เรื่องอะไรบ้างที่ฝังอยู่ในใจ จนคุณลืมมันไม่ลงจริงๆ

เคยมีอะไรฝังใจอยู่ลึกๆไหม
นานเท่าไหร่ก็ลืมไม่ลงจริงๆ..

สมัยเราเด็กๆ ช่วงประถมต้น
มีวันนึงช่วงเย็นๆ เรากลับมาจากโรงเรียน
คือเซอไพรส์มากสุดๆ พ่อกับแม่เราเอาน้องหมามาให้
เพราะเห็นเราอยากเลี้ยงหมา เป็นหมาพันธุ์พุดเดิ้ลสีขาว
เรารักมันมากๆ มันฉลาดมาก ไม่เคยดื้อกับเราเลย
มันจะปลุกเราทุกเช้า รอเรากลับจากรร.ทุกวัน
เรากลับมาก็จะเล่นกันจนค่ำๆ แล้วก็ขึ้นนอน
แต่มันเป็นหมาที่น่าสงสารตัวนึง คือทั้งบ้านไม่มีใครมีเวลาเลย
แต่ละคนกว่าจะกลับบ้านกัน คือมีเวลาเล่นกับหมาแค่4-5 ชั่วโมง
ตอนนั้นเราแทบไม่อยากไปรร.เลย สายตาเวลามันมองตอนเราจะไป
มันเศร้ามาก เราไม่อยากทิ้งมันเลย ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียว
แต่เราต้องไปเรียน ทุกคนต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง

หลายเดือนต่อมา
เย็นวันนั้น เรากลับบ้านมา แล้วไม่เจอหน้ามันเหมือนเดิม
เราเดินหาทั่วบ้านก็ไม่เจอ ไปหาแถวบ้าน แทบทุกซอยก็ไม่เจอ
พ่อกับแม่เราบอกว่าหมาเราติดสัตว์ หนีหายตามตัวอื่นไปแล้ว
เราร้องไห้ ร้องแทบจะขาดใจตายเลยจริงๆตอนนั้น
ตื่นมาก็ร้อง ไม่มีมันมาปลุกเราทุกเช้าอีกต่อไปแล้ว
เรานึกวนเวียนทุกวัน มันจะเป็นไงบ้าง จะโดนคนไล่ตีไหม
จะโดนหมาตัวอื่นกัดไหม จะหิวไหม คือเราทรมานมากจริงๆ
กว่าใจเราจะเบาลง หลายปีมาก!

จนทุกวันนี้ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว
พ่อเรามาบอกความจริงกับเรา ว่าตอนนั้นหมาไม่ได้หายไปหรอก
พ่อเอามันไปปล่อยเอง เพราะบ้านเราไม่พร้อมจะเลี้ยง ไม่มีเวลา
พ่อเรารู้สึกผิดในใจมาตลอด จนมาบอกความจริงเราตอนเราโตแล้ว
บอกว่าพ่อพามันไปปล่อย แล้วขับรถหนี มันวิ่งตามรถไกลมาก
วิ่งไม่คิดชีวิตพอรู้ว่าโดนทิ้ง จนรถพ่อสุดสายตา

ฟังจบ เราอยากจะโกรธพ่อมากนะตอนนั้น แต่ทำไม่ลง
รู้ไหมในใจเรา เจ็บมากๆ เราเจ็บยิ่งกว่าตอนเด็กๆร้อยเท่าพันเท่า
ตอนนี้เราพิมไปยังร้องไห้ไปอยู่เลย !
คือนึกภาพแล้วเราอดสงสารมันไม่ได้จริงๆ
ตอนมันวิ่งตามรถ ตอนรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง มันคงเสียใจมาก
เรารู้สึกแย่มาก คือทำไมเราดูแลปกป้องมันไม่ได้
เหมือนเป็นตราบาปติดตัว คงเป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจเราจนตาย TT


คนไม่เลี้ยงหมาคงไม่เข้าใจ แต่รู้ไหมความรู้สึกของเจ้าของ
มันเป็นเหมือนคนในครอบครัว เป็นสิ่งที่ซื่อสัตย์ เชื่อฟัง
มันทำทุกอย่างให้เรามีความสุขโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

สุดท้ายนี้คือเราอยากจะบอกว่า
อย่าเลี้ยงหมาในวันที่ไม่พร้อม และหากเราเอาเค้ามาเลี้ยงแล้ว
อย่าทิ้งขว้างเค้า เพราะในชีวิตเรามีสิ่งต่างๆมากมาย
แต่สำหรับเค้า เราเป็นสิ่งเดียวในชีวิตเค้า..

ขออโหสิกรรมกับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเถิด TT
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ตอน ป.2 เราเรียนพิเศษที่โรงเรียนช่วงเย็น(เรียนไม่หนักนะคะ มีทำการบ้านแล้วก็ทำงานทบทวนบทเรียน) วันนั้นพ่อไปรอรับเรา เราทำงานเสร็จช้ากว่าคนอื่นเพราะเรามีปัญหาเรื่องการลอกตัวหนังสือจากกระดานลงสมุด(ตอนนั้นเราอ่านหนังสือคล่องกว่าคนอื่นในห้องนะ อ่านในใจได้ เรียนได้ที่ 1 แต่ถ้าต้องลอกประโยคที่ครูเขียนบนกระดานลงสมุดเราจะใช้เวลานานมาก เงยหน้ามาอ่านแทบทุกคำเพราะกลัวเขียนผิดหรือตกหล่น)

พ่อรอนานมากจนโมโห ประกอบกับรองเท้าที่เราถอดไว้หน้าห้องเรียนถูกใครไม่รู้เตะจนกระเด็นออกจากจุดที่วาง พ่อหาว่าเราเอาแต่วิ่งเล่นช่วงพัก แล้วมาเข้าห้องเรียนช้าเลยทำงานเสร็จทีหลังเพื่อน เราโดนด่า โดนตีมาตลอดทางกลับบ้าน เราร้องไห้จนไม่มีเสียง ร้องจนหายใจไม่ออก พ่อมาถึงบ้านก็ทะเลาะกับแม่อีก โยนหม้อแกงแม่ทิ้ง แม่พยายามปลอบเราว่าไม่ให้ร้อง แต่ตอนนั้นที่เราต้องการไม่ใช่คำปลอบ แต่เป็นใครสักคนที่เชื่อเราว่าเราไม่ได้วิ่งเล่น ตอนพักเราไม่ได้ไปไหนเลยด้วยซ้ำ เข้าแถวสวดมนต์เสร็จก็กลับเข้าห้องมานั่งทำการบ้านเลย ขนมก็ไม่ได้ออกไปกินเพรารู้ว่าตัวเองเป็นคนเขียนหนังสือช้า แต่ไม่มีใครฟังเรา

เรื่องผ่านมายี่สิบกว่าปี เรายังจำความรู้สึกตอนที่หายใจไม่ออกในวันนั้นได้ดีค่ะ พอโตมาเราหาจิตแพทย์ 2 ครั้ง (ปี 53 กับ 58) เราเล่าให้หมอฟังทั้งสองครั้ง เราอยากให้พ่อขอโทษเรา แต่เรารู้ว่าถ้าพูดกับพ่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ความสำเร็จของลูกมีไว้ให้พ่อเอาไปพูดชมกับคนนอกบ้าน แต่เวลาอยู่ในบ้านมีแต่คำดุด่าในเรื่องที่ผิดพลาดหรือทำไม่ได้...
ความคิดเห็นที่ 17
บางทีน้องหมาของ จขกท อาจจะมีเจ้าของใหม่ที่รักเค้าพาไปดูแลก็ได้นะคะ อย่าให้ความรู้สึกนี้ทำร้ายตัวคุณเลย
ตอน 11 ขวบ เราเคยแอบเอาข้าวไปเลี้ยงลูกหมาจรจัดแถวบ้านอยู่หลายเดือน เพราะที่บ้านไม่อนุญาตให้เลี้ยง
วันนึงลูกหมาหายไปจากที่เดิม เราออกตามหาและร้องไห้เสียใจมาก ใจเอาแต่คิดว่ามันถูกรถชนรึเปล่า
จนวันนึงมีครอบครัวหนึ่งย้ายมาอยู่พร้อมหมาแม่ลูก
    เราเดินผ่านหน้าบ้านนั้น หมาตัวแม่ร้องจะออกมาหา ตอนแรกเจ้าของเค้าก็ไม่กล้าปล่อยออกมาเพราะมันดุค่ะ
พอเค้าเห็นว่าหมามันไม่ได้จะกัด แต่มันร้องแบบเจอเจ้าของเขาเลยให้มันออกมาเจอเรา ตอนแรกเราจำไม่ได้ค่ะ ลูกหมาตัวนั้นโตขึ้นมาก แต่เราลองเรียกชื่อมันออกไป มันดีใจสุด ๆ ทั้งคนทั้งหมาร้องไห้กันใหญ่ ไม่น่าเชื่อเลยเราจะได้พบกันอีก จากเรื่องดราม่ากลายเป็นเรื่องที่ประทับใจไปได้
ที่แท้การหายไปของมันเป็นเรื่องดี มีคนใจดีพาไปเลี้ยงดูค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
คล้ายคุณมากเลยค่ะ เข้าใจความรู้สึกเลย เพราะเราเอง
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปี่ เราก็ไม่เคยลืม มันเป็นความรู้สึกผิด

บ้านเก่าเราเป็นบ้านสวนค่ะ เลี้ยงหมาไว้ 2 ตัว เรามีหน้าที่ให้อาหารเค้า
จนวันนึง ครอบครัวขายสวน ย้ายมาอยู่ตึกแถว เราทิ้งหมา 2 ตัวไว้ที่นั่น
ฝากบ้านใกล้ ๆ กันเลี้ยงต่อ

ตอนนั้นเรายังเด็กค่ะ เรียนมัธยมต้นเอง หลังจากบ้านเราย้ายออก ซักอาทิตย์นึง
เรากลับไปเยี่ยมหมาค่ะ สิ่งที่เราเห็นคือ หมาร้องโหยหวน ดีใจมาก ตามเฝ้าเราไม่ห่างเลย
จนเราต้องให้เพื่อนบ้านจับไว้ แล้วเราหนีกลับ
เพื่อนบ้านมาเล่าว่า หลังจากเราไปแล้ว หมาหอน วิ่งตามหาเราเป็นชั่วโมง ข้าวปลาไม่ยอมกิน
ซักพักเค้าก็ตรอมใจตายค่ะ (เรื่องหมาตาย เรารู้หลังจากนั้นอีกนานแล้วนะคะ)

เราไม่เคยเข้าไปอีกเลย ตอนนั้นคือ เราสงสารหมา เราไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนั้นอีก
แต่เราก็ไม่เคยลืม รู้สึกผิดตลอดเวลา เรารู้ว่า ตอนนั้นเราไม่มีอำนาจจะจัดการอะไรได้
แต่เราไม่สู้เพื่อหมา เพื่อให้เค้ามาอยู่ด้วย

จนปัจจุบัน เราเลี้ยงหมาด้วยความรักทั้งหมดที่มีให้ ดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่สามารถ
เหมือนชดเชยความผิดที่เราเคยทิ้งหมา 2 ตัวที่เราเคยทิ้ง แต่มันไม่เคยลบล้างได้เลย
เราน้ำตาซึมทุกครั้งที่คิดเรื่องนี้
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สุนัข สุนัขพุดเดิ้ล (Poodle) ปัญหาครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่