
รีวิวเที่ยวไอซ์แลนด์
ก่อนจะพบกับรีวิวไอซ์แลนด์ จะขออนุญาตแนะนำรีวิวเก่าๆด้วยนะครับ
เที่ยวเบลเยี่ยม
https://pantip.com/topic/35283155
เที่ยวสวิตเซอแลนด์
https://pantip.com/topic/35265339
----------
ทริปนี้ ขอแบ่งเป็น 3 ช่วงนะครับ เพราะต้องมีการต่อเครื่อง เลยได้มีโอกาสแวะเที่ยวนิดหน่อย
ซึ่งการเดินทางของเรา ก็คือ
สุวรรณภูมิ - โคเปนเฮเก้น - เรคยาวิค
ส่วนขากลับคือ
เรคยาวิค - ปารีส (ออลี่) // ปารีส (ชาร์ลเดอโกล) - สุวรรณภูมิ
สำหรับการเตรียมตัว คาดว่ามีคนรีวิวไว้มากแล้ว ทั้งการเตรียมอุปกรณ์ซึ่งต้องกันน้ำกันลม การขอวีซ่า การจองที่พัก รถเช่า แม้กระทั่งการเตรียมหุงหาอาหาร จึงขอข้ามเลยนะครับ
----------
ทริปของเรา คือผมเดินทางไปกับแฟน แล้วไปร่วมกรุ๊ปกับเพื่อนๆของแฟนผมครับ รวมเป็น 6 คน เช่ารถ Volkswagen Caravelle ส่วนที่พัก เป็น guesthouse บ้าง hostel บ้าง Airbnb บ้างครับ ส่วนเรื่องอาหารการกิน เราพกอาหารแห้งไปส่วนหนึ่งครับ และเตรียมไปซื้อทำกินด้วยครับ

ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ดังที่สุดของที่นี่คงไม่พ้น Bonus ครับ เช็คเวลาเปิด-ปิดด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องที่ต้องเจอแล้วเราไม่ค่อยจะชิน เป็นเรื่องเติมน้ำมันครับ ที่นี่ไม่มีเด็กปั๊มครับ เติมเอง อาจใช้บัตรเครดิต หรือ cash card ซึ่งต้องไปซื้อจากในมินิมาร์ทอีกที วิธีเติมก็คือ เสียบบัตรเข้าตู้ เลือกหมายเลขแท่น เลือกราคาที่จะเติม พอ ready ก็เอาหัวจ่ายมาเสียบเลยครับ พอเติมเสร็จ ในกรณี cash card ก็เสียบบัตรเขาไปอีกที เครื่องก็จะให้สลิปมาครับ
----------
หลังจากออกเดินทางในกลางดึกของคืนวันที่ 4 ตุลาคม 2560 เราถึงเมืองโคเปนเฮเก้นในช่วงเช้าวันที่ 5 ก่อนออกเดินทางต่อไปไอซ์แลนด์ในตอนเย็น เพราะฉะนั้น จะมีเวลาให้เข้าเมืองได้เดี๋ยวนึงครับ

หลังลงจากเครื่อง เราได้เอากระเป๋าไปฝากล็อกเกอร์ไว้ก่อนครับ เพื่อจะได้เที่ยวในเมืองได้สะดวก
แผนของเราคือ แฟนผมอยากไปดูรูปปั้นนางเงือกตัวเป็นๆครับ เลยจัดให้ ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะเดินไกล นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และรู้สึกไม่อินครับ 555
หลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อไปที่ Nyhavn หรือบ้านสีๆซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้นี่เองงงงง

บ้านไกลเวลาน้อยครับ เรารีบไปเดิน walking street ถนน Strøget กันต่อทันที
มีร้านขนมแนะนำสองร้านครับ คือ ร้าน Vafflebageren อยู่แถว Nyhavn เลยครับ ซึ่งดังวัฟเฟิล และร้าน Hotel chocolate ซึ่งตั้งอยู่แถวๆ walking street Strøget
ดูเวลารถไฟดีๆนะครับ เพราะเราต้องกลับไปเอากระเป๋าที่ล็อคเกอร์ โหลดกระเป๋า เช็คอิน หลายสิ่งครับ
เอาละครับ เราไปเริ่มทริปไอซ์แลนด์จริงๆจังๆกันดีกว่า ไปเลย!!
----------

เราเดินทางออกจากเมืองโคเปนเฮเก้น มาถึงเมืองเรคยาวิคในช่วงเย็นวันที่ 5
ไม่พูดพล่ามทำเพลงครับ รับกระเป๋าเสร็จ ไปซื้อซิมเปลี่ยนเลยครับ เพื่อจะได้เอาไว้ติดต่อกับเพื่อนๆที่ตามมาสมทบ

สรุปเพื่อนๆที่ตามมาเกิดเหตุดีเลย์นิดหน่อยครับ จึงทำให้ตามมาช้ากว่าปกติค่อนข้างมาก ผมกับแฟนจึงตัดสินใจไปรับรถ แล้วไปพักที่ที่พักกันก่อนครับ ได้นอนคนละงีบ ก่อนกลับมารับที่สนามบินช่วงดึก
----------
วันที่ 6 ตุลาคม 2560
สถานที่แรกที่เราจะไปกัน คือ Þingvellir national park เพื่อไปชมน้ำตกแรกของเรา คือน้ำตก Öxaràrfoss
ที่นี่คนค่อนข้างเยอะครับ เดินไม่ลำบากมาก ที่สำคัญเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดัง Game of thrones ด้วยนะฮะ แฟนซีรี่ย์ห้ามพลาดเลยทีเดียว


สถานที่ต่อไปคือน้ำตกแห่งที่สองของเราครับ Bruarfoss ที่นี่เดินทางเข้ายากนิดนึงครับ แนะนำให้เซฟโลเคชั่นใน gps ไปก่อนเลย เพราะต้องเดินลุยๆหน่อยครับ ทางเดินแคบและแฉะ ระวังลื่นด้วยนะครับ

ระหว่างทางเดิน ถ้าได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเรามาถูกทางแล้วครับ
วินาทีแรกที่เห็นน้ำตก หายเหนื่อยเลยครับ สวยมากกกกก น้ำเป็นสีฟ้าสวยงาม

มีเพิ่มเติมเรื่องมารยาทนิดนึงนะครับ จากรูปที่ผมถ่าย จะเห็นว่ามีคนอยู่ที่น้ำตกด้วย คือมันสามารถลงไปได้ครับ ต้องปีนป่ายนิดหน่อย แต่จุดถ่ายรูปที่คนส่วนมากถ่ายกัน จะอยู่บนสะพานครับ พอมีคนข้างล่าง ถ่ายมามันก็ไม่ได้รูปอย่างที่ใจต้องการ เพราะติดคนตลอดเวลาครับ ยังไงก็ให้เกียรติสถานที่และนักท่องเที่ยวท่านอื่นด้วยครับ
เปลี่ยนอารมณ์กันบ้างครับ เดี๋ยวจะเบื่อน้ำตกกันซะก่อน เราจะพาไปชมน้ำพุแทนครับ
อุทยาน Strokkur นี้ มีน้ำพุร้อนชื่อดังอยู่ครับ ชื่อว่า Geysir พุ่งเฉลี่ยสูงถึง 30 เมตรเลยครับ


ต่อไปเป็นน้ำตกที่สามของเราครับ น้ำตก Gullfoss ที่นี่น้ำแรงมากครับ ลมก็แรงด้วย หยิบกล้องออกมาปุ๊บ เปียกปั๊บ รีบถ่ายรีบเช็ดรีบเก็บเลยฮะ แหะๆ คนค่อนข้างเยอะครับที่นี่ เดินไม่ยากไม่ไกล


ระหว่างทางก็มีคอกแกะคอกม้า แวะจอดถ่ายรูปได้นะครับ แต่อย่าทำให้น้องแกะน้องม้าเค้าตกใจนะครับ โดนเตะไม่รู้ด้วย

เสร็จภารกิจวันแรก กลับที่พักกันดีกว่า ก่อนนอนก็ขอเช็คแสงเหนือผ่านแอพนิดนึง สงสัยทำบุญมาดีครับ เทวดาบอกว่าให้นอนเยอะๆดีกว่า 555 (ใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)
สำหรับคนที่มาล่าแสงเหนือ ถ้ามีโอกาสเจอ แนะนำให้ออกไปดูเลยนะครับ โอกาสมีไม่มาก ครั้งหนึ่งในชีวิต ทริปผมเช็คทุกวัน มืดทุกวัน มีเห็นวันสุดท้ายวันเดียว แค่นี้ก็รู้สึกคุ้มค่าแล้วครับ
----------
วันที่ 7 ตุลาคม 2560
เช้านี้ออกไปดูปล่องภูเขาไฟ Kerið ครับ คนไม่เยอะครับ เดินรอบปล่องซักรอบ ได้เหงื่อเหมือนกันนะครับ


ลองกินอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข้าวซองข้าวกล่องกันบ้างครับวันนี้ อารมณ์คล้ายกั้งอบครับ แต่อร่อยมาก แนะนำเลย ใครผ่านมาลองทานได้ครับ ไม่ต้องจองโต๊ะ ร้าน Fjöruborðið ครับ


ต่อไปเป็นน้ำตกที่สี่ครับ ชื่อว่า Seljalandsfoss น้ำตกนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่าย mv ของ Justin Bieber ด้วยหละ น้ำตกนี้เราเดินลอดไปข้างใต้น้ำตกได้ด้วยนะครับ แต่ระวังลื่นนิดนึงนะครับ



ไปต่อกันที่น้ำตกที่ห้าเลย ชื่อว่าน้ำตก Skógafoss น้ำตกนี้มีบันไดเดินขึ้นไปด้านบนได้นะครับ เหนื่อยแฮ่ก หอบเหมือนหมาแบ้กๆเลยทีเดียว

วิวจากด้านบนครับ


คืนนี้เราพักกันแถวนี้ครับ ก่อนนอนก็เช็คแสงเหนือ โอกาสแทบไม่มี แต่ก็ออกมานั่งเฝ้าข้างนอกครับ ง่วงก็ง่วง หนาวก็หนาว แล้วก็ได้นอนเหมือนเดิมครับ 555 (ใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่เยอะกว่าเดิม)
----------
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
ICELAND ใบไม้เปลี่ยนสีที่ไอซ์แลนด์
รีวิวเที่ยวไอซ์แลนด์
ก่อนจะพบกับรีวิวไอซ์แลนด์ จะขออนุญาตแนะนำรีวิวเก่าๆด้วยนะครับ
เที่ยวเบลเยี่ยม https://pantip.com/topic/35283155
เที่ยวสวิตเซอแลนด์ https://pantip.com/topic/35265339
----------
ทริปนี้ ขอแบ่งเป็น 3 ช่วงนะครับ เพราะต้องมีการต่อเครื่อง เลยได้มีโอกาสแวะเที่ยวนิดหน่อย
ซึ่งการเดินทางของเรา ก็คือ
สุวรรณภูมิ - โคเปนเฮเก้น - เรคยาวิค
ส่วนขากลับคือ
เรคยาวิค - ปารีส (ออลี่) // ปารีส (ชาร์ลเดอโกล) - สุวรรณภูมิ
สำหรับการเตรียมตัว คาดว่ามีคนรีวิวไว้มากแล้ว ทั้งการเตรียมอุปกรณ์ซึ่งต้องกันน้ำกันลม การขอวีซ่า การจองที่พัก รถเช่า แม้กระทั่งการเตรียมหุงหาอาหาร จึงขอข้ามเลยนะครับ
----------
ทริปของเรา คือผมเดินทางไปกับแฟน แล้วไปร่วมกรุ๊ปกับเพื่อนๆของแฟนผมครับ รวมเป็น 6 คน เช่ารถ Volkswagen Caravelle ส่วนที่พัก เป็น guesthouse บ้าง hostel บ้าง Airbnb บ้างครับ ส่วนเรื่องอาหารการกิน เราพกอาหารแห้งไปส่วนหนึ่งครับ และเตรียมไปซื้อทำกินด้วยครับ
ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ดังที่สุดของที่นี่คงไม่พ้น Bonus ครับ เช็คเวลาเปิด-ปิดด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องที่ต้องเจอแล้วเราไม่ค่อยจะชิน เป็นเรื่องเติมน้ำมันครับ ที่นี่ไม่มีเด็กปั๊มครับ เติมเอง อาจใช้บัตรเครดิต หรือ cash card ซึ่งต้องไปซื้อจากในมินิมาร์ทอีกที วิธีเติมก็คือ เสียบบัตรเข้าตู้ เลือกหมายเลขแท่น เลือกราคาที่จะเติม พอ ready ก็เอาหัวจ่ายมาเสียบเลยครับ พอเติมเสร็จ ในกรณี cash card ก็เสียบบัตรเขาไปอีกที เครื่องก็จะให้สลิปมาครับ
----------
หลังจากออกเดินทางในกลางดึกของคืนวันที่ 4 ตุลาคม 2560 เราถึงเมืองโคเปนเฮเก้นในช่วงเช้าวันที่ 5 ก่อนออกเดินทางต่อไปไอซ์แลนด์ในตอนเย็น เพราะฉะนั้น จะมีเวลาให้เข้าเมืองได้เดี๋ยวนึงครับ
หลังลงจากเครื่อง เราได้เอากระเป๋าไปฝากล็อกเกอร์ไว้ก่อนครับ เพื่อจะได้เที่ยวในเมืองได้สะดวก
แผนของเราคือ แฟนผมอยากไปดูรูปปั้นนางเงือกตัวเป็นๆครับ เลยจัดให้ ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะเดินไกล นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และรู้สึกไม่อินครับ 555
หลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อไปที่ Nyhavn หรือบ้านสีๆซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้นี่เองงงงง
บ้านไกลเวลาน้อยครับ เรารีบไปเดิน walking street ถนน Strøget กันต่อทันที
มีร้านขนมแนะนำสองร้านครับ คือ ร้าน Vafflebageren อยู่แถว Nyhavn เลยครับ ซึ่งดังวัฟเฟิล และร้าน Hotel chocolate ซึ่งตั้งอยู่แถวๆ walking street Strøget
ดูเวลารถไฟดีๆนะครับ เพราะเราต้องกลับไปเอากระเป๋าที่ล็อคเกอร์ โหลดกระเป๋า เช็คอิน หลายสิ่งครับ
เอาละครับ เราไปเริ่มทริปไอซ์แลนด์จริงๆจังๆกันดีกว่า ไปเลย!!
----------
เราเดินทางออกจากเมืองโคเปนเฮเก้น มาถึงเมืองเรคยาวิคในช่วงเย็นวันที่ 5
ไม่พูดพล่ามทำเพลงครับ รับกระเป๋าเสร็จ ไปซื้อซิมเปลี่ยนเลยครับ เพื่อจะได้เอาไว้ติดต่อกับเพื่อนๆที่ตามมาสมทบ
สรุปเพื่อนๆที่ตามมาเกิดเหตุดีเลย์นิดหน่อยครับ จึงทำให้ตามมาช้ากว่าปกติค่อนข้างมาก ผมกับแฟนจึงตัดสินใจไปรับรถ แล้วไปพักที่ที่พักกันก่อนครับ ได้นอนคนละงีบ ก่อนกลับมารับที่สนามบินช่วงดึก
----------
วันที่ 6 ตุลาคม 2560
สถานที่แรกที่เราจะไปกัน คือ Þingvellir national park เพื่อไปชมน้ำตกแรกของเรา คือน้ำตก Öxaràrfoss
ที่นี่คนค่อนข้างเยอะครับ เดินไม่ลำบากมาก ที่สำคัญเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดัง Game of thrones ด้วยนะฮะ แฟนซีรี่ย์ห้ามพลาดเลยทีเดียว
สถานที่ต่อไปคือน้ำตกแห่งที่สองของเราครับ Bruarfoss ที่นี่เดินทางเข้ายากนิดนึงครับ แนะนำให้เซฟโลเคชั่นใน gps ไปก่อนเลย เพราะต้องเดินลุยๆหน่อยครับ ทางเดินแคบและแฉะ ระวังลื่นด้วยนะครับ
ระหว่างทางเดิน ถ้าได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเรามาถูกทางแล้วครับ
วินาทีแรกที่เห็นน้ำตก หายเหนื่อยเลยครับ สวยมากกกกก น้ำเป็นสีฟ้าสวยงาม
มีเพิ่มเติมเรื่องมารยาทนิดนึงนะครับ จากรูปที่ผมถ่าย จะเห็นว่ามีคนอยู่ที่น้ำตกด้วย คือมันสามารถลงไปได้ครับ ต้องปีนป่ายนิดหน่อย แต่จุดถ่ายรูปที่คนส่วนมากถ่ายกัน จะอยู่บนสะพานครับ พอมีคนข้างล่าง ถ่ายมามันก็ไม่ได้รูปอย่างที่ใจต้องการ เพราะติดคนตลอดเวลาครับ ยังไงก็ให้เกียรติสถานที่และนักท่องเที่ยวท่านอื่นด้วยครับ
เปลี่ยนอารมณ์กันบ้างครับ เดี๋ยวจะเบื่อน้ำตกกันซะก่อน เราจะพาไปชมน้ำพุแทนครับ
อุทยาน Strokkur นี้ มีน้ำพุร้อนชื่อดังอยู่ครับ ชื่อว่า Geysir พุ่งเฉลี่ยสูงถึง 30 เมตรเลยครับ
ต่อไปเป็นน้ำตกที่สามของเราครับ น้ำตก Gullfoss ที่นี่น้ำแรงมากครับ ลมก็แรงด้วย หยิบกล้องออกมาปุ๊บ เปียกปั๊บ รีบถ่ายรีบเช็ดรีบเก็บเลยฮะ แหะๆ คนค่อนข้างเยอะครับที่นี่ เดินไม่ยากไม่ไกล
ระหว่างทางก็มีคอกแกะคอกม้า แวะจอดถ่ายรูปได้นะครับ แต่อย่าทำให้น้องแกะน้องม้าเค้าตกใจนะครับ โดนเตะไม่รู้ด้วย
เสร็จภารกิจวันแรก กลับที่พักกันดีกว่า ก่อนนอนก็ขอเช็คแสงเหนือผ่านแอพนิดนึง สงสัยทำบุญมาดีครับ เทวดาบอกว่าให้นอนเยอะๆดีกว่า 555 (ใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)
สำหรับคนที่มาล่าแสงเหนือ ถ้ามีโอกาสเจอ แนะนำให้ออกไปดูเลยนะครับ โอกาสมีไม่มาก ครั้งหนึ่งในชีวิต ทริปผมเช็คทุกวัน มืดทุกวัน มีเห็นวันสุดท้ายวันเดียว แค่นี้ก็รู้สึกคุ้มค่าแล้วครับ
----------
วันที่ 7 ตุลาคม 2560
เช้านี้ออกไปดูปล่องภูเขาไฟ Kerið ครับ คนไม่เยอะครับ เดินรอบปล่องซักรอบ ได้เหงื่อเหมือนกันนะครับ
ลองกินอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข้าวซองข้าวกล่องกันบ้างครับวันนี้ อารมณ์คล้ายกั้งอบครับ แต่อร่อยมาก แนะนำเลย ใครผ่านมาลองทานได้ครับ ไม่ต้องจองโต๊ะ ร้าน Fjöruborðið ครับ
ต่อไปเป็นน้ำตกที่สี่ครับ ชื่อว่า Seljalandsfoss น้ำตกนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่าย mv ของ Justin Bieber ด้วยหละ น้ำตกนี้เราเดินลอดไปข้างใต้น้ำตกได้ด้วยนะครับ แต่ระวังลื่นนิดนึงนะครับ
ไปต่อกันที่น้ำตกที่ห้าเลย ชื่อว่าน้ำตก Skógafoss น้ำตกนี้มีบันไดเดินขึ้นไปด้านบนได้นะครับ เหนื่อยแฮ่ก หอบเหมือนหมาแบ้กๆเลยทีเดียว
วิวจากด้านบนครับ
คืนนี้เราพักกันแถวนี้ครับ ก่อนนอนก็เช็คแสงเหนือ โอกาสแทบไม่มี แต่ก็ออกมานั่งเฝ้าข้างนอกครับ ง่วงก็ง่วง หนาวก็หนาว แล้วก็ได้นอนเหมือนเดิมครับ 555 (ใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่เยอะกว่าเดิม)
----------
เดี๋ยวมาต่อนะครับ