ง "อะไรก็ตามที่เราโกรธหรือแอบดูหมิ่นพ่อแม่ลึกๆในใจ เราจะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาในชีวิต หรือไม่เราก็จะเป็นคนแบบนั้นไปเอง" อย่างที่ จขกท. เคยพูดไว้ในกระทู้ก่อนหน้า "เพราะชีวิตเราทุกคนเปรียบเสมือนต้นไม้ ซึ่งโคนรากก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่เราต้องรักและดูแลให้ดีก่อน ต้องรดน้ำใส่ปุยให้ดีก่อน เราถึงจะสามารถแตกกิ่งก้านผลิดอกออกผลได้" นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมความรักของพ่อแม่ถึงเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราทุกมิติ

มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆที่ในชีวิตของเราทุกคนจะต้องเจอกับอุปสรรคและความไม่ราบรื่น และเราย่อมสามารถก้ามข้ามทุกเรื่องราวไปได้ด้วยใจที่ดี "ใจต้องดีก่อน แล้วทุกอย่างจะดี เราต้องมีความสุขก่อน ความสุขที่มากกว่าจึงจะเข้ามา" วิธีการวางใจของ จขกท. ตอนเจอเรื่องยากๆก็คือ นึกขอบคุณสิ่งดีๆที่พ่อแม่ทำให้เรา ขีดเส้นใต้ กาดอกจันทร์สามร้อยดอก "จงนึกขอบคุณสิ่งดีๆที่พ่อแม่ทำให้เรา"
เหตุการณ์แรกที่อยากจะขอแชร์ มันเกิดขึ้นตอนที่ยังเรียนอยู่ประมาณ ม.ปลาย แม่ของ จขกท. จะตื่นเช้ามืดทุกวันเพื่อมาหุงข้าวและเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ลูกชายก่อนไปโรงเรียน ทุกเช้ามืดก็จะได้ยินเสียงฝาหม้อนึ่งข้าวกระทบกับพื้น กลิ่นไขเจียวหอมๆของแม่ก็จะลอยมาถึงที่นอน และเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันตีสี่หรือตีห้าเพราะหลับตานอนขี้เซาไม่ยอมลุกซักที แต่ทุกครั้งที่ลุกขึ้นมาอาบน้ำใส่ชุดนักเรียนเสร็จ เราก็จะเห็นกระติ๊บข้าววางอยู่ข้างๆไข่เจียวของแม่อยู่เสมอ ทุกเช้าจะไม่ค่อยเห็นหน้าแม่หรอก เพราะแม่ขยันออกไปไร่ ไปรับจ้างเกี่ยวข้าว ตัดอ้อย เก็บพริกตั้งแต่เช้า
มันอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่มีวันหนึ่งแม่ของ จขกท.ป่วยหนัก ภาพที่เราเห็นก่อนนอนคือ แม่นอนจมอยู่บนเตียงนอนละ นอนไอทั้งคืน ไม่รู้นอนหลับหรือเปล่า ถ้าเป็นเราก็คงลุกไม่ขึ้นแน่ๆ แต่พอได้เวลาตีสี่ตีห้า ด้วยหัวใจของแม่ที่รักลูกยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง คนที่ป่วยหนักคนนั้นไปเอาแรงมาจากไหนไม่รู้ ยังคงลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ลูกได้ แม่ไม่เคยบ่นซักคำว่าลูกมาทำกินเองนะ แม่ป่วย แต่สิ่งที่แม่คิดอยู่ในหัวตลอดคือ กลัวลูกอด กลัวลูกหิวระหว่างเรียน และสิ่งที่เราเห็นก็คือ มีกระติ๊บข้าววางคู่กับไข่เจียวหอมๆอยู่บนโต๊ะเสมอแม้ในวันที่แม่ป่วยจนแทบลุกไม่ขึ้น พอนึกถึงภาพวันนั้นเมื่อไร จขกท. ท้อไม่ลงจริงๆ

เรื่องที่ยิ่งทำให้ จขกท. รู้สึกเป็นที่รักของแม่อีกเรื่องก็คือตอนเรียนมหาลัย ช่วงปิดเทอมเพื่อนๆรวม 10 คน ก็ได้นัดกันไปเที่ยวทะเล โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 8,000 บาท เราก็อยากไปมากเพราะเพื่อนๆในกลุ่มก็ไปกันทุกคน แต่เราไม่มีเงิน และจะไม่โทรขอพ่อแน่นอน เพราะพ่อส่งค่าเรียนค่ากินค่าอยู่ให้ทุกเดือนอยู่แล้ว เกรงใจพ่อ จขกท. เลยโทรหาแม่ บอกแม่ว่าขอตังไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนช่วงปิดเทอม 8,000 แต่จากที่ฟังๆก็รู้เลยว่าแม่ไม่มี เราก็เลยตัดสินใจไปบอกเพื่อนว่าไม่ไปเที่ยวด้วยแล้ว ไม่มีตัง เพื่อน จขกท. มีน้ำใจมาก เพื่อนบอกจะช่วยออกให้ก่อน มีเมื่อไรก็ค่อยคืน
ตอนนั้นก็กำลังตัดใจสินว่าจะไปไม่ไป ก่อนไปเที่ยวแม่ก็โทรมาบอกว่า แม่อยากให้ลูกของแม่ได้ไปเที่ยวเหมือนลูกคนอื่น ทั้งชีวิตแม่มีอยู่ 2,000 เดี๋ยวแม่จะโอนไปให้ พอได้ยินแบบนี้แล้ว มันสุดๆจริงๆ จขกท. ไม่รู้หรอกว่าแม่แบกหน้าไปยืมชาวบ้านที่ไหนมาให้ลูก แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้เลยก็คือความรักของแม่ แม่ทนไม่ได้ที่เห็นลูกๆของคนอื่นได้ไปเที่ยวแต่ลูกตัวเองต้องนั่งเหงาอยู่ที่ห้อง สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ คำว่าศักดิ์ศรีไม่มีหรอก อะไรที่ทำให้ลูกได้ เค้ายอมทุกอย่าง "คนเราหากรู้ว่าตัวเองเป็นที่รัก เค้าจะดำเนินชีวิตอย่างเป็นที่รัก และเมื่อไรที่เค้าล้ม เค้าจะลุกขึ้นได้เร็วมาก เพราะเค้ารู้ว่าชีวิตของเค้ามีคุณค่าต่อใครบางคน"

เรื่องสุดท้ายของวันนี้ที่อยากจะขอแชร์ ตอนเป็นเด็กสมัยที่ไปเล่นน้ำคลอง ไปเล่นกองฟางในทุ่งนา จขกท. จะชอบไปปีนต้นตะขบมากๆ กินตะขบอยู่ทั้งวัน ทุกคนรู้ใช่ไหมว่า "ตะขบ" คืออะไร? 55 หลายครั้งก่อนที่เราจะไปโรงเรียนและก่อนที่พ่อกับแม่จะไปไร่ จขกท. จะชอบบอกให้เค้าเก็บตะขบมาให้ด้วย และพอกลับมาจากโรงเรียนก็จะมีตะขบหวานๆให้กินอยู่เสมอ พอโตขึ้นล่าสุดตอนหลังจากเรีนจบมหาลัย จขกท. ก็มีโอกาสได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด อย่างที่เคยเล่าไปก่อนหน้านี้คือ แม่ของ จขกท. ไม่ค่อยแข็งแรง กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง จะเดินจะหยิบจับอะไรก็สั่นๆไปหมด แต่ช่วงเย็นๆของวันหนึ่ง ระหว่างที่เรากำลังนั่นเล่นอยู่หน้าบ้าน แม่ก็ยื่นกล่องพลาสติกใสมาให้พร้อมกับตะขบเยอะมาก ในใจคิด โห แม่ยังจำได้ว่าลูกชายชอบตะขบ นี่ขนาดผ่านมาเป็นสิบๆปีแล้ว แม่ยังจำได้ไม่เคยลืม มันซาบซึ้งใจมากๆ ขนาดแม่เดินยังกะตุกกะตตัก หยิบจับอะไรก็มือสั่น แต่แม่ไปเอาแรงมาจากไหนไปยืดตัวตตะกุยตตะตายเก็บตตะขบมาให้ลูกชาย วันนั้นหยิบกินตะขบพร้อมกับน้ำตาคลอ พ่อแม่จำได้เสมอว่าเราชอบกินอะไร แล้ววันนี้เรารู้หรือเปล่าว่าพ่อแม่ตัวเองชอบกินอะไร

จขกท. ขอเอาใจช่วยให้เราทุกคนหมั่นนึกถึงเรื่องราวดีๆที่พ่อแม่ทำให้กับเรา แม้อาจจะมีหลายครั้งที่พ่อแม่เคยทำให้เราเสียใจ เคยทิ้งเราไว้กับปู่ย่าตายายแล้วหนีไปทำงานไกลๆโดยไม่บอก หรืออาจจะเคยบังคับให้เราทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่หน้าที่ของเราคือกลับไปมองภาพเหตตุการณ์ในวันนั้นใหม่ มองให้ทะลุว่าแท้จริงแล้วที่เค้าทำไปมันคือความรัก พ่อแม่ที่ทิ้งเราไปแล้วหนีไปทำงานไกลๆโดยไม่บอกเรา นั่นเป็นเพราะว่าเค้าไม่อยากให้เราเสียใจ เลยต้องแอบไป เค้าอยากให้เรามีชีวิตมีการศึกษาที่ดี เค้าเลยต้องตัดใจเอาเราฝากไว้กับปู่ย่าตายายเพื่อไปหาเงินมาให้เรา เค้าบังคับให้เราเรียนนั่นนี่ นั่นก็เพราะว่าเค้าคงทนไม่ได้ถ้าวันหนึ่งเค้าจากโลกนี้ไปแล้วลูกยังต้องอดเมื้อกินมื้อเพราะไม่มีความรู้ไปทำงานสร้างเงินสร้างชีวิต

จขกท. ก็เคยโกรธพ่อกับแม่เหมือนกัน แต่วันนี้เราทุกคนมีโอกาสเสมอที่จะกลับเข้าไปทำความเข้าใจใหม่ มองทะลุให้เห็นถึงความรักที่ซ่อนอยู่ในทุกๆการกระทำของเค้า ให้มันซาบซึ้งในใจของเราจนน้ำตาไหล แล้วชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ทุกมิติ บางครั้งเราอาจจะเคยดูถูกพ่อแม่ว่าเค้าเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ สีซีดๆ และดูไม่ดี แต่จงจำให้ได้ว่าตอนเปิดเทอม เราได้ชุดนักเรียนใหม่ กระเป๋าใบใหม่ และรองเท้าคู่ใหม่อยู่เสมอๆ พ่อแม่ยอมใส่อะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ เพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีที่สุด มองให้เห็นถึงความรัก แล้วทำชีวิตให้ดีงามยอดเยี่ยม เพราะเราทุกคนเป็นที่รัก

ก่อนจะลากันไปวันนี้ จขกท. ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาเสมอ "เราจะใช้ชีวิตไปกับการโกรธคนที่แย่กับเราก็ได้ หรือเราจะทำให้ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งชีวิตเราไปในจุดที่ดีที่สุดก็ได้ และเรามีแค่หน้าที่เดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ เลือก เพราะชีวิตที่ดีงามมาจากการเลือกของเรา" ขอให้ทุกคนผ่านทุกอุปสรรคไปได้โดยเอาความรักเป็นที่ยึดของใจ และมีชีวิตที่ดียอดเยี่ยมให้สมกับการเป็นที่รัก
รักและเชียร์อยู่เสมอ
Youtube:
https://goo.gl/N97yPR
Facebook:
https://www.facebook.com/manatpii/
IG:
https://www.instagram.com/tehmanatpii/
ถ้าปัญหามันใหญ่ เราต้องขยายใจให้ใหญ่กว่าปัญหา
สิ่งที่ จขกท. จะขอเอามาแบ่งปันเราทุกคนในวันนี้ คือ
1. ความรักคือทุกอย่างของชีวิต
2. ยึดเหนี่ยวใจให้แข็งแกร่งด้วยความรักจากพ่อแม่
3. ทำอย่างไรถึงจะรักพ่อแม่ได้อย่างซาบซึ้งจริงๆ เพราะเค้าเคยทำให้เราเสียใจมาก่อน
4. สรุปและเน้นย้ำพลังของความรักจากพ่อแม่
บ้านยังต้องมีเสาไว้เป็นที่ยึด ใจของคนเราก็จำเป็นต้องมีที่ยึดเช่นกันซึ่งก็คือ "ความรัก" ความรักคือ ทุกอย่างของชีวิต เรามีชีวิตเพราะมีความรัก ทุกสิ่งที่เราทำมีคุณค่าเพราะว่าเรารักใครบางคน เราจะมีชีวิตที่ดีที่ประสบความสำเร็จไปเพื่ออะไร เมื่อมองกลับมาแล้วมันว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่เคียงข้างเราเลย เราอาจจะเคยเห็นข่าวดาราดัง ทั้งๆที่เค้ามีชื่อเสียง เงินทอง และประสบความสำเร็จ แต่แล้วทำไมเค้าถึงเล่นยาหรือฆ่าตัวตาย
ความรักที่ จขกท. กำลังพูดถึงคือ "รักตัวเอง รักครอบครัว และรักในสิ่งที่ทำ" หลายคนอาจจะเถียงในใจว่า โอ้ย มันเรื่องเดิมๆ เรื่องเบสิค เพราะเราก็รักตัวเอง รักพ่อแม่ และรักครอบครัวอยู่แล้ว แต่ จขกท. อยากให้เราทุกคนลองกลับมาถามใจตัวเองลึกๆอีกครั้งว่าเรารักจริงหรือเปล่า ถ้ารักตัวเองจริง ทำไมเราถึงทำร้ายตัวเอง คบคนแย่ๆ ทิ้งคนที่ทำให้เราเสียใจไม่ได้ เสพสิ่งที่อันตรายต่อร่างกาย ทนทำงานหนักที่มีผลตอบแทนในแบบที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตให้สุขสบายได้ หรือแม้แต่ไม่ลุกขึ้นมาเป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
หรือบางคนอาจจะเถียงในใจว่าเราเองก็รักพ่อแม่อยู่แล้ว ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนนะ กินข้าวด้วยกันอยู่บ่อยๆด้วย แต่ลองนึกดูดีๆว่าทั้งๆที่มีเวลาว่างทำไมเราไม่อยากโทรหาพ่อแม่ คุยกันได้ไม่ถึง 5 นาที ก็รู้สึกรำคาญขัดแย้งในใจ หรืออยู่บ้านหลังเดียวกันก็แทบไม่ได้คุยกัน
"เราจะไม่มีทางมีชีวิตที่ดีที่สุดได้เลย ถ้าเราไม่รู้สึกรักและเคารพตัวเอง และการที่เราจะรู้สึกรักและเคารพตัวเองอย่างแท้จริงได้ เราจะต้องให้อภัยพ่อแม่และรักพ่อแม่ได้อย่างลึกซึ้งก่อน" หลายคนอาจจะกำลังแอบเถียงในใจอีกว่า รักตัวเองกับรักพ่อแม่มันเกี่ยวกันตรงไหน ความสำเร็จในชีวิตของเรามันเกี่ยวกับการรักพ่อแม่ตรงไหน เราทุกคนพอนึกออกไหมครับ "อะไรก็ตามที่เราโกรธหรือแอบดูหมิ่นพ่อแม่ลึกๆในใจ เราจะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาในชีวิต หรือไม่เราก็จะเป็นคนแบบนั้นไปเอง" ย้ำอีกครั้ง "อะไรก็ตามที่เราโกรธหรือแอบดูหมิ่นพ่อแม่ลึกๆในใจ เราจะดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาในชีวิต หรือไม่เราก็จะเป็นคนแบบนั้นไปเอง" อย่างที่ จขกท. เคยพูดไว้ในกระทู้ก่อนหน้า "เพราะชีวิตเราทุกคนเปรียบเสมือนต้นไม้ ซึ่งโคนรากก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่เราต้องรักและดูแลให้ดีก่อน ต้องรดน้ำใส่ปุยให้ดีก่อน เราถึงจะสามารถแตกกิ่งก้านผลิดอกออกผลได้" นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมความรักของพ่อแม่ถึงเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราทุกมิติ
มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆที่ในชีวิตของเราทุกคนจะต้องเจอกับอุปสรรคและความไม่ราบรื่น และเราย่อมสามารถก้ามข้ามทุกเรื่องราวไปได้ด้วยใจที่ดี "ใจต้องดีก่อน แล้วทุกอย่างจะดี เราต้องมีความสุขก่อน ความสุขที่มากกว่าจึงจะเข้ามา" วิธีการวางใจของ จขกท. ตอนเจอเรื่องยากๆก็คือ นึกขอบคุณสิ่งดีๆที่พ่อแม่ทำให้เรา ขีดเส้นใต้ กาดอกจันทร์สามร้อยดอก "จงนึกขอบคุณสิ่งดีๆที่พ่อแม่ทำให้เรา"
เหตุการณ์แรกที่อยากจะขอแชร์ มันเกิดขึ้นตอนที่ยังเรียนอยู่ประมาณ ม.ปลาย แม่ของ จขกท. จะตื่นเช้ามืดทุกวันเพื่อมาหุงข้าวและเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ลูกชายก่อนไปโรงเรียน ทุกเช้ามืดก็จะได้ยินเสียงฝาหม้อนึ่งข้าวกระทบกับพื้น กลิ่นไขเจียวหอมๆของแม่ก็จะลอยมาถึงที่นอน และเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันตีสี่หรือตีห้าเพราะหลับตานอนขี้เซาไม่ยอมลุกซักที แต่ทุกครั้งที่ลุกขึ้นมาอาบน้ำใส่ชุดนักเรียนเสร็จ เราก็จะเห็นกระติ๊บข้าววางอยู่ข้างๆไข่เจียวของแม่อยู่เสมอ ทุกเช้าจะไม่ค่อยเห็นหน้าแม่หรอก เพราะแม่ขยันออกไปไร่ ไปรับจ้างเกี่ยวข้าว ตัดอ้อย เก็บพริกตั้งแต่เช้า
มันอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่มีวันหนึ่งแม่ของ จขกท.ป่วยหนัก ภาพที่เราเห็นก่อนนอนคือ แม่นอนจมอยู่บนเตียงนอนละ นอนไอทั้งคืน ไม่รู้นอนหลับหรือเปล่า ถ้าเป็นเราก็คงลุกไม่ขึ้นแน่ๆ แต่พอได้เวลาตีสี่ตีห้า ด้วยหัวใจของแม่ที่รักลูกยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง คนที่ป่วยหนักคนนั้นไปเอาแรงมาจากไหนไม่รู้ ยังคงลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ลูกได้ แม่ไม่เคยบ่นซักคำว่าลูกมาทำกินเองนะ แม่ป่วย แต่สิ่งที่แม่คิดอยู่ในหัวตลอดคือ กลัวลูกอด กลัวลูกหิวระหว่างเรียน และสิ่งที่เราเห็นก็คือ มีกระติ๊บข้าววางคู่กับไข่เจียวหอมๆอยู่บนโต๊ะเสมอแม้ในวันที่แม่ป่วยจนแทบลุกไม่ขึ้น พอนึกถึงภาพวันนั้นเมื่อไร จขกท. ท้อไม่ลงจริงๆ
เรื่องที่ยิ่งทำให้ จขกท. รู้สึกเป็นที่รักของแม่อีกเรื่องก็คือตอนเรียนมหาลัย ช่วงปิดเทอมเพื่อนๆรวม 10 คน ก็ได้นัดกันไปเที่ยวทะเล โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 8,000 บาท เราก็อยากไปมากเพราะเพื่อนๆในกลุ่มก็ไปกันทุกคน แต่เราไม่มีเงิน และจะไม่โทรขอพ่อแน่นอน เพราะพ่อส่งค่าเรียนค่ากินค่าอยู่ให้ทุกเดือนอยู่แล้ว เกรงใจพ่อ จขกท. เลยโทรหาแม่ บอกแม่ว่าขอตังไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนช่วงปิดเทอม 8,000 แต่จากที่ฟังๆก็รู้เลยว่าแม่ไม่มี เราก็เลยตัดสินใจไปบอกเพื่อนว่าไม่ไปเที่ยวด้วยแล้ว ไม่มีตัง เพื่อน จขกท. มีน้ำใจมาก เพื่อนบอกจะช่วยออกให้ก่อน มีเมื่อไรก็ค่อยคืน
ตอนนั้นก็กำลังตัดใจสินว่าจะไปไม่ไป ก่อนไปเที่ยวแม่ก็โทรมาบอกว่า แม่อยากให้ลูกของแม่ได้ไปเที่ยวเหมือนลูกคนอื่น ทั้งชีวิตแม่มีอยู่ 2,000 เดี๋ยวแม่จะโอนไปให้ พอได้ยินแบบนี้แล้ว มันสุดๆจริงๆ จขกท. ไม่รู้หรอกว่าแม่แบกหน้าไปยืมชาวบ้านที่ไหนมาให้ลูก แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้เลยก็คือความรักของแม่ แม่ทนไม่ได้ที่เห็นลูกๆของคนอื่นได้ไปเที่ยวแต่ลูกตัวเองต้องนั่งเหงาอยู่ที่ห้อง สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ คำว่าศักดิ์ศรีไม่มีหรอก อะไรที่ทำให้ลูกได้ เค้ายอมทุกอย่าง "คนเราหากรู้ว่าตัวเองเป็นที่รัก เค้าจะดำเนินชีวิตอย่างเป็นที่รัก และเมื่อไรที่เค้าล้ม เค้าจะลุกขึ้นได้เร็วมาก เพราะเค้ารู้ว่าชีวิตของเค้ามีคุณค่าต่อใครบางคน"
เรื่องสุดท้ายของวันนี้ที่อยากจะขอแชร์ ตอนเป็นเด็กสมัยที่ไปเล่นน้ำคลอง ไปเล่นกองฟางในทุ่งนา จขกท. จะชอบไปปีนต้นตะขบมากๆ กินตะขบอยู่ทั้งวัน ทุกคนรู้ใช่ไหมว่า "ตะขบ" คืออะไร? 55 หลายครั้งก่อนที่เราจะไปโรงเรียนและก่อนที่พ่อกับแม่จะไปไร่ จขกท. จะชอบบอกให้เค้าเก็บตะขบมาให้ด้วย และพอกลับมาจากโรงเรียนก็จะมีตะขบหวานๆให้กินอยู่เสมอ พอโตขึ้นล่าสุดตอนหลังจากเรีนจบมหาลัย จขกท. ก็มีโอกาสได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด อย่างที่เคยเล่าไปก่อนหน้านี้คือ แม่ของ จขกท. ไม่ค่อยแข็งแรง กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง จะเดินจะหยิบจับอะไรก็สั่นๆไปหมด แต่ช่วงเย็นๆของวันหนึ่ง ระหว่างที่เรากำลังนั่นเล่นอยู่หน้าบ้าน แม่ก็ยื่นกล่องพลาสติกใสมาให้พร้อมกับตะขบเยอะมาก ในใจคิด โห แม่ยังจำได้ว่าลูกชายชอบตะขบ นี่ขนาดผ่านมาเป็นสิบๆปีแล้ว แม่ยังจำได้ไม่เคยลืม มันซาบซึ้งใจมากๆ ขนาดแม่เดินยังกะตุกกะตตัก หยิบจับอะไรก็มือสั่น แต่แม่ไปเอาแรงมาจากไหนไปยืดตัวตตะกุยตตะตายเก็บตตะขบมาให้ลูกชาย วันนั้นหยิบกินตะขบพร้อมกับน้ำตาคลอ พ่อแม่จำได้เสมอว่าเราชอบกินอะไร แล้ววันนี้เรารู้หรือเปล่าว่าพ่อแม่ตัวเองชอบกินอะไร
จขกท. ขอเอาใจช่วยให้เราทุกคนหมั่นนึกถึงเรื่องราวดีๆที่พ่อแม่ทำให้กับเรา แม้อาจจะมีหลายครั้งที่พ่อแม่เคยทำให้เราเสียใจ เคยทิ้งเราไว้กับปู่ย่าตายายแล้วหนีไปทำงานไกลๆโดยไม่บอก หรืออาจจะเคยบังคับให้เราทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่หน้าที่ของเราคือกลับไปมองภาพเหตตุการณ์ในวันนั้นใหม่ มองให้ทะลุว่าแท้จริงแล้วที่เค้าทำไปมันคือความรัก พ่อแม่ที่ทิ้งเราไปแล้วหนีไปทำงานไกลๆโดยไม่บอกเรา นั่นเป็นเพราะว่าเค้าไม่อยากให้เราเสียใจ เลยต้องแอบไป เค้าอยากให้เรามีชีวิตมีการศึกษาที่ดี เค้าเลยต้องตัดใจเอาเราฝากไว้กับปู่ย่าตายายเพื่อไปหาเงินมาให้เรา เค้าบังคับให้เราเรียนนั่นนี่ นั่นก็เพราะว่าเค้าคงทนไม่ได้ถ้าวันหนึ่งเค้าจากโลกนี้ไปแล้วลูกยังต้องอดเมื้อกินมื้อเพราะไม่มีความรู้ไปทำงานสร้างเงินสร้างชีวิต
จขกท. ก็เคยโกรธพ่อกับแม่เหมือนกัน แต่วันนี้เราทุกคนมีโอกาสเสมอที่จะกลับเข้าไปทำความเข้าใจใหม่ มองทะลุให้เห็นถึงความรักที่ซ่อนอยู่ในทุกๆการกระทำของเค้า ให้มันซาบซึ้งในใจของเราจนน้ำตาไหล แล้วชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ทุกมิติ บางครั้งเราอาจจะเคยดูถูกพ่อแม่ว่าเค้าเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ สีซีดๆ และดูไม่ดี แต่จงจำให้ได้ว่าตอนเปิดเทอม เราได้ชุดนักเรียนใหม่ กระเป๋าใบใหม่ และรองเท้าคู่ใหม่อยู่เสมอๆ พ่อแม่ยอมใส่อะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ เพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีที่สุด มองให้เห็นถึงความรัก แล้วทำชีวิตให้ดีงามยอดเยี่ยม เพราะเราทุกคนเป็นที่รัก
ก่อนจะลากันไปวันนี้ จขกท. ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาเสมอ "เราจะใช้ชีวิตไปกับการโกรธคนที่แย่กับเราก็ได้ หรือเราจะทำให้ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งชีวิตเราไปในจุดที่ดีที่สุดก็ได้ และเรามีแค่หน้าที่เดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ เลือก เพราะชีวิตที่ดีงามมาจากการเลือกของเรา" ขอให้ทุกคนผ่านทุกอุปสรรคไปได้โดยเอาความรักเป็นที่ยึดของใจ และมีชีวิตที่ดียอดเยี่ยมให้สมกับการเป็นที่รัก
รักและเชียร์อยู่เสมอ
Youtube: https://goo.gl/N97yPR
Facebook: https://www.facebook.com/manatpii/
IG: https://www.instagram.com/tehmanatpii/