เห็นศาลฎีกาพิพากษายืน
ว่าคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่สั่งปลดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการฐานทุจริต นั้นไม่ชอบ พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง
(คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าคำสั่งปลดถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้อง และศาลฎีกาพิพากยืนตามศาลอุทธรณ์)
สลิ่มก็เย้ว ๆ แบบไม่รู้เรื่องตามเคย ว่าอภิสิทธิ์ยังเป็นร้อยตรีอยู่อย่างถูกต้องทุกประการ
ผิดครับ ไม่จริงครับ
ตามกระบวนการทางกฎหมาย
อภิสิทธิ์นั้น ขาดทั้งศักดิ์และสิทธิ์ในการเป็นนายทหารครับ
เพราะ
หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ ใช้เอกสารปลอมในการขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตร (ร้อยตรีเก๊)
ซึ่งเป็นผลจากการที่กระทรวงกลาโหมได้สอบสวน และมีหลักฐานชัดว่าอภิสิทธิ์ผิดจริง ทั้ง 3 กรณี
อภิสิทธิ์ผ่อนผันไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนถึงปี 2529 เรียนจบ กลับไทย
ต้องไปทำการเกณฑ์ทหารในปี 2530 เพราะไม่มีเหตุให้ผ่อนผันแล้ว และไม่ได้ขอผ่อนผัน
อภิสิทธิ์หนีการเกณฑ์ทหารในปี 2530 แล้วย่องไปสมัครเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม
ได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ปี 2531 อภิสิทธิ์ใช้เอกสารปลอม คือใบ สด.9 ปลอม เพื่อนำไปขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตร

(ปลอมขนาดไหน ก็ขนาดชื่อมารดาของอภิสิทธิ์ผิดนั่นแหละครับ)
ทำไมต้อง สด.9 เก๊ นั่นก็เพราะหากใช้ของปี 2530 ก็จะพบว่าอภิสิทธิ์หนีทหารในปีนั้น
จึงต้องใช้ของปลอมเป็นปี 2531 ซึ่งเป็นของเก๊ไปใช้ในการประดับยศร้อยตรี
หลังจากได้ประดับยศร้อยตรี(เก๊) ในปี 2531 อภิสิทธิ์ก็เป็นายร้อยเก๊อยู่ราว ๆ 35 วัน
แล้วก็ยื่นใบลาออกจากราชการ ให้มีผลในเดือนเมษายน2532 (เพื่อจะได้ดำรงตำแหน่งครบปี ในการรับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร)
ขณะที่รอให้ใบลาออกมีผล อภิสิทธิ์ก็ลาราชการตั้งแต่เดือน ก.ย.2531 - เมษายน 2532
รวมกว่าสองร้อยวัน
ไม่เส้นใหญ่จริง ลากิจไม่ได้หรอกครับสองร้อยกว่าวัน
เมื่อกลาโหมตรวจสอบแล้ว (ตามหนังสือสอบถามของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าคดีอภิสิทธิ์หนีทหารดำเนินการถึงไหน)
พบว่าอภิสิทธิ์ หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ ก็ส่งเรื่องให้กองทัพบอกดำเนินการ
ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของกองทัพบก ที่จะดำเนินการต่อไป
ทำการเพิกถอนคำสั่งบรรจุราชการ ถอดยศร้อยตรี เรียกคืนเบี้ยหวัดเงินเดือน ตัดศักดิ์และสิทธิ์ความเป็นทหารทุกประการ
ส่วนคดีหนีทหาร หมดอายุความ เอาผิดไม่ได้ ไม่มีโทษ ลอยนวล
ก็รอครับ ว่ากองทัพบกจะดำเนินการเมื่อไร ทั้งที่กลาโหมส่งเรื่องให้ไปตั้งแต่ปี 2555
ส่วนเรื่องศาลฎีกาพิพากษว่าคำสั่งปลดออกจากราชการฐานทุจริตไม่ถูกต้องนั้น
เป็นเรื่องของการชี้ว่า คำสั่งปลดออกมิชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ใช่เรื่องบอกว่า อภิสิทธิ์ไม่ได้หนีทหาร ไม่ได้เข้ารับราชการโดยมิชอบ ไม่ใช่นายร้อยเก๊
คนละเรื่อง
สรุปก็คือ หากคำสั่งปลดออกฐานทุจริตถูกต้อง จะมีผลทำให้อภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติ ลงเลือกตั้งไม่ได้
อภิสิทธิ์จึงร้องต่อศาลแพ่ง ว่าคำสั่งปลดออกฐานทุจริตนั้นมิชอบ เพราะไม่ได้ทุจริต
แต่หากจะปลดออกเพราะหนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ ก็ทำไป
เพราะไม่ทำให้เสียสิทธิ์ในการลงเลือกตั้ง
เข้าใจไหมครับคุณหลิ่ม
สลิ่มครับ อย่าเข้าใจผิดในเรื่องอภิสิทธิ์หนีทหารครับ อภิสิทธิ์นั้น ขาดทั้งศักดิ์และทั้งสิทธิ์ครับ ..... โดย หล่ออินเลิฟ
ว่าคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่สั่งปลดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการฐานทุจริต นั้นไม่ชอบ พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง
(คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าคำสั่งปลดถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้อง และศาลฎีกาพิพากยืนตามศาลอุทธรณ์)
สลิ่มก็เย้ว ๆ แบบไม่รู้เรื่องตามเคย ว่าอภิสิทธิ์ยังเป็นร้อยตรีอยู่อย่างถูกต้องทุกประการ
ผิดครับ ไม่จริงครับ
ตามกระบวนการทางกฎหมาย
อภิสิทธิ์นั้น ขาดทั้งศักดิ์และสิทธิ์ในการเป็นนายทหารครับ
เพราะ หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ ใช้เอกสารปลอมในการขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตร (ร้อยตรีเก๊)
ซึ่งเป็นผลจากการที่กระทรวงกลาโหมได้สอบสวน และมีหลักฐานชัดว่าอภิสิทธิ์ผิดจริง ทั้ง 3 กรณี
อภิสิทธิ์ผ่อนผันไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนถึงปี 2529 เรียนจบ กลับไทย
ต้องไปทำการเกณฑ์ทหารในปี 2530 เพราะไม่มีเหตุให้ผ่อนผันแล้ว และไม่ได้ขอผ่อนผัน
อภิสิทธิ์หนีการเกณฑ์ทหารในปี 2530 แล้วย่องไปสมัครเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม
ได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ปี 2531 อภิสิทธิ์ใช้เอกสารปลอม คือใบ สด.9 ปลอม เพื่อนำไปขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตร
(ปลอมขนาดไหน ก็ขนาดชื่อมารดาของอภิสิทธิ์ผิดนั่นแหละครับ)
ทำไมต้อง สด.9 เก๊ นั่นก็เพราะหากใช้ของปี 2530 ก็จะพบว่าอภิสิทธิ์หนีทหารในปีนั้น
จึงต้องใช้ของปลอมเป็นปี 2531 ซึ่งเป็นของเก๊ไปใช้ในการประดับยศร้อยตรี
หลังจากได้ประดับยศร้อยตรี(เก๊) ในปี 2531 อภิสิทธิ์ก็เป็นายร้อยเก๊อยู่ราว ๆ 35 วัน
แล้วก็ยื่นใบลาออกจากราชการ ให้มีผลในเดือนเมษายน2532 (เพื่อจะได้ดำรงตำแหน่งครบปี ในการรับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร)
ขณะที่รอให้ใบลาออกมีผล อภิสิทธิ์ก็ลาราชการตั้งแต่เดือน ก.ย.2531 - เมษายน 2532
รวมกว่าสองร้อยวัน
ไม่เส้นใหญ่จริง ลากิจไม่ได้หรอกครับสองร้อยกว่าวัน
เมื่อกลาโหมตรวจสอบแล้ว (ตามหนังสือสอบถามของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าคดีอภิสิทธิ์หนีทหารดำเนินการถึงไหน)
พบว่าอภิสิทธิ์ หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ ก็ส่งเรื่องให้กองทัพบอกดำเนินการ
ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของกองทัพบก ที่จะดำเนินการต่อไป
ทำการเพิกถอนคำสั่งบรรจุราชการ ถอดยศร้อยตรี เรียกคืนเบี้ยหวัดเงินเดือน ตัดศักดิ์และสิทธิ์ความเป็นทหารทุกประการ
ส่วนคดีหนีทหาร หมดอายุความ เอาผิดไม่ได้ ไม่มีโทษ ลอยนวล
ก็รอครับ ว่ากองทัพบกจะดำเนินการเมื่อไร ทั้งที่กลาโหมส่งเรื่องให้ไปตั้งแต่ปี 2555
ส่วนเรื่องศาลฎีกาพิพากษว่าคำสั่งปลดออกจากราชการฐานทุจริตไม่ถูกต้องนั้น
เป็นเรื่องของการชี้ว่า คำสั่งปลดออกมิชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ใช่เรื่องบอกว่า อภิสิทธิ์ไม่ได้หนีทหาร ไม่ได้เข้ารับราชการโดยมิชอบ ไม่ใช่นายร้อยเก๊
คนละเรื่อง
สรุปก็คือ หากคำสั่งปลดออกฐานทุจริตถูกต้อง จะมีผลทำให้อภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติ ลงเลือกตั้งไม่ได้
อภิสิทธิ์จึงร้องต่อศาลแพ่ง ว่าคำสั่งปลดออกฐานทุจริตนั้นมิชอบ เพราะไม่ได้ทุจริต
แต่หากจะปลดออกเพราะหนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊ ก็ทำไป
เพราะไม่ทำให้เสียสิทธิ์ในการลงเลือกตั้ง
เข้าใจไหมครับคุณหลิ่ม