'หนุ่ม-กรรชัย' เผยหลังถูกช่อง 8 ขู่!! ฟ้อง

กลายเป็นเรื่องขึ้นมา เมื่อ "โด่ง"องอาจ สิงห์ลำพอง ผู้บริหารของช่อง 8 เผยว่าเตรียมฟ้อง "เอ"ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์  อดีตผู้ประกาศของช่อง และ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย เรื่องของการผิดสัญญา หลัง "เอ" ดนยกฤตย์ โผล่ร่วมเป็นผู้ประกาศข่าวใหักับทางรายการ "ตีข่าวเช้า" ของทางช่อง 3 โดยมี "หนุ่ม" กรรชัย เป็นผู้ผลิตรายการนี้ ทั้งที่ผู้ประกาศคนดังกล่าวยังมีสัญญากับทางช่อง 8 อยู่ งานนี้มีโอกาสเจอ "หนุ่ม"  กรรชัย ในงานแถลงข่าวกรณีเปลี่ยนตัวพิธีกรรายการ "Davinci เกมถอดรหัส" ณ TVT Green Park Studio จึงถามถึงเรื่องนี้มี    ข่าวว่าทางช่อง 8 จะยื่นฟ้องเรากับรายการตีข่าวเช้า?
    "ก็ได้ยินแว่วๆ มาแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ทางพี่เองก็ยังไม่ได้หมายครับ เราก็เคารพอยู่แล้วถ้ามีหมายมา ก็คงจะต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมาย แต่จริงๆ แล้วเนี่ยถามว่าเราไม่สบายใจไหม เราก็งงๆ เหมือนกันว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ยังไง คือสาเหตุมันเริ่มต้นจากทางพี่เอง คุณจอห์นนี่และคุณอาร์ม วิบูลย์ ได้มีความคิดอยากทำรายการข่าวขึ้นมาสักรายการ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นรายการที่เข้าถึงตัวชาวบ้านตอนเช้าๆ ได้ เราก็พยายามคัดสรรหาผู้ประกาศข่าวที่แมสจริงๆ ในการเล่าข่าวอ่านข่าวให้คุณผู้ชมได้ฟังกัน ปรากฏว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่ได้
    เวลาก็ผ่านไปสักพักปรากฏว่ามาเห็นทางคุณเอเขาหายหน้าหายตาไป 2-3 เดือนแล้ว ก็เลยงงว่าเขาไม่ได้อยู่หน้าจอแล้ว เลยโทรไปหาเขาว่าทำไมไม่มีรายการข่าวแล้วเหรอ เขาก็บอกว่าเขายกเลิกสัญญาไปแล้ว ผมก็เลยบอกว่างั้นมาคุยกันหน่อยไหม เขาก็เลยมาคุยกับทางทีมเรา เขาก็มาพร้อมหนังสือว่ายืนยันยกเลิกสัญญาไปแล้ว เราเห็นก็แฮปปี้เพราะว่าเขาได้มีการยกเลิกสัญญาของเขา ก็เลยมีการตกลงว่าจ้างกันให้เขามาเป็นผู้ประกาศข่าว

    หลังจากนั้นก็ยอมรับว่ามีโนติสมาจริง ยื่นมาบอกว่าคุณเอยังติดสัญญาอยู่ แต่ทีนี้ในมุมของเราเอง ผมก็ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องของทางช่องนั้นกับคุณเอจะต้องไปคุยกันเอง เพราะมันเป็นเรื่องของคู่สัญญา คือทางเราไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะว่าเราเห็นแค่หนังสือยกเลิกสัญญา มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว และอีกมุมนึงผมก็มองว่าคุณเอเขาไม่ได้เป็นโจร เขาไม่ได้ไปฆ่าใครตาย เพราะฉะนั้นผมก็มองว่าเราไม่ได้ให้ที่พักพิงกับโจร ที่สำคัญคุณเอเขาเป็นคนทำงานได้เงินรายวัน วันนึงเขาขาดรายได้ไป เขาก็ต้องกินต้องใช้ ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ผมว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ แต่ถ้าเกิดมันเป็นไปตามตัวบทกฎหมายว่าเขาได้มีการผิดสัญญาจริงกับทางช่องโน้น มันก็เป็นช่องโน้นกับทางคุณเอต้องไปเคลียร์กัน"
เบื้องต้นเราได้คุยกับทางคุณเอรึยัง?
    "ผมก็ไม่ได้คุยนะครับ แต่ว่าได้มีการถามเขาเหมือนกันว่ามันมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เขาก็ยืนยันว่าเขายกเลิกสัญญาแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องของเขาที่ต้องไปคุยกัน ก็ยังยืนยันแบบนี้"
แปลว่าในฐานะผู้จัด เราก็รีเช็กแล้ว?
    "ขอโทษนะ อันนี้พี่ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าพี่ต้องรีเช็กอะไรรึเปล่า ถามว่าถ้าต้องไปนั่งรีเช็ก นั่นหมายความว่าต่อไปนี้ทุกบริษัทถ้าต้องจ้างใครสักคนเข้ามา แล้วอยู่ดีๆ ก็มีหนังสือมาบอกว่าคนนี้ยังติดสัญญาอยู่ที่โน่นนะ ทุกบริษัทต้องไปรีเช็กกับทางบริษัทเก่าๆ ทุกที่เหรอ อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจ คือมันเป็นเรื่องกฎหมายระหว่างคู่สัญญาที่เขาทำกันไว้ ถ้าเกิดมันจะต้องมีปัญหากัน ผมว่ามันเป็นเรื่องของทางเขา"
แต่เอกสารที่แจ้งมาเขาแจ้งมาทางเราโดยตรง?
    "คือมันเป็นโนติสที่เขายื่นมา ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเราได้รับจริงๆ เราต้องทำยังไง เราก็รับรู้ครับ เพียงแต่ว่าทางคุณเอก็ยืนยันว่าเขายกเลิกสัญญาแล้ว เพราะเขามีหนังสือยืนยันมาให้เรา มันก็จบแค่ตรงนั้นครับ"
ตอนนี้ยังให้เขาอ่านข่าวอยู่ไหม?
    "มันก็ต้องเป็นไปอย่างนั้นครับ"
ยังไม่ได้คุยส่วนตัวกับอีกฝั่งนึงใช่ไหม?
    "ถามว่าผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางช่อง 8 ไหม ผมก็ยืนยันว่าผมมีความสัมพันธ์ที่ดี ผมเองก็ทำงานกับทางช่อง 8 มานานมากครับ เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะไปโกรธแค้นกันผมว่าผมไม่มี เพราะว่าครั้งนึงผมก็ทำงานอยู่ที่นั่น แล้วเขาก็เป็นเจ้านายผม เงินที่เคยได้รับจากช่อง 8 เป็นเงินที่เลี้ยงผมและครอบครัว เพราะฉะนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะต้องไปโกรธแค้นเขาอยู่แล้ว เราไม่ได้โกรธอะไรกัน อย่างตอนผมออกมาจากรายการ "ปากโป้ง" เนี่ย ผมเคยได้มีการบอกข่าวไปแล้วว่าออกมาเนี่ยต่างคนต่างให้โอกาสซึ่งกันและกัน ผมทำรายการปากโป้งมา 5-6 ปีแล้ว มันถึงเวลาถึงจุดอิ่มตัวที่ช่อง 8 เองควรจะมีรายการใหม่ๆ มานำเสนอบ้าง ผมเองจะได้ไปลองงานใหม่ๆ อย่างเช่นมาทำรายการ "โหนกระแส" มันก็เป็นอีกมุมนึงที่ผมทำ มันโตมาด้วยดี แล้วถ้าเกิดวันนึงผมจะต้องกลับไปทำ มันก็มีโอกาสที่จะทำงานร่วมกันได้ และผมก็เชื่อว่าวันนี้ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น หรือมีเรื่องกฎหมายเกี่ยวข้องเข้ามา ผมว่ามันก็ไปตามข้อกฎหมาย แต่ความรู้สึกของเราก็ไม่ได้ทะเลาะกันนะ ไม่ได้โกรธกันเพราะว่ามันอยู่ในเกมเท่านั้นเอง"
ตามกระบวนการแล้วเราต้องทำยังไงต่อ?
    "คือเรื่องนี้คงต้องเป็นเรื่องของทางทนายที่ต้องว่ากันไป สองเป็นเรื่องของเอที่ต้องไปคุยไปตกลงกับฝั่งโน้นเองว่าเป็นยังไงนะครับ"
เครียดไหม?
    "ก็ไม่เครียดนะฮะ หนึ่งเพราะว่าเราพอใจกับเรตติ้งของตีข่าวเช้า เพราะตั้งแต่ออกอากาศมา จากวันแรกที่ออกอากาศคนดู 2 หมื่นคน แต่วันนี้ออกมาได้ 2 เดือนกว่าๆ คนดูมันหลายแสนคน มันก็เป็นปรากฏการณ์ของทางเราเหมือนกัน และปรากฏการณ์ของหลายๆ ช่องหรือหลายๆ ข่าวที่ได้มีการทำครับ เพราะว่ามันค่อนข้างชัดเจนว่ามันถีบตัวเร็วมาก เพราะอยู่ดีๆ ก็ติด 1 ใน 10 ของข่าวทั้งประเทศในช่วงเวลานั้น มันก็แฮปปี้ แต่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นถามว่าเครียดไหมผมก็ไม่เครียดนะ ก็เฉยๆ"
ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย?
    "เป็นเรื่องกระบวนการตามกฎหมายครับ ถ้าสุดท้ายแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นเราก็เคารพข้อกฎหมายอยู่แล้ว"
ตามหลักเราไม่ได้เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เขาไม่สามารถฟ้องได้?
    "คือผมไม่สามารถพูดได้ว่าเขาฟ้องเราได้หรือไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่ศาล ไม่ใช่ทนายด้วย แต่ถามในมุมผมเองเนี่ย ในความเป็นจริงแล้วเนี่ย ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกับทางเรา มันเป็นเรื่องของสัญญาของเขาสองคนที่ต้องคุยกันครับ แต่ถ้าบอกว่าวันนึงเอฆ่าคนตายแล้วไปให้ที่พักพิงกับเอ อันนี้อีกเรื่องหนึ่งไงแต่อันนี้เขามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีหนังสือยืนยันความบริสุทธิ์ของเขามา มันก็เป็นอีกมุมนึง แต่ถ้าเกิดว่าสุดท้ายแล้วต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาล หรือว่าไปตามตัวบทกฎหมายแล้ว ศาลว่ายังไง เราก็เคารพการตัดสินใจของศาลอยู่แล้ว"
เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เครียดในฐานะผู้จัดไหม?
    "ผมว่าไม่นะ คนเราทำอาชีพทุกอาชีพเนี่ย มันก็ต้องมีบททดสอบของมันอยู่แล้ว และผมเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งบททดสอบของตีข่าวเช้าด้วย ผมว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิดครับ อันนี้ผมพูดในแบบหลักธรรมนะ อย่าไปมองว่าไปว่าใครนะครับ"

Cr. http://www.komchadluek.net/news/ent/311560
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่