อา..และแล้ว "การศาสนา" ก็อยู่เหนือ "การเมือง" เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ในยุครัฐบาลทหาร คสช. ที่อาจหาญ "ยกโขยงหกโมงเช้า" ใช้ ม.44 เข้าปิดล้อมวัดพระธรรมกายอยู่นานแรมเดือน สั่งถอดยศ "ธัมมชโย-ทัตตชีโว" จนไม่กล้าสู้หน้าประชาชนจนกระทั่งบัดนี้ นั่นหมายถึงว่า "การเมืองต้องอยู่เหนือการศาสนา" แต่เมื่อได้ยินท่านรัฐมนตรีสุวพันธุ์พูดวันนี้แล้ว มันตรงกันข้าม เพราะเหมือนว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายอะไร ให้ขับเคลื่อนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ปล่อยให้ "พงศ์พร" สร้างนโยบายเอง บริหารเอง เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติวันนี้ จึงมีสถานะเป็น "องค์กรอิสระ" ในรัฐบาลไทย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ถามว่า จะมีรัฐมนตรีไว้ทำไม ?
เอ้า ! คุณพงศ์พรโปรดทราบ ท่านรัฐมนตรีบอกว่ามีหน้าที่สนับสนุนท่านเท่านั้น ดังนั้น หวังว่า พรุ่งนี้ คดีเงินทอนวัด ประดาผู้ต้องหาที่มีรายชื่อทั้งล็อต 1 ล็อต 2 นั้น คงจะได้หมายศาล เหมือนกรณีพระครูเจ้าคณะอำเภอชนแดน ที่กินข้าวแดงอยู่ในเวลานี้นะ ถ้าไม่ทำละก็..เสียคนดีหมดเลย !
สุวพันธุ์หนุนพงศ์พรลุยเต็มที่ ชูเป็นผลดีต่อสงฆ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยได้งานทั้งที่เคยรับผิดชอบและงานใหม่ หนุน "พงศ์พร ลุยเต็มที่ รวมปรับปรุงหลักเกณฑ์เงินช่วยบูรณะวัด ยันปฏิรูปครอบคลุมทุกด้าน ชูเป็นผลดีต่อคณะสงฆ์และ พศ. พร้อมเร่งรัดงานคุ้มครองผู้บริโภค จ่อบูรณาการร่วมภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การดูแล
วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลว่า ตนจะน้อมนำพระราโชวาทที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน บางงานเป็นงานที่เคยรับผิดชอบมาแล้ว บางงานเป็นงานใหม่ ด้วยพระบรมราโชวาทที่พระราชทานไว้จะทำให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานและคณะกรรมการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
"งานสำคัญเช่นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ผมก็จะสนับสนุนส่งเสริมให้ท่าน ผอ.พงศ์พร ดำเนินงานตามแนวทางของท่านต่อไปอย่างเต็มที่ เพราะทำได้ดีมากอยู่แล้ว การทำให้ พศ.โปร่งใส ไม่มีการทุจริตประพฤติมิชอบ ต้องสนับสนุนให้ท่านทำต่อไป ทั้งเรื่องการดำเนินคดีเอาโทษต่อผู้กระทำความผิด ซึ่ง ป.ป.ช., ป.ป.ท., สตง., ปปป.ตร., DSI ทำร่วมกับ ศอตช.และ ผอ.พงศ์พร มีความคืบหน้ามาโดยตลอด รวมถึงเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้เงินช่วยเหลือการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม เงินสนับสนุนด้านการศึกษา ซึ่งคณะสงฆ์คงต้องร่วมมือกับ พศ.ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนามีกรอบในการดำเนินการอยู่แล้ว ครอบคลุมกิจกรรมทุกด้านของคณะสงฆ์ และก่อนหน้านี้ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่ามติของมหาเถรสมาคมและคำสั่งของเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ ในระยะที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปและเป็นข้อดีของการสร้างศรัทธาต่อการปฏิบัติของคณะสงฆ์ ซึ่งตนจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ต่อไป
"เมื่อเช้าผมได้มีโอกาสสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับท่าน ผอ.พงศ์พร ในระหว่างร่วมงานทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ได้รับทราบการดำเนินงานของท่านที่เป็นผลดีต่อคณะสงฆ์และ พศ. โดยรวม ผมได้บอกกับ ผอ.พศ.ไปว่าให้ท่านขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป ผมมีหน้าที่สนับสนุน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องให้" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ข้อมูลเวบอะลิตเติ้ลบุดด้า.com
สุวพันธุ์ยกก้นพงศ์พรทำดีแล้ว กรุณาเดินหน้าต่อไป กระผมมีหน้าที่สนับสนุนและช่วยแก้ไขเท่านั้น ! อะลิตเติ้ลบุดด้า.com
อา..และแล้ว "การศาสนา" ก็อยู่เหนือ "การเมือง" เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ในยุครัฐบาลทหาร คสช. ที่อาจหาญ "ยกโขยงหกโมงเช้า" ใช้ ม.44 เข้าปิดล้อมวัดพระธรรมกายอยู่นานแรมเดือน สั่งถอดยศ "ธัมมชโย-ทัตตชีโว" จนไม่กล้าสู้หน้าประชาชนจนกระทั่งบัดนี้ นั่นหมายถึงว่า "การเมืองต้องอยู่เหนือการศาสนา" แต่เมื่อได้ยินท่านรัฐมนตรีสุวพันธุ์พูดวันนี้แล้ว มันตรงกันข้าม เพราะเหมือนว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายอะไร ให้ขับเคลื่อนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ปล่อยให้ "พงศ์พร" สร้างนโยบายเอง บริหารเอง เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติวันนี้ จึงมีสถานะเป็น "องค์กรอิสระ" ในรัฐบาลไทย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ถามว่า จะมีรัฐมนตรีไว้ทำไม ?
เอ้า ! คุณพงศ์พรโปรดทราบ ท่านรัฐมนตรีบอกว่ามีหน้าที่สนับสนุนท่านเท่านั้น ดังนั้น หวังว่า พรุ่งนี้ คดีเงินทอนวัด ประดาผู้ต้องหาที่มีรายชื่อทั้งล็อต 1 ล็อต 2 นั้น คงจะได้หมายศาล เหมือนกรณีพระครูเจ้าคณะอำเภอชนแดน ที่กินข้าวแดงอยู่ในเวลานี้นะ ถ้าไม่ทำละก็..เสียคนดีหมดเลย !
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยได้งานทั้งที่เคยรับผิดชอบและงานใหม่ หนุน "พงศ์พร ลุยเต็มที่ รวมปรับปรุงหลักเกณฑ์เงินช่วยบูรณะวัด ยันปฏิรูปครอบคลุมทุกด้าน ชูเป็นผลดีต่อคณะสงฆ์และ พศ. พร้อมเร่งรัดงานคุ้มครองผู้บริโภค จ่อบูรณาการร่วมภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้การดูแล
วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลว่า ตนจะน้อมนำพระราโชวาทที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรีที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน บางงานเป็นงานที่เคยรับผิดชอบมาแล้ว บางงานเป็นงานใหม่ ด้วยพระบรมราโชวาทที่พระราชทานไว้จะทำให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานและคณะกรรมการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
"งานสำคัญเช่นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ผมก็จะสนับสนุนส่งเสริมให้ท่าน ผอ.พงศ์พร ดำเนินงานตามแนวทางของท่านต่อไปอย่างเต็มที่ เพราะทำได้ดีมากอยู่แล้ว การทำให้ พศ.โปร่งใส ไม่มีการทุจริตประพฤติมิชอบ ต้องสนับสนุนให้ท่านทำต่อไป ทั้งเรื่องการดำเนินคดีเอาโทษต่อผู้กระทำความผิด ซึ่ง ป.ป.ช., ป.ป.ท., สตง., ปปป.ตร., DSI ทำร่วมกับ ศอตช.และ ผอ.พงศ์พร มีความคืบหน้ามาโดยตลอด รวมถึงเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้เงินช่วยเหลือการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม เงินสนับสนุนด้านการศึกษา ซึ่งคณะสงฆ์คงต้องร่วมมือกับ พศ.ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนามีกรอบในการดำเนินการอยู่แล้ว ครอบคลุมกิจกรรมทุกด้านของคณะสงฆ์ และก่อนหน้านี้ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่ามติของมหาเถรสมาคมและคำสั่งของเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ ในระยะที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปและเป็นข้อดีของการสร้างศรัทธาต่อการปฏิบัติของคณะสงฆ์ ซึ่งตนจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ต่อไป
"เมื่อเช้าผมได้มีโอกาสสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับท่าน ผอ.พงศ์พร ในระหว่างร่วมงานทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ได้รับทราบการดำเนินงานของท่านที่เป็นผลดีต่อคณะสงฆ์และ พศ. โดยรวม ผมได้บอกกับ ผอ.พศ.ไปว่าให้ท่านขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป ผมมีหน้าที่สนับสนุน ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องให้" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ข้อมูลเวบอะลิตเติ้ลบุดด้า.com