ดิฉันขออนุญาตนำบทความของ ผักกาดหอม
แห่งไทยโพสต์มาให้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณท่านผู้เขียนอย่างยิ่งค่ะ
##############
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย?
นักการเมืองกลัวกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
พระสงฆ์กลัวการตรวจสอบเงินวัด!
อ้างเหตุสารพัด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ
พระบางรูป ซึ่งดูจากประวัติแล้ว ก็พอมองเห็นว่ามีทัศนคติมองโลกอย่างไร เช่นพระเทพปฏิภาณวาที หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ในอดีตเคยหนุนให้สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจนสุดตัว ขณะที่สังคมโดยรวมไม่เอาด้วย
วันนี้หลวงพี่พิพิธ ท่านยุให้พระสังฆาธิการคว่ำบาตรสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะเหตุการเข้าไปตรวจสอบเงินทอนวัด
มองว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ไม่ให้เกียรติ
อ้างว่าที่ผ่านมาพระสังฆาธิการทำงานร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แบบพระ ให้เมตตาธรรม กิจกรรมสำคัญพระท่านก็ให้เกียรติให้มีบทบาทในงานต่างๆ ขอให้พระช่วยอะไร ทั้งส่วนตัว ส่วนราชการพระก็ช่วย แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ขาดลงแล้ว
ก็ว่าของท่านไป
แต่การเข้าไปตรวจสอบเงินทอนวัดคนที่เป็นแม่งานคือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักพุทธคือผู้เสียหายเสียด้วยซ้ำ
แถมคนของสำนักพุทธนั่นแหละที่เข้าไปมีส่วนในการงาบเงินทอนวัด
งาบกันมากี่ปีแล้วล่ะ
พ.ต.ท.พงศ์พร มาเพราะรัฐบาล คสช.โยกจากดีเอสไอไปนั่งเป็น ผอ.สำนักพุทธ เพื่อล้างคราบไคลในสำนักพุทธที่หมักหมมมานาน
แต่วันนี้ถูกหมายหัวจากนักกิจกรรมห่มเหลืองเสียแล้ว
ถึงขนาดว่า นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เออออตามไปด้วย เรียก พ.ต.ท.พงศ์พร เข้าพบ กำชับว่าทำอะไรก็แล้วแต่ต้องรอบคอบรัดกุม ทำอะไรให้มันนุ่มนวล ไม่ใช่เป็นที่เอิกเกริก
ข่าวฉาวเงินทอนวัดมันไม่ได้เอิกเกริกเพราะ ผอ.สำนักพุทธที่เข้าไปตรวจสอบหรอกครับ แต่เพราะ วัดมีส่วนในเงินทอนนั่นแหละ
ถามตัวเองเถอะครับท่านรัฐมนตรี ท่านทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
นี่เขามีหลักฐานว่าพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งฝากด่า ผอ.สำนักพุทธมากับเจ้าหน้าที่ ว่าทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย พูดออกไมค์ว่าพระเป็นของสูงไม่ควรแตะต้อง ใครให้ร้ายถือว่าทำลายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ครับ...ขนาดสงฆ์ยังไม่ชอบการตรวจสอบ
นับประสาอะไรกับนักการเมือง ที่เห็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหมือนเห็นผี
ไม่มีเหตุที่นักการเมืองน้ำดีจะกลัวกฎหมายแบบนี้ เพราะตราบใดที่ไม่เฉียดเรื่องโกง โอกาสจะถูกจับขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแทบเป็นศูนย์
ก็มีแต่พวกโกง ทั้งที่โกงไปแล้ว และจ้องจะโกงเท่านั้น ที่หงุดหงิด กับกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังนักโกงเมืองที่หลบหนีคดีได้
ตอนนี้ใครบ้างล่ะที่โวย พรรคเพื่อไทยใช่มั้ย
ครับ...นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
http://www.thaipost.net/?q=node/32634
ทำไมพระต้องกลัวการตรวจสอบทางการเงิน..?
ทำไมนักการเมืองกลัวกฎหมาย...?
น่าคิดไหมคะ..?
ประชาชนสนับสนุนให้ตรวจสอบ อย่าให้มีช่องทางทุจริต หรือหลบเลี่ยงกฎหมายกันได้ค่ะ
~มาลาริน~** ธรรมะ ทำไม?
แห่งไทยโพสต์มาให้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณท่านผู้เขียนอย่างยิ่งค่ะ
##############
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย?
นักการเมืองกลัวกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
พระสงฆ์กลัวการตรวจสอบเงินวัด!
อ้างเหตุสารพัด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ
พระบางรูป ซึ่งดูจากประวัติแล้ว ก็พอมองเห็นว่ามีทัศนคติมองโลกอย่างไร เช่นพระเทพปฏิภาณวาที หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ในอดีตเคยหนุนให้สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจนสุดตัว ขณะที่สังคมโดยรวมไม่เอาด้วย
วันนี้หลวงพี่พิพิธ ท่านยุให้พระสังฆาธิการคว่ำบาตรสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะเหตุการเข้าไปตรวจสอบเงินทอนวัด
มองว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ไม่ให้เกียรติ
อ้างว่าที่ผ่านมาพระสังฆาธิการทำงานร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แบบพระ ให้เมตตาธรรม กิจกรรมสำคัญพระท่านก็ให้เกียรติให้มีบทบาทในงานต่างๆ ขอให้พระช่วยอะไร ทั้งส่วนตัว ส่วนราชการพระก็ช่วย แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ขาดลงแล้ว
ก็ว่าของท่านไป
แต่การเข้าไปตรวจสอบเงินทอนวัดคนที่เป็นแม่งานคือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักพุทธคือผู้เสียหายเสียด้วยซ้ำ
แถมคนของสำนักพุทธนั่นแหละที่เข้าไปมีส่วนในการงาบเงินทอนวัด
งาบกันมากี่ปีแล้วล่ะ
พ.ต.ท.พงศ์พร มาเพราะรัฐบาล คสช.โยกจากดีเอสไอไปนั่งเป็น ผอ.สำนักพุทธ เพื่อล้างคราบไคลในสำนักพุทธที่หมักหมมมานาน
แต่วันนี้ถูกหมายหัวจากนักกิจกรรมห่มเหลืองเสียแล้ว
ถึงขนาดว่า นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เออออตามไปด้วย เรียก พ.ต.ท.พงศ์พร เข้าพบ กำชับว่าทำอะไรก็แล้วแต่ต้องรอบคอบรัดกุม ทำอะไรให้มันนุ่มนวล ไม่ใช่เป็นที่เอิกเกริก
ข่าวฉาวเงินทอนวัดมันไม่ได้เอิกเกริกเพราะ ผอ.สำนักพุทธที่เข้าไปตรวจสอบหรอกครับ แต่เพราะ วัดมีส่วนในเงินทอนนั่นแหละ
ถามตัวเองเถอะครับท่านรัฐมนตรี ท่านทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
นี่เขามีหลักฐานว่าพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งฝากด่า ผอ.สำนักพุทธมากับเจ้าหน้าที่ ว่าทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย พูดออกไมค์ว่าพระเป็นของสูงไม่ควรแตะต้อง ใครให้ร้ายถือว่าทำลายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ครับ...ขนาดสงฆ์ยังไม่ชอบการตรวจสอบ
นับประสาอะไรกับนักการเมือง ที่เห็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหมือนเห็นผี
ไม่มีเหตุที่นักการเมืองน้ำดีจะกลัวกฎหมายแบบนี้ เพราะตราบใดที่ไม่เฉียดเรื่องโกง โอกาสจะถูกจับขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแทบเป็นศูนย์
ก็มีแต่พวกโกง ทั้งที่โกงไปแล้ว และจ้องจะโกงเท่านั้น ที่หงุดหงิด กับกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังนักโกงเมืองที่หลบหนีคดีได้
ตอนนี้ใครบ้างล่ะที่โวย พรรคเพื่อไทยใช่มั้ย
ครับ...นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
http://www.thaipost.net/?q=node/32634
ทำไมพระต้องกลัวการตรวจสอบทางการเงิน..?
ทำไมนักการเมืองกลัวกฎหมาย...?
น่าคิดไหมคะ..?
ประชาชนสนับสนุนให้ตรวจสอบ อย่าให้มีช่องทางทุจริต หรือหลบเลี่ยงกฎหมายกันได้ค่ะ