สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวครั้งที่สองของเรา เนื่องจากอยู่ๆช่วงนี้ลมหนาวก็พัดมาอีกแล้ว หลังจากปีที่แล้วมาแบบผลุบๆโผล่ๆ ราวกับขอเช่ามาจากจีนแบบไม่เต็มสัญญาเช่า แต่ในเมื่อนางมาแล้ว มนุษย์ขี้เบื่ออย่างเราจึงต้องต้อนรับนางด้วยการหาที่เที่ยวค่ะ พอดีเพื่อนเราเค้าอยากมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดพอดี จึงมาลงตัวที่ จ.น่านค่ะ
เราเดินทางจากเชียงใหม่ตอนบ่ายๆ ผ่านลำปาง ผ่านแยกเด่นชัย เข้าแพร่ และมาถึงน่านช่วงค่ำๆพอดี
เนื่องจากมั่นใจในความสวย (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไร) เรากับเพื่อนเลยไม่ได้จองโรงแรมไว้ค่ะ ช่วงคืนวันศุกร์ - เสาร์ มีถนนคนเดินพอดี เราเลยมุ่งตรงมาที่นี่ก่อนค่ะ แต่พอดีเห็นป้าย โรงแรมชื่อ คุ้มเวียงมินทร์ ขับตามป้ายมา เห็นว่าสวยดี และมีห้องว่างเหลือ1ห้องพอดี (โชคดีจริงๆ) เลยเข้าพักที่นี่ค่ะ ความสวยช่วยได้จริง สาธุ99 555
เราถ่ายมาไม่ชัด แต่จริงๆ อาคารดูทรงโบราณ และสีฟ้าพาสเทลสวยมากค่ะ
อันนี้คือห้องนอนของเรา ใครมากับแฟนระวังนิดนึงนะคะ อิอิ ห้องมันไม่น่าจะเก็บเสียงนักค่ะ เรากับเพื่อนก็ไม่กล้าเม้ามอยเสียงดังค่ะ เกรงใจข้างห้อง
ราคาคืนนี้ทางโรงแรมลดให้เหลือ 1,200 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ แต่คงเพราะมันค่ำแล้ว ทีมงานใจดีและน่ารักลดให้และบริการดีค่ะ ใกล้วัดภูมินทร์และถนนคนเดินแบบเดินไปนิดเดียวก็ถึง แนะนำเลยค่ะ
เราเก็บของเสร็จแล้วก็หิวค่ะ ถนนคนเดินรออยู่ ไปกันดีกว่า
ถนนคนเดินเมืองน่านนั้นอยู่บริเวณวัดภูมินทร์ค่ะ มีตลาดให้เดินเลือกซื้อ และในบริเวณวัดภูมินทร์มีลานขันโตก คือเป็นลานกว้าง ปูเสื่อ และมีขันโตกวางไว้บริการประชาชน พอเราซื้อของเสร็จ ก็มานั่งทานที่ขันโตกค่ะ นอกจากนั้นยังมีเวที เล่นเพลงพื้นเมืองให้ฟัง เข้ากับบรรยากาศสุดๆ
บรรยากาศที่ลานขันโตกจขกท ถ่ายภาพมานะคะ แต่ติดหน้าจขกทเยอะเลย คงไม่น่าดูเท่าไหร่
เลยไม่ได้ลงไว้ค่ะ ขออภัย
ถนนคนเดินมีขายทั้งเสื้อผ้าและอาหารค่ะ ค่อนข้างคึกคัก อาหารพื้นเมืองก็มีให้เลือกทานค่ะ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่หิวค่ะ
น้ำหวานกระบอกไม้ไผ่
เผลอซื้อตอนหิว สภาพคือเต็มขันโตก อย่างที่เห็นค่ะ หารสองก็คนละเกือบพันกิโลแคล -.-'
ชอบมากค่ะ ลานขันโตก ทานอาหารไป ฟังเพลงไป อากาศก็หนาวววว ฟินเลยค่ะ อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่เห็นใครมาแบบจูงมือกับแฟนอะค่ะ 55
ชอบอีกอย่างคือ ที่นี่แยกขยะอย่างจริงจัง รักษาสิ่งแวดล้อมมาก
ทานเสร็จก็เดินกลับโรงแรมค่ะ เพื่อนเราเหนื่อยแล้วค่ะ แต่เรายัง
พอดีทางโรงแรมมีจักรยานให้ยืมใช้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องขอเลยค่ะ เสร็จเราล่ะ
ฉายเดี่ยวปั่นชมเมือง รับลมเย็นๆกันค่ะ
ถามว่ากลัวมั้ย แถวนี้ไม่น่ากลัวค่ะ ผู้คนคึกคัก แต่พอเริ่มเลี้ยวจากโรงแรมมาโซนนี้
เจอรั้วที่มีลวดหนามค่ะ ตอนหยุดปั่นเพื่อถ่ายรูป มันเงียบสงัดหนาววาบๆ ใจนี่เต้นตึกๆ
เราเลยฝ่อนิดๆค่ะ อันตรายอะไม่กลัว กลัวเจอสิ่งลี้ลับ 5555
รั้วนี้ที่จริงแล้วก็คือเรือนจำค่ะ
ตอนถ่ายมือไม้สั่นนิดๆ
ขับอ้อมจากซอย เลี้ยวไปอีกทางจะเจอกับศาลหลักเมืองค่ะ เมืองนี้น่ารักนะคะ วัดวาเปิดให้ไหว้ตอนกลางคืนด้วย เราว่าดีนะ รู้สึกสงบกว่าตอนกลางวัน
แล้วก็วนกลับมาแถวๆวัดภูมินทร์อีกที ตรงข้ามจะมีวัดช้างค้ำ สวยดีค่ะ
สำหรับตอนกลางวัน เราก็ไปไหว้พระ และถ่ายรูปเล่นใกล้ๆที่พักโดยขี่จักรยานเหมือนเดิมค่ะ
เริ่มจากวัดภูมินทร์ วัดเก่าแก่เทียบสมัยของไทยก็อยุธยานู่น มีความสำคัญทางมรดกทางศิลปะ จิตรกรรมฝาผนังอันลือเลื่องค่ะ
ปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรักเมืองน่าน
เราชอบภาพนี้ค่ะ เหมือนผู้หญิงคนนี้บอกเราว่า "สู้ๆ" สู้ต่อไปค่ะ 555
เราไปไหว้พระที่วัดช้างค้ำอีก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปดีๆ เสียดาย
ใกล้ๆกันมีพิพิธภัณฑสถาน จ.น่านค่ะ เดิมเป็นหอคำหลวงของผู้ครองนครน่าน
ภายในบริเวณก็มีแลนด์มาร์คยอดฮิต คือซุ้มลีลาวดี ต้องมาถ่ายกันทุกคน
ต่อมาเราไปอีกสองวัดซึ่งไกลประมาณสี่ห้ากิโลค่ะ เลยคืนจักรยาน เช็คเอาต์แล้วขับรถไป ได้แก่
วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวงค่ะ พระธาตุประจำปีกระต่าย
วัดพระธาตุเขาน้อยค่ะ สวยงามมองเห็นวิวเมืองน่านรอบทิศ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ อยากบอกลมหนาวว่า อยู่ด้วยกันก่อนอย่าเพิ่งรีบไปไหนค่ะ
[CR] ส่งท้ายลมหนาว ณ น่านนครา >_<
สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวครั้งที่สองของเรา เนื่องจากอยู่ๆช่วงนี้ลมหนาวก็พัดมาอีกแล้ว หลังจากปีที่แล้วมาแบบผลุบๆโผล่ๆ ราวกับขอเช่ามาจากจีนแบบไม่เต็มสัญญาเช่า แต่ในเมื่อนางมาแล้ว มนุษย์ขี้เบื่ออย่างเราจึงต้องต้อนรับนางด้วยการหาที่เที่ยวค่ะ พอดีเพื่อนเราเค้าอยากมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดพอดี จึงมาลงตัวที่ จ.น่านค่ะ
เราเดินทางจากเชียงใหม่ตอนบ่ายๆ ผ่านลำปาง ผ่านแยกเด่นชัย เข้าแพร่ และมาถึงน่านช่วงค่ำๆพอดี
เนื่องจากมั่นใจในความสวย (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไร) เรากับเพื่อนเลยไม่ได้จองโรงแรมไว้ค่ะ ช่วงคืนวันศุกร์ - เสาร์ มีถนนคนเดินพอดี เราเลยมุ่งตรงมาที่นี่ก่อนค่ะ แต่พอดีเห็นป้าย โรงแรมชื่อ คุ้มเวียงมินทร์ ขับตามป้ายมา เห็นว่าสวยดี และมีห้องว่างเหลือ1ห้องพอดี (โชคดีจริงๆ) เลยเข้าพักที่นี่ค่ะ ความสวยช่วยได้จริง สาธุ99 555
เราถ่ายมาไม่ชัด แต่จริงๆ อาคารดูทรงโบราณ และสีฟ้าพาสเทลสวยมากค่ะ
อันนี้คือห้องนอนของเรา ใครมากับแฟนระวังนิดนึงนะคะ อิอิ ห้องมันไม่น่าจะเก็บเสียงนักค่ะ เรากับเพื่อนก็ไม่กล้าเม้ามอยเสียงดังค่ะ เกรงใจข้างห้อง
ราคาคืนนี้ทางโรงแรมลดให้เหลือ 1,200 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ แต่คงเพราะมันค่ำแล้ว ทีมงานใจดีและน่ารักลดให้และบริการดีค่ะ ใกล้วัดภูมินทร์และถนนคนเดินแบบเดินไปนิดเดียวก็ถึง แนะนำเลยค่ะ
เราเก็บของเสร็จแล้วก็หิวค่ะ ถนนคนเดินรออยู่ ไปกันดีกว่า
ถนนคนเดินเมืองน่านนั้นอยู่บริเวณวัดภูมินทร์ค่ะ มีตลาดให้เดินเลือกซื้อ และในบริเวณวัดภูมินทร์มีลานขันโตก คือเป็นลานกว้าง ปูเสื่อ และมีขันโตกวางไว้บริการประชาชน พอเราซื้อของเสร็จ ก็มานั่งทานที่ขันโตกค่ะ นอกจากนั้นยังมีเวที เล่นเพลงพื้นเมืองให้ฟัง เข้ากับบรรยากาศสุดๆ
บรรยากาศที่ลานขันโตกจขกท ถ่ายภาพมานะคะ แต่ติดหน้าจขกทเยอะเลย คงไม่น่าดูเท่าไหร่
ถนนคนเดินมีขายทั้งเสื้อผ้าและอาหารค่ะ ค่อนข้างคึกคัก อาหารพื้นเมืองก็มีให้เลือกทานค่ะ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะมัวแต่หิวค่ะ
น้ำหวานกระบอกไม้ไผ่
เผลอซื้อตอนหิว สภาพคือเต็มขันโตก อย่างที่เห็นค่ะ หารสองก็คนละเกือบพันกิโลแคล -.-'
ชอบมากค่ะ ลานขันโตก ทานอาหารไป ฟังเพลงไป อากาศก็หนาวววว ฟินเลยค่ะ อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่เห็นใครมาแบบจูงมือกับแฟนอะค่ะ 55
ชอบอีกอย่างคือ ที่นี่แยกขยะอย่างจริงจัง รักษาสิ่งแวดล้อมมาก
ทานเสร็จก็เดินกลับโรงแรมค่ะ เพื่อนเราเหนื่อยแล้วค่ะ แต่เรายัง
พอดีทางโรงแรมมีจักรยานให้ยืมใช้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องขอเลยค่ะ เสร็จเราล่ะ
ฉายเดี่ยวปั่นชมเมือง รับลมเย็นๆกันค่ะ
ถามว่ากลัวมั้ย แถวนี้ไม่น่ากลัวค่ะ ผู้คนคึกคัก แต่พอเริ่มเลี้ยวจากโรงแรมมาโซนนี้
เจอรั้วที่มีลวดหนามค่ะ ตอนหยุดปั่นเพื่อถ่ายรูป มันเงียบสงัดหนาววาบๆ ใจนี่เต้นตึกๆ
เราเลยฝ่อนิดๆค่ะ อันตรายอะไม่กลัว กลัวเจอสิ่งลี้ลับ 5555
รั้วนี้ที่จริงแล้วก็คือเรือนจำค่ะ
ตอนถ่ายมือไม้สั่นนิดๆ
ขับอ้อมจากซอย เลี้ยวไปอีกทางจะเจอกับศาลหลักเมืองค่ะ เมืองนี้น่ารักนะคะ วัดวาเปิดให้ไหว้ตอนกลางคืนด้วย เราว่าดีนะ รู้สึกสงบกว่าตอนกลางวัน
แล้วก็วนกลับมาแถวๆวัดภูมินทร์อีกที ตรงข้ามจะมีวัดช้างค้ำ สวยดีค่ะ
สำหรับตอนกลางวัน เราก็ไปไหว้พระ และถ่ายรูปเล่นใกล้ๆที่พักโดยขี่จักรยานเหมือนเดิมค่ะ
เริ่มจากวัดภูมินทร์ วัดเก่าแก่เทียบสมัยของไทยก็อยุธยานู่น มีความสำคัญทางมรดกทางศิลปะ จิตรกรรมฝาผนังอันลือเลื่องค่ะ
ปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรักเมืองน่าน
เราชอบภาพนี้ค่ะ เหมือนผู้หญิงคนนี้บอกเราว่า "สู้ๆ" สู้ต่อไปค่ะ 555
เราไปไหว้พระที่วัดช้างค้ำอีก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปดีๆ เสียดาย
ใกล้ๆกันมีพิพิธภัณฑสถาน จ.น่านค่ะ เดิมเป็นหอคำหลวงของผู้ครองนครน่าน
ภายในบริเวณก็มีแลนด์มาร์คยอดฮิต คือซุ้มลีลาวดี ต้องมาถ่ายกันทุกคน
ต่อมาเราไปอีกสองวัดซึ่งไกลประมาณสี่ห้ากิโลค่ะ เลยคืนจักรยาน เช็คเอาต์แล้วขับรถไป ได้แก่
วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวงค่ะ พระธาตุประจำปีกระต่าย
วัดพระธาตุเขาน้อยค่ะ สวยงามมองเห็นวิวเมืองน่านรอบทิศ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ อยากบอกลมหนาวว่า อยู่ด้วยกันก่อนอย่าเพิ่งรีบไปไหนค่ะ