ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 8/1/2018 (โจวเอินไหล รัฐบุรุษของจีน)



ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

  
วันนี้เป็นวันครบรอบถึงแก่กรรมของโจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน

โจวเอินไหล เกิด 5 มีนาคม พ.ศ. 2440 ถึงแก่กรรม 8 มกราคม พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976)
เป็นบุคคลที่ยืนหยัดเคียงข้างเหมาเจ๋อตงในการสร้างชาติจีน  

โจวเอินไหล (คนที่สองจากขวา) กับ เหมาเจ๋อตง ในวันประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ปี 1949



โจวเอินไหลเป็นคนที่ได้รับการยกย่องมาก มีประวัติเรื่องราวทางการเมืองที่น่าสนใจมากมาย
วันนี้จะยกมาแค่เกร็ดบางเรื่องค่ะ

โจวเอินไหลเกิดในครอบครัวขุนนางชั้นผู้น้อย เป็นบุคคลที่มีชีวิตน่าทึ่งมาตั้งแต่วัยเยาว์

อายุเพียง 4 ขวบ ก็สามารถอ่านและท่องกวีนิพนธ์สมัยถังได้ขึ้นใจ

อายุยังไม่เต็ม 9 ขวบ อ่านวรรณกรรมคลาสสิคอีกมากมาย

อายุ 12 ขวบ เข้าเรียนชั้นประถมที่นครเสิ่นหยัง ได้รับการปลูกฝังแนวคิดปฏิวัติประชาธิปไตยจากครูเกายี่หวู
โดยการแนะนำให้เขาอ่านหนังสือ "กองทัพปฏิวัติ" งานประพันธ์ของโจวหรง นักปฏิวัติประชาธิปไตยนิยม



ครั้งหนึ่ง ครูถามนักเรียนในชั้นเรียนว่า โตขึ้นปรารถนาจะทำสิ่งใด
โจวเอินไหลลุกขึ้นตอบฉาดฉานว่า "ปรารถนาจะให้จีนผงาด"

1 ต.ค.1949 โจวเอินไหล ในวัย 51 ปี ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ
และรองประธานคณะกรรมการทหารปฏิวัติประชาชน ท่ามกลางวิกฤตปัญหารุมเร้าทั้งในและนอกประเทศ
เขาเป็นอัจฉริยะหลายด้านทั้ง การปกครอง การทหาร สงคราม เศรษฐกิจ



ปณิธานแรงกล้า

"ข้าพเจ้าเป็นชาวจีน  ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นจีน  แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ปิดประตูขังตนเอง
ซึ่งการทำเช่นนั้นจะกลายเป็นลัทธิโบราณนิยมไป  ของดีของต่างประเทศก็จะต้องรับเอามา
และมาให้หลอมละลายอยู่ในวัฒนธรรมแห่งชาติจีนของเรา  แต่เหนือสิ่งอื่นใด ประเทศจีนของเราต้องมาก่อนเสมอ"




นายกผู้ยิ่งใหญ่แต่ใช้ชีวิตติดดิน

โจวเอินไหล เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ดีมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย  มุ่งทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง
โดยยืนหยัดในอุดมการณ์ที่หนักแน่น แต่ยืนหยุ่นได้

ในระหว่างเวลา 27 ปี  ที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  เขาไม่เคยจัดงานวันเกิดของตนเอง
ไม่ให้สร้างสำนักนายกรัฐมนตรีใหม่  แต่ใช้จวนของขุนนางเก่าแห่งหนึ่งแทน
เขาปฎิเสธความสะดวกสบายทุกอย่าง และเข้มงวดการใช้จ่ายในเรื่องที่สิ้นเปลือง  

หลายครั้งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาจะจัดงานฉลอง ก็ถูกโจวเอินไหล วิจารณ์อย่างเข้มงวด และมองว่าเป็นความสิ้นเปลื้อง
เป็นการเอาเปรียบสหายประชาชนผู้กำลังลำบากและอดยากอีกนับล้านๆ คน  

เขามีความคิดว่า...

"ประเทศจีนยังยากจน จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้เงินที่มีเพียงน้อยนิดนี้ มาอำนวยความสะดวกให้ตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรี"

เขามักจะไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในที่ต่างๆ  อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น บนรถโดยสาร  
ตลาด บนท้องถนน สนทนากับประชาชนที่ได้พบ  โดยที่หลายๆ คนไม่รู่ว่า  เขาคือนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน

นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ตรวจการงานแสดงธัญพืชในมณฑลก่วงตง ปี 1958



เหล้าเหมาไถ ปิงปอง และมิตรภาพ (ขอบคุณข้อมูลจากพี่ซี)

ในปี ค.ศ 1961 จีน ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันปิงปองชิงแชมป์โลกครั้งที่ 26 ที่กรุงปักกิ่ง

ขณะนั้นแชมป์ปิงปองหญิงเดี่ยวของโลกเป็นชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปี ชื่อ คิมิโย มัตสุซากิ 松崎君代 .

ช่วงเวลานั้น จีน ยังไม่เปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับญี่ปุ่น การเดินทางไปแข่งขันที่เมืองจีนของทีมญี่ปุ่น
เป็นไปด้วยความลำบาก โดยต้องนั่งเครื่องบินจาก โตเกียว ไปลงที่ ฮ่องกง ต่อรถไปที่ เซินเจิ้น
แล้วนั่งรถไฟต่อไปที่เมืองกว่างโจว จากนั้นจึงเปลี่ยนรถไฟจาก กว่างโจว ไปที่กรุง ปักกิ่ง
ซึ่งใช้เวลารวมทั้งสิ้น 3 วัน (ปัจจุบันถ้าบินจากโตเกียวไปญี่ปุ่นใช้เวลาเพียง 2.30 ชั่วโมง)

ถึงแม้การเดินทางจะเต็มไปด้วยความไม่สะดวก แต่ คิมิโย และทีมญี่ปุ่น กลับลงสนาม
แข่งขันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม สร้างความประทับใจให้ มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ นายกรัฐมนตรีจีน โจวเอินไหล .

ในการแข่งคราวนั้นถึงแม้ คิมิโย เป็นฝ่ายแพ้ตกรอบไปตั้งแต่รอบต้นๆ
แต่ด้วยอัธยาศัยส่วนตัวของ คิมิโย ซึ่งตรงกับสโลแกนส่วนตัวของนายกโจว
ที่ว่า "มิตรภาพต้องมาก่อนผลการแข่งขัน"

เมื่อถึงงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา นายกโจว ได้ไปด้วยตนเอง เมื่อได้พบปะพูดคุยกับ คิมิโย แล้ว ยิ่งถูกคอ

ดังนั้นนายกโจว จึงมอบเหล้าเหมาไถให้ คิมิโย ไป 2 ขวด และทั้ง 2 จึงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนับตั้งแต่วันนั้น



2 ปีให้หลัง ค.ศ 1963 คิมิโย ได้กลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง
นายกโจว ได้ส่งโทรเลขส่วนตัวไปแสดงความยินดีกับ คิมิโย

สร้างความดีใจให้กับ คิมิโย มากเพราะไม่คิดมาก่อนว่า นายกโจวที่มีภาระกิจมากมายจะมีเวลาติดตามผลงานของเธอ

รุ่งขึ้นปี ค.ศ 1964 คิมิโย ได้มาเยือนเมืองจีนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาในฐานะโค้ชนักกีฬา
พาทีมญี่ปุ่นมาแข่งขัน ซึ่งได้พบนายกโจวอีกเช่นเคย



และครั้งนี้เธอนำข่าวดีมาบอกนายกโจวว่า "เธอกำลังจะแต่งงาน"

นายกโจวและภรรยาดีใจมาก และได้มอบของขวัญให้เธอเป็น ปลอกหุ้มผ้านวมสีแดง 2 ผืน
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปในญี่ปุ่น ทุกคนต่างดีใจไปกับ คิมิโย ด้วย

แต่ตลอดชีวิตการแต่งงานของ คิมิโย ไม่ได้ใช้ของขวัญที่ นายกโจวและภรรยาให้เลย
เพราะ คิมิโย ถือว่าเป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุดจึงไม่กล้านำออกมาใช้

นายกโจวได้มอบเหล้าเหมาไถให้คิมิโยอีก 1 ขวด และเหล้าขวดนั้น คิมิโย ได้นำไปให้พ่อของเธอ
พ่อ คิมิโย ดีใจมากได้บอกทุกคนที่มาพบเขาว่า

"เหล้าขวดนี้เป็นทั้งเกียรติภูมิและมิตรภาพของนายกโจว ที่ไม่ใช่มอบให้กับ
ครอบครัว มัตสุซากิ เท่านั้น แต่เสมือนหนึ่งเป็นการมอบให้กับชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ
"

หลังจากนั้น พ่อของ คิมิโย จะดื่มเหล้าขวดนั้นกับเพื่อนที่สนิทหรือคนนับถือ
แต่จะเอามาดื่มครั้งละนิดเดียวเท่านั้น ผ่านไป 10 กว่าปี เหล้าขวดนั้นพึ่งดื่มไปได้แค่ 1/2 ขวดเท่านั้น

เมื่อนายกโจว ได้ถึงแก่อสัญกรรม คิมิโย รู้ข่าวถึงกับร่ำไห้แล้วพูดว่า
"ท่านนายกรัฐมนตรีของฉันเสียชีวิตแล้ว"

ครอบครัว มัตสุซากิ ต่างร่ำไห้อาลัยรัก นายกโจว
พ่อของ คิมิโย ได้เอาเหล้าเหมาไถที่เหลือ 1/2 ขวดนั้น เก็บขึ้นอย่างดีไม่ยอมเอาขึ้นมาดื่มอีกเลย



สุภาพบุรุษนักการทูต โจวเอินไหลได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักการทูต

ผลงานนโยบายต่างประเทศชิ้นแรกที่ทำให้นานาประเทศประกาศรับรองรัฐบาลจีน
และทำให้มหาอำนาจสหรัฐอเมริกายอมเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน

โจว เอินไหล กับเลขาธิการสหประชาชาติ Dag Hjalmar Agne Carl Hammarskjöld ปี 1955


ริชาร์ด นิกสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ยกย่องโจวเอินไหลเป็นนักปฏิวัติสากลนิยมผู้ยิ่งใหญ่

เดือน ก.พ. ปี 1972 โจวเอินไหลต้อนรับประธานาธิบดีริกชาร์ด นิกสัน แห่งหสรัฐอเมริกาที่สนามบิน
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ประธานาธิบดีมาเยือนต่างประเทศที่มิได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกัน



วันที่ท่านถึงแก่อสัญกรรม แม้แต่นักการเมืองต่างชาติที่เคยเป็นคู่อริหรือศัตรู
ก็ไม่อาจสรรหาถ้อยคำใดมาโจมตีรัฐบุรุษของจีนผู้นี้ได้


คู่ชีวิต

โจวแต่งงานกับสหายเติ้งอิ่งเชาในปี 1925 และเป็นคู่ทุกข์คู่ยากจนจวบสิ้นอายุขัย



โจวเอินไหลเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในวันที่ 8 มกราคม 1976 (พ.ศ.2519)
ที่กรุงปักกิ่ง ในวัย 78 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของชาวจีนทั่วโลก

เติ้ง อิ่งเชา ถือพานธงชาติ ในงานพิธีศพโจวเอินไหล




ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdOREF5TURnMU9BPT0=&sectionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBeE5TMHdPQzB3TWc9PQ==
http://www.manager.co.th/china/viewnews.aspx?newsID=9600000002294
http://oknation.nationtv.tv/blog/pongpat007/2014/09/02/entry-1
ข้อมูลบางส่วนจากพี่ cnck


..................................................


ขอไว้อาลัย โจว เอินไหล นายกที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของชาวจีนค่ะ


มังกรสร้างชาติ The Founding of a Republic.mp4

https://www.youtube.com/watch?v=Wf1ommMRXVU
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การ์ตูนการเมือง ประเทศจีน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่