นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่วันนี้ มีเป้าหมายไปทำอะไรบ้าง ว่า การลงไปของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นการไปดูอุปสรรคและปัญหาหน้างาน ว่ามีการดำเนินการอย่างไร และมีข้อมูลส่วนไหนที่สามารถดำเนินการร่วมกันได้ ในเรื่องของการบริหารจัดการเป็นหลัก
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่และบริหารสถานการณ์อยู่ที่นี่จะดีกว่าหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้มีนายภราดร เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ในการบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ ยืนยันลงไปในพื้นที่ไม่ได้เป็นภาระ ไม่มีการแจ้งให้หน่วยงานใดรับ และไม่มีแม้แต่การให้นักข่าวติดตามไป เป็นการไปแบบคณะเล็ก ที่ต้องการดูถึงข้อจำกัด และอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าทางศูนย์ฯ มีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะลดลงภายในกี่วัน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ภายใน 5 วันจะดีขึ้น และคลี่คลายไปได้มากแต่จะมีบางจุด ที่เป็นแอ่งลึกหรือพื้นที่ต่ำ น้ำอาจจะยังลงได้ไม่หมด
ขณะที่เหตุยิงขู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้เข้าช่วยเหลือนั้น นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ได้รับทราบรายงานแล้ว เหตุผลคาดว่าเป็นการเรียกแล้วไม่ได้ยิน จึงจำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้าก็เป็นไปได้ และแสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นต้องมีศูนย์หน้างาน จะได้มีข้อปฏิบัติว่าควรมีแนวทางอย่างไร เช่น ในพื้นที่หาดใหญ่มีบางหน่วยงานได้ใช้เรือหางยาวพยายามเข้าไป แต่ก็คว่ำทุกลำ เพราะสู้กระแสน้ำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการมีการพูดคุยกันภายในศูนย์ฯ ก่อน หรือแม้กระทั่งการใช้ยานพาหนะ เจ็ตสกี เมื่อเป็นเขตชุมชนหรือคนที่อยู่ในตัวบ้านและมีสถานะเป็นสีเขียวไม่ได้ย้ายออกมา ก็จำเป็นต้องต้องใช้ความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่ทุกคนรีบหมด แต่ประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านก็มีความทุกข์ร้อน ดังนั้นการบริหารสถานการณ์แบบนี้จึงมีความสำคัญ
นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึงสัญญาณในพื้นที่ขาดหายทำให้ไม่สามารถติดต่อผู้ประสบเหตุได้ ว่า กสทช.ได้มารายงานให้ทราบแล้งว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องปั่นไฟได้ แต่ตอนนี้สามารถดำเนินการได้แล้ว ซึ่งวันนี้เรามีเรือเต็มที่ก็ไม่เกิน 200 ลำ และมีรถเข้าพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์อีก 20 ลำ ดังนั้นการไปอพยพชาวบ้านออกมาทันที ยังไม่สามารถทำได้ แต่การบริหารได้หากเป็นกลุ่มสีแดง ต้องย้านออกมาให้เร็วที่สุก เพื่อรักษาชีวิต หากเป็นกลุ่มสีเหลืองต้องส่งน้ำและอาหาร หากระดับน้ำลดลงมากกว่านี้และสามารถจัดส่งอุปการณ์เข้าไปได้จะจัดส่งเข้าไปให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่วิกฤตในขณะนี้โดยเฉพาะเรื่องของอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เป็นเพราะแผนรับมือของรัฐบาลไม่ดีตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เรามีทั้งแบบออนกราวด์ และแบบออนไลน์ รัฐบาลยังยืนยันว่า ในระดับออนกราวด์มีการแบ่งเขตรับผิดชอบทั้งตำบล และอำเภอในการอพยพผู้คน เพราะอย่างบางจังหวัดที่มีการแจ้งเตือนให้อพยพ แต่ประชาชนกลับไม่อพยพ ซึ่งการอพยพมาที่ศูนย์อพยพ ยังมีคนตกหล่นอยู่ แต่ยังยืนยันว่าจะตามช่วยเหลือให้ครบทุกคน
https://ch3plus.com/news/political/morning/452246?fbclid=IwdGRjcAOTjLZjbGNrA5OMsWV4dG4DYWVtAjExAHNydGMGYXBwX2lkDDM1MDY4NTUzMTcyOAABHl2JgrIbvttmYB-6kKTbtUk41SFaKkNU8FxpKnjXU8ob6UXmLpl8uo5FRdCz_aem_KVFEMe_Gax7pAK-1F4P0XA
โฆษก รบ.ยัน ไม่ได้บริหารน้ำท่วมผิดพลาด-ล่าช้า ปชช.ไม่สนใจข้อมูลอพยพ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่วันนี้ มีเป้าหมายไปทำอะไรบ้าง ว่า การลงไปของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นการไปดูอุปสรรคและปัญหาหน้างาน ว่ามีการดำเนินการอย่างไร และมีข้อมูลส่วนไหนที่สามารถดำเนินการร่วมกันได้ ในเรื่องของการบริหารจัดการเป็นหลัก
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่และบริหารสถานการณ์อยู่ที่นี่จะดีกว่าหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้มีนายภราดร เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ในการบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ ยืนยันลงไปในพื้นที่ไม่ได้เป็นภาระ ไม่มีการแจ้งให้หน่วยงานใดรับ และไม่มีแม้แต่การให้นักข่าวติดตามไป เป็นการไปแบบคณะเล็ก ที่ต้องการดูถึงข้อจำกัด และอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าทางศูนย์ฯ มีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะลดลงภายในกี่วัน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ภายใน 5 วันจะดีขึ้น และคลี่คลายไปได้มากแต่จะมีบางจุด ที่เป็นแอ่งลึกหรือพื้นที่ต่ำ น้ำอาจจะยังลงได้ไม่หมด
ขณะที่เหตุยิงขู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้เข้าช่วยเหลือนั้น นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ได้รับทราบรายงานแล้ว เหตุผลคาดว่าเป็นการเรียกแล้วไม่ได้ยิน จึงจำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้าก็เป็นไปได้ และแสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นต้องมีศูนย์หน้างาน จะได้มีข้อปฏิบัติว่าควรมีแนวทางอย่างไร เช่น ในพื้นที่หาดใหญ่มีบางหน่วยงานได้ใช้เรือหางยาวพยายามเข้าไป แต่ก็คว่ำทุกลำ เพราะสู้กระแสน้ำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีการมีการพูดคุยกันภายในศูนย์ฯ ก่อน หรือแม้กระทั่งการใช้ยานพาหนะ เจ็ตสกี เมื่อเป็นเขตชุมชนหรือคนที่อยู่ในตัวบ้านและมีสถานะเป็นสีเขียวไม่ได้ย้ายออกมา ก็จำเป็นต้องต้องใช้ความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่ทุกคนรีบหมด แต่ประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านก็มีความทุกข์ร้อน ดังนั้นการบริหารสถานการณ์แบบนี้จึงมีความสำคัญ
นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึงสัญญาณในพื้นที่ขาดหายทำให้ไม่สามารถติดต่อผู้ประสบเหตุได้ ว่า กสทช.ได้มารายงานให้ทราบแล้งว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องปั่นไฟได้ แต่ตอนนี้สามารถดำเนินการได้แล้ว ซึ่งวันนี้เรามีเรือเต็มที่ก็ไม่เกิน 200 ลำ และมีรถเข้าพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์อีก 20 ลำ ดังนั้นการไปอพยพชาวบ้านออกมาทันที ยังไม่สามารถทำได้ แต่การบริหารได้หากเป็นกลุ่มสีแดง ต้องย้านออกมาให้เร็วที่สุก เพื่อรักษาชีวิต หากเป็นกลุ่มสีเหลืองต้องส่งน้ำและอาหาร หากระดับน้ำลดลงมากกว่านี้และสามารถจัดส่งอุปการณ์เข้าไปได้จะจัดส่งเข้าไปให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่วิกฤตในขณะนี้โดยเฉพาะเรื่องของอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เป็นเพราะแผนรับมือของรัฐบาลไม่ดีตั้งแต่แรกใช่หรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เรามีทั้งแบบออนกราวด์ และแบบออนไลน์ รัฐบาลยังยืนยันว่า ในระดับออนกราวด์มีการแบ่งเขตรับผิดชอบทั้งตำบล และอำเภอในการอพยพผู้คน เพราะอย่างบางจังหวัดที่มีการแจ้งเตือนให้อพยพ แต่ประชาชนกลับไม่อพยพ ซึ่งการอพยพมาที่ศูนย์อพยพ ยังมีคนตกหล่นอยู่ แต่ยังยืนยันว่าจะตามช่วยเหลือให้ครบทุกคน
https://ch3plus.com/news/political/morning/452246?fbclid=IwdGRjcAOTjLZjbGNrA5OMsWV4dG4DYWVtAjExAHNydGMGYXBwX2lkDDM1MDY4NTUzMTcyOAABHl2JgrIbvttmYB-6kKTbtUk41SFaKkNU8FxpKnjXU8ob6UXmLpl8uo5FRdCz_aem_KVFEMe_Gax7pAK-1F4P0XA