8 Days กับทริปผจญภัยแบบงูๆปลาๆในแบบฉบับพวกเรา 4 คน ต้องใช้สติและพลังกายเป็นอย่างมาก😂  (สตรองแค่ไหนถามใจเธอดู)
สิ่งที่ต้องมี : เงิน พาสปอร์ต ปากกา
รายละเอียดค่าใช้จ่าย ตอนท้ายนะคะ

ไม่รอช้า ตามมาเที่ยวกันเลยค่าาาา

Day 1- ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง รถออกเวลา 18:35 ไปยัง สถานีอุดรธานี ถึงเวลาประมาณ 05:00


Day 2- ถึงสถานีอุดรธานี เดินทางไป บขส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ (มีมอไซต์รับจ้าง+ตุ๊กๆ คอยบริการ ราคาประมาณคนละ 20 บาท) พวกเราเลือกเดินไป บขส แต่มีคุณลุงตุ๊กๆใจดีลดราคาให้เหลือคนละ 5 บาท ไปสิ!!รอไร!!

ถึง บขส อุดรฯ ใช้พาสปอร์ตซื้อตั๋วไปวังเวียง (ที่อ่านมาเค้าจะเปิดขาย 7 โมงเช้า แต่ไปถึงประมาณเกือบ 6 โมงก็ซื้อได้แล้ว) รถไปวังเวียงจะมีแค่เที่ยวเดียวต่อวันเท่านั้น หมดแล้วหมดเลยนะจ๊ะ

ตั๋วเรียบร้อยก็หาอะไรลงท้อง คุณลุงขายตั๋วแนะนำโจ๊กร้านเด็ด อยู่ใกล้ๆแถวนั้น จัดโลด!!! อิ่มอร่อยมากเว่อร์

This is ข้าวเปียก หรือ ก๋วยจั๊บญวณนั่นเอง!!!

9;00 รถออก พนักงานรถจะเอาใบผ่านตม.มาให้เขียน (ราคา 5 บาท) ถึงด่านหนองคาย ลงไปปั๊มพาสปอร์ต ขึ้นรถ(อย่าขึ้นผิดคันนะคะ😅) ด่านลาวลงไปยื่นพาสปอร์ต ตรวจคนเข้าเมืองตรง immigration ผ่านตรงนี้ไป ต้องซื้อ one way ticket (50 บาท) ที่ตู้ Pay pass เอาเอาบัตรมาเสียบที่ทางออกไปยังรถ (คล้ายๆทางเข้ารถไฟฟ้า) เป็นอันว่าเข้าประเทศลาวเรียบร้อย 😃



อุดร-วังเวียง ประมาณ 8 ชม. ระหว่างทางมีแวะพักทานมื้อเที่ยง ของขึ้นชื่อของที่นี่ยกให้ ขนม ปัง ปัง ปัง !!



ต้องลอง!!!

จุดแวะพักมีจุดแลกเงิน เราแลกไป 2,500 บาท ได้เป็นเงินกีบ 647500 กีบ



ถึงวังเวียงประมาณ 15:30น. ที่ท่ารถจะมีแพ็คเกจทริปขาย มีให้เลือกมากมายตามใจชอบ เราเลือกราคา190,000 กีบ ต่อรองเหลือ 130,000 กีบ (มีไปถ้ำน้ำ นั่งห่วงยางเข้าถ้ำ ถ้ำช้าง พายเรือคายัก บลูลากูน) แล้วก็ซื้อตั๋วรถไปเวียงจันทน์เสร็จสรรพ

มีบริการสองแถวไปส่ง(เกือบ)ถึงที่พัก เราพักที่ Real Vang Vieng Backpacker Hostel 2 (ราคา 338.25 /คน/ 2คืน) จ่ายเป็นเงินไทยได้


เข้าที่พัก เก็บของเรียบร้อย เช่าจักรยานปั่นไปถ้ำจัง (ร้านเข่าใกล้ๆที่พัก) ถ้ำปิด 17:00 น. เข้าได้เฉพาะด้านนอก

แค่ด้านนอกก็วิวดีมากเวอร์








เห็นบอลลูนด้วยยยยยย

ปั่นจักรยานกลับไปคืน
มื้อเย็นเราฝากท้องกันที่ร้านอาหารริมน้ำ วิวดี อาหารอร่อย







หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติอร่อยอย่าบอกใครเชียว😋


สลัดลาว👍คือดจีย์

อิ่มแล้วเดินเล่นริมน้ำ จะกลับที่พักเลยก็กระไรอยู่ จัดไป!!! ซากุระ บาร์!!!! เหล้าฟรี สองทุ่มถึงสามทุ่ม นี่วังเวียงเหรอ? นึกว่าอยู่เกาหลี ชาวเกาหลีแน่นร้านเว่อร์  #ฝรั่งดีเกาหลีเด็ดสมคำร่ำลือ


จัดไปพอประมาณ กลับที่พัก พร้อมลุยต่อพรุ่งนี้!!!


Day3-ตื่นเช้า ทานมื้อเช้าที่ที่พัก
รถมารับข้างหน้าที่พักตามที่ตกลงกันไว้ นอกจากพวกเรา ยังมีผู้ร่วมทริปทั้งไทย และต่างชาติ อีกประมาณ 15 คน หลายๆคนครึกครื้นดี


ที่แรกไปถ้ำน้ำ นอนบนห่วงยางแล้วไต่ๆเชือกเข้าถ้ำ(น้ำเย็นมากกก) ตอนแรกแอบกลัวนิดหน่อย พอได้เข้าไปชักสนุกแล้วสิ ข้างในมีหินงอกหินย้อยสวยงามกรุบกริบ

ออกจากถ้ำ ไกด์บอกให้เวลาส่วนตัว ใครอยากทำไรก็ทำ จะเล่นน้ำก็เล่น หรือนั่งพักชมบรรยากาศก็ตามสบาย พวกเราเลือกไปเล่น Zipline (ไม่ได้ซื้อในทริปตั้งแต่ต้น) ให้ไกด์ช่วยไปติดต่อราคา ปรากฎว่า 500 บาท เอาวะ เป็นไงเป็นกัน มาถึงทั้งที ต้องลองกันหน่อย!!!





เดินขึ้นเขาไปสูงพอประมาณ รูด Zipline ลงมา 5 ด่าน ติดใจมากกกก สนุกมากเวอร์ คิดไม่ผิดที่ยอมจ่ายตังค์เพิ่ม เล่นเสร็จมากินมื้อเที่ยง ทางทัวร์เค้าจัดอาหารไว้ให้ เป็นขนมปัง บาร์บีคิว ข้าวผัด แตงโม

เดินกลับจากถ้ำน้ำ ไป ถ้ำช้าง ชื่อถ้ำช้าง เพราะมีหินรูปช้างอยู่ด้านใน มีพระนอนให้กราบไหว้ สักการะ






นั่งรถต่อไปยังจุดเริ่มพายคายัก ระยะทางประมาณ 5 Km วิวริมน้ำสองข้างทางดีมากเวอร์ (แม้แดดร้อนเราไม่หวั่น😅) ไกด์จะสอนการพายเบื้องต้นกับข้อควรระวัง ช่วงที่เราไปน้ำตื้น ต้องระวังไม่ให้ไปติดโขดหิน




ใช้พลังเยอะเหมือนกันนะเนี่ย กล้ามแขนขึ้นกันเลยทีเดียว

ที่สุดท้าย บลูลากูน (บลูลากูนแห่งแรก) คนค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ต้องทำคือขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วโดดลงมา





จบไปอีก 1 วัน รถมาส่งหน้าที่พัก อาบน้ำ หาที่ทานมื้อเย็น พวกเราตกลงเข้าร้าน sakura restaurant ราคาถือว่าแพงกว่าร้านริมน้ำ รสชาติกลางๆ ทำค่อนข้างช้า เมนูที่สั่งได้ไม่ครบ😥 ก็ท้วงติงกันไป



ก็นะ ไม่รู้จะไปไหน ไปเดินเล่นตลาดนัด(มั้ง?) แล้วไปต่อ Sakura Bar อีกละกัน ไหนๆพรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว จัดเต็มไปเล้ยยยยย!!!!