ไชโย..สุดท้ายก็สำเร็จ..ประโยคปิดท้ายจากตอนที่แล้ว..
และแล้วก็สำเร็จจริงๆค่ะ คุ้มค่ากับความพยายามและเวลาจริงๆ (ทั้งคนทำและคนชิม) ภริยาทำไปสามีชิมไปจนดึกมากๆค่ะคืนนั้น สามีน่ะสลบไปนานละ แต่ผู้เขียนยังนอนอมยิ้มทั้งคืนถึงหน้าตาของเจ้าไช้เถ่าก้วยที่จะ่ทำอวดสายตาประชาชีในวันต่อไป...
เดือดร้อนถึงคุณปู่คุณย่าของเด็กๆที่จะต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนอุปกรณ์ทำมาหากิน เพราะซึ้งหรือลังถึงที่คนไทยเรียกของผู้เขียนมันใบเล็กกะติ้ดเดียว สามารถรองรับการทำขนมผักกาดได้ตั้งสองถาดและใช้เวลานึ่งเพียงชั่วโมงครึ่ง ฮ่าฮ่า ถ้าจะไม่พอสำหรับนักเชลล์ชวนชิมทั้งหลาย เพราะทาเก็ตของผู้เขียนอยากได้สักห้าสิบชิ้น หมายถึงห้าถาดฟอยส์และใช้เวลานึ่งเพียงครั้งเดียว.... นึกย้อนกลับไปรู้สึกขำตัวเอง.. ว่าตอนนั้นทำไมถึงอุตสาหะได้ขนาดนั้น เตรียมหมักหมู ขูดไช้เท้า แช่เห็ด ต้มถั่ว หั่นนู่นหั่นนี่..วุ่นวายทั้งวัน เพื่อที่จะนำไปนึ่งที่บ้านคุณพ่อคุณแม่สามีแต่เช้า.า.า.. ท่านเองก็คงสนุกไปกับการได้เห็นลูกสะใภ้เล่นขายของยังไงยังงั้น.. เตรียมตั้งเตา ตั้งซึ้งให้เสร็จสรรพ...นึ่งได้ห้าถาดพอดี๊..พอดี...ความอดทนรอยังไม่สิ้นสุดค่ะ เพราะขนมจะอร่อยลงตัวต้องให้เวลาเค้าเซ็ตตัวอีกหนึ่งคืนในตู้เย็น..จากนั้นจึงหั่นและนำมาทอดอย่างใจเย็นเพื่อเซอไพรซ์ครูผู้ปกครองที่โรงเรียนค่ะ
"โอ้..ขนมผักกาด..โอ๊ะ..ไช้เถ่าก้วย ของโปรดเลย ไม่ได้ทานมานานมากแล้ว คิดถึง คิดถึง" ประโยคแรกที่ได้ยินจากทุกคน ทำเอาผู้เขียนคิดถึงบรรพบุรุษ คิดถึงอาอึ้มของตัวเอง. "อื้ม..อร่อยๆ" หยิบส่งต่อกันชิ้นต่อชิ้น... วันนั้นทั้งวันผู้เขียนไม่ต้องทานข้าวแล้วค่ะ....อิ่ม... ข้ามมาถึงวิธีทำเลยดีกว่าค่ะ แล้วจะกลับมาเล่าย้อนแบบเจาะลึกในการคัดสรรวัตถุดิบอีกครั้งค่ะ เพราะผู้ติดตามอ่านหลายๆท่านคงกำลังนึกในใจ.."นี่ผู้เขียนเค้าจะอรัมภบทไปถึงไหนเนี่ย"

ส่วนผสม: เตรียมปากกา กระดาษจดเลยนะคะ มี..หัวไช้เท้าขูด 2 กก. แป้งข้าวเจ้า 1/2 กก. แป้งมัน 1 ชต. หมูหมัก 2 ขีด เห็ดหอม 1 ขีด กุ้งแห้ง 1 ขีด ถั่ว่ลิสงต้ม 3 ขีด คึ่นช่ายและต้นกระเทียมเล็กน้อย (ส่วนผสมหลักคือหัวไช้เท้าขูด แป้งข้าวเจ้า และแป้งมันตามที่กำหนดต่อหนึ่งเซ็ต ส่วนผสมอื่นกะประมาณตามใจชอบได้เลยค่ะ ชอ่บมาใส่มาก ชอบน้อยใส่น้อย ผู้เขียนกะให้สำหรับมือใหม่ค่ะ)
เครื่องปรุงมี เกลือ น้ำตาล และพริกไทย อย่างละ 1 ชต.ค่ะ
วิธีทำ เตรียมใส่ถุงมือ แล้วทำไปช้าๆ ใจเย็นๆพร้อมกันนะคะ
1. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และเครื่องปรุงทั้งหมดลงในภาชนะทรงกลม ใหญ่หน่อยก็ดีค่ะ แป้งจะได้ไม่ฟุ้งกระจายออกมานอกภาชนะเวลาเราผสม จากนั้นใช้ช้อนเคล้าให้เข้ากันค่ะ
2. ใส่หัวไช้เท้า และส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตามลงไป ใช้สองมือค่อยๆตะล่อม ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี นวดไปหมุนภาชนะไปด้วยค่ะ ใช้เวลานิดนึงค่ะ จนกว่าเนื้อแป้งและทุกอย่างจะเข้ากันดี สังเกตว่าเมื่อนวดไปเรื่อยๆ หัวไช้เท้าจะค่อยๆคลายน้ำออกมาผสมกับเนื้อแป้ง ไม่ต้องเททิ้งนะคะ
3. เมื่อนวดจนเข้ากันดีแล้ว ค่อยๆ ตักใส่ภาชนะทรงตามที่เราต้องการ จะถ้วยกลมเล็กน่ารัก หรือถาดกลมใหญ่ขนาดสามปอนด์ หรือจะถาดฟอยส์แบบผู้เขียนก็ได้ค่ะ ให้สัดส่วนของส่วนผสมต่างๆ กระจายให้ทั่วภาชนะ แล้วตบแต่งด้านบนเพิ่มให้สวยงามน่าทาน
4. นำลงนึ่งในซึ้งที่ตั้งน้ำร้อนไว้จนเดือดจัด (เน้นว่าต้องรอน้ำเดือดจัดก่อนถึงลงนึ่งนะคะ ไม่งั้นทั้งวันไม่ได้ทานแน่ค่ะ) จากนั้นจับเวลาไปเลยค่ะ 1 ชั่วโมงครึ่ง บางท่านอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใส่ และสูตรของแต่ละท่านค่ะ
5. เมื่อนึ่งสุกได้ที่แล้ว ยกออกจากซึ้ง วางบนตะแกรง หรือถาดรองน้ำ รอให้ความร้อนคลายจากตัวขนมสักพัก จึงคลุมด้วยผ้าขาวบางกันหน้าขนมแห้งเวลาโดนอากาศ เมื่อเย็นดีแล้วนำเข้าแช่ช่องธรรมดาไว้หนึ่งคืน ก่อนนำมารับประทานในวันรุ่งขึ้นค่ะ
วันนี้พอเท่านี้ก่อนนะคะ ตอนต่อไปจะมาแนะนำถึงวิธีการนำไช้เถ่าก้วยมาทำเป็นเมนูต่างๆตามชอบค่ะ
เนื่องจากวัตถุดิบสำหรับไช้เถ่าก้วยค่อนข้างแพง สำหรับผู้เริ่มทำใหม่ๆ แนะนำให้เริ่มที่ส่วนผสมหนึ่งเซ็ตหรือย่อส่วนให้เล็กกว่านี้ค่ะ
ติดตาม รำลึกอดีต..ไช้เถ่าก้วย ตอนที่ 4
https://pantip.com/topic/37304862
ความเดิม
รำลึกอดีต.. คิดถึงไช้เถ่าก้วย ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/37263419
รำลึกอดีต..ไช้เถ่าก้วย ตอนที่ 3
และแล้วก็สำเร็จจริงๆค่ะ คุ้มค่ากับความพยายามและเวลาจริงๆ (ทั้งคนทำและคนชิม) ภริยาทำไปสามีชิมไปจนดึกมากๆค่ะคืนนั้น สามีน่ะสลบไปนานละ แต่ผู้เขียนยังนอนอมยิ้มทั้งคืนถึงหน้าตาของเจ้าไช้เถ่าก้วยที่จะ่ทำอวดสายตาประชาชีในวันต่อไป...
เดือดร้อนถึงคุณปู่คุณย่าของเด็กๆที่จะต้องเป็นฝ่ายสนับสนุนอุปกรณ์ทำมาหากิน เพราะซึ้งหรือลังถึงที่คนไทยเรียกของผู้เขียนมันใบเล็กกะติ้ดเดียว สามารถรองรับการทำขนมผักกาดได้ตั้งสองถาดและใช้เวลานึ่งเพียงชั่วโมงครึ่ง ฮ่าฮ่า ถ้าจะไม่พอสำหรับนักเชลล์ชวนชิมทั้งหลาย เพราะทาเก็ตของผู้เขียนอยากได้สักห้าสิบชิ้น หมายถึงห้าถาดฟอยส์และใช้เวลานึ่งเพียงครั้งเดียว.... นึกย้อนกลับไปรู้สึกขำตัวเอง.. ว่าตอนนั้นทำไมถึงอุตสาหะได้ขนาดนั้น เตรียมหมักหมู ขูดไช้เท้า แช่เห็ด ต้มถั่ว หั่นนู่นหั่นนี่..วุ่นวายทั้งวัน เพื่อที่จะนำไปนึ่งที่บ้านคุณพ่อคุณแม่สามีแต่เช้า.า.า.. ท่านเองก็คงสนุกไปกับการได้เห็นลูกสะใภ้เล่นขายของยังไงยังงั้น.. เตรียมตั้งเตา ตั้งซึ้งให้เสร็จสรรพ...นึ่งได้ห้าถาดพอดี๊..พอดี...ความอดทนรอยังไม่สิ้นสุดค่ะ เพราะขนมจะอร่อยลงตัวต้องให้เวลาเค้าเซ็ตตัวอีกหนึ่งคืนในตู้เย็น..จากนั้นจึงหั่นและนำมาทอดอย่างใจเย็นเพื่อเซอไพรซ์ครูผู้ปกครองที่โรงเรียนค่ะ
"โอ้..ขนมผักกาด..โอ๊ะ..ไช้เถ่าก้วย ของโปรดเลย ไม่ได้ทานมานานมากแล้ว คิดถึง คิดถึง" ประโยคแรกที่ได้ยินจากทุกคน ทำเอาผู้เขียนคิดถึงบรรพบุรุษ คิดถึงอาอึ้มของตัวเอง. "อื้ม..อร่อยๆ" หยิบส่งต่อกันชิ้นต่อชิ้น... วันนั้นทั้งวันผู้เขียนไม่ต้องทานข้าวแล้วค่ะ....อิ่ม... ข้ามมาถึงวิธีทำเลยดีกว่าค่ะ แล้วจะกลับมาเล่าย้อนแบบเจาะลึกในการคัดสรรวัตถุดิบอีกครั้งค่ะ เพราะผู้ติดตามอ่านหลายๆท่านคงกำลังนึกในใจ.."นี่ผู้เขียนเค้าจะอรัมภบทไปถึงไหนเนี่ย"
เครื่องปรุงมี เกลือ น้ำตาล และพริกไทย อย่างละ 1 ชต.ค่ะ
วิธีทำ เตรียมใส่ถุงมือ แล้วทำไปช้าๆ ใจเย็นๆพร้อมกันนะคะ
1. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และเครื่องปรุงทั้งหมดลงในภาชนะทรงกลม ใหญ่หน่อยก็ดีค่ะ แป้งจะได้ไม่ฟุ้งกระจายออกมานอกภาชนะเวลาเราผสม จากนั้นใช้ช้อนเคล้าให้เข้ากันค่ะ
2. ใส่หัวไช้เท้า และส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตามลงไป ใช้สองมือค่อยๆตะล่อม ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี นวดไปหมุนภาชนะไปด้วยค่ะ ใช้เวลานิดนึงค่ะ จนกว่าเนื้อแป้งและทุกอย่างจะเข้ากันดี สังเกตว่าเมื่อนวดไปเรื่อยๆ หัวไช้เท้าจะค่อยๆคลายน้ำออกมาผสมกับเนื้อแป้ง ไม่ต้องเททิ้งนะคะ
3. เมื่อนวดจนเข้ากันดีแล้ว ค่อยๆ ตักใส่ภาชนะทรงตามที่เราต้องการ จะถ้วยกลมเล็กน่ารัก หรือถาดกลมใหญ่ขนาดสามปอนด์ หรือจะถาดฟอยส์แบบผู้เขียนก็ได้ค่ะ ให้สัดส่วนของส่วนผสมต่างๆ กระจายให้ทั่วภาชนะ แล้วตบแต่งด้านบนเพิ่มให้สวยงามน่าทาน
4. นำลงนึ่งในซึ้งที่ตั้งน้ำร้อนไว้จนเดือดจัด (เน้นว่าต้องรอน้ำเดือดจัดก่อนถึงลงนึ่งนะคะ ไม่งั้นทั้งวันไม่ได้ทานแน่ค่ะ) จากนั้นจับเวลาไปเลยค่ะ 1 ชั่วโมงครึ่ง บางท่านอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใส่ และสูตรของแต่ละท่านค่ะ
5. เมื่อนึ่งสุกได้ที่แล้ว ยกออกจากซึ้ง วางบนตะแกรง หรือถาดรองน้ำ รอให้ความร้อนคลายจากตัวขนมสักพัก จึงคลุมด้วยผ้าขาวบางกันหน้าขนมแห้งเวลาโดนอากาศ เมื่อเย็นดีแล้วนำเข้าแช่ช่องธรรมดาไว้หนึ่งคืน ก่อนนำมารับประทานในวันรุ่งขึ้นค่ะ
วันนี้พอเท่านี้ก่อนนะคะ ตอนต่อไปจะมาแนะนำถึงวิธีการนำไช้เถ่าก้วยมาทำเป็นเมนูต่างๆตามชอบค่ะ
เนื่องจากวัตถุดิบสำหรับไช้เถ่าก้วยค่อนข้างแพง สำหรับผู้เริ่มทำใหม่ๆ แนะนำให้เริ่มที่ส่วนผสมหนึ่งเซ็ตหรือย่อส่วนให้เล็กกว่านี้ค่ะ
ติดตาม รำลึกอดีต..ไช้เถ่าก้วย ตอนที่ 4
https://pantip.com/topic/37304862
ความเดิม
รำลึกอดีต.. คิดถึงไช้เถ่าก้วย ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/37263419