วงเสวนาถกปมนาฬิกา’บิ๊กป้อม’ ‘จ่านิว’ซัดบรรทัดฐานมองทุจริต (คลิป)
https://www.matichon.co.th/news/818821
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 มกราคม ที่สวนครูองุ่น ทองหล่อ ซอย 3 ได้มีการจัดเวทีเวลาประชาชนและเสวนา
“คอร์รัปชั่น 4.0” โดยมีนาย
วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น นายสิ
รวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ
จ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ น.ส.
สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ และนาย
เอกชัย ไชยนุวัติ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเสวนา
นาย
วีระกล่าวว่า อยากมายืนยันต่อสังคมอีกครั้งหนึ่งเรื่องนาฬิกาและแหวนของ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั่นคือ ยื่นร้องใน 2 ความผิด
1.การจงใจปกปิดข้อความจริง และ
2.ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งการไม่แจ้ง
หมายความว่า ไม่ต้องการเปิดเผย ถ้าเอามาโชว์แปลว่าท้าทายกฎหมาย เพราะ กฎหมาย ป.ป.ช.บอกว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคือรัฐมนตรี เมื่อดำรงตำแหน่งต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน ถ้าไม่แจ้งถือว่า ปกปิด เมื่อบอกว่าเป็นของเพื่อนก็ไม่ต้องแจ้ง ในทางกฎหมายเข้าข่ายเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ
น.ส.
สฤณีกล่าวว่า การมีคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในเมืองไทยสะท้อนให้เห็นว่า ยังไม่ค่อยเป็น 4.0 แต่ในทางพลเมืองไทยนั้นจะเป็น 4.0 ก่อน อาทิ หากเป็นเมื่อก่อนที่ไม่มีโซเชียลมีเดีย เรื่องนาฬิกาและแหวนคงเกิดเป็นประเด็นได้ยาก และนี่คือการใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ และทิศทางนี้สอดคล้องกับเรื่องความโปร่งใสสุดขั้ว (
radical transparency) คือการเติบโตของอินเตอร์เน็ต ที่ในรัฐบาลต่างประเทศมีความเห็นว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งทางรัฐและประชาชน
นาย
สิรวิชญ์กล่าวว่า เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น สังคมไทยพูดเรื่องนี้ตลอดเวลา แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ บรรทัดฐานในการมองการทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถเป็นข้อหาทำลายอีกฝั่งหนึ่งได้ นี่คือปัญหาสำคัญ จะตีความอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองรอด แต่เหยียบอีกฝ่ายหนึ่งให้จมดิน ทำให้ไม่เข้าใจว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นาย
เอกชัยกล่าวว่า ในครั้งสุดท้ายที่ ป.ป.ช.แถลงเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.
ประวิตร มีนักข่าวถามเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 103 ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวกับเรื่องการกระทำต้องห้ามว่าด้วยผลประโยชน์ส่วนรวม และผลประโยชน์ส่วนตน จากคู่มือ ป.ป.ช. บอกไว้ว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลหรือใดๆ ก็ตาม คำว่าห้ามก็ไม่ต้องตีความ ห้ามก็คือห้าม แต่จะรับได้ในกรณีไหนบ้าง ที่จะรับได้คือ ต้องมีลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
“ปัญหาทางการเมืองไม่สามารถแก้ได้ด้วยรัฐประหาร ความชอบทางการเมืองก็เป็นความชอบ การแก้ปัญหาที่ดีก็เหมือนวันนี้ มารวมกันเปิดใจรับฟัง เราต้องเชื่อมั่นในพลังของราษฎร และศาลจะต้องสนับสนุนพลังของประชาชนในส่วนนี้” นาย
เอกชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการตั้งโต๊ะให้ผู้เข้ารับฟังการเสวนาร่วมลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. … (ฉบับประชาชน) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราความเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเริ่มงานตลอดจนจบงานเสวนา
ต่อมาเวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมเสวนา นาย
เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ได้ทำการนับคะแนน
“การเลือกตั้ง (นาฬิกา)” หลังให้ผู้มาร่วมงานร่วมลงคะแนนเลือกรุ่นนาฬิกาจากทั้งหมด โดยรุ่นที่ได้คะแนนมากที่สุด ได้แก่ นาฬิการุ่น
ริชาร์ด มิลล์ ซึ่งนาย
เอกชัย เผยว่า จะถูกนำไปตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์ และนำไปมอบให้ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อไป
จากนั้น เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้เคลื่อนตัวไปขึ้นรถไฟฟ้า สถานีทองหล่อ เพื่อเดินทางไปยัง สกายวอล์ก ปทุมวัน ในการร่วมกิจกรรม
“แสดงพลังต้าน สืบทอดอำนาจ คสช.” ภายใต้แนวคิด นัดรวมพล คนอยากเลือกตั้ง เบื่อคอร์รัปชั่น เกลียดการละเมิดสิทธิ
JJNY : วงเสวนาถกปมนาฬิกา’บิ๊กป้อม’ ‘จ่านิว’ซัดบรรทัดฐานฯ/'วีระ' ชี้รัฐต้องการปราบคอร์รัปชั่น ปชช.มาช่วยจับโกงผิดตรงไหน
https://www.matichon.co.th/news/818821
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 มกราคม ที่สวนครูองุ่น ทองหล่อ ซอย 3 ได้มีการจัดเวทีเวลาประชาชนและเสวนา “คอร์รัปชั่น 4.0” โดยมีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ และนายเอกชัย ไชยนุวัติ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเสวนา
นายวีระกล่าวว่า อยากมายืนยันต่อสังคมอีกครั้งหนึ่งเรื่องนาฬิกาและแหวนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั่นคือ ยื่นร้องใน 2 ความผิด
1.การจงใจปกปิดข้อความจริง และ
2.ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งการไม่แจ้ง
หมายความว่า ไม่ต้องการเปิดเผย ถ้าเอามาโชว์แปลว่าท้าทายกฎหมาย เพราะ กฎหมาย ป.ป.ช.บอกว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคือรัฐมนตรี เมื่อดำรงตำแหน่งต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน ถ้าไม่แจ้งถือว่า ปกปิด เมื่อบอกว่าเป็นของเพื่อนก็ไม่ต้องแจ้ง ในทางกฎหมายเข้าข่ายเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ
น.ส.สฤณีกล่าวว่า การมีคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในเมืองไทยสะท้อนให้เห็นว่า ยังไม่ค่อยเป็น 4.0 แต่ในทางพลเมืองไทยนั้นจะเป็น 4.0 ก่อน อาทิ หากเป็นเมื่อก่อนที่ไม่มีโซเชียลมีเดีย เรื่องนาฬิกาและแหวนคงเกิดเป็นประเด็นได้ยาก และนี่คือการใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ และทิศทางนี้สอดคล้องกับเรื่องความโปร่งใสสุดขั้ว (radical transparency) คือการเติบโตของอินเตอร์เน็ต ที่ในรัฐบาลต่างประเทศมีความเห็นว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารง่ายขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งทางรัฐและประชาชน
นายสิรวิชญ์กล่าวว่า เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น สังคมไทยพูดเรื่องนี้ตลอดเวลา แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ บรรทัดฐานในการมองการทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถเป็นข้อหาทำลายอีกฝั่งหนึ่งได้ นี่คือปัญหาสำคัญ จะตีความอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองรอด แต่เหยียบอีกฝ่ายหนึ่งให้จมดิน ทำให้ไม่เข้าใจว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่นที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นายเอกชัยกล่าวว่า ในครั้งสุดท้ายที่ ป.ป.ช.แถลงเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร มีนักข่าวถามเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 103 ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวกับเรื่องการกระทำต้องห้ามว่าด้วยผลประโยชน์ส่วนรวม และผลประโยชน์ส่วนตน จากคู่มือ ป.ป.ช. บอกไว้ว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลหรือใดๆ ก็ตาม คำว่าห้ามก็ไม่ต้องตีความ ห้ามก็คือห้าม แต่จะรับได้ในกรณีไหนบ้าง ที่จะรับได้คือ ต้องมีลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
“ปัญหาทางการเมืองไม่สามารถแก้ได้ด้วยรัฐประหาร ความชอบทางการเมืองก็เป็นความชอบ การแก้ปัญหาที่ดีก็เหมือนวันนี้ มารวมกันเปิดใจรับฟัง เราต้องเชื่อมั่นในพลังของราษฎร และศาลจะต้องสนับสนุนพลังของประชาชนในส่วนนี้” นายเอกชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการตั้งโต๊ะให้ผู้เข้ารับฟังการเสวนาร่วมลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. … (ฉบับประชาชน) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราความเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเริ่มงานตลอดจนจบงานเสวนา
ต่อมาเวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมเสวนา นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ได้ทำการนับคะแนน “การเลือกตั้ง (นาฬิกา)” หลังให้ผู้มาร่วมงานร่วมลงคะแนนเลือกรุ่นนาฬิกาจากทั้งหมด โดยรุ่นที่ได้คะแนนมากที่สุด ได้แก่ นาฬิการุ่นริชาร์ด มิลล์ ซึ่งนายเอกชัย เผยว่า จะถูกนำไปตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์ และนำไปมอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อไป
จากนั้น เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้เคลื่อนตัวไปขึ้นรถไฟฟ้า สถานีทองหล่อ เพื่อเดินทางไปยัง สกายวอล์ก ปทุมวัน ในการร่วมกิจกรรม “แสดงพลังต้าน สืบทอดอำนาจ คสช.” ภายใต้แนวคิด นัดรวมพล คนอยากเลือกตั้ง เบื่อคอร์รัปชั่น เกลียดการละเมิดสิทธิ