ครู่หนึ่งถึงชะวากชากลูกหญ้า
ล้วนพฤกษายางยูงสูงไสว
แต่ล้วนทากตะเละลำรำพูไพร
ไต่ใบไม้ยูงยางมากลางแปลง
กระโดดเผาะเกาะผับกระหยับคืบ
ถีบกระทืบมิใคร่หลุดสุดแสยง
ปลดที่ตีนติดขาระอาแรง
ทั้งขาแข้งเลือดโซมชะโลมไป
ออกเดินถี่หนีทากถึงชากขาม
เป็นสนามน้ำท่าได้อาศัย
เห็นรอยคนแรมค้างอยู่กลางไพร
ขึ้นต้นไม้หักรังไว้เรียงราย
เห็นลิงค่างบ่างชะนีวะหวีดโหวย
กระหึมโหยห้อยไม้น่าใจหาย
เสียงผัวผัวตัวเมียเที่ยวโยนกาย
เห็นคนอายแอบอิงกับกิ่งยาง
โอ้ชะนีเวทนาเที่ยวหาผัว
เหมือนตัวพี่จากน้องให้หมองหมาง
ชะนีเพรียกเรียกชายอยู่ปลายยาง
พี่เรียกนางนุชน้องอยู่ในใจ
เห็นป่าสูงฝูงนกในดงดึก
หวนระลึกถึงสุดาน้ำตาไหล
จักจั่นร้องพร้องเพราะเสนาะไพร
ทั้งเสียงไก่เถื่อนขันสนั่นเนิน
พฤกษาเบียดเสียดสีดังปี่แก้ว
วิเวกแว่วหว่างลำเนาภูเขาเขิน
สดับฟังวังเวงเป็นเพลงเพลิน
ต้องรีบเดินโดยด่วนด้วยจวนเย็น
ถึงห้วยโป่งเห็นธารละหานไหล
คงคาใสปลาว่ายคล้ายคล้ายเห็น
มีกรวดแก้วแพรวพรายรายกระเด็น
บ้างแลเห็นเป็นสีบุษราคัม
ขืนอารมณ์ชมเชยเลยลีลาศ
พระพายพาดพัดเรื่อยมาเฉื่อยฉ่ำ
ทั้งสองข้างมรคาป่าระกำ
สล้างลำแลสลับอยู่กับกอ
หอมบุปผาสาโรชมารื่นรื่น
ต่างหยุดยืนใจหายเสียดายหนอ
แม้นอยู่เคียงเวียงชัยเห็นไม่พอ
จะตัดต่อเรือแล่นเล่นตามกัน
ทลายลูกสุกแลดูแออัด
เอาดาบตัดชิมไปในไพรสัณฑ์
มันแสนเปรี้ยวเบี้ยวหน้าเข้าหากัน
ออกเข็ดฟันเป็นจะตายด้วยรายชิม
ถึงห้วยพร้าวเท้าเมื่อยออกเลื่อยล้า
เห็นผิดฟ้าฝนย้อยลงหยิมหยิม
สุริย์ฉายบ่ายเยื้องเมืองประจิม
อุระปิ้มศรปักสลักทรวง
ออกเดินรีบถีบถอนไปทุกย่าง
กลัวจะค้างค่ำลงในดงหลวง
ด้วยครื้นครึกพฤกษาลดาพวง
ไม่เห็นดวงสุริยาเวลาไร
พอเต็มตึงถึงสุนัขกะบากนั้น
รอยเขาฟันพฤกษาอยู่อาศัย
เห็นรอยคนปนควายค่อยคลายใจ
รู้ว่าใกล้ออกดงเดินตะบึง
แต่ย่างย้ายทรายฝุ่นขยุ่นยุบ
ยิ่งเหยียบฟุบขาแข็งให้แข็งขึง
ยิ่งจวนเย็นเส้นสายให้ตายตึง
ดูเหมือนหนึ่งเหยียบโคลนให้โอนเอน
ออกปากช่องท้องทุ่งที่ตลิ่ง
ต่างเกลือกกลิ้งลงทั้งรกถกเขมร
ด้วยล้าเลื่อยเหนื่อยอ่อนนอนระเนน
จนสุริเยนทร์ลับไม้ชายทะเล
ผลัดกันทำย่ำเหยียบแล้วยืนหยัด
กระดูกดัดผัวะเผาะให้โผเผ
ค่อยย่างเท้าก้าวเขยกดูเกกเก
ออกโซเซเดินข้ามตามตะพาน
เป็นทุ่งแถวมีแนวแม่น้ำอ้อม
ระยะหย่อมเคหาน่าสนาน
เป็นเนินสวนล้วนเหล่ามะพร้าวตาล
เข้าลับบ้านทับม้าลีลาไป
ใครสามารถแปลนิราศเมืองเเกลงได้บ้างครับ บทที่ 6 ครับ
ล้วนพฤกษายางยูงสูงไสว
แต่ล้วนทากตะเละลำรำพูไพร
ไต่ใบไม้ยูงยางมากลางแปลง
กระโดดเผาะเกาะผับกระหยับคืบ
ถีบกระทืบมิใคร่หลุดสุดแสยง
ปลดที่ตีนติดขาระอาแรง
ทั้งขาแข้งเลือดโซมชะโลมไป
ออกเดินถี่หนีทากถึงชากขาม
เป็นสนามน้ำท่าได้อาศัย
เห็นรอยคนแรมค้างอยู่กลางไพร
ขึ้นต้นไม้หักรังไว้เรียงราย
เห็นลิงค่างบ่างชะนีวะหวีดโหวย
กระหึมโหยห้อยไม้น่าใจหาย
เสียงผัวผัวตัวเมียเที่ยวโยนกาย
เห็นคนอายแอบอิงกับกิ่งยาง
โอ้ชะนีเวทนาเที่ยวหาผัว
เหมือนตัวพี่จากน้องให้หมองหมาง
ชะนีเพรียกเรียกชายอยู่ปลายยาง
พี่เรียกนางนุชน้องอยู่ในใจ
เห็นป่าสูงฝูงนกในดงดึก
หวนระลึกถึงสุดาน้ำตาไหล
จักจั่นร้องพร้องเพราะเสนาะไพร
ทั้งเสียงไก่เถื่อนขันสนั่นเนิน
พฤกษาเบียดเสียดสีดังปี่แก้ว
วิเวกแว่วหว่างลำเนาภูเขาเขิน
สดับฟังวังเวงเป็นเพลงเพลิน
ต้องรีบเดินโดยด่วนด้วยจวนเย็น
ถึงห้วยโป่งเห็นธารละหานไหล
คงคาใสปลาว่ายคล้ายคล้ายเห็น
มีกรวดแก้วแพรวพรายรายกระเด็น
บ้างแลเห็นเป็นสีบุษราคัม
ขืนอารมณ์ชมเชยเลยลีลาศ
พระพายพาดพัดเรื่อยมาเฉื่อยฉ่ำ
ทั้งสองข้างมรคาป่าระกำ
สล้างลำแลสลับอยู่กับกอ
หอมบุปผาสาโรชมารื่นรื่น
ต่างหยุดยืนใจหายเสียดายหนอ
แม้นอยู่เคียงเวียงชัยเห็นไม่พอ
จะตัดต่อเรือแล่นเล่นตามกัน
ทลายลูกสุกแลดูแออัด
เอาดาบตัดชิมไปในไพรสัณฑ์
มันแสนเปรี้ยวเบี้ยวหน้าเข้าหากัน
ออกเข็ดฟันเป็นจะตายด้วยรายชิม
ถึงห้วยพร้าวเท้าเมื่อยออกเลื่อยล้า
เห็นผิดฟ้าฝนย้อยลงหยิมหยิม
สุริย์ฉายบ่ายเยื้องเมืองประจิม
อุระปิ้มศรปักสลักทรวง
ออกเดินรีบถีบถอนไปทุกย่าง
กลัวจะค้างค่ำลงในดงหลวง
ด้วยครื้นครึกพฤกษาลดาพวง
ไม่เห็นดวงสุริยาเวลาไร
พอเต็มตึงถึงสุนัขกะบากนั้น
รอยเขาฟันพฤกษาอยู่อาศัย
เห็นรอยคนปนควายค่อยคลายใจ
รู้ว่าใกล้ออกดงเดินตะบึง
แต่ย่างย้ายทรายฝุ่นขยุ่นยุบ
ยิ่งเหยียบฟุบขาแข็งให้แข็งขึง
ยิ่งจวนเย็นเส้นสายให้ตายตึง
ดูเหมือนหนึ่งเหยียบโคลนให้โอนเอน
ออกปากช่องท้องทุ่งที่ตลิ่ง
ต่างเกลือกกลิ้งลงทั้งรกถกเขมร
ด้วยล้าเลื่อยเหนื่อยอ่อนนอนระเนน
จนสุริเยนทร์ลับไม้ชายทะเล
ผลัดกันทำย่ำเหยียบแล้วยืนหยัด
กระดูกดัดผัวะเผาะให้โผเผ
ค่อยย่างเท้าก้าวเขยกดูเกกเก
ออกโซเซเดินข้ามตามตะพาน
เป็นทุ่งแถวมีแนวแม่น้ำอ้อม
ระยะหย่อมเคหาน่าสนาน
เป็นเนินสวนล้วนเหล่ามะพร้าวตาล
เข้าลับบ้านทับม้าลีลาไป