หากพูดถึงประเทศ สวีเดน หลายๆท่านคงจะนึกถึงประเทศในแถบทางภาคเหนือ ของยุโรป หรือเรียกว่า "สแกนดิเนเวีย" ซึ่งแถวนั้นอากาศโคตรหนาวตลอดเวลา คนที่อยู่แถวนั้นก็จะเป็น ฝรั่งเชื้อสาย นอร์ดิก แท้ๆรูปร่างสูงใหญ่ ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ส่วยเรืองวัฒนธรรม และบ้านเมืองนั้นก็ต้องเจริญไร้ความวุ่นวาย และ น่าอยู่เอามากๆ การศึกษาก็ดี ขนาดคุกแถบนั้นยังน่าอยู่กว่าคอนโดของไทย บางคอนโดเสียอีกคิดดู 55
แต่ใครจะไปนึกล่ะครับ ว่าในอดีตนั้น สวีเดนนั้นเคยเป็น 1 ในประเทศมหาอำนาจในยุโรป ที่ทุกๆชาติในยุโรปตอนนั้นต่างขยาด แม้แต่ รัสเซีย ก็ตาม ด้วยกองทัพที่มีประสิทธิภาพของเขานั้นเอง กองทัพสวีดิช นั้นขึ้นชื่อว่าได้ว่าเป็น "สิงห์แห่งภาคเหนือ" เลยทีเดียวครับ จนเทียบชั้นกับ อังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ที่เป็น มหาอำนาจในตอนนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ กองทัพที่ว่านั้นคือ The Caroleans Army นั้นเองครับ
โดย Caroleans Army นั้น เป็นชื่อเรียกของกองทัพสวีเดนในช่วงรัชสมัยของ พระเจ้าชาร์ลที่ 11 - 12 ของสวีเดน โดยพวกเขานั้นถือเป็น นักรบที่เหี้ยมหาญและมีระเบียบวินัยที่โคตรจะสูงในยุคๆนั้นเลยทีเดียว จนถึงขนาดที่ว่า เอาชนะกองทัพที่ใหญ่กว่าได้เกือบทุกครั้งทุกครา.... ขนาด รัสเซีย ร่วมมือ กับ สหพันธรัฐโปร์แลนด์ - ลิธัวเนีย และ รัฐเยอรมันบางรัฐ นั้นก็ยังไม่สามารถเอา กองทัพเล็กๆนี่ลงได้ คิดดูเอาล่ะกัน
เคล็ดลับของความแกร่งนั้นคือศาสนา
พระเจ้าชาร์ลที่ 11 นั้น ตระหนักดีครับว่า สวีเดน นั้นเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและทรัพยากรจำกัด เพราะฉะนั้น กองทัพของพวกเขาจึงไม่ใหญ่โตมาก แต่เขานั้นก็ชดเชยด้วยระเบียบวินัยอันกล้าแข็งนั้นเอง ถามว่าพวกเขาทำยังไง เขานั้นใช้ ศรัทธาอันแรงกล้าต่อศาสนานั้นเองครับ ... โดย กองทัพ Caroleans นั้นจะจัดหาเหล่านักบวชมาเทศน์ให้ทหารฟังทุกวัน โดยบอกว่า พวกเขานั้นสู้เพื่อศาสนา สู้เพื่อกษัตริย์ซึ่งได้รับอำนาจปกครองมาจากพระเจ้า... และสอนไม่ให้พวกเขานั้นกลัวตาย..มีนักบวชท่านหนึ่งนั้นกล่าวไว้ว่า "ถึงแม้พวกท่านจะหลบกระสุนหรือไม่หลบก็ตาม แต่พระเจ้านั้นกล่าวว่าพวกท่านยังไม่ถึงคราวตาย พวกท่านก็จะไม่ตาย" ด้วยกองทัพอันมีศรัทธาอันแรงกล้าเช่นนี้ เองครับจึงทำให้พวกเขานั้น มีระเบียบวินัยและรบได้อย่างเหี้ยมหาญ นอกจากนี้ Caroleans นั้น ยังได้จัดสรรให้คนที่มาจาก ท้องถิ่นเดียวกันนั้น อยู่สังกัดกรมกองเดียวกันและปลูกกระท่อมอยู่ใกล้กันนั้นทำให้ พวกเขานั้นสนิทสนมกันเร็วและมีความสามัคคีรักใคร่กันอีกด้วย
สวัสดิการและเครื่องแบบ
อาวุธหลักในช่วงต้น ศตวรรษที่ 18 นั้นคือ ปืนคาบศิลา หรือ Flintlock Musket โดยเหล่าทหารราบนั้นจะได้รับแจกกันทุกนาย รวมถึง ดาบโง้ง Raiper และกระเป๋าใส่กระสุนด้วย และทหารราบ 1 ใน 3 นั้น จะได้รับแจก หอกยาว หรือ Pike นั้นเองครับ และนอกจากนี่เหล่าทหาร Grenadier นั้นก็จะได้รับแจก ลูกระเบิดเขวี้ยงอีกด้วย ในขณะที่ เหล่าทหารม้า จะได้รับแจกปืนสั้น 2 กระบอก และปืนยาว Carbine สำหรับทหารม้า Dragoon ในขณะที่ทหารปืนใหญ่นั้นจะได้รับแจก ดาบเล่มเล็กๆไว้ ป้องกันตนเองเผื่อมีการรบประชิดเกิดขึ้น
เรื่องเสบียงนั้น ทหารแต่ละนายจะได้รับแจก เป็นขนมปังแข็ง 625 กรัม เนยหรือหมู 850 กรัม (อาจแทนที่ด้วย ปลา ถ้ามี) เบียร์ 2.5 ลิตร น้ำเปล่านั้นมักจะปนเปื้อนและไม่สะอาด จึงไม่ใช่ เสบียงหลักของเหล่า Caroleans
ส่วนเครื่องแต่งกายนั้น ก็มีหลากหลายประเภท แต่ที่เป็นหลักๆนั้นคือ เสื้อคลุมสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่ขลิบสีเหลือง อันเป็นสีของธงจักรวรรดิสวีเดนนั้นเองครับ และมักจะใช้เสื้อเชิตรองในสีขาวหรือเหลือง และส่วมใส่หมวก Tricorne ด้วย แต่ก็จะมีบางหน่วยที่ไม่แต่งกายตามนี้ เช่นทหารม้า Dragoon บางกอง นั้นจะใส้เสื้อคลุม แดง หรือ เขียว หรือเหล่าปืนใหญ่จะใส่เสื้อคลุมเทา
เหล่าทหารราบแห่งกองทัพ Caroleans
ทหารม้าแห่งกองทัพ Caroleans
การจัดกำลังและยุทธวิธี
ทหารราบ 1 กรมนั้นจะมีกำลังประมาณ 1,200 คนและจะแบ่งเป็น 2 กองพัน กองพันละ 600 คน และในกองพันก็จะแบ่งย่อยเป็น 4 กองร้อย กองร้อยล่ะ 150 คน และโดยปกตินั้นแต่ละกองพันก็จัดแถวเป็นแถว หน้ากระดาน 4 แถว ก่อนจะแปรเป็น 6 แถวในเข้าสู่สมรภูมิ ในแถวที่ 3 - 4 นั้นก็จะมีเหล่าพลหอกยาวหรือ Pike อยู่ในตำแหน่งนั้น นอกจากนี้ในแต่ละกองร้อยก็จะคัดเลือกทหารที่ตัวใหญ่และแข็งแรงที่สุดมา 10 คน เพื่อเป็นทหารราบ Grenadier ไว้ขนาบทั้งซ้ายและขวาของกองร้อย หน้าที่ของพวกเขานั้นคือคอยคุ้มกันปีกทั้ง 2 ข้างของกองพันและปาระเบิดเข้าก่อกวนแนวรบฝั่งตรงข้าม
ส่วนทหารม้า 1 กรม นั้นจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 1,000 นาย และแบ่งย่อยอีกเป็น 4 หน่วย หน่วยละ 250 และใน 1 หน่วยจะแบ่งเป็น 2 กองร้อย กองร้อยล่ะ 125 พวกเขานั้นก็จะประกบปีกซ้ายปีกขวาของกองทัพ และกองพลปืนใหญ่นั้นจะอยู่ด้านหลัง
ยุทธวิธีของทหารราบนั้นจะใช้ ยุทธวิธีที่บ้าบิ่นเรียกกันว่า " Gå–På" หรือ "Go - On" ในภาษาอังกฤษ โดยการรบในช่วง ศตวรรษที่ 17 - 18 นั้นคือการรบแบบ Line Infantry นั้นคือการเดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้าหาฝั่งตรงข้าม และยืนแลกยิงปืนใส่กันจนกว่าจะตายไปข้างนั้นคือ กลยุทธ์ที่แพร่หลายในยุโรป ขณะนั้น แต่เหล่า Caroleans นั้นอาจจะแตกต่างไปโดยเล็กน้อย ในช่วงแรกนั้นพวกเขาจะเดินอย่างองอาจสง่าผ่าเผยเข้าสู่สนามรบ และเมื่อถึงระยะประมาณ 100 เมตร ซึ่งคือระยะยิงของปืนในยุคนั้น เหล่าข้าศึกก็จะเปิดฉากระดมยิงใส่ Caroleans จนล้ม แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดเดินครับ!! เพราะพวกเขานั้นจะเริ่มทำการยิงในระยะ 50 เมตร!! ซึ่งนั้นเป็นระยะที่ทำการสังหารได้สูงมากกว่า แต่ในช่วงระหว่างเดินนี่ละที่เหล่า Caroleans จะนอนล้มตายกันกลิ้งเกลือก แต่ด้วยวินัยอันเข้มข้มและศรัทธาอันแรงกล้านั้น ทำให้พวกเขานั้นยังไม่แตกแถว มิหนำซ้ำคนในตับต่อมาก็จะเข้ามาเติมแถวให้เต็มตลอด จนดูเหมือนกำลังไม่พ่องลงเลย ตรงข้ามกับฝั่งข้าศึก...ถึงแม้จะยังไม่สูญเสียกำลังพลแต่สิ่งที่พวกเขานั้นเริ่มสูญเสียคือขวัญกำลังใจครับ คิดดูขนาดยิงใส่เอาๆมันกลับไม่เป็นไรเดินมาต่อหน้าตาเฉย...และเมื่อเข้าถึงระยะยิงนั้นคือประมาณ 50 เมตร 2 ทหารในแถวแรกจะคุกเข่า และทหารแถวที่ 2 นั้นก็จะทำการยืนยิง....หลังจากยิงเสร็จ 2 แถวแรกก็จะกลับไปต่อท้าย ให้ 2 แถวต่อมานั้นยิงต่อ...วนซ้ำไปเรื่อยๆ ด้วยอำนาจการยิงในระยะ 50 เมตรนั้นเองครับทำให้ ข้าศึกนั้นล้มตายจำนวนมาก นอกจากนี้แนวของข้าศึกจะถูกปืนใหญ่จากแนวหลังระดมยิงใส่ หรือ โดนทหารม้าเข้าตีปีก เมื่อรู้ว่าข้าศึกนั้นเริ่มเสียขวัญกำลังใจพวกเขาก็ชักดาบออกมา และใช้ดาบปลายปืนเข้าโรมรันในระยะประชิด.... หรือในกรณีที่ข้าศึกวิ่งบุกชาร์จมาใส่ก่อน แถวทหารที่ถือหอกยาวนั้นก็จะมายืนด้านหน้าแทน และปักหอก ลงพื้นให้เอียง 45 องศา เพื่อหยุดการชาร์จของทหารม้าหรือทหารราบ นอกจากนี้ยังมีหน่วยรบ Grenadier ซึ่งรูปร่างสูงใหญ่ นั้นเป็นตัว Tank .....อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าพวกเขานั้นจะปาระเบิดมือเข้าไปกลางดงข้าศึก ก่อนจะบุกตะลุมบอนในระยะประชิดสร้างความปั่นป่วนให้ข้าศึกยิ่งนัก และในกรณีที่ข้าศึกนั้นสามารถใช้ทหารม้า โอบล้อม หรือเข้าตีด้านปีก พวกเขาก็จะแปรแถวเป็น รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อ ป้องกันการโจมตีที่มาจากรอบทิศนั้นเองครับ ในช่วงหลังๆนั้นทหาร Caroleans ก็ะเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งบ้างเพื่อลดอัตราการสูญเสียและอาจจะเข้าไปยืนยิงในตำแหน่งทีใกล้กว่าเดิมนั้นคือ 15 - 20 เมตร!!!

ทหาร Grenadier กำลังเขวี้ยงระเบิดและวิ่งเข้าตะลุมบอล
สำหรับทหารม้า Caroleans นั้นก็ใช้ยุทธวิธี " Gå–På" เช่นกันครับ นั้นคือการเข้าโจมตีอย่างฉับไวปานสายฟ้าแลบและสร้างความเสียหายให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้.... เพื่อการควบตะลุยอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เหล่าทหารม้านั้นได้รับอนุญาตให้ใช้เพียงดาบเท่านั้น เพราะอาวุธปืนนั้น ต้องหยุดและยิงซึ่งจะทำให้สูญเสียความเร็วไป..อาจจะอนุญาตให้ใช้ในการไล่ต้อนข้าศึกที่กำลังถอย และถ้าทหารม้าจำเป็นต้องถอยออกจากการรบ พวกเขาก็จะกลับไปรวมตัวกันใหม่ที่แนวหลัง เตรียมบุกเข้าชาร์จระลอกต่อไป ทหารม้านั้นก็จะแบ่งได้เป็นหลายประเภททั้งทหารม้าหนัก ซึ่งอนุญาตให้สวมเกราะ Cuirass และหมวกเหล็ก (

ก็ Cuirassier ดีๆนี่ละ) หรือเหล่า Dragoon ที่พกปืนไปด้วยหลายกระบอก....
สำหรับปืนใหญ่นั้นก็จะเคลื่อนที่ตามแนวทหารไปตลอดเวลาเพื่อจะได้ยิงสนับสนุนได้อย่างว่องไวและแม่นยำ
Caroleans Army สิงห์แห่งภาคเหนือ
แต่ใครจะไปนึกล่ะครับ ว่าในอดีตนั้น สวีเดนนั้นเคยเป็น 1 ในประเทศมหาอำนาจในยุโรป ที่ทุกๆชาติในยุโรปตอนนั้นต่างขยาด แม้แต่ รัสเซีย ก็ตาม ด้วยกองทัพที่มีประสิทธิภาพของเขานั้นเอง กองทัพสวีดิช นั้นขึ้นชื่อว่าได้ว่าเป็น "สิงห์แห่งภาคเหนือ" เลยทีเดียวครับ จนเทียบชั้นกับ อังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ที่เป็น มหาอำนาจในตอนนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ กองทัพที่ว่านั้นคือ The Caroleans Army นั้นเองครับ
โดย Caroleans Army นั้น เป็นชื่อเรียกของกองทัพสวีเดนในช่วงรัชสมัยของ พระเจ้าชาร์ลที่ 11 - 12 ของสวีเดน โดยพวกเขานั้นถือเป็น นักรบที่เหี้ยมหาญและมีระเบียบวินัยที่โคตรจะสูงในยุคๆนั้นเลยทีเดียว จนถึงขนาดที่ว่า เอาชนะกองทัพที่ใหญ่กว่าได้เกือบทุกครั้งทุกครา.... ขนาด รัสเซีย ร่วมมือ กับ สหพันธรัฐโปร์แลนด์ - ลิธัวเนีย และ รัฐเยอรมันบางรัฐ นั้นก็ยังไม่สามารถเอา กองทัพเล็กๆนี่ลงได้ คิดดูเอาล่ะกัน
เคล็ดลับของความแกร่งนั้นคือศาสนา
พระเจ้าชาร์ลที่ 11 นั้น ตระหนักดีครับว่า สวีเดน นั้นเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและทรัพยากรจำกัด เพราะฉะนั้น กองทัพของพวกเขาจึงไม่ใหญ่โตมาก แต่เขานั้นก็ชดเชยด้วยระเบียบวินัยอันกล้าแข็งนั้นเอง ถามว่าพวกเขาทำยังไง เขานั้นใช้ ศรัทธาอันแรงกล้าต่อศาสนานั้นเองครับ ... โดย กองทัพ Caroleans นั้นจะจัดหาเหล่านักบวชมาเทศน์ให้ทหารฟังทุกวัน โดยบอกว่า พวกเขานั้นสู้เพื่อศาสนา สู้เพื่อกษัตริย์ซึ่งได้รับอำนาจปกครองมาจากพระเจ้า... และสอนไม่ให้พวกเขานั้นกลัวตาย..มีนักบวชท่านหนึ่งนั้นกล่าวไว้ว่า "ถึงแม้พวกท่านจะหลบกระสุนหรือไม่หลบก็ตาม แต่พระเจ้านั้นกล่าวว่าพวกท่านยังไม่ถึงคราวตาย พวกท่านก็จะไม่ตาย" ด้วยกองทัพอันมีศรัทธาอันแรงกล้าเช่นนี้ เองครับจึงทำให้พวกเขานั้น มีระเบียบวินัยและรบได้อย่างเหี้ยมหาญ นอกจากนี้ Caroleans นั้น ยังได้จัดสรรให้คนที่มาจาก ท้องถิ่นเดียวกันนั้น อยู่สังกัดกรมกองเดียวกันและปลูกกระท่อมอยู่ใกล้กันนั้นทำให้ พวกเขานั้นสนิทสนมกันเร็วและมีความสามัคคีรักใคร่กันอีกด้วย
สวัสดิการและเครื่องแบบ
อาวุธหลักในช่วงต้น ศตวรรษที่ 18 นั้นคือ ปืนคาบศิลา หรือ Flintlock Musket โดยเหล่าทหารราบนั้นจะได้รับแจกกันทุกนาย รวมถึง ดาบโง้ง Raiper และกระเป๋าใส่กระสุนด้วย และทหารราบ 1 ใน 3 นั้น จะได้รับแจก หอกยาว หรือ Pike นั้นเองครับ และนอกจากนี่เหล่าทหาร Grenadier นั้นก็จะได้รับแจก ลูกระเบิดเขวี้ยงอีกด้วย ในขณะที่ เหล่าทหารม้า จะได้รับแจกปืนสั้น 2 กระบอก และปืนยาว Carbine สำหรับทหารม้า Dragoon ในขณะที่ทหารปืนใหญ่นั้นจะได้รับแจก ดาบเล่มเล็กๆไว้ ป้องกันตนเองเผื่อมีการรบประชิดเกิดขึ้น
เรื่องเสบียงนั้น ทหารแต่ละนายจะได้รับแจก เป็นขนมปังแข็ง 625 กรัม เนยหรือหมู 850 กรัม (อาจแทนที่ด้วย ปลา ถ้ามี) เบียร์ 2.5 ลิตร น้ำเปล่านั้นมักจะปนเปื้อนและไม่สะอาด จึงไม่ใช่ เสบียงหลักของเหล่า Caroleans
ส่วนเครื่องแต่งกายนั้น ก็มีหลากหลายประเภท แต่ที่เป็นหลักๆนั้นคือ เสื้อคลุมสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่ขลิบสีเหลือง อันเป็นสีของธงจักรวรรดิสวีเดนนั้นเองครับ และมักจะใช้เสื้อเชิตรองในสีขาวหรือเหลือง และส่วมใส่หมวก Tricorne ด้วย แต่ก็จะมีบางหน่วยที่ไม่แต่งกายตามนี้ เช่นทหารม้า Dragoon บางกอง นั้นจะใส้เสื้อคลุม แดง หรือ เขียว หรือเหล่าปืนใหญ่จะใส่เสื้อคลุมเทา
การจัดกำลังและยุทธวิธี
ทหารราบ 1 กรมนั้นจะมีกำลังประมาณ 1,200 คนและจะแบ่งเป็น 2 กองพัน กองพันละ 600 คน และในกองพันก็จะแบ่งย่อยเป็น 4 กองร้อย กองร้อยล่ะ 150 คน และโดยปกตินั้นแต่ละกองพันก็จัดแถวเป็นแถว หน้ากระดาน 4 แถว ก่อนจะแปรเป็น 6 แถวในเข้าสู่สมรภูมิ ในแถวที่ 3 - 4 นั้นก็จะมีเหล่าพลหอกยาวหรือ Pike อยู่ในตำแหน่งนั้น นอกจากนี้ในแต่ละกองร้อยก็จะคัดเลือกทหารที่ตัวใหญ่และแข็งแรงที่สุดมา 10 คน เพื่อเป็นทหารราบ Grenadier ไว้ขนาบทั้งซ้ายและขวาของกองร้อย หน้าที่ของพวกเขานั้นคือคอยคุ้มกันปีกทั้ง 2 ข้างของกองพันและปาระเบิดเข้าก่อกวนแนวรบฝั่งตรงข้าม
ส่วนทหารม้า 1 กรม นั้นจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 1,000 นาย และแบ่งย่อยอีกเป็น 4 หน่วย หน่วยละ 250 และใน 1 หน่วยจะแบ่งเป็น 2 กองร้อย กองร้อยล่ะ 125 พวกเขานั้นก็จะประกบปีกซ้ายปีกขวาของกองทัพ และกองพลปืนใหญ่นั้นจะอยู่ด้านหลัง
ยุทธวิธีของทหารราบนั้นจะใช้ ยุทธวิธีที่บ้าบิ่นเรียกกันว่า " Gå–På" หรือ "Go - On" ในภาษาอังกฤษ โดยการรบในช่วง ศตวรรษที่ 17 - 18 นั้นคือการรบแบบ Line Infantry นั้นคือการเดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้าหาฝั่งตรงข้าม และยืนแลกยิงปืนใส่กันจนกว่าจะตายไปข้างนั้นคือ กลยุทธ์ที่แพร่หลายในยุโรป ขณะนั้น แต่เหล่า Caroleans นั้นอาจจะแตกต่างไปโดยเล็กน้อย ในช่วงแรกนั้นพวกเขาจะเดินอย่างองอาจสง่าผ่าเผยเข้าสู่สนามรบ และเมื่อถึงระยะประมาณ 100 เมตร ซึ่งคือระยะยิงของปืนในยุคนั้น เหล่าข้าศึกก็จะเปิดฉากระดมยิงใส่ Caroleans จนล้ม แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดเดินครับ!! เพราะพวกเขานั้นจะเริ่มทำการยิงในระยะ 50 เมตร!! ซึ่งนั้นเป็นระยะที่ทำการสังหารได้สูงมากกว่า แต่ในช่วงระหว่างเดินนี่ละที่เหล่า Caroleans จะนอนล้มตายกันกลิ้งเกลือก แต่ด้วยวินัยอันเข้มข้มและศรัทธาอันแรงกล้านั้น ทำให้พวกเขานั้นยังไม่แตกแถว มิหนำซ้ำคนในตับต่อมาก็จะเข้ามาเติมแถวให้เต็มตลอด จนดูเหมือนกำลังไม่พ่องลงเลย ตรงข้ามกับฝั่งข้าศึก...ถึงแม้จะยังไม่สูญเสียกำลังพลแต่สิ่งที่พวกเขานั้นเริ่มสูญเสียคือขวัญกำลังใจครับ คิดดูขนาดยิงใส่เอาๆมันกลับไม่เป็นไรเดินมาต่อหน้าตาเฉย...และเมื่อเข้าถึงระยะยิงนั้นคือประมาณ 50 เมตร 2 ทหารในแถวแรกจะคุกเข่า และทหารแถวที่ 2 นั้นก็จะทำการยืนยิง....หลังจากยิงเสร็จ 2 แถวแรกก็จะกลับไปต่อท้าย ให้ 2 แถวต่อมานั้นยิงต่อ...วนซ้ำไปเรื่อยๆ ด้วยอำนาจการยิงในระยะ 50 เมตรนั้นเองครับทำให้ ข้าศึกนั้นล้มตายจำนวนมาก นอกจากนี้แนวของข้าศึกจะถูกปืนใหญ่จากแนวหลังระดมยิงใส่ หรือ โดนทหารม้าเข้าตีปีก เมื่อรู้ว่าข้าศึกนั้นเริ่มเสียขวัญกำลังใจพวกเขาก็ชักดาบออกมา และใช้ดาบปลายปืนเข้าโรมรันในระยะประชิด.... หรือในกรณีที่ข้าศึกวิ่งบุกชาร์จมาใส่ก่อน แถวทหารที่ถือหอกยาวนั้นก็จะมายืนด้านหน้าแทน และปักหอก ลงพื้นให้เอียง 45 องศา เพื่อหยุดการชาร์จของทหารม้าหรือทหารราบ นอกจากนี้ยังมีหน่วยรบ Grenadier ซึ่งรูปร่างสูงใหญ่ นั้นเป็นตัว Tank .....อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าพวกเขานั้นจะปาระเบิดมือเข้าไปกลางดงข้าศึก ก่อนจะบุกตะลุมบอนในระยะประชิดสร้างความปั่นป่วนให้ข้าศึกยิ่งนัก และในกรณีที่ข้าศึกนั้นสามารถใช้ทหารม้า โอบล้อม หรือเข้าตีด้านปีก พวกเขาก็จะแปรแถวเป็น รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อ ป้องกันการโจมตีที่มาจากรอบทิศนั้นเองครับ ในช่วงหลังๆนั้นทหาร Caroleans ก็ะเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งบ้างเพื่อลดอัตราการสูญเสียและอาจจะเข้าไปยืนยิงในตำแหน่งทีใกล้กว่าเดิมนั้นคือ 15 - 20 เมตร!!!
สำหรับทหารม้า Caroleans นั้นก็ใช้ยุทธวิธี " Gå–På" เช่นกันครับ นั้นคือการเข้าโจมตีอย่างฉับไวปานสายฟ้าแลบและสร้างความเสียหายให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้.... เพื่อการควบตะลุยอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เหล่าทหารม้านั้นได้รับอนุญาตให้ใช้เพียงดาบเท่านั้น เพราะอาวุธปืนนั้น ต้องหยุดและยิงซึ่งจะทำให้สูญเสียความเร็วไป..อาจจะอนุญาตให้ใช้ในการไล่ต้อนข้าศึกที่กำลังถอย และถ้าทหารม้าจำเป็นต้องถอยออกจากการรบ พวกเขาก็จะกลับไปรวมตัวกันใหม่ที่แนวหลัง เตรียมบุกเข้าชาร์จระลอกต่อไป ทหารม้านั้นก็จะแบ่งได้เป็นหลายประเภททั้งทหารม้าหนัก ซึ่งอนุญาตให้สวมเกราะ Cuirass และหมวกเหล็ก (
สำหรับปืนใหญ่นั้นก็จะเคลื่อนที่ตามแนวทหารไปตลอดเวลาเพื่อจะได้ยิงสนับสนุนได้อย่างว่องไวและแม่นยำ