เอา 10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ มาฝากจ๊ะ

10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ


     กลับมาแล้วกับ Catdeva.com ที่มาพร้อมเกร็ดน่ารู้เคล็ดไม่ลับสำหรับทาสแมวใจบุญ...
     แอดมินกลับมาแล้วค่ะกลับมาพร้อมความคิดที่ว่ามีแมวจรเยอะเหมือนกันนะดังที่หลายๆท่านเห็นกันในเฟซบุ๊กและสื่อโซเชียล ซึ่งมีการโพสต์ประกาศหาบ้านให้แมวจรทั้งลูกแมวและแมวโตเต็มวัย มีหลายท่านรับแมวจรเหล่านี้ไปเลี้ยงบ้างก็ช่วยกันแชร์ประกาศหาบ้านออกไปเพื่อจะมีใครสักคนได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่าแมวจรตัวน้อยให้มากขึ้น
     การรับเลี้ยงแมวจรทำให้รอยยิ้มของทาสแมวเปล่งประกายแต่ก็มีหลายครั้งที่เจ้าของคนใหม่ยังไม่เตรียมพร้อมในการเลี้ยงต่างๆทำให้เป็นเหตุจนเจ้านายตัวน้อยถูกส่งตัวกลับคืนอย่างที่มีให้เห็นกันอยู่หลายเคส Catdeva.com จึงขอเป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยทำให้แมวจรได้บ้านใหม่กันอย่างยั่งยืน ใน... 10 เคล็ดไม่ลับก่อนรับเลี้ยงแมวจรที่ทาสแมวควรทราบ
1.พื้นที่
     ว่าด้วยเรื่องพื้นที่แม้จะไม่มีกฎตายตัวเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยงแมวที่แน่ชัดนัก จริงอยู่ที่การเลี้ยงแมวไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะแต่การเลี้ยงในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆก็อาจสร้างภาระให้กับแมวของเราได้เหมือนกันค่ะดังนั้นทาสแมวที่ต้องการเลี้ยงเจ้านายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดควรเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่ให้เจ้านายได้เดินเล่นวิ่งเล่นมากกว่าการเลี้ยงภายในหอพัก หรือในคอนโดมิเนียมเนื่องจากการเลี้ยงในห้องพักแคบๆ จะทำให้เจ้านายเกิดความเครียดสะสมจนล้มป่วยได้ง่ายมากกว่าแมวที่เลี้ยงในบ้านนอกจากนี้คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์การแอบเลี้ยงก็ทำให้ผิดกฎระเบียบเสี่ยงต่อการถูกไล่ออกจากที่พักได้ด้วยค่ะใครพักคอนโดเป็นไปได้ก็ควรตัดใจเรื่องเลี้ยงแมวไปก่อนเพื่อรอยยิ้มของทาสแมวและของเจ้านายอย่างยั่งยืนค่ะ
2.ค่าใช้จ่าย
     การเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องใช้เงินพอสมควรเลยค่ะเมื่อแรกเลี้ยงเราก็ต้องพาไปตรวจสุขภาพฉีดวัคซีนตามกำหนด ไหนจะมีค่าอาหารค่าทรายแมวค่าของเล่นแมวต่างๆที่ทาสแมวชอบซื้อ หากแมวป่วยจนต้องหาหมอก็จะมีค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยสำหรับน้องๆนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง หากต้องเลี้ยงแมวแต่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้คนเดียวพี่ Catdeva.com แนะนำว่าพักโครงการไว้ก่อน ระหว่างนี้ก็หารายได้พิเศษเก็บออมไว้เป็นค่าใช้จ่ายของการเลี้ยงแมวในอนาคตค่ะ
3.เวลา
     แม้แมวจะเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูงแต่อย่างไรก็ตามทาสแมวควรมีเวลาให้กับเจ้านายอย่างเต็มที่ด้วยค่ะบ่อยครั้งที่เลี้ยงแมวในพื้นที่ปิดเมื่อเจ้าของไม่อยู่แมวจะเกิดอาการเครียดจนนำไปสู่การป่วยด้วยโรคต่างๆตามมาสำหรับทาสแมวที่อยู่กัน 1 คนกับแมว 1 ตัว หากต้องเดินทางไปไหนเป็นเวลานาน ควรนำเจ้านายไปฝากญาติ หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ หรือฝากโรงแรมแมวก็ได้ค่ะ ซึ่งโรงแรมแมวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบริการสำหรับทาสแมวนักเดินทางเชียวนะ
4.อายุขัย
     โดยพื้นฐานเฉลี่ย แมวจะมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 10 ปี สำหรับทาสแมวบ้านไหนเลี้ยงและดูแลเจ้านายเป็นอย่างดี ก็อาจมีอายุยืนมากถึง 20 ปีเลยค่ะ การเลี้ยงดูแมวในช่วงอายุต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันออกไป แบ่งเป็นช่วงวัยใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ค่ะ
     - แมวเด็ก ลูกแมวจะมีความซน และอยากรู้อยากเห็นหนักมาก งานหลักของเจ้านายในวัยนี้ มีแค่ กิน เล่น ขับถ่าย นอน ช่วงนี้ทาสแมวอย่างเราก็ต้องอดทนกันก่อนนะคะ ข้าวของอะไรที่แตกหักง่ายเก็บเข้าที่เข้าทางไว้ก่อน
     - แมววัยรุ่น จากความซน เป็นคึกคักพร้อมออกล่าอาณาเขต และผสมพันธุ์ สำหรับแมวตัวผู้หากเลี้ยงแบบเปิด แมวมีอิสระในการเดินเที่ยว ทั้งออกไปตระเวนสร้างเขตอาณานิคม ยิ่งเป็นช่วงติดสัดก็ให้เหล่าทาสแมวเผื่อใจไว้เจ็บได้เลยค่ะ ว่าเจ้านายจะหายจากบ้านไปหลายวันหน่อย
     - แมวชรา แมวที่อายุ 10 ปีขึ้นไป สภาพร่างกายของเขาเทียบเท่าคนในวัย 60 ปีเพราะฉะนั้นความปราดเปรียวต่าง ๆ ก็ลดน้อยถอยลง จากที่ออกไปวิ่งเล่น เจ้านายก็จะนอนติดบ้านมากขึ้น โรคภัยเริ่มรุมเร้าบ่อยขึ้น ช่วงวัยนี้ทาสแมวต้องเอาใจใส่เป็นอย่างดีค่ะ
5.อาหาร
     การเลือกอาหารจะสอดคล้องกับช่วงวัยของเจ้านายแมวของเราค่ะ
     - แมววัยเด็ก แรกเกิดมาดูดนมแม่ดีที่สุด หากแม่แมวมีนมไม่เพียงพอ ผู้เลี้ยงสามารถให้นมแพะ หรืออาหารแทนนมสำหรับลูกแมวได้ค่ะ แต่!!! ห้ามให้ลูกแมวกินนมวัวเด็ดขาด เพราะลูกแมวไม่สามารถย่อยเลคโตสในนมวัวที่มีปริมาณมากได้ หากเผลอให้เจ้านายกินเข้าไป ก็จะมีอาการปวดท้อง หรือท้องเสียได้ อันตรายสุด ๆ เมื่อโตขึ้นมาอีกหน่อย สามารถให้อาหารเปียกสำหรับลูกแมวได้ค่ะ
     - แมววัยรุ่น แมวในวัยนี้ให้ได้ทั้งอาหารเปียก และอาหารเม็ดซึ่งอาหารแต่ละแบบ ก็จะมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย เช่น รสปลาทู รสปลาทูน่า รสทะเล เป็นต้น ทาสแมวอย่างเราสายเปย์อยู่แล้ว สับเปลี่ยนรสชาติให้เจ้านายชิมได้เลยค่ะ
     - แมวชรา ควรให้อาหารรสชาติไม่เค็มจนเกินไป และหมั่นสังเกตพฤติกรรมการกินของเจ้านาย ปรับให้เหมาะสมค่ะ


6.ลักษณะนิสัย
     แมวก็เหมือนกับมนุษย์ ที่แต่ละตัว ก็มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป เมื่อรับแมวมาเลี้ยงใหม่ เหล่าทาสแมวควรหมั่นสังเกตว่าเจ้านายแต่ละตัวมีอุปนิสัยอย่างไร บางตัวอาจจะอยากรู้อยากเห็น บางตัวนิ่ง ๆ บางตัวเป็นผู้เสียสละ เมื่อสังเกตแล้วพบว่าตัวใดตัวหนึ่งมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกไป ควรพาไปพบแพทย์เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการป่วยค่ะ
7.สุขภาพ
     สุขภาพของแมวที่ดี เกิดได้ด้วยปัจจัยหลายอย่างค่ะ เช่น
- การดูแลเอาใจใส่ ทาสแมวต้องแสดงความรักแก่เจ้านายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เจ้านายมีสุขภาพจิตดี แจ่มใส
- ร่างกายแข็งแรง ทาสแมวต้องพาเจ้านายไปตรวจสุขภาพเป็นประจำตามแพทย์สั่ง และฉีดวัคซีนให้ครบตามจำนวนด้วยนะคะ ซึ่งวัคซีนสำคัญ ๆ และอายุที่ควรนำไปฉีด ได้แก่
วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หวัดแมว (เพิ่ม โรคติดเชื้อคลามัยเดีย) อายุ 8 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 10 สัปดาห์
วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หวัดแมว โรคลิวคีเมีย และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อายุ 12 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 14 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย และวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ อายุ 16 สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว อายุ 18สัปดาห์
วัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ อายุ 20สัปดาห์
- อาหารการกิน ควรให้เจ้านายอย่างถูกประเภท ไม่ควรให้อาหารของคนเพราะเมื่อสะสมในร่างกายจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่าย
- การขับถ่าย เรื่องการขับถ่ายก็สำคัญ บ้านไหนที่เลี้ยงแบบปิด ควรมีกะบะทรายแมวให้เพียงพอต่อการใช้งานของเหล่าเจ้านาย เพราะหากกะบะทรายไม่พอ จะทำให้เจ้านายเครียดได้ค่ะ เปลี่ยนและถ่ายเททรายแมวอย่างสม่ำเสมอไม่หมักหนม


8.เพศ
     ส่วนใหญ่ทาสแมว มักชอบเลี้ยงแมวเพศผู้ เพราะแมวจะไม่ท้อง!! แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะแมวเพศใด ก็น่ารักทั้งหมดเลยค่ะ หากเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเลี้ยงแมวเพศเมีย แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดลูกแมวตัวจิ๋ว คือการจับแมวทำหมันค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องบาปกรรม เพราะการทำหมันเป็นกลไกอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันทั้งโรคภัย ทั้งปัญหาสังคมลูกแมวถูกทิ้งต่าง ๆ ส่วนแมวเพศผู้ หากไม่อยากให้คึกคะนองวิ่งหายออกไปติดสัดนอกบ้าน การทำหมันจะช่วยให้เขาอยู่ติดบ้าน และลดอารมณ์เกรี้ยวกราดอยู่ร่วมกับสมาชิกในบ้านได้อย่างมีความสุขค่ะ
9.อายุ
     ทาสแมวส่วนใหญ่ มักรับแมวจรมาเลี้ยงทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่า แมวที่รับมานั้นมีอายุมากน้อยเท่าไหร่ และมักไม่ค่อยอยากรับเลี้ยงแมววัยรุ่น หรือแมวชราเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเข้ากับแมว หรือหมาที่เลี้ยงไว้อยู่ก่อนแล้วไม่ได้ ทาสแมวที่ต้องการรับเลี้ยงแมวจร จึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ว่าบ้านของเรานั้นพร้อมหรือไม่ ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว พฤติกรรมของพวกเขาเป็นอย่างไร มีแนวโน้มไม่ต้อนรับสมาชิกใหม่ใช่หรือไม่ จากนั้นมาดูที่ช่วงอายุของแมวจรที่ต้องการรับเลี้ยงประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ โดยซักถามจากหน่วยงานที่ช่วยเหลือแมวจรให้ละเอียดถี่ถ้วน เมื่อองค์ประกอบผ่านทุกข้อ ก็รับแมวจรมาเป็นสมาชิกใหม่ได้เลยค่ะ
10.รับเลี้ยงแมวจรจัด
     ในยุคที่สื่อโซเชี่ยลเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย เป็นอีกช่องทางที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์จรจัดจะอวดโฉมน้องแมวตาดำๆ ไร้บ้าน เพื่อให้เหล่าทาสผู้ใจบุญรับไปดูแลต่อ เหล่าทาสแมวลองเช็คลิสต์ความพร้อมทั้งหมดนี้ และเลือกองค์กรช่วยเหลือแมวจรที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้ หากมีความพร้อมในการรับเลี้ยงแน่นอน ก็ต้อนรับสมาชิกใหม่กันได้เลยค่า

ที่มา : http://www.catdeva.com
FB : http://www.facebook.com/catdevathai/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่