คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องอินไซด์เทรดเดอร์มันมีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับ ก่อนงบการเงินของธนาคารสีม่วงประกาศวันเดียว
ราคาหุ้นร่วงหลายบาทเลย เพราะมีคนรู้ก่อนตลาดรู้แน่นอน การไปเช็คกับฝ่ายบัญชีหรือเสมียนฯลฯ ของบริษัทมหาชน
ตามกฏหมายแล้วจะไม่สามารถทำได้เพราะเค้าบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนพวกนี้บางคนก็คงจะบอกพรรคพวกหรือตัวเอง
ก็เทรดเอง ยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็น ถ้าเค้าขายหุ้นออกมา(แต่มีกำหนดว่าต้องก่อนการประกาศงบเป็นระยะเวลาเท่าใด)
ก็น่าเชื่อได้ว่าผลประกอบการอาจจะไม่ดี อะไรแบบนี้ ฯลฯ เป็นต้น
ส่วนเรื่องการคาดการณ์จริงๆนั้น สามารถดูได้จากกิจการจริงๆเลย ยกตัวอย่างโครงการบ้านที่บอกจะปิดโครงการนั้น
เปิดโครงการนี้ เราก็เข้าไปดูที่โครงการมันเลย ก็จะเห็นเลยว่าโอนไปเท่าไหร่ ขายไปเท่าใด จองแล้วยังไม่โอนเท่าใด
ฯลฯ เราจะเห็นตัวเลขจริงและประมาณออกมาได้จริงๆ อันนี้ต้องขยันและทำได้กับหุ้นอสังหาฯบางบริษัท
ส่วนบริษัทอื่นๆ มันก็คาดการณ์กันได้ ยกตัวอย่างบริษัทส่งออกเป็นส่วนใหญ่ แต่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นแบบนี้กำไรก็ควรจะลด
ลง เป็นต้น หรือ พวกบริษัทโรงกลั่น หรือน้ำมัน ถ้าน้ำมันขึ้นราคาแบบนี้ ค่าเงินบาทแข็งขึ้นแบบนี้ ผมก็มองว่าพวกบริษัท
ที่ทำโรงกลั่นน่าจะกำไรมากขึ้น อย่างพวก SP.... นี่ราคาน่าจะทะลุที่นักวิแคะที่วิเคราะห์มาอยู่นะครับ
ที่สำคัญต้องใช้ประสบการณ์ในการคาดการณ์ มือใหม่ก็ต้องค่อยๆสะสมประสบการณ์ เรื่องแบบนี้มันสอนกันค่อนข้างยาก
เพราะมันไม่มี pattern ตายตัวอะไรในการคาดการณ์ แต่ละบริษัทแต่ละสถานะการณ์ตลาดและการเมือง และฯลฯ มันจะไม่
เหมือนเดิมไปได้ ต้องอาศัยการสังเกตุและมีหลากหลายปัจจัยเป็นตัวประกอบด้วย
ราคาหุ้นร่วงหลายบาทเลย เพราะมีคนรู้ก่อนตลาดรู้แน่นอน การไปเช็คกับฝ่ายบัญชีหรือเสมียนฯลฯ ของบริษัทมหาชน
ตามกฏหมายแล้วจะไม่สามารถทำได้เพราะเค้าบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนพวกนี้บางคนก็คงจะบอกพรรคพวกหรือตัวเอง
ก็เทรดเอง ยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็น ถ้าเค้าขายหุ้นออกมา(แต่มีกำหนดว่าต้องก่อนการประกาศงบเป็นระยะเวลาเท่าใด)
ก็น่าเชื่อได้ว่าผลประกอบการอาจจะไม่ดี อะไรแบบนี้ ฯลฯ เป็นต้น
ส่วนเรื่องการคาดการณ์จริงๆนั้น สามารถดูได้จากกิจการจริงๆเลย ยกตัวอย่างโครงการบ้านที่บอกจะปิดโครงการนั้น
เปิดโครงการนี้ เราก็เข้าไปดูที่โครงการมันเลย ก็จะเห็นเลยว่าโอนไปเท่าไหร่ ขายไปเท่าใด จองแล้วยังไม่โอนเท่าใด
ฯลฯ เราจะเห็นตัวเลขจริงและประมาณออกมาได้จริงๆ อันนี้ต้องขยันและทำได้กับหุ้นอสังหาฯบางบริษัท
ส่วนบริษัทอื่นๆ มันก็คาดการณ์กันได้ ยกตัวอย่างบริษัทส่งออกเป็นส่วนใหญ่ แต่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นแบบนี้กำไรก็ควรจะลด
ลง เป็นต้น หรือ พวกบริษัทโรงกลั่น หรือน้ำมัน ถ้าน้ำมันขึ้นราคาแบบนี้ ค่าเงินบาทแข็งขึ้นแบบนี้ ผมก็มองว่าพวกบริษัท
ที่ทำโรงกลั่นน่าจะกำไรมากขึ้น อย่างพวก SP.... นี่ราคาน่าจะทะลุที่นักวิแคะที่วิเคราะห์มาอยู่นะครับ
ที่สำคัญต้องใช้ประสบการณ์ในการคาดการณ์ มือใหม่ก็ต้องค่อยๆสะสมประสบการณ์ เรื่องแบบนี้มันสอนกันค่อนข้างยาก
เพราะมันไม่มี pattern ตายตัวอะไรในการคาดการณ์ แต่ละบริษัทแต่ละสถานะการณ์ตลาดและการเมือง และฯลฯ มันจะไม่
เหมือนเดิมไปได้ ต้องอาศัยการสังเกตุและมีหลากหลายปัจจัยเป็นตัวประกอบด้วย
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ตลาดหลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์
สงสัยเรื่องการคาดการณ์งบของแต่ละบริษัทค่ะ
สงสัยว่า การคาดการณ์ งบ Q นั่น Q นี่... ว่าเป็นเท่าไร
ทำไมเราไม่ไปเช็คกับ ฝ่ายบัญชี หรือ การเงิน หรือ เสมียน ของบริษัทนั้นๆ เลยคะ?
แบบ ...... นักข่าวไปตีซี้ หรือ ทำความรู้จักกับฝ่ายที่รู้ เช่น บช หรือ เด็กพิมพ์ข้อมูล
หรือ การทำแบบนี้ มันผิด กฏหมายคะ ?
ขอความรู้ด้วยค่ะ