
ทริปนี้จริงๆ ตั้งใจไป 2 คนกับน้องที่ทำงาน แต่พอถึงวันจองตั๋ว โดนเทเฉยเลย ~~"พี่ครับ ผมจองตั๋วไม่เป็น" จบค่ะจบ แล้วน้องก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย ไม่พูดถึงอีกเลย ~~~ เจ้นี่แสนปวดร้าว เอ้าไหนๆมาครึ่งทาง ใส่เกียร์ให้มันสุดๆไปเลย จัดไป 10 วัน 9 คืน (23 ธ.ค.-1 ม.ค61)
เที่ยวบินตรง Bkk-Surabaya เหมือนจะ ไม่มี เราเลยเลือกทรานซิทเครื่อง ที่ สิงคโปร์แทน ไม่ว่าจะเช้า สาย เที่ยง บ่าย ก็ต้องไปวันรุงขึ้นอยู่ดี เราเลยจัดให้เต็มเหนี่ยว ทรานซิทกันไป 19 ชม.~~~ จะได้ออกไปดูสิงคโปร์วันคริสต์มาสด้วย^^ การเดินทางของเรานะคะ เป็น Budget trip กะไว้ 15,000 ทะลุ 16,000 บาท นิดหน่อยๆ รวมทุกอย่างทั้งของฝากนะคะ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ตั๋วไปกลับ 7445
Bkk-Surabaya 3545
Denpasar - Bkk 3900
ค่าอื่นๆ
* Transport 2575
* Entrance fee 370
* Hotel+hostel 1400
* Food + other 3210
* Souvenir 1500
เราแลกเงิน USD IDR SGD และพกเงินไทยไปด้วย เรทแลกที่บาหลีเราเดินสำรวจหาร้าน ราคาไม่เท่ากัน คำนวน คูณหารดี
เราได้เรทตามนี้นะคะ
Usd 13300 SGD 10399 Baht 425
๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏
รีวิวโบรโม่ อิเจ้น บาหลี ก็จะเยอะ มากพอสมควร แต่เราขอแชร์ในส่วนของคนที่ชอบไปเที่ยวคนเดียว ไม่ชอบทัวร์ ไม่ชอบความสบาย แนวขาลุย นะคะ^^
เริ่มเลยดีกว่า ยืดมานาน.....ต้องขออภัยนะคะรูปนี่จากมือถือกากๆล้วนๆ
Day 1 Bkk-SIN
ออกจากสุวรรณภูมิด้วยนกสกู๊ต บินมาพักที่สิงคโปร์ 19 ชม. หลังจากลงเครื่อง รีบวิ่งเลยค่ะ ติดจรวด กลัวไม่ทันรอบทัวร์ ของสนามบิน ที่บริการให้ฟรี สำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง นานเกิน 6 ชม. มี 2 ทัวร์ แต่เลือกได้แค่ทัวร์เดียวเท่านั้นเลยใช้ Changi Heritage Free Tour เขาก็พาเราไปชมรอบเมือง นั่งรถเล่นฆ่าเวลา ไม่เสียตังค์..มันดีตรงนี้แหละ^^ แต่สิงคโปร์รอบนี้ เราจะรอชมไฟในวันคริสต์มาสที่ Garden by the bay อย่างเดียวเลย ^^

หน้าตารถของบริการจากสนามบิน Changi free tour




เมฆฝนมารอละ มืดตลอดเลย สุดท้ายก็ไม่ตก ดีใจ ได้ชมไฟแน่ๆ

หลังจากนั้นก็พากลับ เราไม่สามารถออกจากทัวร์ได้นะคะ ต้องกลับไปสนามบินแล้วออกมาใหม่ ช่วงที่ไปก็ใกล้วันคริสต์มาสได้ของฝากมาด้วย แม่เหล็กติดตู้เย็น คุ้มดีแท้^^
รถบัสจะพาเรามาส่งสนามบินขาออก ก่อนจะออกไปข้างนอกต่อ หาที่ฝากกระเป๋าก่อน มีทุก Terminal ราคาก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก
ฝาก 24 ชม. 8 Sgd แต่เราไม่เกินเที่ยงคืน แค่ 4 Sgd ตัวเบาแล้ว ไปค่ะไป ไปต่อออกไปแซ่บกัน อ้าวเห้ย!! บัตร Ezylink ไม่ได้เอามา นั่นไงๆ ตีตั๋วแพงอีกละ
เราเลยต้องซื้อบัตรโดยสารใหม่เลย เป็นแบบกระดาษ เราเลยตีตั๋วไปกลับทีเดียว เพราะไม่ไปไหนต่อ

ออกมาแล้วเดินทางไป เลยค่ะ ~~~~ เย้!! ถึงแล้ว ผู้คนมากมายมหาศาล เอาไงดี ขี้เกียจต่อคิวซื้อบัตร เปลี่ยนแผน ไปเดินชมข้างนอกก็ได้ ไปกิน food court ข้างๆ ห้างก็ได้ ......~~~ เศร้า


มากี่ครั้ง เราก็มากินร้านนี้ตลอด หอยนางรมทอด Soon Lee

ร้านนี้ก็น่าโดน แต่ถ้าโดนก็กลัวจะไม่หมด~~~ หลังจากอิ่มก็ได้เวลา ชม แสง สี เสียงของเมือง โชว์ตระการตา ยามค่ำคืน


ได้เวลากลับ ไปนอนเตรียมตัวตะลุย ของจริงละ อ่อ!! ลืมเลย ช่วงที่เราไป สนามบิน เป็น ธีมคิตตี้ ด้วย แต่เราไม่อินด์ สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบ มาแล้วคงหลงรัก มีทุกซอกทุกมุมให้ได้ถ่ายรูปคู่เลย หลังจากไปเอากระเป๋าคืนหาที่นอนค่ะ เต็มๆ เต็มๆ ทุกที่ที่เป็นโซนดูหนัง เก้าอี้นวดก็เต็ม จะไปหาที่นิ่มๆตรงไหนนอน ในที่สุด ก็ได้ที่นอนข้างๆ ร้านกาแฟ T2 พร้อมปลั๊ก ไฟ และก็ไม่ลืมไปขอ password wifi สนามบินมาทดสอบความแรงสักหน่อย^^
Day 2 Sin - Sub
เช้านี้ที่สนามบิน รีบลุกค่ะ ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ ล้างตัว หาร้านกาแฟสักหน่อย ก่อนเตรียมไป เกต

ของเล่นระหว่างไปเกต ถ้ามีเวลา สนามบินนี้ มีอะไรให้เล่นให้ทำเยอะมาก สำหรับคนที่ต้องต่อเครื่อง ถ้าจุดหมายเดียวกัน ราคาตั๋วต่างกันไม่มาก ถ้าเลือก KL กับ Changi แนะนำที่นี่เลยค่ะ เพราะ KL สนามบินไกลจากตัวเมืองมากๆ ได้เวลาขึ้นเครื่อง ก็พร้อมนอนอีกตามเคย ตื่นมาอีกทีเข้าเขตสุราบายาแล้ว^^
ถึงสนามบิน??? เห้ย สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ฝัน ผิดคาด เดินมากับ ฝรั่ง คนอินโด ทั้งลำใบ ตม. แจกบนเครื่อง เขียนแล้ว แบบงง แปลภาษาไม่ออก เดาคร่าวๆ แล้วต้องให้ใคร ยื่นตรงไหน ไหนพนักงาน~~~~ ช่วงที่เราถึงพนักงาน หายไปไหนกันไม่รู้ ยืนงง กันทั้งหมด ไปไม่ถูก สักพัก พนักงานก็เดินทยอยออกมา ค่อยโล่งใจ ยื่นใบ ตม. เดิน มาตรวจกระเป๋า ให้ ตม.ปั้มเข้า ~~~ ออกมา นึกว่าตัวเองเป็นดารา คนยืนรอกันเต็ม คือ เราต้องแลกเงิน จากโซนนี้ก่อนที่จะเดินออกไป ก็เลยเหมือนโดนจ้องจากข้างนอก รู้สึกเขินๆนะ^^'ออกมาสิ่งแรก หาซื้อซิม อ่านรีวิวมามาก เรื่องซิมที่โดนฟันกันในสนามบิน เราก็โดนตามระเบียบ เราซื้อจาก มินิมาร์ท 5 GB 75.000 rp เล่นเน็ทอย่างเดียวโทรไม่ได้ แบบ Loop เติมเน็ทได้ หลังจากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถ Damri bus เคาร์เตอร์ข้างๆ มินิมาร์ท

สนามบินไป ท่ารถ ท่ารถมี 2 ชื่อแล้วแต่คนเรียกนะคะ Purabaya กับ Bungurasih 25.000 rp

รถจอดบริเวณตรงทางออกพอดี
ตอนนี้ในสมอง คิดเยอะมาก จะโดนหลอกเหมือนกระทู้อื่นไหม เราจะทำไง ผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่ยอมจะเจอมาเฟียลากไปตบไหม !! โอ้ยคิดก็กลุ้ม เลิกคิด นั่งชมวิว ข้างทาง ดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ก็สนุกดี ในที่สุดมาถึง ท่ารถ Bungurasih ลงมาได้เท่านั้นแหละ @#$&_$&$ บลาๆ สงสัยเขาคิดว่าเราคนอินโดไง พอไม่ตอบ Taxi Taxi เราก็ไม่ตอบเดินจ้ำอ้าวเหมือนรู้ทาง 555 แต่จริงๆไปหลบทำใจสักพัก เอาว่ะ!! ท่ารถไป Probolinggo อยู่ไหน ทางไหน... คราวนี้ไม่มีใครรุมแล้วไง หน้าด้านไปถามเลยละกัน โอ้ว!! Omg!! ถามเสร็จพี่อินโดเดินพาไปตึกรถบัสบอกให้ไป ชานชาลาที่ 10 แต่ต้องขึ้นไปชั้น2 ก่อนค่อยลงมาขึ้นรถ สิ่งที่คิดและสิ่งเป็นจริง คือคนอินโดใจดีมาก (ด่าน1 ผ่าน)

สถานีรถบัส Purabaya หรือ คนอินโดเรียก Bungurasih

ชานชาลาที่10 มีทั้งแอร์และไม่แอร์ รถแอร์ Patas bus
พอเดินลงมาชานชาลา เจอคุณลุง ถาม Probolinggo? เราก็พยักหน้า Yes แต่ไม่ลืมถาม ราคาก่อนเลย ลุงบอก 30 โอเคตรงกับข้อมูล ด่าน 2 ผ่าน

ราคาจะมาตรฐานเลย ดูจากกระดาษที่แปะในรถ แต่เราก็แอบถามคนข้างๆเรานะ ว่าเท่าไหร่^^ โอเคราคาตรงกันผ่าน

ก่อนรถออกก็จะมีคนมาขายของสารพัดอย่าง แม้แต่ ร้องเพลงแลกเงิน^^....เปิดหมวกบนรถนี่แหละ ส่วนใหญ่คนบนรถก็จะให้เงินเหญียญ 500 rp แต่เราไม่มี มีแบงค์ใหญ่ เลยไม่ได้ให้ >< รู้สึกผิดนะ
*รถชานชาลาที่ 10 ก็จะมีไป Jember , Bungunwagi มีป้ายติดไว้ ัซึ่งทุกคันก็จะผ่าน Probolinggo*
*ไป Probolinggo ทางรถไฟก็ได้ แต่ต้องเช็ครอบเวลาให้ดี รถไฟมาจาดทาง Yogya เขาว่าตรงเวลามาก*
ระหว่างทาง ก็ไม่ต่างอะไรจากประะเทศเรา ตัวเมืองจะเจริญมากๆ ชนบทความเจริญก็มีบ้างประปรายแต่ค่อนข้างน้อย ถนนนอกเมืองเป็น ถนน 2 เลน แซงกันไม่ค่อยได้ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวรถบัส ก็จะมีค่าใกล้เคียงกัน

เส้นทางที่กำลังก่อสร้าง น่าจะเป็นเหมือนทางด่วน ดูจากป้าย ก็จะเป็นถนนเหมือนเส้นวังน้อยเลย^^
นั่งรถมาคนขับเปิดหนังจีนให้ดู 2 เรื่อง เราได้ยินก็จะขัดๆไม่ชิน เพราะภาคเสียงชวา 5555~~~ ผ่านไป 4 ชม. มาถึง สักที Probolinggo สักพัก ยูๆ ไปโบรโม่ลงตรงนี้เลย เราอ้าวเห้ย!! ฟม่ใช่สถานีกนิ แต่พี่แก จัดแจงลาดกระเป๋าเราลงไปแล้ว เอาไงหล่ะ ลงก็ลงว่ะ ~~ ลงมาเท่านั้นแหละ เออค่อยยังชั่ว มีป้ายเขียน Public Bus พี่แกไม่พอไปบอกคนในนั้นว่าเรา จะไปโบรโม่ (คนอินโดใจดีจัง) เค เราก็ไปนั่งกับพี่เขาไง พี่เขาก็เริ่มชวนเราคุย บอกยูต้องไปทางนี้ ชมวิวตรงนี้ สวยมาก เราเริ่มยังไงๆละ อธิบายยืดยาวมีแผนที่ เราก็เลยบอกไปว่าเราจะเที่ยวแบบไม่ใช้ทัวร์ เราจะเดินไปเอง พี่แกก็ยังอธิบายต่อไป จนในที่สุด บอกว่าวันนี้วันหยุดช่วงคริสต์มาส ไม่มีรถไปหรอกโบรโม่หน่ะ (นั่นไงจะขายทัวร์สินะ) เราเลยตามน้ำ ถามเลย ถ้าไปส่งอย่างเดียว เท่าไหร่ พี่แกตอบมา 600.000 rp. Omg!!แพงสลัด งั้นพี่เก็บรถไว้ที่นี่แหละ ขอบคุณค่ะ ลุกเลยจร้าไม่สน ไม่แคร์ ลุกออกมาเปิดแมพ ไป สถานีให้ได้ ดันมาออฟไลน์ไรตอนนี้นี่ พี่แกเห็นเราเหวอๆ ยืนงงๆ เขาหัวเราะเหมือนเยาะเย้ยเราเลย หรอ!! ต้องง้อหรอไม่มีทางค่ะ อย่ามาหลอก ผ่านมาหลายที่ไม่โดนหลอก จะไม่เสียเชิงไม่ได้~~ อารมณ์เสียกะโทรศัพท์บ้าตลอด สักพักบอกว่าถ้าไม่ทำงานกลับไปจะซื้อใหม่ เออติดแหะ555 แมพใช้ได้ เดินคร้าเดิน เดินไปสถานีรถบัส ระหว่างทางก็มีคนถามโน่นนี่นั่น โบรโม่หรอ มาทางนี้เจอแบบบนี้ประมาณ 3-4 เจ้า ไม่สนไม่แคร์ มุก้ดิมกันหมด เขียนป้ายหน้าร้าน Public bus ~~ เมื่อไหร่จะถึง สถานีเนี่ย มอไซต์ขับผ่าน ยูๆไปโบรโม่ไหม่ มอไซต์เนี่ย ไอคิด 150.000 rp. โหแพง! มานี่ทุกกระทู้สั่งสอนให้ต่อราคา ครึ่งๆ (แบกแพ็คเกอร์เว็ปต่างชาติ) 80.000 rp. งั้นไม่ไป พี่แกลด เหลือ 100.000 rp. บอกว่า ส่งถึงโรงแรมที่พักเลย เราบอกยังไม่มี ยังไม่ได้หา แต่มีไว้ในใจละ พี่แกบอกงั้นช่วยหาจนกว่าจะมีที่พัก ^^โอเคค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย สรุปเรานั่งมอไซต์ขึ้นดอยโบรโม่ (ตรงนอกสถานีเลี้ยวซ้ายจะมีรถ Bemo ไป Bromo แต่ต้องรอคนเต็มถึงจะออก ราคา 35.000-50.000rp) ระหว่างทางวิวสวยมาก นั่งชมไปเสียวไป ไกลพอสมควร ในที่สุด มาถึงสักที เสียค่าเข้าหมู่บ้าน Cemoro lawang 10.000 rp.

หน้าพี่วินผู้แสนใจดี พาหาที่พักจนกว่าเราจะถูกใจ พี้แกหาได้ 300.000 ทุกหลังเลย เราเลยจะไป Yog homestay


Yog homestay เป็นที่พักห้องส่วนตัว แต่ห้องน้ำรวม น้ำอุ่น เท่านี้พอแหละที่ต้องการมีหลายราคา เราเลือกถูกสุด 150.000 rp.
ที่พักได้แล้ว ใกล้โรงแรม Cemoro indah ด้วย จุดชมวิวก็สวยด้วย ในๆที่สุด โบรโม่ เรา ก็สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการแล้วเย้ๆ!!
[ โบรโม่ อิเจ้น บาหลี ไปคนเดียวลุยเดี่ยวเฟี้ยวมาก..... ]
ทริปนี้จริงๆ ตั้งใจไป 2 คนกับน้องที่ทำงาน แต่พอถึงวันจองตั๋ว โดนเทเฉยเลย ~~"พี่ครับ ผมจองตั๋วไม่เป็น" จบค่ะจบ แล้วน้องก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย ไม่พูดถึงอีกเลย ~~~ เจ้นี่แสนปวดร้าว เอ้าไหนๆมาครึ่งทาง ใส่เกียร์ให้มันสุดๆไปเลย จัดไป 10 วัน 9 คืน (23 ธ.ค.-1 ม.ค61)
เที่ยวบินตรง Bkk-Surabaya เหมือนจะ ไม่มี เราเลยเลือกทรานซิทเครื่อง ที่ สิงคโปร์แทน ไม่ว่าจะเช้า สาย เที่ยง บ่าย ก็ต้องไปวันรุงขึ้นอยู่ดี เราเลยจัดให้เต็มเหนี่ยว ทรานซิทกันไป 19 ชม.~~~ จะได้ออกไปดูสิงคโปร์วันคริสต์มาสด้วย^^ การเดินทางของเรานะคะ เป็น Budget trip กะไว้ 15,000 ทะลุ 16,000 บาท นิดหน่อยๆ รวมทุกอย่างทั้งของฝากนะคะ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ตั๋วไปกลับ 7445
Bkk-Surabaya 3545
Denpasar - Bkk 3900
ค่าอื่นๆ
* Transport 2575
* Entrance fee 370
* Hotel+hostel 1400
* Food + other 3210
* Souvenir 1500
เราแลกเงิน USD IDR SGD และพกเงินไทยไปด้วย เรทแลกที่บาหลีเราเดินสำรวจหาร้าน ราคาไม่เท่ากัน คำนวน คูณหารดี
เราได้เรทตามนี้นะคะ
Usd 13300 SGD 10399 Baht 425
รีวิวโบรโม่ อิเจ้น บาหลี ก็จะเยอะ มากพอสมควร แต่เราขอแชร์ในส่วนของคนที่ชอบไปเที่ยวคนเดียว ไม่ชอบทัวร์ ไม่ชอบความสบาย แนวขาลุย นะคะ^^
เริ่มเลยดีกว่า ยืดมานาน.....ต้องขออภัยนะคะรูปนี่จากมือถือกากๆล้วนๆ
Day 1 Bkk-SIN
ออกจากสุวรรณภูมิด้วยนกสกู๊ต บินมาพักที่สิงคโปร์ 19 ชม. หลังจากลงเครื่อง รีบวิ่งเลยค่ะ ติดจรวด กลัวไม่ทันรอบทัวร์ ของสนามบิน ที่บริการให้ฟรี สำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง นานเกิน 6 ชม. มี 2 ทัวร์ แต่เลือกได้แค่ทัวร์เดียวเท่านั้นเลยใช้ Changi Heritage Free Tour เขาก็พาเราไปชมรอบเมือง นั่งรถเล่นฆ่าเวลา ไม่เสียตังค์..มันดีตรงนี้แหละ^^ แต่สิงคโปร์รอบนี้ เราจะรอชมไฟในวันคริสต์มาสที่ Garden by the bay อย่างเดียวเลย ^^
หน้าตารถของบริการจากสนามบิน Changi free tour
เมฆฝนมารอละ มืดตลอดเลย สุดท้ายก็ไม่ตก ดีใจ ได้ชมไฟแน่ๆ
รถบัสจะพาเรามาส่งสนามบินขาออก ก่อนจะออกไปข้างนอกต่อ หาที่ฝากกระเป๋าก่อน มีทุก Terminal ราคาก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก
ฝาก 24 ชม. 8 Sgd แต่เราไม่เกินเที่ยงคืน แค่ 4 Sgd ตัวเบาแล้ว ไปค่ะไป ไปต่อออกไปแซ่บกัน อ้าวเห้ย!! บัตร Ezylink ไม่ได้เอามา นั่นไงๆ ตีตั๋วแพงอีกละ
เราเลยต้องซื้อบัตรโดยสารใหม่เลย เป็นแบบกระดาษ เราเลยตีตั๋วไปกลับทีเดียว เพราะไม่ไปไหนต่อ
ออกมาแล้วเดินทางไป เลยค่ะ ~~~~ เย้!! ถึงแล้ว ผู้คนมากมายมหาศาล เอาไงดี ขี้เกียจต่อคิวซื้อบัตร เปลี่ยนแผน ไปเดินชมข้างนอกก็ได้ ไปกิน food court ข้างๆ ห้างก็ได้ ......~~~ เศร้า
มากี่ครั้ง เราก็มากินร้านนี้ตลอด หอยนางรมทอด Soon Lee
ร้านนี้ก็น่าโดน แต่ถ้าโดนก็กลัวจะไม่หมด~~~ หลังจากอิ่มก็ได้เวลา ชม แสง สี เสียงของเมือง โชว์ตระการตา ยามค่ำคืน
ได้เวลากลับ ไปนอนเตรียมตัวตะลุย ของจริงละ อ่อ!! ลืมเลย ช่วงที่เราไป สนามบิน เป็น ธีมคิตตี้ ด้วย แต่เราไม่อินด์ สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบ มาแล้วคงหลงรัก มีทุกซอกทุกมุมให้ได้ถ่ายรูปคู่เลย หลังจากไปเอากระเป๋าคืนหาที่นอนค่ะ เต็มๆ เต็มๆ ทุกที่ที่เป็นโซนดูหนัง เก้าอี้นวดก็เต็ม จะไปหาที่นิ่มๆตรงไหนนอน ในที่สุด ก็ได้ที่นอนข้างๆ ร้านกาแฟ T2 พร้อมปลั๊ก ไฟ และก็ไม่ลืมไปขอ password wifi สนามบินมาทดสอบความแรงสักหน่อย^^
Day 2 Sin - Sub
เช้านี้ที่สนามบิน รีบลุกค่ะ ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ ล้างตัว หาร้านกาแฟสักหน่อย ก่อนเตรียมไป เกต
ของเล่นระหว่างไปเกต ถ้ามีเวลา สนามบินนี้ มีอะไรให้เล่นให้ทำเยอะมาก สำหรับคนที่ต้องต่อเครื่อง ถ้าจุดหมายเดียวกัน ราคาตั๋วต่างกันไม่มาก ถ้าเลือก KL กับ Changi แนะนำที่นี่เลยค่ะ เพราะ KL สนามบินไกลจากตัวเมืองมากๆ ได้เวลาขึ้นเครื่อง ก็พร้อมนอนอีกตามเคย ตื่นมาอีกทีเข้าเขตสุราบายาแล้ว^^
ถึงสนามบิน??? เห้ย สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ฝัน ผิดคาด เดินมากับ ฝรั่ง คนอินโด ทั้งลำใบ ตม. แจกบนเครื่อง เขียนแล้ว แบบงง แปลภาษาไม่ออก เดาคร่าวๆ แล้วต้องให้ใคร ยื่นตรงไหน ไหนพนักงาน~~~~ ช่วงที่เราถึงพนักงาน หายไปไหนกันไม่รู้ ยืนงง กันทั้งหมด ไปไม่ถูก สักพัก พนักงานก็เดินทยอยออกมา ค่อยโล่งใจ ยื่นใบ ตม. เดิน มาตรวจกระเป๋า ให้ ตม.ปั้มเข้า ~~~ ออกมา นึกว่าตัวเองเป็นดารา คนยืนรอกันเต็ม คือ เราต้องแลกเงิน จากโซนนี้ก่อนที่จะเดินออกไป ก็เลยเหมือนโดนจ้องจากข้างนอก รู้สึกเขินๆนะ^^'ออกมาสิ่งแรก หาซื้อซิม อ่านรีวิวมามาก เรื่องซิมที่โดนฟันกันในสนามบิน เราก็โดนตามระเบียบ เราซื้อจาก มินิมาร์ท 5 GB 75.000 rp เล่นเน็ทอย่างเดียวโทรไม่ได้ แบบ Loop เติมเน็ทได้ หลังจากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถ Damri bus เคาร์เตอร์ข้างๆ มินิมาร์ท
สนามบินไป ท่ารถ ท่ารถมี 2 ชื่อแล้วแต่คนเรียกนะคะ Purabaya กับ Bungurasih 25.000 rp
รถจอดบริเวณตรงทางออกพอดี
ตอนนี้ในสมอง คิดเยอะมาก จะโดนหลอกเหมือนกระทู้อื่นไหม เราจะทำไง ผู้หญิงคนเดียว ถ้าไม่ยอมจะเจอมาเฟียลากไปตบไหม !! โอ้ยคิดก็กลุ้ม เลิกคิด นั่งชมวิว ข้างทาง ดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ก็สนุกดี ในที่สุดมาถึง ท่ารถ Bungurasih ลงมาได้เท่านั้นแหละ @#$&_$&$ บลาๆ สงสัยเขาคิดว่าเราคนอินโดไง พอไม่ตอบ Taxi Taxi เราก็ไม่ตอบเดินจ้ำอ้าวเหมือนรู้ทาง 555 แต่จริงๆไปหลบทำใจสักพัก เอาว่ะ!! ท่ารถไป Probolinggo อยู่ไหน ทางไหน... คราวนี้ไม่มีใครรุมแล้วไง หน้าด้านไปถามเลยละกัน โอ้ว!! Omg!! ถามเสร็จพี่อินโดเดินพาไปตึกรถบัสบอกให้ไป ชานชาลาที่ 10 แต่ต้องขึ้นไปชั้น2 ก่อนค่อยลงมาขึ้นรถ สิ่งที่คิดและสิ่งเป็นจริง คือคนอินโดใจดีมาก (ด่าน1 ผ่าน)
สถานีรถบัส Purabaya หรือ คนอินโดเรียก Bungurasih
ชานชาลาที่10 มีทั้งแอร์และไม่แอร์ รถแอร์ Patas bus
พอเดินลงมาชานชาลา เจอคุณลุง ถาม Probolinggo? เราก็พยักหน้า Yes แต่ไม่ลืมถาม ราคาก่อนเลย ลุงบอก 30 โอเคตรงกับข้อมูล ด่าน 2 ผ่าน
ราคาจะมาตรฐานเลย ดูจากกระดาษที่แปะในรถ แต่เราก็แอบถามคนข้างๆเรานะ ว่าเท่าไหร่^^ โอเคราคาตรงกันผ่าน
ก่อนรถออกก็จะมีคนมาขายของสารพัดอย่าง แม้แต่ ร้องเพลงแลกเงิน^^....เปิดหมวกบนรถนี่แหละ ส่วนใหญ่คนบนรถก็จะให้เงินเหญียญ 500 rp แต่เราไม่มี มีแบงค์ใหญ่ เลยไม่ได้ให้ >< รู้สึกผิดนะ
*รถชานชาลาที่ 10 ก็จะมีไป Jember , Bungunwagi มีป้ายติดไว้ ัซึ่งทุกคันก็จะผ่าน Probolinggo*
*ไป Probolinggo ทางรถไฟก็ได้ แต่ต้องเช็ครอบเวลาให้ดี รถไฟมาจาดทาง Yogya เขาว่าตรงเวลามาก*
ระหว่างทาง ก็ไม่ต่างอะไรจากประะเทศเรา ตัวเมืองจะเจริญมากๆ ชนบทความเจริญก็มีบ้างประปรายแต่ค่อนข้างน้อย ถนนนอกเมืองเป็น ถนน 2 เลน แซงกันไม่ค่อยได้ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวรถบัส ก็จะมีค่าใกล้เคียงกัน
นั่งรถมาคนขับเปิดหนังจีนให้ดู 2 เรื่อง เราได้ยินก็จะขัดๆไม่ชิน เพราะภาคเสียงชวา 5555~~~ ผ่านไป 4 ชม. มาถึง สักที Probolinggo สักพัก ยูๆ ไปโบรโม่ลงตรงนี้เลย เราอ้าวเห้ย!! ฟม่ใช่สถานีกนิ แต่พี่แก จัดแจงลาดกระเป๋าเราลงไปแล้ว เอาไงหล่ะ ลงก็ลงว่ะ ~~ ลงมาเท่านั้นแหละ เออค่อยยังชั่ว มีป้ายเขียน Public Bus พี่แกไม่พอไปบอกคนในนั้นว่าเรา จะไปโบรโม่ (คนอินโดใจดีจัง) เค เราก็ไปนั่งกับพี่เขาไง พี่เขาก็เริ่มชวนเราคุย บอกยูต้องไปทางนี้ ชมวิวตรงนี้ สวยมาก เราเริ่มยังไงๆละ อธิบายยืดยาวมีแผนที่ เราก็เลยบอกไปว่าเราจะเที่ยวแบบไม่ใช้ทัวร์ เราจะเดินไปเอง พี่แกก็ยังอธิบายต่อไป จนในที่สุด บอกว่าวันนี้วันหยุดช่วงคริสต์มาส ไม่มีรถไปหรอกโบรโม่หน่ะ (นั่นไงจะขายทัวร์สินะ) เราเลยตามน้ำ ถามเลย ถ้าไปส่งอย่างเดียว เท่าไหร่ พี่แกตอบมา 600.000 rp. Omg!!แพงสลัด งั้นพี่เก็บรถไว้ที่นี่แหละ ขอบคุณค่ะ ลุกเลยจร้าไม่สน ไม่แคร์ ลุกออกมาเปิดแมพ ไป สถานีให้ได้ ดันมาออฟไลน์ไรตอนนี้นี่ พี่แกเห็นเราเหวอๆ ยืนงงๆ เขาหัวเราะเหมือนเยาะเย้ยเราเลย หรอ!! ต้องง้อหรอไม่มีทางค่ะ อย่ามาหลอก ผ่านมาหลายที่ไม่โดนหลอก จะไม่เสียเชิงไม่ได้~~ อารมณ์เสียกะโทรศัพท์บ้าตลอด สักพักบอกว่าถ้าไม่ทำงานกลับไปจะซื้อใหม่ เออติดแหะ555 แมพใช้ได้ เดินคร้าเดิน เดินไปสถานีรถบัส ระหว่างทางก็มีคนถามโน่นนี่นั่น โบรโม่หรอ มาทางนี้เจอแบบบนี้ประมาณ 3-4 เจ้า ไม่สนไม่แคร์ มุก้ดิมกันหมด เขียนป้ายหน้าร้าน Public bus ~~ เมื่อไหร่จะถึง สถานีเนี่ย มอไซต์ขับผ่าน ยูๆไปโบรโม่ไหม่ มอไซต์เนี่ย ไอคิด 150.000 rp. โหแพง! มานี่ทุกกระทู้สั่งสอนให้ต่อราคา ครึ่งๆ (แบกแพ็คเกอร์เว็ปต่างชาติ) 80.000 rp. งั้นไม่ไป พี่แกลด เหลือ 100.000 rp. บอกว่า ส่งถึงโรงแรมที่พักเลย เราบอกยังไม่มี ยังไม่ได้หา แต่มีไว้ในใจละ พี่แกบอกงั้นช่วยหาจนกว่าจะมีที่พัก ^^โอเคค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย สรุปเรานั่งมอไซต์ขึ้นดอยโบรโม่ (ตรงนอกสถานีเลี้ยวซ้ายจะมีรถ Bemo ไป Bromo แต่ต้องรอคนเต็มถึงจะออก ราคา 35.000-50.000rp) ระหว่างทางวิวสวยมาก นั่งชมไปเสียวไป ไกลพอสมควร ในที่สุด มาถึงสักที เสียค่าเข้าหมู่บ้าน Cemoro lawang 10.000 rp.
หน้าพี่วินผู้แสนใจดี พาหาที่พักจนกว่าเราจะถูกใจ พี้แกหาได้ 300.000 ทุกหลังเลย เราเลยจะไป Yog homestay
ที่พักได้แล้ว ใกล้โรงแรม Cemoro indah ด้วย จุดชมวิวก็สวยด้วย ในๆที่สุด โบรโม่ เรา ก็สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการแล้วเย้ๆ!!