สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน
ทริปนี้เริ่มจากการอยากไปชิคดูทะเลหมอก (แต่ไม่เจอทะเลหมอก) ช่วง 3-4 มกราคม 2018 นี้เอง
ตั้งใจไปเที่ยวเขาค้อและกลับมาทำรีวิวเป็นครั้งแรก
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าาาาา

เริ่มออกเดินทางวันแรก 04.30 น. จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ถนนพหลโยธิน โดยใช้เส้นกาญจนาภิเษก


ออกเดินทางพร้อมน้ำมันเต็มถัง เข้าสู่จังหวัดสระบุรีตอนฟ้าสว่าง ก้มมองอีกที เหลือขีดเดียวแล้ววว
เลยแวะเติมแวะพักกันสักหน่อย


จัดไปเต็มถังอีกรอบสบายใจ ซิ่งต่อได้
ตาม GPS ไปเรื่อยๆมุ่งสู่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นจุดหมายแรกของวันนี้
เราไปถึงประมาณบ่ายโมง แต่วนหาที่จอดแล้วเลยวัดไป ก็เลยตามเลย
ขับไปเรื่อยๆ ไปโผล่ Pino Latte กาแฟหลักร้อย วิวหลักล้าน


จัดเลย Iced Caramel Macchiato กับ Hot Americano


รวมค่าเสียหายแล้ว 190.- กาแฟหลักร้อย มาดูวิวหลักร้านกัน
เห็นไม่เจอหมอกแบบนี้ 16 องศาเบาๆ






ที่ Pino Latte นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังมีที่พักอยู่ด้านล่างด้วย

ป้ายของร้านเป็น signature แต่คนเยอะมากกกก เลยถ่ายได้แต่ไกลๆ

ดื่มด่ำบรรยากาศพอสมควร ขับย้อนกลับไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอีกครั้ง
แต่ไม่ได้เข้าไปถึงด้านในเพราะคนเยอะมากๆ
ทางวัดมีบริการที่จอดรถฟรี แต่เราหาลานจอดนั้นไม่เจอ
เลยไปจอดอีกที่หนึ่ง เสียค่าจอด 30.-

ที่จอดเป็นขั้นบันได แนะนำอย่าจอดลงไปเยอะมาก ตอนเดินขึ้นถึงกับหอบเลยทีเดียว

วัดกำลังอยู่ในช่วงบูรณะ และยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี เลยชักภาพมาพอเป็นพิธี

ทางเดินจากที่จอดรถเข้าไปยังวัด



เลยเวลาเช็คอินมาสองชั่วโมงได้ ถึงเวลากลับไปพักร่าง
ถึงที่พักของเราแล้วววว The Terrace View Resort เขาค้อ
ทางเข้าที่พักอาจจะหวาดเสียวนิดหน่อย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มัวแต่ตื่นเต้นเหงื่อตกกันอยู่
พอลงไปถีงที่พัก หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง



ทางเดินจากหน้ารีสอร์ทไปยังที่พัก ซึ่งที่นี่มีที่พักเพียง 10 ห้องเท่านั้น (แต่มีเต้นท์อยู่ทางด้านล่างของห้องพัก)

ห้องที่เราพักเป็นห้องที่ 8 และ 9 เมื่อมาถึงจะมีคนของรีสอร์ทมาต้อนรับและเตรียมรถขนของให้แถมช่วยขนอีกด้วย
ถือเป็นความประทับใจแรก เมื่อถึงห้องพักก็ยิ่งประทับใจไปอีกกกกกก

ต่อไปนี้จะรีวิวห้องพักและบรรยากาศรอบๆจากภาพกันโล้ด









พักกินข้าวเย็นกันบนล็อบบี้ของรีสอร์ทหลังจากเอนหลังกันพอสมควรแล้ว
ทางรีสอร์ทมีบริการร้านอาหารหากผู้เข้าพักไม่อยากออกไปข้างนอก

เมนูอาหารของทางรีสอร์ท


เราก็จัดมา 5 อย่าง กินกัน 4 คน

ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำจิ้มซีฟู้ด

ปลาทับทิมทอดกระเทียม

ดอลลี่ป๊อป ซอสเลมอน (อันนี้เด็ดสุด)

เอ็นไก่ทอด

ต้มยำซี่โครงหมู

มาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ทางรีสอร์ทมีมุมให้ถ่ายรูปอยู่บนร้านอาหารชั้น 2 (ขอบอก สวยมากๆ)



รูปนี้แฟนรีเควสขอลงหน่อย

ถ่ายรูปเล่นกันได้พักใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว


เดินกลับห้องพักสักพัก น้ำตาลก็ตก รู้สึกอยากของหวานขึ้นมา เลยจัดเค้กมาสัก 1 ชิ้น เบาๆ
มีบริการมาส่งถึงหน้าห้อง (คืนนี้ก็ 16 องศาเอ๊งง)

ได้เวลากลับแล้วววววว ฮื่อออออ
ตื่นเช้าไปหาหมอกสักหน่อย แต่เหมือนเราจะดวงไม่ดี อากาศเย็นแต่ไร้หมอก


ถึงเวลาอาหารเช้า อาหารเช้าทางรีสอร์ทจะเริ่มเวลา 7.00-9.00 น.
อาหารเช้าจะจัดให้เป็นเซ็ท ข้าวต้มสามารถเติมได้ เครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง ผลไม้ เป็นบุฟเฟ่ต์
คงไม่เห็นภาพ มาดูรูปกันดีกว่า






บริเวณที่นั่งทานอาหารเช้า



มุมถ่ายรูปเล็กน้อย

บริเวณล็อบบี้ของทางรีสอร์ท


ออกจากรีสอร์ทกลับกรุงเทพ ขอแวะซื้อของฝากหน่อยย
ของขึ้นชื่อเพชรบูรณ์ ก็ต้อง มะขามมมมมมม
แม่ค้าร้านนี้ใจดี ขายถูก ลดแลกแจกแถมกันไป



ซื้อไปซื้อมา แม่ค้าแถมมะขามแช่อิ่มให้กินเล่นเป็นถุงเลย

แวะกินข้าวเที่ยงก่อนกลับซักหน่อย
ร้านขึ้นชื่อของเขาค้อ

เมนูทางร้าน


สั่งอาหารไป 4 รายการ
ผัดลูกฟักแม้วใส่ไข่

ลาบเหนือ (แนะนำให้สั่ง)

ต้มจืดกระดูกหมูลูกฟักแม้ว

ผัดฉ่าปลาคัง

ทุกเมนูกินกับผักสดอร่อยแรงงงงงงง

กินคาวเสร็จแล้วก็ต่อหวาน ที่ร้านนี้มีร้านกาแฟอยู่หน้าร้านด้วย




หมดค่าเสียหายไปทั้งคาวและหวาน 595.-

จบทริปเขาค้อไปอย่างมีความสุข แต่ก็มีอีกหลายที่ที่ไม่ได้แวะ เพราะเวลาไม่พอจริงๆ
แนะนำใครที่อยากไป อย่างน้อยพักสองคืนกำลังดี
ค่าเสียหายของทริปนี้โดยประมาณ
- ค่าที่พัก 2 ห้อง 1 คืน 2,800 x 2 = 5,600.-
- ค่าน้ำมันตลอดทริป E20 ประมาณ 2,000.-
- ค่าอาหารที่รีสอร์ทและร้านลาบเหนือ 1,200 + 600 = 1,800.-
- กาแฟที่ Pino Latte 195.-
รวมแล้วประมาณ 10,600.- ไม่ได้เป็นทริปที่ประหยัดเท่าไร กลับมาต้มมาม่ากินต่อ

ภาพรวมของรีสอร์ทนี้ 9/10 ไปเลย ทั้งบริการ บรรยากาศ ความสุภาพของพนักงาน รสชาดอาหาร

สุดท้ายนี้ผู้ร่วมทริปของเรา Suzuki Ertica (น้องไข่มุก) และกล้อง Fuji Xa-10