ขอถามอายุเท่าไหร่ ถึงจะมีพร้อมทุกอย่าง โดยที่บ้านไม่มีอะไรให้

กระทู้คำถาม
ต้นทุนเเต่ละคนไม่เท่ากันก็จริง โดยเฉลี่ยเเล้วอายุเท่าไหร่กันจะมีพร้อมทุกอย่าง

ปล. บ้าน รถ เงินเก็บ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เร่ิมต้นจาก 0 ทำงานเก็บเงินด้วยตัวเอง
2 ปีหลังทำงาน เก็บเงิน Down Town House
อายุ 27 ซื้อรถด้วยเงินสด
อายุ 33 ผ่อนบ้าน Town House หมด อีก 3 ปีต่อมาขายแล้วซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่
อีก 2 ปีต่อมาซื้อที่ดินเปล่าเกือบไร่ครึ่งติดถนน 2 เลนส์ โชคดีไม่นานหลวงตัดถนนเป็น 4 เลนส์
เก็บเงินทำ Car Care, Coffee Shop และ Food count ให้เช่าบนที่ดินเปล่า
โดนโกงเกือบ 5 แสนระหว่างก่อสร้าง สาหัสมาก
เก็บค่าเช่าไม่ได้อีก 2 ปีต้องง้อเค้าอยู่ เพื่อให้ร้านไม่เงียบ
ทุกวันนี้ได้ค่าเช่าไม่มากไม่น้อยเป็น Passive Income
หลังจากเร่ิ่มได้ค่าเช่าก็ปิดหนี้บ้านเดี่ยว แล้วทยอยปิดหนี้ที่ดินเปล่า และค่าก่อสร้าง Car Care ข้างบน
ซื้อบ้านเดี่ยวใหม่ ขายหลังเก่า ปิดหนี้ใน 2 ปีแล้วเลิกทำงานเลย

ตอนนี้ Early Retirement แล้ว หลังทำงานหนักไม่มีวันหยุดมาตั้งแต่เรียนจบ
มีเงินใน Port เลี้ยงตัวเอง พร้อม Passive Income ที่ได้มาจากข้างต้น
อีก 10 ปีค่อยขาย ตอนนี้รอที่ขึ้นจนได้ราคาที่ตั้ง

เล่ามาเหมือนง่าย แต่ตอนโดนโกงหนักมาก แถมไม่ได้ค่าเช่าที่อีก
น้ำตาตกใน ต้องวิ่งไปดูแลไปกลับ 370 กิโล เหนื่อย...แต่ก็สู้
เพราะรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร วันนี้สบายแล้ว อยากทำอะไรทำ
อยากเรียนอะไรเรียน  สู้ทำงานหนักแล้วใช้เงินยาว
early ตอนอายุน้อยแล้วมีเงินใช้ เป็นสิ่งตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนจบ

สู้สู้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 26
ของผมบ้านติดลบนะ ที่บ้านมีหนี้จากวิกฤติต้มยำกุ้ง  จากที่พอมีพอกินกลายเป็นขายเกือบทุกอย่าง เหลือแต่บ้าน กับหนี้ประมาณเกือบๆล้านบาท   ทำให้ช่วงวัยจะเข้ามหาลัยผมต้องเสียโอกาสที่จะได้เรียนมหาลัยที่สอบโควต้าติด  ต้องเลือกทำงานหลังจากทำงานได้เกือบสี่ปี เคลียร์เรื่องหนี้สินจบ  เหลือไม่ถึงสองแสน  ก็ได้เข้าเรียนอุดมศึกษาจนจบ  เรียนจบก็สอบเข้ารับราชการ  เริ่มต้นเก็บเงิน   ศึกษาต่อปริญญาโท ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้วิชาที่สำคัญที่สุด คือวิชาการตลาด  มันจำเป็นกับชีวิตจริงๆวิชานี้   ศึกษาเรื่องการลงทุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ จากอาจารย์ จากรุ่นพี่ จากรุ่นเดียวกัน    ซึ่งผมได้รับคำแนะนำให้ทำสามอาชีพ   เพราะศักยภาพมนุษย์มันมากกว่าที่เราคิด  เพียงแค่เราแบ่งเวลาให้ดีไม่ให้รบกวนกัน   เวลาปกติก็ทำงานราชการ  หลังเลิกงานคืองานพ่อค้าและลงทุนในกองทุนต่างๆ  อาชีพสุดท้ายคือเกษตรกร ตอนนั้นเริ่มปลูกผักออแกนนิกส์ในบ้าน    ทีนี้เริ่มมีรายรับสามทาง เอาผักไปส่งตลาดตอนเช้า ไม่ต้องนั่งขายเอง   แล้วก็มาทำงานในเวลาราชการ  เย็นไปกับตังค์ รับออร์เดอร์  วนเวียนอยู่แบบนี้จนได้รถคันแรก  ได้พบภรรยา  ได้แต่งงาน  ซึ่งภรรยาเธอต้นทุนชีวิตสูงกว่าผมเยอะมาก  เธอมีทางเลือกที่ดีมากมาย  แต่การที่เลือกแต่งงานกับผมเพราะเธอประทับใจความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ยอมแพ้กับชีวิต   ทุกวันนี้มีธุรกิจเล็กๆที่อยู่ได้ มีเวลาใช้ชีวิต ถือว่ามีความสุขแล้วละครับ คงจะไม่ได้คิดไขว่คว้าอะไรมากกว่าการแก่ด้วยกันไปโดยมีทุนให้อยู่รอดได้ในวัยเกษียณ เพราะเราไม่มีลูก    

ทีนี้มาตอบคำถามของคุณ  " ผมมีครบทุกอย่างที่ผมต้องการตั้งแต่ก่อนแต่งงาน นั่นคืออายุ 33 ปี " แต่ความต้องการของคนเราไม่เหมือนกันนะครับ  ดัชนีชี้วัดของผมคือ คำสัญญาที่ผมให้ไว้กับภรรยาสมัยเป็นแฟนว่า  ผมพร้อมเมื่อไหร่ผมจะแต่ง  ซึ่งผมทำได้ภายในสามปี  แต่คุณจะเอาไปเป็นบรรทัดฐานของตัวเองไม่ได้นะ   เพราะบางคนไปวางอุปสรรคให้ตัวเองมากมาย ว่าต้องมีบ้าน มีรถคันใหญ่  มีเงิน มีคอนโด มีที่ดิน มีสินสอด มีทองหมั้น มีแหวนเพชร  มีอาชีพที่ดี  และมีอนาคตที่มั่นคง     วางสิ่งที่คิดให้หมดเลยครับ  ชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่มั่นคงแม้แต่ชีวิตของเรา   อาจจะตายก่อนได้ทุกอย่างครบ  หรือ ไม่ได้สำเร็จอะไรซักอย่าง   ใช้เวลาสร้างความสุขร่วมกันดีกว่า  เป็นตัวของตัวเองตามแนวของคุณกับคู่ชีวิต อย่าไปไหลตามบริบทของสังคมครับ     การเรียนรู้ - วางแผน - ปรับปรุงแก้ไข - สร้างรอยยิ้มไม่ละเลยการสร้างความสุขในชีวิต     ใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตที่คุณจะเจอ    ถ้าในมุมของครอบครัว   คุณทำได้คุณจะกลายเป็นคนน่าเชื่อถือ  เมื่อคู่ชีวิตเชื่อถือคุณ ไว้ใจคุณ  คุณจะเป็นผู้นำของเขา  ไม่ว่าเขาจะฐานะดีกว่า  เรียนสูงกว่า  หรือมีอะไรมากกว่า  ทุกอย่างไม่มีอะไรที่เทียบเท่าความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน   สิงโตตัวผู้อาจจะตัวเล็กกว่าตัวเมีย แต่หน้าที่ของมันคือต้องเป็นผู้นำฝูงครับ

อยากจะให้ข้อคิดว่า ถ้าชีวิตติดลบ คุณอย่าคิดลบ ประชดชีวิต หรือทำอะไรที่ไม่เข้าท่า  สิ่งแรกที่ควรทำคือตุณต้องตั้งใจคูณสอง ทำอะไรต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น      ที่สำคัญอย่าไปเชื่ออะไรต่างๆที่มันจะดึงให้คุณลงเหว  เช่นไอ้คำหลอกว่ากินเหล้าเข้าสังคม  มันอาจจะใช่สำหรับบางคนนะ  เพราะสังคมเขาอยู่ในนั้น   แต่ลองมองดูดีๆนะครับ  ว่าคุณเข้าสังคมได้หลายแบบ สังคมที่ดีจะต้องไม่ทำลายสุขภาพและวิถีชีวิตคุณ เพื่อให้คุณมีส่วนร่วมและได้ประโยชน์จากมันมากที่สุด  ดีที่สุดคือไปเรียนต่อ คุณจะได้สังคมการเรียน  ไปเล่นกีฬา ไปตีกอล์ฟ  ไปปฏิบัติธรรม ไปทำงานช่วยเหลือสังคม  มันมีอะไรร้อยแปดให้คุณได้เขาสังคมใหม่ เจอคนใหม่ๆ ใครไม่มีคู่คุณอาจจะได้คู่ ใครไม่มีเพื่อนก็จะได้เพื่อน ใครต้องการความรู้คุณจะได้ความรู้   ซึ่งการคุณไปกินเหล้าเมาหัวราน้ำทุกศุกร์เสาร์  ถ้าคุณหวังสร้างคอนเนคชั่น คุณอาจจะได้คอนเนคชั่นมาแค่ระดับผู้จัดการ   คุณไปปฏิบัติธรรม ไปตีกอล์ฟ  ไปโยคะ    คุณอาจจะได้คอนเนคชั่นระดับเจ้าของกิจการ  เพราะคนพวกนี้เขาไม่ต้องมานั่งทำงานให้เครียดแล้วละครับ เขาอยู่ในจุดสูงสุดของมาร์ชโลว์แล้ว      ได้รู้จักแล้วก็อย่าหยุดเรียนรู้  Know how ไม่เท่า Know who   คุณอาจจะไม่ใช่ของตลาด แต่คุณจะได้เส้นทางที่จะเข้าสู่ตลาดจากคอนเนคชั่นของคุณนี่แหละ  การที่ก้าวมาถามคำถามแบบนี้ (ไม่ใช่คำถามไร้สาระ)  คุณจะได้สาระกลับไป  ผมว่ากระทู้แบบนี้มันจะดีกับชีวิตของหลายๆคนนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่