วางแผนว่าจะไปวังเวียงนานแล้ว ไม่มีโอกาสได้ไป
เลยถือโอกาสลาพักร้อนแล้ว จัดทริปวังเวียง ไป 2 คน แบบเดาๆ
เริ่มแรกหาทางไปให้ได้ก่อน การเดินทางมีหลากหลาย
พวกเราเลือกใช้รถทัวร์เป็นหลัก
จองเลยนครชัยแอร์ กทม. - อุดรธานี วางแผนไปช่วงกลางคืน ให้ไปถึงอุดร ไม่เกิน 8.00 น. เพื่อต่อรถไปวังเวียง
ถึงอุดรธานี ที่ บขส. 1 มีช่องขายตั๋วไปลาว หน้าตาแบบนี้
ซ้ายไปวังเวียง ขวาไปเวียงจัน ต้องมีพาสปอร์ตด้วยนะถึงจะซื้อรถไปวังเวียงได้

ขาไปมีเที่ยวเดียว 8.30 น. นั่งได้ประมาณ 45 ที่นั่ง
ตรงนี้ขอบอกเลยว่าได้พบกับความเห็นแก่ตัวของคน
เพราะวันหยุดยาว คนไปเยอะ ทำให้คนมาต่อแถวตั้งแต่ยังไม่เปิดขายตั๋ว
มีเจ๊คนนึงเรียกเพื่อนมาแทรกแถว ทำให้คนที่มาต่อแถวถูกต้องเสียโอกาสไม่ได้ไป
ไม่ชอบเลยกับคนที่เอาเปรียบคนอื่น ไม่รู้พวกเขาเที่ยวสนุกกันไปได้ยังไง
ส่วนเราสองคนได้ไปนะคะเพราะมาถึงและต่อแถวทัน
รถบัสที่นั่งไปหน้าตาแบบนี้
การผ่านด่าน ต้องมีพาสปอร์ต เสียตังค่าผ่านด้วย
มีรีวิวหลากหลายแล้วขอข้ามไปเลยแล้วกัน
นั่งรถไปครึ่งทางจะมีแวะทานข้าว
อาหารเครื่องดื่มค่อนข้างแพง เรากินเฝอไปชามละ 15,000 กีบ
ทางค่อนข้างลำบาก มีหลุมบ่อตลอดทาง ถึงที่หมายประมาณ 4 โมงเย็น
เมื่อไปถึงวังเวียง สามารถซื้อตั๋วกลับได้เลยที่ บขส. และถ้ามีที่พักแล้วสามารถบอกให้รถไปรับได้
ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พัก ไปหาซื้อตั๋วได้ในเมืองวังเวียงที่ร้านมินิมาร์ท หรือตามโรงแรมที่พัก แต่ราคาจะสูงกว่าที่ บขส. นิดหน่อย
จากนั้นจะมีรถฟรี เข้าไปส่งในเมืองเราก็แบกเป้ขึ้นไปกันเลย
เนื่องจากไปแบบตามใจฉันจึงไม่จองที่พัก
แบกเป้เดินหาที่พักกันไปเรื่อยๆ
แถวริมแม่น้ำซองราคาสูงมาก คุยกันแบบเงินดอลล่า ถอยแทบไม่ทัน
สุดท้ายได้ที่พักวิวดีสมชื่อ ในราคา 600 บาทต่อคืน (จ่ายเงินไทย 1,200 บาท เพราะนอน 2 คืน)
จองไปสองคืนด้วยความมั่ว มารู้อีกทีต้องนอน 3 คืน ไปถามบอกว่ามีคนจองแล้ว คืนที่สามเลยต้องหาที่พักใหม่
ปล.รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเอง เซพมาจากในเน็ตค่ะ ส่วนภาพในห้องไม่ได้ถ่ายมา หาตามเน็ตได้จ้าสมราคา มี Wifi แต่ช้ามากๆ
เราสนใจวิวตรงหน้าต่างห้อง และแล้วก็พบว่า ป๊อบปูล่าสมชื่อเลยทีเดียว
รูปถ่ายจากมือถือ
เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย ตามที่แพลนไว้คือเดินหาทริปแบบวันเดียว
จากที่อ่านๆรีวิวมาเยอะ ไปซื้อทริปแบบ 1 วันเล่นดูก็คุ้มเหมือนกัน
เราสองคนไม่ได้ตัดสินใจไรเยอะ เดินออกมาจากที่พัก เจอร้านทริปก็ตรงเข้าไปซื้อเลย
ค่าทริปคนละ 150,000 กีบ (เงินไทยเท่าไรคำนวนเอานะ)
ทริปเต็มวันประกอบด้วย พายเรือล่องแม่น้ำซอง ลอยตัวเข้าถ้ำลอด บลูลากูน ถ้ำช้าง
นัด 08.30 น.
เมื่อได้ทริปเรียบร้อยพวกเราก็เดินชมเมืองและหาข้าวเย็นทาน
อยากจะบอกว่ามาม่าในมินิมาร์ทแพงกว่าอาหารที่ร้านอีก
ตามทางมีแผงลักษณะนี้ขายเยอะมาก ราคาเท่ากันหมด รวมถึงในร้านนั่งชิลๆราคาเท่าแผงลอยจ้า
เดินหาร้านนั่งชิลๆ พบว่านี่แหละโดนสุด Otherside
ติดใจไปกินวันแรกและวันก่อนกลับเลย
อาหารราคาไม่แพง
พิซซ่า 30,000 - 45,000 กีบ
น้ำผลไม้ปั่นแก้วละ 5,000 กีบ
พวกต้มยำ 40,000 กีบ
อาหารอื่นๆตกจานละ 20,000 กีบ
ปรากฏว่ามื้อแรกหมดไป 127,000 กีบ กระเป๋าเบาหวิวเลยทีเดียว
ภาพอาหารถ่ายมาสองอย่าง

ที่ถูกคือโซจูในมินิมาร์ท ราคาถูกกว่าที่ไทยมาก มีขวดละ 16,000 / 19,000 / 20,000 กีบ
ทานอาหารเสร็จเดินเล่นรอบเมือง กลับที่พัก
เช้าวันที่ 1 ตื่นมาแต่เช้า ฝนตกเมื่อคืน วิวสวยมากๆ
ทานอาหารเช้าแซนวิส 10,000 กีบ
ลุยทริปต่อนัด 8.30 น. ต้องตรงเวลานะคะ
ก็จะมีรถมารับไป ทางค่อนข้างขรุขระมากๆ ชมบรรยากาศรอบๆเพลิน
ในกลุ่มทัวร์มีคนไทยทั้งหมดสนุกมากๆ ได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆเพิ่มหลายคน
เพิ่มเติมควรเตรียมชุดที่สามารถเปียก และพร้อมลงน้ำ เพราะเป็นกิจกรรมลุยน้ำทั้งสิ้น
ถึงที่หมายเป็นริมแม่น้ำซอง
พี่ไกด์จะสอนเราถึงวิธีการพายเรือก่อน เพราะเราต้องพายกันถึง 18 กม.
นักท่องเที่ยวเกาหลี ฝรั่ง ไทย เยอะมากๆ
จากนั้นพายเรือไปฝั่งตรงข้าม และเดินเท้าต่อเพื่อไปลอดถ้ำเป็นรายการแรก
ไกด์คุยสนุกมาก ชอบดูละครไทยด้วย
บรรยากาศที่เดินเท้าไปเป็นทุ่งนา หากจะแวะเข้าห้องน้ำเสียครั้งละ 1,000 กีบ
กิจกรรมลอดถ้ำสนุกมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูป ต้องไปสัมผัสกันเอง
แวะทานข้าวที่นั้นและเล่นน้ำนิดหน่อย
ช่วงเดินกลับแวะถ้ำช้าง
จากนั้นกิจกรรมที่รอคอย การพายเรือล่องแม่น้ำซอง สำหรับคนที่พายไม่เป็นจะไปกับไกด์ก็ได้
หรือพายไปกันเอง เหนื่อยมาก แขนล้ากันเลยทีเดียว
พายเรือครึ่งทางจะมีที่แวะพักบนฝั่ง ก็เล่นกันมีหลายกิจกรรม
เมื่อพายเรือถึงที่หมายประมาณ 15.00 น.
ก็นั่งรถไปเที่ยวต่อที่ บลูลากูน น้ำสีขุ่นๆเนื่องจากฝนตก คนเยอะมากมีที่กระโดดน้ำทดสอบกำลังใจและกองเชียร์ด้านล่าง
เช่าชูชีพตัวละ 10,000 กีบ ต่อ 2 ชม.

ประมาณ 5 โมงเย็นไกด์ก็พากลับ
ระหว่างทางกลับบรรยากาศดี
จากนั้นแยกย้ายกลับที่พัก เหนื่อยมากๆคืนที่สองเลยซื้อของมาทานระเบียงห้องและชมวิวกันชิลๆ
อาหารเย็น 46,000 กีบ
เช้าวันที่ 2 ตื่นมาชมวิวอีกแล้ว บอลลูนลอยมาสวยมากๆ มีบริการขึ้นบอลลูนไม่แน่ใจราคาเท่าไร
วันที่สองไม่มีแผนใดๆ แค่อยากไปถ้ำจัง กับน้ำตกแก่งยุ้ย เลยเช่ามอไซต์เราคา 40,000 กีบ ขี่ไปกัน
ทางไปถ้ำจังต้องผ่านสะพานส้มๆ สองคนโดนคิดตัง 7,000 กีบ
ข้ามสะพานมานั่งริมน้ำสักพัก น้ำใสน่าเล่นมากไม่กล้าลงเล่น
จนมีคนสองคนลงไปเล่น เลยลงตาม
ใสกว่าที่บลูลากูนเยอะมาก แถมคนไม่เยอะ เล่นไปสักพักโอปป้าเกาหลีมา 5 คน เสียงดังมาก แต่เราก็เล่นจนเกาหลีกลับก่อน
ขึ้นถ้ำจังเสียคนละ 15,000 กีบ เราเลยตัดสินใจไม่ขึ้นไป
กะว่าจะขี่มอไซต์ไปน้ำตกแก่งยุ้ย ไปได้แปบเดียวรถดับ เลยเข็นกลับมาที่ร้านเช่า ไกลและเหนื่อยมาก
กลับมาร้านบอกว่าน้ำมันหมด เราก็ดูเกน้ำมันแล้วมีครึ่งนึง ปรากฏว่ามันพัง เขาเสนอให้เอาคันใหม่ไปแต่เพิ่ม 20,000 กีบ เราเลยไม่ไปต่อ
คืนที่ 3 ย้ายที่พักไปที่ไม่ติดแม่น้ำ คืนละ 400 บาท มี Wifi ชื่อ สันติวิลล่า
เดินไกลนิดหน่อยแต่โดยรวมค่อนข้างดีในราคาถูกมาก
(ภาพยืมมาจากในเน็ต)

ซื้อตั๋วรถขากลับที่มินิมาร์ท ได้มาในราคาคนละ 400 บาท และให้รถมารับที่พักในตอนเช้าด้วย
ช่วงเย็นไปนั่งชิลที่ริมแม่น้ำซอง เก็บบรรยากาศ
ดูชาวบ้านแข่งเรือยาว และเด็กๆมาเล่นน้ำกัน
มื้อเย็นทานที่ร้านเดิม Otherside เพราะบรรยากาศดีสุดๆแล้ว
ที่นั่งริมน้ำ นั่งยาวๆจนร้านปิด (ปิด 22.30 น.)

ภาพด้านบนคือลาบ และได้ชิมอาหารพื้นบ้านด้วย เป็นอาหารเลี้ยงเด็กเสิร์ฟในร้าน เลยขอลองบ้าง อร่อยดี
เช้าวันสุดท้าย
เก็บบรรยากาศ ความทรงจำ
ลาก่อนวังเวียง
สรุป
ค่าเสียหาย
ประมาณคนละ 5,000 บาท
-------------------------------------------------------------
แถม ถ้าใครช๊อตเงินจริงๆ กด ATM ได้ที่ตู้ซ้ายมือ
แต่เสียค่าธรรมเนียม 20,000 กีบ แถมกลับมาไทยเสียอีก 100 บาท
-------------------------------------------------------------
ขากลับเสียค่าผ่านแดน 10,000 กีบด้วยนะ
กลับมาถึงอุดร ต้องไปกินแหนมเนือง VT ก่อนกลับ กทม. ด้วยนะเอ้อ
[CR] [CR]= = = เที่ยววังเวียงฉบับตามใจฉัน = = =
เลยถือโอกาสลาพักร้อนแล้ว จัดทริปวังเวียง ไป 2 คน แบบเดาๆ
เริ่มแรกหาทางไปให้ได้ก่อน การเดินทางมีหลากหลาย
พวกเราเลือกใช้รถทัวร์เป็นหลัก
จองเลยนครชัยแอร์ กทม. - อุดรธานี วางแผนไปช่วงกลางคืน ให้ไปถึงอุดร ไม่เกิน 8.00 น. เพื่อต่อรถไปวังเวียง
ถึงอุดรธานี ที่ บขส. 1 มีช่องขายตั๋วไปลาว หน้าตาแบบนี้
ซ้ายไปวังเวียง ขวาไปเวียงจัน ต้องมีพาสปอร์ตด้วยนะถึงจะซื้อรถไปวังเวียงได้
ขาไปมีเที่ยวเดียว 8.30 น. นั่งได้ประมาณ 45 ที่นั่ง
ตรงนี้ขอบอกเลยว่าได้พบกับความเห็นแก่ตัวของคน
เพราะวันหยุดยาว คนไปเยอะ ทำให้คนมาต่อแถวตั้งแต่ยังไม่เปิดขายตั๋ว
มีเจ๊คนนึงเรียกเพื่อนมาแทรกแถว ทำให้คนที่มาต่อแถวถูกต้องเสียโอกาสไม่ได้ไป
ไม่ชอบเลยกับคนที่เอาเปรียบคนอื่น ไม่รู้พวกเขาเที่ยวสนุกกันไปได้ยังไง
ส่วนเราสองคนได้ไปนะคะเพราะมาถึงและต่อแถวทัน
รถบัสที่นั่งไปหน้าตาแบบนี้
การผ่านด่าน ต้องมีพาสปอร์ต เสียตังค่าผ่านด้วย
มีรีวิวหลากหลายแล้วขอข้ามไปเลยแล้วกัน
นั่งรถไปครึ่งทางจะมีแวะทานข้าว
อาหารเครื่องดื่มค่อนข้างแพง เรากินเฝอไปชามละ 15,000 กีบ
ทางค่อนข้างลำบาก มีหลุมบ่อตลอดทาง ถึงที่หมายประมาณ 4 โมงเย็น
เมื่อไปถึงวังเวียง สามารถซื้อตั๋วกลับได้เลยที่ บขส. และถ้ามีที่พักแล้วสามารถบอกให้รถไปรับได้
ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พัก ไปหาซื้อตั๋วได้ในเมืองวังเวียงที่ร้านมินิมาร์ท หรือตามโรงแรมที่พัก แต่ราคาจะสูงกว่าที่ บขส. นิดหน่อย
จากนั้นจะมีรถฟรี เข้าไปส่งในเมืองเราก็แบกเป้ขึ้นไปกันเลย
เนื่องจากไปแบบตามใจฉันจึงไม่จองที่พัก
แบกเป้เดินหาที่พักกันไปเรื่อยๆ
แถวริมแม่น้ำซองราคาสูงมาก คุยกันแบบเงินดอลล่า ถอยแทบไม่ทัน
สุดท้ายได้ที่พักวิวดีสมชื่อ ในราคา 600 บาทต่อคืน (จ่ายเงินไทย 1,200 บาท เพราะนอน 2 คืน)
จองไปสองคืนด้วยความมั่ว มารู้อีกทีต้องนอน 3 คืน ไปถามบอกว่ามีคนจองแล้ว คืนที่สามเลยต้องหาที่พักใหม่
ปล.รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเอง เซพมาจากในเน็ตค่ะ ส่วนภาพในห้องไม่ได้ถ่ายมา หาตามเน็ตได้จ้าสมราคา มี Wifi แต่ช้ามากๆ
เราสนใจวิวตรงหน้าต่างห้อง และแล้วก็พบว่า ป๊อบปูล่าสมชื่อเลยทีเดียว
รูปถ่ายจากมือถือ
เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย ตามที่แพลนไว้คือเดินหาทริปแบบวันเดียว
จากที่อ่านๆรีวิวมาเยอะ ไปซื้อทริปแบบ 1 วันเล่นดูก็คุ้มเหมือนกัน
เราสองคนไม่ได้ตัดสินใจไรเยอะ เดินออกมาจากที่พัก เจอร้านทริปก็ตรงเข้าไปซื้อเลย
ค่าทริปคนละ 150,000 กีบ (เงินไทยเท่าไรคำนวนเอานะ)
ทริปเต็มวันประกอบด้วย พายเรือล่องแม่น้ำซอง ลอยตัวเข้าถ้ำลอด บลูลากูน ถ้ำช้าง
นัด 08.30 น.
เมื่อได้ทริปเรียบร้อยพวกเราก็เดินชมเมืองและหาข้าวเย็นทาน
อยากจะบอกว่ามาม่าในมินิมาร์ทแพงกว่าอาหารที่ร้านอีก
ตามทางมีแผงลักษณะนี้ขายเยอะมาก ราคาเท่ากันหมด รวมถึงในร้านนั่งชิลๆราคาเท่าแผงลอยจ้า
เดินหาร้านนั่งชิลๆ พบว่านี่แหละโดนสุด Otherside
ติดใจไปกินวันแรกและวันก่อนกลับเลย
อาหารราคาไม่แพง
พิซซ่า 30,000 - 45,000 กีบ
น้ำผลไม้ปั่นแก้วละ 5,000 กีบ
พวกต้มยำ 40,000 กีบ
อาหารอื่นๆตกจานละ 20,000 กีบ
ปรากฏว่ามื้อแรกหมดไป 127,000 กีบ กระเป๋าเบาหวิวเลยทีเดียว
ภาพอาหารถ่ายมาสองอย่าง
ที่ถูกคือโซจูในมินิมาร์ท ราคาถูกกว่าที่ไทยมาก มีขวดละ 16,000 / 19,000 / 20,000 กีบ
ทานอาหารเสร็จเดินเล่นรอบเมือง กลับที่พัก
เช้าวันที่ 1 ตื่นมาแต่เช้า ฝนตกเมื่อคืน วิวสวยมากๆ
ทานอาหารเช้าแซนวิส 10,000 กีบ
ลุยทริปต่อนัด 8.30 น. ต้องตรงเวลานะคะ
ก็จะมีรถมารับไป ทางค่อนข้างขรุขระมากๆ ชมบรรยากาศรอบๆเพลิน
ในกลุ่มทัวร์มีคนไทยทั้งหมดสนุกมากๆ ได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆเพิ่มหลายคน
เพิ่มเติมควรเตรียมชุดที่สามารถเปียก และพร้อมลงน้ำ เพราะเป็นกิจกรรมลุยน้ำทั้งสิ้น
ถึงที่หมายเป็นริมแม่น้ำซอง
พี่ไกด์จะสอนเราถึงวิธีการพายเรือก่อน เพราะเราต้องพายกันถึง 18 กม.
นักท่องเที่ยวเกาหลี ฝรั่ง ไทย เยอะมากๆ
จากนั้นพายเรือไปฝั่งตรงข้าม และเดินเท้าต่อเพื่อไปลอดถ้ำเป็นรายการแรก
ไกด์คุยสนุกมาก ชอบดูละครไทยด้วย
บรรยากาศที่เดินเท้าไปเป็นทุ่งนา หากจะแวะเข้าห้องน้ำเสียครั้งละ 1,000 กีบ
กิจกรรมลอดถ้ำสนุกมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูป ต้องไปสัมผัสกันเอง
แวะทานข้าวที่นั้นและเล่นน้ำนิดหน่อย
ช่วงเดินกลับแวะถ้ำช้าง
จากนั้นกิจกรรมที่รอคอย การพายเรือล่องแม่น้ำซอง สำหรับคนที่พายไม่เป็นจะไปกับไกด์ก็ได้
หรือพายไปกันเอง เหนื่อยมาก แขนล้ากันเลยทีเดียว
พายเรือครึ่งทางจะมีที่แวะพักบนฝั่ง ก็เล่นกันมีหลายกิจกรรม
เมื่อพายเรือถึงที่หมายประมาณ 15.00 น.
ก็นั่งรถไปเที่ยวต่อที่ บลูลากูน น้ำสีขุ่นๆเนื่องจากฝนตก คนเยอะมากมีที่กระโดดน้ำทดสอบกำลังใจและกองเชียร์ด้านล่าง
เช่าชูชีพตัวละ 10,000 กีบ ต่อ 2 ชม.
ประมาณ 5 โมงเย็นไกด์ก็พากลับ
ระหว่างทางกลับบรรยากาศดี
จากนั้นแยกย้ายกลับที่พัก เหนื่อยมากๆคืนที่สองเลยซื้อของมาทานระเบียงห้องและชมวิวกันชิลๆ
อาหารเย็น 46,000 กีบ
เช้าวันที่ 2 ตื่นมาชมวิวอีกแล้ว บอลลูนลอยมาสวยมากๆ มีบริการขึ้นบอลลูนไม่แน่ใจราคาเท่าไร
วันที่สองไม่มีแผนใดๆ แค่อยากไปถ้ำจัง กับน้ำตกแก่งยุ้ย เลยเช่ามอไซต์เราคา 40,000 กีบ ขี่ไปกัน
ทางไปถ้ำจังต้องผ่านสะพานส้มๆ สองคนโดนคิดตัง 7,000 กีบ
ข้ามสะพานมานั่งริมน้ำสักพัก น้ำใสน่าเล่นมากไม่กล้าลงเล่น
จนมีคนสองคนลงไปเล่น เลยลงตาม
ใสกว่าที่บลูลากูนเยอะมาก แถมคนไม่เยอะ เล่นไปสักพักโอปป้าเกาหลีมา 5 คน เสียงดังมาก แต่เราก็เล่นจนเกาหลีกลับก่อน
ขึ้นถ้ำจังเสียคนละ 15,000 กีบ เราเลยตัดสินใจไม่ขึ้นไป
กะว่าจะขี่มอไซต์ไปน้ำตกแก่งยุ้ย ไปได้แปบเดียวรถดับ เลยเข็นกลับมาที่ร้านเช่า ไกลและเหนื่อยมาก
กลับมาร้านบอกว่าน้ำมันหมด เราก็ดูเกน้ำมันแล้วมีครึ่งนึง ปรากฏว่ามันพัง เขาเสนอให้เอาคันใหม่ไปแต่เพิ่ม 20,000 กีบ เราเลยไม่ไปต่อ
คืนที่ 3 ย้ายที่พักไปที่ไม่ติดแม่น้ำ คืนละ 400 บาท มี Wifi ชื่อ สันติวิลล่า
เดินไกลนิดหน่อยแต่โดยรวมค่อนข้างดีในราคาถูกมาก
(ภาพยืมมาจากในเน็ต)
ซื้อตั๋วรถขากลับที่มินิมาร์ท ได้มาในราคาคนละ 400 บาท และให้รถมารับที่พักในตอนเช้าด้วย
ช่วงเย็นไปนั่งชิลที่ริมแม่น้ำซอง เก็บบรรยากาศ
ดูชาวบ้านแข่งเรือยาว และเด็กๆมาเล่นน้ำกัน
มื้อเย็นทานที่ร้านเดิม Otherside เพราะบรรยากาศดีสุดๆแล้ว
ที่นั่งริมน้ำ นั่งยาวๆจนร้านปิด (ปิด 22.30 น.)
ภาพด้านบนคือลาบ และได้ชิมอาหารพื้นบ้านด้วย เป็นอาหารเลี้ยงเด็กเสิร์ฟในร้าน เลยขอลองบ้าง อร่อยดี
เช้าวันสุดท้าย
เก็บบรรยากาศ ความทรงจำ
ลาก่อนวังเวียง
สรุป
ค่าเสียหาย
ประมาณคนละ 5,000 บาท
-------------------------------------------------------------
แถม ถ้าใครช๊อตเงินจริงๆ กด ATM ได้ที่ตู้ซ้ายมือ
แต่เสียค่าธรรมเนียม 20,000 กีบ แถมกลับมาไทยเสียอีก 100 บาท
-------------------------------------------------------------
ขากลับเสียค่าผ่านแดน 10,000 กีบด้วยนะ
กลับมาถึงอุดร ต้องไปกินแหนมเนือง VT ก่อนกลับ กทม. ด้วยนะเอ้อ