สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราก็อายุ24ใกล้จะ25แล้ว
เราเรียนทันตแพทย์ค่ะ ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อสถาบันนะคะ ตอนนี้อยู่ปี6(ปีที่ควรจะเป็นปีสุดท้าย)
ที่ผ่านมาเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจังกับชีวิต ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่มีระเบียบ ไม่สปอย มีเหตุมีผลมาตลอด แต่ก็ไม่ได้ทุกข์อะไรนะคะ รู้สึกขอบคุณที่บ้านด้วยซ้ำ ที่สอนให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เสมอ
เราเลือกเรียนคณะนี้ด้วยตัวเอง ผลักดันตัวเองมาจนถึงจุดนี้เพราะความประทับใจในสายอาชีพนี้ตั้งแต่เด็ก ที่บ้านไม่มีใครบังคับให้เรียนนะคะ
แต่หัวก็ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย เรียนในระดับปานกลางมาตลอดตั้งแต่ปี1 เรียกได้ว่าเกาะมีนได้ก็สุดตัวแล้ว แต่ก็ฝืนมาตลอดเพราะคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เราชอบ จนได้ก้าวขึ้นมาในระบบคลินิก ก็ค่อยๆเริ่มรู้ตัวเองว่าความชอบนั้นค่อยๆหายไป ไม่รู้ว่าเพราะสังคม รูปแบบงาน อาจารย์ เพื่อน แฟน หรือรวมไปถึงตัวเรา
เราเริ่มไม่มีความสุขในการเข้าไปเรียนไปทำงานในคลินิก เริ่มไม่อยากเข้ากลุ่มกับเพื่อน เพราะยิ่งคุยกันเรื่องงานเราก็ยิ่งเครียด ค่อยๆแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เลี่ยงการพูดคุยกับคนอื่นๆ พยายามหางานอดิเรกทำซึ่งก็คือการเลี้ยงหมาและการทำขนม
โดยทุกๆวันหยุด เราจะรู้สึกว่าเรากลับมาเป็นคนเดิมที่มีความสุขที่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง คือแค่อยู่บ้าน ทำงานบ้านทั้งวัน(ทั้งๆที่เด็กๆจะไม่ชอบเอามากๆ) เหมือนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่กลับไปเรียน เราจะมีความสุขทั้งหมด แต่พอกลับไปในวันธรรมดา เราจะกลับไปเป็นอีกคน ใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่น/ทำงาน ตลอดเวลา ความรู้สึกเครียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราเคยอยากฆ่าตัวตาย(เคยใจลอยเดินขึ้นดาดฟ้าหอ เคยคิดวิธีฆ่าตัวตายหลายแบบ) แต่สุดท้ายเราก็ทำไม่ได้เพราะรู้สึกผิดกับครอบครัว
จนกลายเป็นว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร ตัดสินใจในทางไหน เราก็จะรู้สึกผิดตลอดเวลา
จนแฟน(รุ่นพี่ในคณะ)ขอให้ไปพบจิตแพทย์ ได้ผลว่าเป็นโรคซึมเศร้า(moderate to severe depressive disorder) จนได้มีการลาป่วยไปประมาณ1-2อาทิตย์ แต่เราก็ไม่กล้าที่จะดรอปหรือลาออก เพราะคิดว่าถ้าหายป่วยเราจะกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบและมีความสุขกับงานสายนี้
แต่ตอนนี้เรารักษามา1ปีกว่าแล้ว กินยาและพบแพทย์สม่ำเสมอมาตลอด สภาพจิตใจดีขึ้นบ้าง แต่ประสิทธิภาพในการทำงานเราแย่ลง เราอ่านหนังสือช้าลง ตัดสินใจช้าลง เวลาติดต่อสื่อสารกับคนอื่นเราจะกลายเป็นช้าๆตามคนอื่นไม่ทัน เรียนหนังสือลำบาก สอบก็แย่ลง. ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ยิ่งทำให้เราเครียดขึ้นไปอีก งานเราก็ไม่ถึงไหนซึ่งเท่ากับว่าไม่มีทางจบทันในปีที่6แน่นอน ขึ้นต่ำก็8-9ปี
เราพยายามฝืนใจตัวเองมาตลอด จนถึงจุดที่คิดแค่ว่าฝืนเรียนให้จบแล้วรีบทำงานหาเงินให้ได้เยอะๆแล้วจะได้ไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ซึ่งก็คือเป็นหมอฟันเพื่อเงินล้วนๆ พอคิดแบบนั้นบางครั้งเราก็คิดว่าทนๆไปช่างมัน(เหมือนแบบไม่มีจรรยาบรรณ) แต่บางครั้งเราก็จะรู้สึกแย่มากๆ(เพราะเราไม่อยากทำงานเพราะเงินอะไรมากมาย เราแค่อยากพอเลี้ยงครอบครัว พอมีพอกิน ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ)
เรามาถึงจุดที่จะก้าวต่อไปก็ก้าวไม่ได้(เราฝืนตัวเองไปเรียนแทบจะไม่ได้แล้ว เวลาไปที่คณะก็กลายเป็นเลี่ยงทุกๆคน ทำตัวไร้ตัวตน ไปอยู่ให้หมดเวลาแล้วรีบกลับ) แต่กลับถอยกลับมาก็ถอยไม่ได้(เพราะอายุก็24แล้ว เพื่อนคณะอื่นเรียนจบกันหมดแล้ว เราก็ไม่รู้จะถอยไปคณะไหนแล้ว จะถอยก็เสียดายเงินเสียดายเวลา แต่ก็กลัวว่าจะเรียนต่อแล้วไม่จบ)
จริงๆเราเจอเรื่องต่างๆจนทำให้กลายเป็นแบบนี้มามากกว่าที่เล่านะคะ แต่กลัวว่ามันจะเฉพาะเจาะจงจนเกินไป เราพยายามไม่ให้ใครรู้ว่าเราเป็นยังไงในตอนนี้
แต่ก็ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงจริงๆ อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง(ครอบครัวมีไร่จำนวน50ไร่อนู่ที่ราชบุรีอยู่แล้ว แต่รกร้าง)/ทำขนม/ผู้ช่วยทันตแพทย์ (แต่เรากลัวว่ามันจะเป็นการตัดสินใจจากอารมณ์ที่ไม่อยากเรียน) ควบคู่ไปกับการเรียนสายบริหารหรือสายอื่นๆ(ซึ่งตอนนี้ยังมืดแปดด้าน)
ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาจนจบนะคะ และขอบคุณทุกๆความคิดเห็นด้วยค่ะ เราไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตแล้วจริงๆ เดี๋ยววันอังคารนี้ก็จะไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอีกครั้งค่ะ
ซึมเศร้าจะเรียนทันตะไม่จบ : ขอระบาย+ปรึกษาหน่อยนะคะ
เราเรียนทันตแพทย์ค่ะ ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อสถาบันนะคะ ตอนนี้อยู่ปี6(ปีที่ควรจะเป็นปีสุดท้าย)
ที่ผ่านมาเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจังกับชีวิต ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่มีระเบียบ ไม่สปอย มีเหตุมีผลมาตลอด แต่ก็ไม่ได้ทุกข์อะไรนะคะ รู้สึกขอบคุณที่บ้านด้วยซ้ำ ที่สอนให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เสมอ
เราเลือกเรียนคณะนี้ด้วยตัวเอง ผลักดันตัวเองมาจนถึงจุดนี้เพราะความประทับใจในสายอาชีพนี้ตั้งแต่เด็ก ที่บ้านไม่มีใครบังคับให้เรียนนะคะ
แต่หัวก็ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวย เรียนในระดับปานกลางมาตลอดตั้งแต่ปี1 เรียกได้ว่าเกาะมีนได้ก็สุดตัวแล้ว แต่ก็ฝืนมาตลอดเพราะคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เราชอบ จนได้ก้าวขึ้นมาในระบบคลินิก ก็ค่อยๆเริ่มรู้ตัวเองว่าความชอบนั้นค่อยๆหายไป ไม่รู้ว่าเพราะสังคม รูปแบบงาน อาจารย์ เพื่อน แฟน หรือรวมไปถึงตัวเรา
เราเริ่มไม่มีความสุขในการเข้าไปเรียนไปทำงานในคลินิก เริ่มไม่อยากเข้ากลุ่มกับเพื่อน เพราะยิ่งคุยกันเรื่องงานเราก็ยิ่งเครียด ค่อยๆแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เลี่ยงการพูดคุยกับคนอื่นๆ พยายามหางานอดิเรกทำซึ่งก็คือการเลี้ยงหมาและการทำขนม
โดยทุกๆวันหยุด เราจะรู้สึกว่าเรากลับมาเป็นคนเดิมที่มีความสุขที่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง คือแค่อยู่บ้าน ทำงานบ้านทั้งวัน(ทั้งๆที่เด็กๆจะไม่ชอบเอามากๆ) เหมือนทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่กลับไปเรียน เราจะมีความสุขทั้งหมด แต่พอกลับไปในวันธรรมดา เราจะกลับไปเป็นอีกคน ใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่น/ทำงาน ตลอดเวลา ความรู้สึกเครียดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราเคยอยากฆ่าตัวตาย(เคยใจลอยเดินขึ้นดาดฟ้าหอ เคยคิดวิธีฆ่าตัวตายหลายแบบ) แต่สุดท้ายเราก็ทำไม่ได้เพราะรู้สึกผิดกับครอบครัว
จนกลายเป็นว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร ตัดสินใจในทางไหน เราก็จะรู้สึกผิดตลอดเวลา
จนแฟน(รุ่นพี่ในคณะ)ขอให้ไปพบจิตแพทย์ ได้ผลว่าเป็นโรคซึมเศร้า(moderate to severe depressive disorder) จนได้มีการลาป่วยไปประมาณ1-2อาทิตย์ แต่เราก็ไม่กล้าที่จะดรอปหรือลาออก เพราะคิดว่าถ้าหายป่วยเราจะกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบและมีความสุขกับงานสายนี้
แต่ตอนนี้เรารักษามา1ปีกว่าแล้ว กินยาและพบแพทย์สม่ำเสมอมาตลอด สภาพจิตใจดีขึ้นบ้าง แต่ประสิทธิภาพในการทำงานเราแย่ลง เราอ่านหนังสือช้าลง ตัดสินใจช้าลง เวลาติดต่อสื่อสารกับคนอื่นเราจะกลายเป็นช้าๆตามคนอื่นไม่ทัน เรียนหนังสือลำบาก สอบก็แย่ลง. ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ยิ่งทำให้เราเครียดขึ้นไปอีก งานเราก็ไม่ถึงไหนซึ่งเท่ากับว่าไม่มีทางจบทันในปีที่6แน่นอน ขึ้นต่ำก็8-9ปี
เราพยายามฝืนใจตัวเองมาตลอด จนถึงจุดที่คิดแค่ว่าฝืนเรียนให้จบแล้วรีบทำงานหาเงินให้ได้เยอะๆแล้วจะได้ไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ซึ่งก็คือเป็นหมอฟันเพื่อเงินล้วนๆ พอคิดแบบนั้นบางครั้งเราก็คิดว่าทนๆไปช่างมัน(เหมือนแบบไม่มีจรรยาบรรณ) แต่บางครั้งเราก็จะรู้สึกแย่มากๆ(เพราะเราไม่อยากทำงานเพราะเงินอะไรมากมาย เราแค่อยากพอเลี้ยงครอบครัว พอมีพอกิน ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ)
เรามาถึงจุดที่จะก้าวต่อไปก็ก้าวไม่ได้(เราฝืนตัวเองไปเรียนแทบจะไม่ได้แล้ว เวลาไปที่คณะก็กลายเป็นเลี่ยงทุกๆคน ทำตัวไร้ตัวตน ไปอยู่ให้หมดเวลาแล้วรีบกลับ) แต่กลับถอยกลับมาก็ถอยไม่ได้(เพราะอายุก็24แล้ว เพื่อนคณะอื่นเรียนจบกันหมดแล้ว เราก็ไม่รู้จะถอยไปคณะไหนแล้ว จะถอยก็เสียดายเงินเสียดายเวลา แต่ก็กลัวว่าจะเรียนต่อแล้วไม่จบ)
จริงๆเราเจอเรื่องต่างๆจนทำให้กลายเป็นแบบนี้มามากกว่าที่เล่านะคะ แต่กลัวว่ามันจะเฉพาะเจาะจงจนเกินไป เราพยายามไม่ให้ใครรู้ว่าเราเป็นยังไงในตอนนี้
แต่ก็ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงจริงๆ อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง(ครอบครัวมีไร่จำนวน50ไร่อนู่ที่ราชบุรีอยู่แล้ว แต่รกร้าง)/ทำขนม/ผู้ช่วยทันตแพทย์ (แต่เรากลัวว่ามันจะเป็นการตัดสินใจจากอารมณ์ที่ไม่อยากเรียน) ควบคู่ไปกับการเรียนสายบริหารหรือสายอื่นๆ(ซึ่งตอนนี้ยังมืดแปดด้าน)
ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาจนจบนะคะ และขอบคุณทุกๆความคิดเห็นด้วยค่ะ เราไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตแล้วจริงๆ เดี๋ยววันอังคารนี้ก็จะไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอีกครั้งค่ะ