Bank of Thailand Learning Center
ไม่ใช่แค่ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ แต่เป็นที่พักใจของชาวกรุงฯ
นอกจากห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่นี่ยังเป็นอีกสถานที่ที่ทำให้เราได้เข้าถึงพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้พักใจผ่อนคลาย หลบหนีจากความวุ่นวายในเมืองกรุงฯ
เดิมทีเราเป็นคนชอบเสพบรรยากาศริมน้ำมาก มักจะหาที่ไปสิงอยู่แถวคาเฟ่ และร้านอาหารริมน้ำต่าง ๆ อยากได้บรรยากาศอะ
แบบนั่งมองน้ำมองฟ้า ทอดสายตาใช้ความคิด แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งที่ไปจะได้ความสงบ เพราะมันสร้างให้เป็นร้านค้าร้านอาหารอะเนอะ
ก็ต้องวุ่นวายบ้างอะไรบ้างแหละ พอทราบข่าวว่ามีศูนย์การเรียนรู้เปิดใหม่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โอ้วมายก็อดด เรานี่ไม่รอช้าเลย
แอบเปิดรูปดูคือชอบมาก ต้องไปเห็นของจริงแล้วล่ะ
การตกแต่งของที่นี่มีความสมัยใหม่มาก มีความโมเดิร์น อวกาศ
นึกถึงซี่รี่ย์ Black Mirror เลย ไม่รู้เราคิดไปเองเปล่า เป็นพวกชอบจินตนาการ ฮ่าฮ่า
เราเดินเข้ามาจนสุดทาง ติดริมแม่น้ำเลยแหละ ก็จะพบกับอาคารหน้าตาแบบนี้ เดินขึ้นบันไดไปโลดด ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ
บ่ายสองโมงได้ มีคุณลุงคุณป้าประมาณ 10 ท่านยืนอยู่ ต้องไปไหนกันแน่ ๆ หนูไปด้วยค่าา สอบถามพี่เจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์
ได้ความว่าจะมีพาชมในส่วนของพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยพอดี จะมีเจ้าหน้าที่พาชมเป็นรอบ ๆ จากนั้นก็ให้บัตรมาหนึ่งใบ
เพื่อไว้สแกนเข้าออกในส่วนพิพิธภัณฑ์ค่ะ
แผนผังและรายละเอียดในแต่ละชั้นของศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
รูปภาพจาก www.botlc.or.th
Museum
พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยแห่งใหม่นี้ ย้ายมาจากที่ตั้งเดิมในวังบางขุนพรหม มาอยู่ภายใน “ห้องมั่นคง” ตอนได้ยิน
ชื่อห้องนี้ก็งงเหมือนกัน บอกไว้เลยว่าห้องนี้ไม่เคยเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เฉียดเข้าใกล้มาก่อนด้วย มาหาคำตอบกันได้นะจ๊ะ
Bank of Thailand Learning Center หรือ BOT Learning Center
อาคารที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ฯแห่งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะเคยเป็นอาคารโรงพิมพ์ธนบัตร
แห่งแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว หลังจากที่ถูกปล่อยไว้เป็นอนุสรณ์สถานในความทรงจำมาเป็นเวลานาน วันนี้ก็กลับมา
มีสีสันอีกครั้ง เชื่อมประวัติศาสตร์ให้กับคนทุกยุคทุกสมัยได้เรียนรู้ในสิ่งที่หลงลืมกันไป หรืออาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำ
นิทรรศการโรงพิมพ์ธนบัตร รวบรวมเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจการเงินของประเทศ ตั้งแต่เปิดโรงพิมพ์ธนบัตร
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2512 จำลองการทำงานของเครื่องพิมพ์ธนบัตรให้เราได้ชมกัน
เรื่องเล่า ธปท. เล่าถึงภารกิจสำคัญของธนาคารกลางของประเทศผ่านสื่อวีดีโอ
แล้วเราจะรู้ว่าทำไมถึงต้องมีธนาคารแห่งประเทศไทย
ในส่วนนี้เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการเงินตราไทย ระบบเงินตรา ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ในแต่ละยุคสมัย เนื้อหามีความอิงประวัติศาสตร์ ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยจากพี่วิทยากร
แต่เราก็เผลอหาวไปหลายทีอยู่ ไม่ใช่ไม่น่าสนใจนะ แต่สมองมันเหมือนจะรับไม่ไม่ไหวละ ฮ่าาา
เพราะข้อมูลค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เดี๋ยวไว้หาโอกาสไปศึกษาอีก
นอกจากจะได้เห็นเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนกันในสมัยก่อน ยังได้ดูลวดลายแพทเทิร์นสวย ๆ อีก
ในส่วนสุดท้ายนี้ จะเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ ธปท. บทสัมภาษณ์อดีตผู้ว่าการและบันทึกเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ
ในสมัยต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งเราไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ฮ่าาา
ดีไซน์ผนังลูกคลื่นที่เห็นนั้น คือการนำ GDP และอัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามาเป็นลูกเล่น
ข้อดีของพิพิธภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดขึ้นมา แล้วมีส่วนที่ทำให้เราประทับใจนั่นก็คือ การออกแบบให้รองรับประชาชนได้ทุกกลุ่ม
เหมาะสำหรับผู้นั่งวีลแชร์ มีอักษรเบรลล์ มีแบบจำลองเงินตราให้ผู้พิการทางสายตาได้สัมผัส แถมมีระบบ QR code
เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันอีกด้วย คุณลุงคุณป้าที่เข้าชมพร้อมเราโหลดแอปฯกันด้วยนะ น่ารักมากเลย
เปิดไปชมไปไฮเทคไปอีก ส่วนหนูไม่โหลดค่ะ เมมเต็ม ฮ่าๆ
Lounge / Cafe / Shop
ในส่วนนี้มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มเลยค่ะ มานั่งอ่านหนังสือไปกินไปก็ได้ นั่งทำการบ้าน ทำงาน พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ก็ได้อีก
กระจกใสทอดยาวชมวิวทิวทัศน์ได้เต็มสองตา ชิลมากกกก นั่งได้ทั้งวัน
ตามไปไปสำรวจห้องสมุดกันต่อเลยค่ะ...
Bank of Thailand Learning Center ไม่ใช่แค่ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่!
ไม่ใช่แค่ศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ แต่เป็นที่พักใจของชาวกรุงฯ
นอกจากห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่นี่ยังเป็นอีกสถานที่ที่ทำให้เราได้เข้าถึงพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้พักใจผ่อนคลาย หลบหนีจากความวุ่นวายในเมืองกรุงฯ
แบบนั่งมองน้ำมองฟ้า ทอดสายตาใช้ความคิด แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งที่ไปจะได้ความสงบ เพราะมันสร้างให้เป็นร้านค้าร้านอาหารอะเนอะ
ก็ต้องวุ่นวายบ้างอะไรบ้างแหละ พอทราบข่าวว่ามีศูนย์การเรียนรู้เปิดใหม่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โอ้วมายก็อดด เรานี่ไม่รอช้าเลย
แอบเปิดรูปดูคือชอบมาก ต้องไปเห็นของจริงแล้วล่ะ
นึกถึงซี่รี่ย์ Black Mirror เลย ไม่รู้เราคิดไปเองเปล่า เป็นพวกชอบจินตนาการ ฮ่าฮ่า
เราเดินเข้ามาจนสุดทาง ติดริมแม่น้ำเลยแหละ ก็จะพบกับอาคารหน้าตาแบบนี้ เดินขึ้นบันไดไปโลดด ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ
บ่ายสองโมงได้ มีคุณลุงคุณป้าประมาณ 10 ท่านยืนอยู่ ต้องไปไหนกันแน่ ๆ หนูไปด้วยค่าา สอบถามพี่เจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์
ได้ความว่าจะมีพาชมในส่วนของพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยพอดี จะมีเจ้าหน้าที่พาชมเป็นรอบ ๆ จากนั้นก็ให้บัตรมาหนึ่งใบ
เพื่อไว้สแกนเข้าออกในส่วนพิพิธภัณฑ์ค่ะ
Museum
พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยแห่งใหม่นี้ ย้ายมาจากที่ตั้งเดิมในวังบางขุนพรหม มาอยู่ภายใน “ห้องมั่นคง” ตอนได้ยิน
ชื่อห้องนี้ก็งงเหมือนกัน บอกไว้เลยว่าห้องนี้ไม่เคยเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เฉียดเข้าใกล้มาก่อนด้วย มาหาคำตอบกันได้นะจ๊ะ
อาคารที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ฯแห่งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะเคยเป็นอาคารโรงพิมพ์ธนบัตร
แห่งแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว หลังจากที่ถูกปล่อยไว้เป็นอนุสรณ์สถานในความทรงจำมาเป็นเวลานาน วันนี้ก็กลับมา
มีสีสันอีกครั้ง เชื่อมประวัติศาสตร์ให้กับคนทุกยุคทุกสมัยได้เรียนรู้ในสิ่งที่หลงลืมกันไป หรืออาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำ
นิทรรศการโรงพิมพ์ธนบัตร รวบรวมเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจการเงินของประเทศ ตั้งแต่เปิดโรงพิมพ์ธนบัตร
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2512 จำลองการทำงานของเครื่องพิมพ์ธนบัตรให้เราได้ชมกัน
แล้วเราจะรู้ว่าทำไมถึงต้องมีธนาคารแห่งประเทศไทย
ในส่วนนี้เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการเงินตราไทย ระบบเงินตรา ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
ในแต่ละยุคสมัย เนื้อหามีความอิงประวัติศาสตร์ ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยจากพี่วิทยากร
แต่เราก็เผลอหาวไปหลายทีอยู่ ไม่ใช่ไม่น่าสนใจนะ แต่สมองมันเหมือนจะรับไม่ไม่ไหวละ ฮ่าาา
เพราะข้อมูลค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เดี๋ยวไว้หาโอกาสไปศึกษาอีก
ในส่วนสุดท้ายนี้ จะเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ ธปท. บทสัมภาษณ์อดีตผู้ว่าการและบันทึกเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ
ในสมัยต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งเราไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ฮ่าาา
ข้อดีของพิพิธภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดขึ้นมา แล้วมีส่วนที่ทำให้เราประทับใจนั่นก็คือ การออกแบบให้รองรับประชาชนได้ทุกกลุ่ม
เหมาะสำหรับผู้นั่งวีลแชร์ มีอักษรเบรลล์ มีแบบจำลองเงินตราให้ผู้พิการทางสายตาได้สัมผัส แถมมีระบบ QR code
เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันอีกด้วย คุณลุงคุณป้าที่เข้าชมพร้อมเราโหลดแอปฯกันด้วยนะ น่ารักมากเลย
เปิดไปชมไปไฮเทคไปอีก ส่วนหนูไม่โหลดค่ะ เมมเต็ม ฮ่าๆ
Lounge / Cafe / Shop
ในส่วนนี้มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มเลยค่ะ มานั่งอ่านหนังสือไปกินไปก็ได้ นั่งทำการบ้าน ทำงาน พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ก็ได้อีก
กระจกใสทอดยาวชมวิวทิวทัศน์ได้เต็มสองตา ชิลมากกกก นั่งได้ทั้งวัน
ตามไปไปสำรวจห้องสมุดกันต่อเลยค่ะ...