วันนี้ผมมีปัญหาความไม่เข้าใจกันแฟนผมมาเล่าให้ฟังกันนะครับเนื่องจากมันอัดอั่นในใจมานานจนวันนี้
ก็มีเรื่องต้องเถียงกันจนได้ ก็เป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว ผมกับแฟนทำงานด้วยกันทั้งคู่แต่งงานแล้ว
มีลูกด้วยกัน 1 คน ตอนแต่งงานมาอยู่กันใหม่ๆเราได้ตกลงกันเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัวแบบนี้คือ
1. ผมจะรับผิดชอบเรื่องส่งบ้าน และส่งรถ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถเอง (20,000 - 22,000)
2. มีออกค่าใช้จ่าย ในบ้านน้ำไฟ ค่าช๊อปฯ ค่ายากรักษาอีกเดือนละ 10,000 (ถ้ามีเหลือเก็บเข้าบัญชีครอบครัวบ้าง แต่พอมีลูกแล้วไม่พอเหอะๆ)
3. ไปกินข้าวนอกบ้าน ซื้อของนิดหน่อยๆ ก็ประมาณ 5,000 ต่อเดือน
ที่เหลือคือค่าใช้จ่ายส่วนตัว กิน ค่าโทรศัพท์ ค่าสังคมอีกไม่เท่าไรซึ่งแต่ละเดือนก็ไม่เหลืออยู่แล้ว แต่มันก็มีค่าใช้จ่าย
ที่ทางแฟนผมช่วยออกคือค่าเลี้ยงดูลูก (คือผมฝากเลี้ยงกับพี่สาวแฟนวัน จ.-ศ.) เดือนละ 8,000
ประเด็นคือบางเดือนมีค่าใช้จ่ายเกินมาเช่น ช๊อปเกินบ้าง มีค่าวัคซีลูกที่สูงเป็นบางเดือนบ้าง มีไปกินฉลองพิเศษกับครอบครัวพ่อแม่ผมบ้าง
แฟนก็มาช่วยออกเขาก็จะบ่นว่าทำไมต้องให้เขามาช่วยออกทั้งๆที่ต้องเป็นหน้าที่ผม และกลับกันผมควรจะให้เงินเข้าไว้ใช้บ้าง
ไม่ใช้มาให้เขาช่วยออก ยิ่งมาเดือนนี้มีซื้อของขวัญให้เพื่อนบ้าน และญาติด้วย ซึ่งเขาเป็นคนซื้อ แฟนก็มาว่าอีกว่าหัดรู้จักมีน้ำใจให้เพื่อนบ้านบ้าง
พี่ไม่ยอมจัด(แน่นแหละแต่ละเดือนตึงขนาดนี้แล้วจะซื้ออะไรไปแสดงน้ำใจได้ละ) เขาก็ต้องจัดการเอง
พอบ่นมาแบบนี้ผมรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากในฐานะหัวหน้าครอบครัว และตอนแรกคิดว่าเคยคุยกันเรื่องนี้แล้วทำไมไม่เข้าใจกันละ
ผมจึงบอกกับเขาว่า "ตัวเองไม่ต้องมาช่วยแล้วเดี๋ยวพี่รับผิดชอบเองตั้งแต่นี้เป็นต้นไป" พร้อมกับคืนเงินที่เข้ามาช่วยคืนไป
ผมโกรมมากทั้งตัวแฟนที่ไม่เข้าใจที่ผมเคยพยายามอธิบายไปแล้วว่าผมมีภาระต้องจ่ายแต่ละเดือนเกือบเต็มอัตรารายได้อยู่แล้ว
ไม่เคยซื้อของดีราคาสูงให้ตัวเองได้เลย แต่เธอไม่เข้าใจหรือไม่เชื่อผมกันแน่นว่ามันเป็นอย่างงั้นจริงๆ
อีกอย่างหนึ่งผมก็โกรธตัวเองด้วยเหมือนกันที่ด่อยความสามารถในการหาเงินมาใช้ให้พอเพียงกันครอบครัว เหนื่อยครับ
มาระบาย และเล่าเรื่องอึดอัดใจกับปัญหาค่าใช้จ่ายในครอบครัวให้ฟังกันคับ
ก็มีเรื่องต้องเถียงกันจนได้ ก็เป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว ผมกับแฟนทำงานด้วยกันทั้งคู่แต่งงานแล้ว
มีลูกด้วยกัน 1 คน ตอนแต่งงานมาอยู่กันใหม่ๆเราได้ตกลงกันเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัวแบบนี้คือ
1. ผมจะรับผิดชอบเรื่องส่งบ้าน และส่งรถ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถเอง (20,000 - 22,000)
2. มีออกค่าใช้จ่าย ในบ้านน้ำไฟ ค่าช๊อปฯ ค่ายากรักษาอีกเดือนละ 10,000 (ถ้ามีเหลือเก็บเข้าบัญชีครอบครัวบ้าง แต่พอมีลูกแล้วไม่พอเหอะๆ)
3. ไปกินข้าวนอกบ้าน ซื้อของนิดหน่อยๆ ก็ประมาณ 5,000 ต่อเดือน
ที่เหลือคือค่าใช้จ่ายส่วนตัว กิน ค่าโทรศัพท์ ค่าสังคมอีกไม่เท่าไรซึ่งแต่ละเดือนก็ไม่เหลืออยู่แล้ว แต่มันก็มีค่าใช้จ่าย
ที่ทางแฟนผมช่วยออกคือค่าเลี้ยงดูลูก (คือผมฝากเลี้ยงกับพี่สาวแฟนวัน จ.-ศ.) เดือนละ 8,000
ประเด็นคือบางเดือนมีค่าใช้จ่ายเกินมาเช่น ช๊อปเกินบ้าง มีค่าวัคซีลูกที่สูงเป็นบางเดือนบ้าง มีไปกินฉลองพิเศษกับครอบครัวพ่อแม่ผมบ้าง
แฟนก็มาช่วยออกเขาก็จะบ่นว่าทำไมต้องให้เขามาช่วยออกทั้งๆที่ต้องเป็นหน้าที่ผม และกลับกันผมควรจะให้เงินเข้าไว้ใช้บ้าง
ไม่ใช้มาให้เขาช่วยออก ยิ่งมาเดือนนี้มีซื้อของขวัญให้เพื่อนบ้าน และญาติด้วย ซึ่งเขาเป็นคนซื้อ แฟนก็มาว่าอีกว่าหัดรู้จักมีน้ำใจให้เพื่อนบ้านบ้าง
พี่ไม่ยอมจัด(แน่นแหละแต่ละเดือนตึงขนาดนี้แล้วจะซื้ออะไรไปแสดงน้ำใจได้ละ) เขาก็ต้องจัดการเอง
พอบ่นมาแบบนี้ผมรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากในฐานะหัวหน้าครอบครัว และตอนแรกคิดว่าเคยคุยกันเรื่องนี้แล้วทำไมไม่เข้าใจกันละ
ผมจึงบอกกับเขาว่า "ตัวเองไม่ต้องมาช่วยแล้วเดี๋ยวพี่รับผิดชอบเองตั้งแต่นี้เป็นต้นไป" พร้อมกับคืนเงินที่เข้ามาช่วยคืนไป
ผมโกรมมากทั้งตัวแฟนที่ไม่เข้าใจที่ผมเคยพยายามอธิบายไปแล้วว่าผมมีภาระต้องจ่ายแต่ละเดือนเกือบเต็มอัตรารายได้อยู่แล้ว
ไม่เคยซื้อของดีราคาสูงให้ตัวเองได้เลย แต่เธอไม่เข้าใจหรือไม่เชื่อผมกันแน่นว่ามันเป็นอย่างงั้นจริงๆ
อีกอย่างหนึ่งผมก็โกรธตัวเองด้วยเหมือนกันที่ด่อยความสามารถในการหาเงินมาใช้ให้พอเพียงกันครอบครัว เหนื่อยครับ