สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท จะมารีวิว เมืองสุราบายาค่ะ จริงๆ ดองไว้นานหลายเดือนแล้ว เพิ่งมีโอกาสมารีวิวค่ะ 55
ถ้าพูดถึงสุราบายา หลายคนอาจจะคิดถึงสถานที่เด่นๆ แบบภูเขาไฟโบรโม่
ครั้งนี้ จขกท จะมารีวิวตัวเมืองสุราบายากันบ้างค่ะ
(รูปเยอะ แต่ไม่เน้นสวยนะคะ อยากเอาไว้ให้เป็นข้อมูลสำหรับคนจะไปสุราบายาค่ะ เพราะข้อมูลสุราบายา ที่ไม่ใช่โบรโม่น้อยมากๆ )
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ จขกท เดินทางไปกับแอร์เอเชีย ช่วงวันที่ 18-20 ตุลาคม 2557 ค่ะ
ราคาตั๋วไปกลับ กทม – จาร์กาตาร์ – สุราบายา ไปกลับ 2,200 บาทค่ะ รวมค่าตัดบัตรเครดิตแล้ว
เวลาน้อย เพราะว่าผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย เลยมีเวลาเที่ยวแค่ประมาณ 1 วันเท่านั้น
แต่ค่อนข้างประทับใจค่ะ ถ้ามีโอกาสคงกลับไปอีก 55
เริ่มการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลา11:25 น. ไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โนฮัตตา (CGK) ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ

ไฟท์ QZ 251 เครื่องของอินโดนีเซียค่ะ แอร์โฮสเตสบนเครื่องก็เป็นสาวอินโดและหนุ่มอินโดค่ะ

นั่งเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึง จาร์กาตาร์ ท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โนฮัตตา (CGK) ค่ะ

ได้นั่ง Shuttle Bus เพื่อไปยังอาคาร 3 ค่ะ ของจะเป็นที่ทำการของแอร์เอเชีย ทั้งหมดค่ะ นี่คือทางเข้าอาคารแล้วค่ะ

เมื่อผ่าน ตม และจุดรับกระเป๋าแล้ว เดินตรงมา เลี้ยวซ้าย จะเจอร้านโรตี และถัดมาคือร้านขายโทรศัพท์มือถือและซิมโทรศัพท์ค่ะ

ตอนซื้อ 240000 Rp. ค่ะ ประมาณเกือบ 700 บาทค่ะ ใช้ได้ทั้งอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ค่ะ เราใช้แชร์ Wifi กับเครื่องอื่นด้วยใช้ได้ประมาณ 7 วันแต่เราอยู่แค่ 3วัน มารู้ทีหลังตอนจะออกจากอินโดแล้วว่าเหลือเงินในโทรศัพท์ตั้ง 80830 Rp. หรือประมาณ 240 บาท ค่ะ
(เรทช่วงนั้น 100000 Rp. = 276 – 35 บาท ค่ะ )
พอได้ซิมโทรศัพท์แล้ว ก็ไปตามหา เคาร์เตอร์เชคอิน และออกตั๋วเพื่อไปสุราบายา ต่อค่ะ

เราเดินหากับน้องนานมากๆ ปรากฏว่า ต้องเดินออกจากอาคารแล้วเดินเข้ามาใหม่ค่ะ ถึงจะเข้าเคาร์เตอร์เช็คอินได้

ข้างนอกวุ่นวายเล็กน้อย คล้ายๆ หมอชิตบ้านเราเลย

และนี่คือเคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ
เสียค่าภาษีสนามบิน Rp 75 000 ค่ะ จ่ายที่เคาร์เตอร์เชคอินเลยค่ะ
ค่าภาษีสนามบินของจาร์กาต้าร์ จะเป็นแบบนี้ค่ะ ถ้าไปเมืองไหนต้องเช็คอีกทีนะคะ
Domestic Airport Tax: Rp75 000
International Airport Tax: Rp200 000
พนักงานน่ารักมากค่ะ พอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย ก็ทักทายว่า สวัสดีค่ะ เลย
พอได้ตั๋วแล้ว เราก็ไปเดินเล่นรอบๆ อาคาร อาคารเป็นอาคารเล็กๆ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร
และเกตจะไม่เปิดจนกว่า 18.00 น ซึ่งเราบินไฟท์ 19.10 น. มีเวลาระหว่างรอเกตเปิดประมาณ 2 ชั่วโมง และในอาคารไม่มีที่ให้นั่งเลย

สุดท้ายเลยต้องมาจบที่สตาร์บัค ราคาพอๆ กับไทยค่ะ แต่ดีที่มีที่ให้นั่งรอ ส่วนขนมพกมาด้วยค่ะ 55

พอ 18.00 น. ก็ได้เวลาเดินเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารขาออก Domestic ค่ะ ในอาคารก็มีจุดบริการหลายอย่างค่ะ

น้ำดื่มฟรี

มีให้บริการปลั๊กชาร์ตโทรศัพท์ เยอะมากค่ะ มีทุกจุดเลย

และห้องน้ำ ถือว่าโอเคค่ะ เพราะมีคนบอกว่าห้องน้ำที่จาร์กาตาร์แย่มาก พอเข้าไปถือว่าเหนือความคาดหมาย แต่ก็สกปรกกว่าของดอนเมืองนะคะ

มีจุดให้สูบบุหรี่ แถมได้ชมเครื่องบินด้วยค่ะ

และเมื่อได้เวลาขึ้นเครื่อง
ที่แปลกของอินโดนีเซีย จะแปลกกว่าไทยที่เราเจอคือ เปิดประตูหลังเครื่องให้ด้วย ปกติขึ้นเครื่องที่ไทยไม่เคยเจอเครื่องเปิดประตูหลัง
สำหรับสจ๊วตบนเครื่อง ชาวอินโด หล่อมากค่ะ หล่อคมเข้มบึกบึน คนละแนวของไทยเลย 55
นั่งเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีค่ะ พอๆ กับ กทม เชียงใหม่ เลย

เมื่อถึงสนามบินสุราบายา ท่าอากาศยานนานาชาติฆูอันดา (SUB) ค่ะ

พอถึงเราก็เดินออกมาหาแท็กซี่เลย เพราะว่าดึกแล้ว กลัวห้างปิด 55
ค่าแท็กซี่เข้าเมืองประมาณ Rp 110 000 ค่ะ มีเคานเตอร์คำนวนราคาให้โดยบอกปลายทางแล้วชำระเงินเลยค่ะ

คนขับรถขับดีมากค่ะ ถนนของสุราบายา รถค่อนข้างเยอะค่ะ มีมอเตอร์ไซค์เยอะมากๆ และรถติดมาก
สนามบินห่างจากตัวเมืองประมาณ 45 นาทีค่ะ

เราให้คนขับแท็กซี่ส่งเราที่หน้าห้าง METRO ค่ะ เพราะว่าห้างนี้อยู่ใกล้โรงแรมที่จองไว้
ภายในตัวห้างสวยงาม และราคาสินค้าแบรน์เนมค่อนข้างถูกกว่าที่ไทยหลายพันบาท พ่อแม่และน้องเราได้ของเยอะเลยค่ะ
ส่วนเราได้ของฝากให้เพื่อนๆ เป็นอินทผาลัม กล่องนึงไม่แพงค่ะ ถูกกว่าที่ไทยประมาณ 3 เท่าได้ค่ะ

หน้าห้างจะมีซุปเปอร์คาร์สวยๆ จอด
[CR] สุราบายา เมืองที่มีมากกว่า ภูเขาไฟโบรโม่
ถ้าพูดถึงสุราบายา หลายคนอาจจะคิดถึงสถานที่เด่นๆ แบบภูเขาไฟโบรโม่
ครั้งนี้ จขกท จะมารีวิวตัวเมืองสุราบายากันบ้างค่ะ
(รูปเยอะ แต่ไม่เน้นสวยนะคะ อยากเอาไว้ให้เป็นข้อมูลสำหรับคนจะไปสุราบายาค่ะ เพราะข้อมูลสุราบายา ที่ไม่ใช่โบรโม่น้อยมากๆ )
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ จขกท เดินทางไปกับแอร์เอเชีย ช่วงวันที่ 18-20 ตุลาคม 2557 ค่ะ
ราคาตั๋วไปกลับ กทม – จาร์กาตาร์ – สุราบายา ไปกลับ 2,200 บาทค่ะ รวมค่าตัดบัตรเครดิตแล้ว
เวลาน้อย เพราะว่าผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย เลยมีเวลาเที่ยวแค่ประมาณ 1 วันเท่านั้น
แต่ค่อนข้างประทับใจค่ะ ถ้ามีโอกาสคงกลับไปอีก 55
เริ่มการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลา11:25 น. ไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โนฮัตตา (CGK) ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
ไฟท์ QZ 251 เครื่องของอินโดนีเซียค่ะ แอร์โฮสเตสบนเครื่องก็เป็นสาวอินโดและหนุ่มอินโดค่ะ
นั่งเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึง จาร์กาตาร์ ท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โนฮัตตา (CGK) ค่ะ
ได้นั่ง Shuttle Bus เพื่อไปยังอาคาร 3 ค่ะ ของจะเป็นที่ทำการของแอร์เอเชีย ทั้งหมดค่ะ นี่คือทางเข้าอาคารแล้วค่ะ
เมื่อผ่าน ตม และจุดรับกระเป๋าแล้ว เดินตรงมา เลี้ยวซ้าย จะเจอร้านโรตี และถัดมาคือร้านขายโทรศัพท์มือถือและซิมโทรศัพท์ค่ะ
ตอนซื้อ 240000 Rp. ค่ะ ประมาณเกือบ 700 บาทค่ะ ใช้ได้ทั้งอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ค่ะ เราใช้แชร์ Wifi กับเครื่องอื่นด้วยใช้ได้ประมาณ 7 วันแต่เราอยู่แค่ 3วัน มารู้ทีหลังตอนจะออกจากอินโดแล้วว่าเหลือเงินในโทรศัพท์ตั้ง 80830 Rp. หรือประมาณ 240 บาท ค่ะ
(เรทช่วงนั้น 100000 Rp. = 276 – 35 บาท ค่ะ )
พอได้ซิมโทรศัพท์แล้ว ก็ไปตามหา เคาร์เตอร์เชคอิน และออกตั๋วเพื่อไปสุราบายา ต่อค่ะ
เราเดินหากับน้องนานมากๆ ปรากฏว่า ต้องเดินออกจากอาคารแล้วเดินเข้ามาใหม่ค่ะ ถึงจะเข้าเคาร์เตอร์เช็คอินได้
ข้างนอกวุ่นวายเล็กน้อย คล้ายๆ หมอชิตบ้านเราเลย
และนี่คือเคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ
เสียค่าภาษีสนามบิน Rp 75 000 ค่ะ จ่ายที่เคาร์เตอร์เชคอินเลยค่ะ
ค่าภาษีสนามบินของจาร์กาต้าร์ จะเป็นแบบนี้ค่ะ ถ้าไปเมืองไหนต้องเช็คอีกทีนะคะ
Domestic Airport Tax: Rp75 000
International Airport Tax: Rp200 000
พนักงานน่ารักมากค่ะ พอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย ก็ทักทายว่า สวัสดีค่ะ เลย
พอได้ตั๋วแล้ว เราก็ไปเดินเล่นรอบๆ อาคาร อาคารเป็นอาคารเล็กๆ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร
และเกตจะไม่เปิดจนกว่า 18.00 น ซึ่งเราบินไฟท์ 19.10 น. มีเวลาระหว่างรอเกตเปิดประมาณ 2 ชั่วโมง และในอาคารไม่มีที่ให้นั่งเลย
สุดท้ายเลยต้องมาจบที่สตาร์บัค ราคาพอๆ กับไทยค่ะ แต่ดีที่มีที่ให้นั่งรอ ส่วนขนมพกมาด้วยค่ะ 55
พอ 18.00 น. ก็ได้เวลาเดินเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารขาออก Domestic ค่ะ ในอาคารก็มีจุดบริการหลายอย่างค่ะ
น้ำดื่มฟรี
มีให้บริการปลั๊กชาร์ตโทรศัพท์ เยอะมากค่ะ มีทุกจุดเลย
และห้องน้ำ ถือว่าโอเคค่ะ เพราะมีคนบอกว่าห้องน้ำที่จาร์กาตาร์แย่มาก พอเข้าไปถือว่าเหนือความคาดหมาย แต่ก็สกปรกกว่าของดอนเมืองนะคะ
มีจุดให้สูบบุหรี่ แถมได้ชมเครื่องบินด้วยค่ะ
และเมื่อได้เวลาขึ้นเครื่อง
ที่แปลกของอินโดนีเซีย จะแปลกกว่าไทยที่เราเจอคือ เปิดประตูหลังเครื่องให้ด้วย ปกติขึ้นเครื่องที่ไทยไม่เคยเจอเครื่องเปิดประตูหลัง
สำหรับสจ๊วตบนเครื่อง ชาวอินโด หล่อมากค่ะ หล่อคมเข้มบึกบึน คนละแนวของไทยเลย 55
นั่งเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีค่ะ พอๆ กับ กทม เชียงใหม่ เลย
เมื่อถึงสนามบินสุราบายา ท่าอากาศยานนานาชาติฆูอันดา (SUB) ค่ะ
พอถึงเราก็เดินออกมาหาแท็กซี่เลย เพราะว่าดึกแล้ว กลัวห้างปิด 55
ค่าแท็กซี่เข้าเมืองประมาณ Rp 110 000 ค่ะ มีเคานเตอร์คำนวนราคาให้โดยบอกปลายทางแล้วชำระเงินเลยค่ะ
คนขับรถขับดีมากค่ะ ถนนของสุราบายา รถค่อนข้างเยอะค่ะ มีมอเตอร์ไซค์เยอะมากๆ และรถติดมาก
สนามบินห่างจากตัวเมืองประมาณ 45 นาทีค่ะ
เราให้คนขับแท็กซี่ส่งเราที่หน้าห้าง METRO ค่ะ เพราะว่าห้างนี้อยู่ใกล้โรงแรมที่จองไว้
ภายในตัวห้างสวยงาม และราคาสินค้าแบรน์เนมค่อนข้างถูกกว่าที่ไทยหลายพันบาท พ่อแม่และน้องเราได้ของเยอะเลยค่ะ
ส่วนเราได้ของฝากให้เพื่อนๆ เป็นอินทผาลัม กล่องนึงไม่แพงค่ะ ถูกกว่าที่ไทยประมาณ 3 เท่าได้ค่ะ
หน้าห้างจะมีซุปเปอร์คาร์สวยๆ จอด
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น