จุดกำเนิดของการทดเวลาบาดเจ็บมีการถกเถียงกันว่าครั้งแรก เริ่มต้นตอนไหน แต่ทฤษฎีที่น่าเชื่อที่สุด คือในปี 1891 (127 ปีที่แล้ว) ในเกมการแข่งของ แอสตัน วิลล่า กับ สโต๊ค ซิตี้
ในอดีตเกมฟุตบอลแข่งครึ่งละ 45 นาที พอถึง 45 นาทีปั๊บ กรรมการต้องเป่าจบเกมทันที เหมือนบาสเกตบอลน่ะครับ หมดเวลาปั๊บจบปุ๊บ
มันเลยมีพวกนักเตะหัวหมอ เวลาสกอร์นำอยู่ ก็เตะบอลเปรี้ยงลอยออกไปนอกสนาม ไปถึงถนนใหญ่มันซะเลย เพราะทำให้คนต้องวิ่งไปเก็บบอลอย่างไกล ซึ่งก็จะดึงเวลาได้หลายนาที
แล้วสนามฟุตบอลสมัย 100 ปีก่อน ไม่ได้เป็นสเตเดี้ยมเหมือนปัจจุบัน เป็นแค่สแตนด์เล็กๆเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเตะออกนอกสนาม มันทำได้ง่ายมาก
เกมในปี 1891 นัดนั้น วิลล่า นำสโต๊คอยู่ 1-0 ช่วงท้ายเกม นักเตะวิลล่า ก็เตะตูมออกไปนอกสนามเลย นาฬิกาก็เดินไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้แฟนบอลสโต๊ค โมโหกับการกระทำของนักเตะวิลล่า
ดังนั้น ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย กรรมการจึงตัดสินใจ เพิ่มเวลาการแข่ง ให้เท่ากับเวลาที่บอลลอยออกไปนอกสนามที่ต้องเสียเวลาไปวิ่งเก็บ ซึ่งว่ากันว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการทดเวลา
กลับมาที่คำถามของเรา ว่า กรรมการแต่ละคน เขารู้ได้อย่างไร ว่าแต่ละเกมต้องทดกี่นาที มันมีหลักการอะไรไหม หรือใครจะให้เท่าไหร่ก็ได้ตามใจ
คำตอบคือ ในอดีตอาจจะอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้ตัดสินจริง
แต่ปัจจุบัน "มี" กฎเกณฑ์ระบุไว้อยู่ครับ
เมื่อก่อน ในฟุตบอลอังกฤษ เขาจะใช้คำว่า Injury Time กัน ซึ่งแปลตรงๆว่าทดเวลาบาดเจ็บ
แต่ถ้าเราลองสังเกตดู เดี๋ยวนี้ เขาไม่ใช้คำว่า Injury Time แล้วนะครับ เขาใช้คำว่า Added Time หรือแปลเป็นไทยว่า การทดเวลาพิเศษ
ที่ต้องเปลี่ยนชื่อเรียก นั่นเพราะการทดเวลา ไม่ได้มาจากอาการบาดเจ็บของนักเตะเสมอไป บางครั้งไม่ต้องมีใครเจ็บเลย ก็ทดเวลาได้
จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ที่ผู้ตัดสินจะทำการทดเวลานั้น เรียบเรียงเป็นข้อง่ายๆดังนี้
1) ทด เพราะอาการบาดเจ็บ ถ้ามีนักเตะที่บาดเจ็บในสนาม ให้นับเวลาที่ทำการปฐมพยาบาล จนถึงจังหวะกลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง
2) ทด เพราะถ่วงเวลา ผู้ตัดสินสามารถเพิ่มได้ ตามดุลยพินิจ
3) ทด เพราะเปลี่ยนตัว การเปลี่ยนตัว 1 ครั้ง กรรมการจะทด 30 วินาที
4) ทด เพราะจังหวะดีใจ การยิงประตู 1 ลูก กรรมการจะทด 30 วินาที
ในเกมที่ลิเวอร์พูล ชนะแมนฯซิตี้ ไม่มีการหยุดเกมเพราะบาดเจ็บ หรือถ่วงเวลาก็จริง
แต่ในครึ่งหลัง มีการเปลี่ยนตัว ระหว่างนาทีที่ 46-90 ถึง 3 ครั้ง (เบร์นาโด้ ซิลวา แทน สเตอร์ลิ่ง น.71 , มิลเนอร์ แทน ชาน น.79, ลัลลาน่า แทน ซาลาห์ น.88)
เท่ากับว่า กรรมการจะทด 30 วิ x 3 = 1 นาที 30 วินาที
และมีการยิงประตู ระหว่างนาทีที่ 46-90 เกิดขึ้น 4 ลูก (ฟีร์มีโน่ น.59 ,มาเน่ น.61,ซาลาห์ น.68 และ ซิลวา น.84)
กรรมการ จึงจะทด 30 วิ x 4 = 2.00 นาที
1 นาที 30 วิ + 2 นาที = 3 นาที 30 วินาที กรรมการปัดเศษขึ้น สรุปรวมความ จึงทดเวลาทั้งสิ้น 4 นาทีครับ
ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจ ที่ส่วนใหญ่ในเกมฟุตบอล ช่วงครึ่งหลัง กรรมการจะทดเจ็บมากกว่าในครึ่งแรก
เพราะการเปลี่ยนตัวนักเตะมักจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังนี่เอง รวมกับการถ่วงเวลา บวกกับนักเตะอ่อนล้าแล้วบาดเจ็บได้ง่ายกว่าครึ่งแรกด้วย ดังนั้นส่วนใหญ่การทดเวลาในครึ่งหลังขั้นต่ำก็มักจะเป็น 3 นาที
โดยคนที่จะมาช่วยนับ เรื่องการทดเวลา ให้มันแม่นเป๊ะ คือผู้ตัดสินที่ 4 นั่นเอง
หน้าที่ของผู้ตัดสินที่ 4 ในยุคปัจจุบัน จะมีการจดอย่างละเอียดครับ ว่าระหว่าง 45 นาที มีเหตุการณ์อะไรหยุดเกมหรือไม่ คือผู้ตัดสินที่ 4 ไม่ได้มีไว้แค่คอยห้ามปราม บรรดาโค้ชๆอยู่ข้างสนามนะครับ แต่ก็ต้องช่วยผู้ตัดสินหลัก ในการนับเวลาทดเจ็บด้วย
สำหรับที่ไทย ในกฎของสมาคมกีฬาฟุตบอล ไม่ได้มีระบุไว้เหมือนที่อังกฤษ ว่า ต้องกี่วิ กี่วิ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะคิด 30 วินาที ต่อหนึ่งการเปลี่ยนตัว หรือ ต่อหนึ่งประตูเช่นกัน
จากนี้ไป ตอนดูบอล ก่อนเกมจบ ลองคำนวณดูเล่นๆได้นะครับ ระหว่างครึ่งเปลี่ยนตัวกี่คน ระหว่างครึ่งมียิงกี่ลูก แล้วเอามาคูณ 30 วินาทีดู
เชื่อว่าทุกท่าน จะทำนายได้แม่นเป๊ะเลยล่ะ ว่าผู้ตัดสินเกมนี้จะทดกี่นาที
สำหรับการทดเวลาบาดเจ็บ แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่าทำให้เกมสนุกขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่ากรรมการจะเป่านกหวีดจบเกมตอนไหน ต้องระมัดระวังจนวินาทีสุดท้าย
ต้องขอขอบคุณ ฟีฟ่าที่ใส่กฎระเบียบการทดเวลาพิเศษเอาไว้อย่างเป็นทางการ เราจึงมีโมเมนต์ยอดเยี่ยมมากมายที่เกิดขึ้นในเกมฟุตบอล โดยเฉพาะจังหวะซัดประตูในเสี้ยววินาทีสุดท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไม่มีการทดเวลาล่ะก็ ... แต่ละทีม อาจต้องเปิดรับสมัครตำแหน่งใหม่ "เด็กเก็บบอลนอกสเตเดี้ยม"
ป้องกันไอ้บ้าที่ไหน เตะตูมออกไปนอกสนามเพื่อถ่วงเวลา!
CR เพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง
หงส์ จม เรือ ทำไมทด 4 นาที มาอ่านกันครับ
ในอดีตเกมฟุตบอลแข่งครึ่งละ 45 นาที พอถึง 45 นาทีปั๊บ กรรมการต้องเป่าจบเกมทันที เหมือนบาสเกตบอลน่ะครับ หมดเวลาปั๊บจบปุ๊บ
มันเลยมีพวกนักเตะหัวหมอ เวลาสกอร์นำอยู่ ก็เตะบอลเปรี้ยงลอยออกไปนอกสนาม ไปถึงถนนใหญ่มันซะเลย เพราะทำให้คนต้องวิ่งไปเก็บบอลอย่างไกล ซึ่งก็จะดึงเวลาได้หลายนาที
แล้วสนามฟุตบอลสมัย 100 ปีก่อน ไม่ได้เป็นสเตเดี้ยมเหมือนปัจจุบัน เป็นแค่สแตนด์เล็กๆเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเตะออกนอกสนาม มันทำได้ง่ายมาก
เกมในปี 1891 นัดนั้น วิลล่า นำสโต๊คอยู่ 1-0 ช่วงท้ายเกม นักเตะวิลล่า ก็เตะตูมออกไปนอกสนามเลย นาฬิกาก็เดินไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้แฟนบอลสโต๊ค โมโหกับการกระทำของนักเตะวิลล่า
ดังนั้น ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย กรรมการจึงตัดสินใจ เพิ่มเวลาการแข่ง ให้เท่ากับเวลาที่บอลลอยออกไปนอกสนามที่ต้องเสียเวลาไปวิ่งเก็บ ซึ่งว่ากันว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการทดเวลา
กลับมาที่คำถามของเรา ว่า กรรมการแต่ละคน เขารู้ได้อย่างไร ว่าแต่ละเกมต้องทดกี่นาที มันมีหลักการอะไรไหม หรือใครจะให้เท่าไหร่ก็ได้ตามใจ
คำตอบคือ ในอดีตอาจจะอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้ตัดสินจริง
แต่ปัจจุบัน "มี" กฎเกณฑ์ระบุไว้อยู่ครับ
เมื่อก่อน ในฟุตบอลอังกฤษ เขาจะใช้คำว่า Injury Time กัน ซึ่งแปลตรงๆว่าทดเวลาบาดเจ็บ
แต่ถ้าเราลองสังเกตดู เดี๋ยวนี้ เขาไม่ใช้คำว่า Injury Time แล้วนะครับ เขาใช้คำว่า Added Time หรือแปลเป็นไทยว่า การทดเวลาพิเศษ
ที่ต้องเปลี่ยนชื่อเรียก นั่นเพราะการทดเวลา ไม่ได้มาจากอาการบาดเจ็บของนักเตะเสมอไป บางครั้งไม่ต้องมีใครเจ็บเลย ก็ทดเวลาได้
จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ที่ผู้ตัดสินจะทำการทดเวลานั้น เรียบเรียงเป็นข้อง่ายๆดังนี้
1) ทด เพราะอาการบาดเจ็บ ถ้ามีนักเตะที่บาดเจ็บในสนาม ให้นับเวลาที่ทำการปฐมพยาบาล จนถึงจังหวะกลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง
2) ทด เพราะถ่วงเวลา ผู้ตัดสินสามารถเพิ่มได้ ตามดุลยพินิจ
3) ทด เพราะเปลี่ยนตัว การเปลี่ยนตัว 1 ครั้ง กรรมการจะทด 30 วินาที
4) ทด เพราะจังหวะดีใจ การยิงประตู 1 ลูก กรรมการจะทด 30 วินาที
ในเกมที่ลิเวอร์พูล ชนะแมนฯซิตี้ ไม่มีการหยุดเกมเพราะบาดเจ็บ หรือถ่วงเวลาก็จริง
แต่ในครึ่งหลัง มีการเปลี่ยนตัว ระหว่างนาทีที่ 46-90 ถึง 3 ครั้ง (เบร์นาโด้ ซิลวา แทน สเตอร์ลิ่ง น.71 , มิลเนอร์ แทน ชาน น.79, ลัลลาน่า แทน ซาลาห์ น.88)
เท่ากับว่า กรรมการจะทด 30 วิ x 3 = 1 นาที 30 วินาที
และมีการยิงประตู ระหว่างนาทีที่ 46-90 เกิดขึ้น 4 ลูก (ฟีร์มีโน่ น.59 ,มาเน่ น.61,ซาลาห์ น.68 และ ซิลวา น.84)
กรรมการ จึงจะทด 30 วิ x 4 = 2.00 นาที
1 นาที 30 วิ + 2 นาที = 3 นาที 30 วินาที กรรมการปัดเศษขึ้น สรุปรวมความ จึงทดเวลาทั้งสิ้น 4 นาทีครับ
ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจ ที่ส่วนใหญ่ในเกมฟุตบอล ช่วงครึ่งหลัง กรรมการจะทดเจ็บมากกว่าในครึ่งแรก
เพราะการเปลี่ยนตัวนักเตะมักจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังนี่เอง รวมกับการถ่วงเวลา บวกกับนักเตะอ่อนล้าแล้วบาดเจ็บได้ง่ายกว่าครึ่งแรกด้วย ดังนั้นส่วนใหญ่การทดเวลาในครึ่งหลังขั้นต่ำก็มักจะเป็น 3 นาที
โดยคนที่จะมาช่วยนับ เรื่องการทดเวลา ให้มันแม่นเป๊ะ คือผู้ตัดสินที่ 4 นั่นเอง
หน้าที่ของผู้ตัดสินที่ 4 ในยุคปัจจุบัน จะมีการจดอย่างละเอียดครับ ว่าระหว่าง 45 นาที มีเหตุการณ์อะไรหยุดเกมหรือไม่ คือผู้ตัดสินที่ 4 ไม่ได้มีไว้แค่คอยห้ามปราม บรรดาโค้ชๆอยู่ข้างสนามนะครับ แต่ก็ต้องช่วยผู้ตัดสินหลัก ในการนับเวลาทดเจ็บด้วย
สำหรับที่ไทย ในกฎของสมาคมกีฬาฟุตบอล ไม่ได้มีระบุไว้เหมือนที่อังกฤษ ว่า ต้องกี่วิ กี่วิ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะคิด 30 วินาที ต่อหนึ่งการเปลี่ยนตัว หรือ ต่อหนึ่งประตูเช่นกัน
จากนี้ไป ตอนดูบอล ก่อนเกมจบ ลองคำนวณดูเล่นๆได้นะครับ ระหว่างครึ่งเปลี่ยนตัวกี่คน ระหว่างครึ่งมียิงกี่ลูก แล้วเอามาคูณ 30 วินาทีดู
เชื่อว่าทุกท่าน จะทำนายได้แม่นเป๊ะเลยล่ะ ว่าผู้ตัดสินเกมนี้จะทดกี่นาที
สำหรับการทดเวลาบาดเจ็บ แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่าทำให้เกมสนุกขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่ากรรมการจะเป่านกหวีดจบเกมตอนไหน ต้องระมัดระวังจนวินาทีสุดท้าย
ต้องขอขอบคุณ ฟีฟ่าที่ใส่กฎระเบียบการทดเวลาพิเศษเอาไว้อย่างเป็นทางการ เราจึงมีโมเมนต์ยอดเยี่ยมมากมายที่เกิดขึ้นในเกมฟุตบอล โดยเฉพาะจังหวะซัดประตูในเสี้ยววินาทีสุดท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไม่มีการทดเวลาล่ะก็ ... แต่ละทีม อาจต้องเปิดรับสมัครตำแหน่งใหม่ "เด็กเก็บบอลนอกสเตเดี้ยม"
ป้องกันไอ้บ้าที่ไหน เตะตูมออกไปนอกสนามเพื่อถ่วงเวลา!
CR เพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง