
หากคุณมีอาการท้องร่วง โดยถ่ายอุจจาระเหลวหลายครั้งติดต่อกัน อุจจาระมีมูกปน หรือ มูกปนเลือด มีกลิ่นเหมือนผิดปกติคล้ายกุ้งเน่า
คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง ปวดท้องมาก ปวดบิดในช่องท้อง มีอาการอ่อนเพลีย และมีอาการนานกว่า 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ
เพราะอันตรายที่เกิดจากโรคอุจจาระร่วง จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปพร้อมกับการถ่ายอุจจาระจำนวนมาก
จนอาจทำให้เกิดอาการช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรรักษาเองนะคะ
เพราะถ้ามีอาการหากมีอาการรุนแรงมาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แนะนำให้พบแพทย์ทันทีค่ะ
เมื่อเกิดอาการท้องร่วงโดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการอยู่ 1-6 วัน แต่ถ้าหากอุจจาระร่วงจากอาหารเป็นพิษ มักมีอาการปวดท้อง
ร่วมกับถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ร่วมด้วยค่ะ
อาการของโรคท้องร่วงจะมีการถ่ายอุจจาระเหลว มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน สำหรับในทารกและเด็กเล็กๆ อาจมีไข้ต่ำๆ เป็นหวัด
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายอุจจาระเหลวตามมารวมถึงถ่ายเป็นมูก หรือ มูกปนเลือด ค่ะ
เมื่อเกิดอาการท้องร่วง ควรดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และหมั่นจิบน้ำเกลือแร่ ได้แก่ สารละลายน้ำตาล
เกลือแร่โออาร์เอส น้ำแกงจืด หรือน้ำข้าวใส่เกลือ เพื่อป้องกันการขาดน้ำในร่างกายค่ะ
การดูแลเด็กเล็กที่มีอาการท้องร่วง สำหรับเด็กที่เลี้ยงด้วยน้ำนมแม่ ควรให้เด็กรับประทานนมแม่ให้มากขึ้น
และสำหรับเด็กที่รับประทานนมผสม ให้ผสมนมตามปกติแล้วให้กินครึ่งหนึ่ง สลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอส
ในปริมาณเท่ากับนมที่เคยกินตามปกติ แต่ถ้าหากเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถให้อาหารเหลวที่ย่อยง่าย
เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ปลาต้ม เนื้อสัตว์ต้มเปื่อย เป็นต้นค่ะ
ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ยังคงถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก หรือถ่ายเหลวหลายครั้ง อาเจียนบ่อย
รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ได้ มีไข้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ อ่อนเพลียมาก ตาลึกโหล และถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้ลำไส้เก็บกักเชื้อโรคไว้นานเกินไปค่ะ
เมื่อมีอาการท้องร่วง ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง ปวดท้องมาก ปวดบิดในช่องท้อง มีอาการอ่อนเพลีย และมีอาการนานกว่า 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ
เพราะอันตรายที่เกิดจากโรคอุจจาระร่วง จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปพร้อมกับการถ่ายอุจจาระจำนวนมาก
จนอาจทำให้เกิดอาการช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรรักษาเองนะคะ
เพราะถ้ามีอาการหากมีอาการรุนแรงมาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แนะนำให้พบแพทย์ทันทีค่ะ
เมื่อเกิดอาการท้องร่วงโดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีอาการอยู่ 1-6 วัน แต่ถ้าหากอุจจาระร่วงจากอาหารเป็นพิษ มักมีอาการปวดท้อง
ร่วมกับถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ร่วมด้วยค่ะ
อาการของโรคท้องร่วงจะมีการถ่ายอุจจาระเหลว มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน สำหรับในทารกและเด็กเล็กๆ อาจมีไข้ต่ำๆ เป็นหวัด
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายอุจจาระเหลวตามมารวมถึงถ่ายเป็นมูก หรือ มูกปนเลือด ค่ะ
เมื่อเกิดอาการท้องร่วง ควรดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย และหมั่นจิบน้ำเกลือแร่ ได้แก่ สารละลายน้ำตาล
เกลือแร่โออาร์เอส น้ำแกงจืด หรือน้ำข้าวใส่เกลือ เพื่อป้องกันการขาดน้ำในร่างกายค่ะ
การดูแลเด็กเล็กที่มีอาการท้องร่วง สำหรับเด็กที่เลี้ยงด้วยน้ำนมแม่ ควรให้เด็กรับประทานนมแม่ให้มากขึ้น
และสำหรับเด็กที่รับประทานนมผสม ให้ผสมนมตามปกติแล้วให้กินครึ่งหนึ่ง สลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอส
ในปริมาณเท่ากับนมที่เคยกินตามปกติ แต่ถ้าหากเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถให้อาหารเหลวที่ย่อยง่าย
เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ปลาต้ม เนื้อสัตว์ต้มเปื่อย เป็นต้นค่ะ
ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ยังคงถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก หรือถ่ายเหลวหลายครั้ง อาเจียนบ่อย
รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ได้ มีไข้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ อ่อนเพลียมาก ตาลึกโหล และถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้ลำไส้เก็บกักเชื้อโรคไว้นานเกินไปค่ะ