หลังน้ำท่วม ปี 53 อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราช บอกว่าจะซื้อที่ทางด้านทิศตะวันตกของกองทัพภาคที่ 4
ประมาณ 150 ไร่ เอามาทำแก้มลิงรับน้ำ โครงการยังไม่ทันได้ลงมือก็เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ อีกครั้งในปี 2554
และตั้งแต่เกิดเหตุการน้ำท่วมปี 2554 เป็นต้นมาดูเหมือนว่าโครงการต่าง ๆ ที่เป็นโครงการป้องกันน้ำท่วมเขตเมือง ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
จะมีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ โดยมีกรมชลประทานเป็นแม่งานหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน
และมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายเป็นแม่งานหลักในการรับรายงานการปฏิบัติงาน ซึ่งตอนท้ายของการรายงานก็จะมีเรื่องเราวของอุปสรรค
ปัญหาในการเดินหน้าโครงการพ่วงท้ายด้วยเสมอ
โดยมีประเด็นหลักของปัญหาคือชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ โดยเฉพาะกับชาวบ้านที่ต้องสูญเสียที่ทำกิน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของผ็สูญเสียที่ไม่
เห็นด้วยกับโครงการที่ตนเอง ไม่ได้รับผลประโยชน์แต่ต้องเป็นผู้เสียสละ เข้าทำนอง
"เนื้อไม่ได้นั่ง หนังไม่ได้รอง แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ"
จากวันนั้นถึงวันนี้ จากน้ำท่วมปี 2553 ท่วมปี 2554 ท่วมปี 2559 ท่วมปี 2560 เมื่อมกราคม ท่วม 2560 เดือนธันวาคม อาทิตย์เดี่ยว 2 ครั้ง
รวมแล้ว 6 ครั้ง เฉลี่ยปีละ 1 หรือท่วมทุกปี จาก 13 ปีครั้ง มาเหลือ 10 ปี (2543-2553) และมาลดเหลือปีละครั้ง
โครงการป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง ยังไม่มีที่ท่าว่าจะได้ลงมือทำโดยทุกครั้งที่มีการรายงานโครงนี้ต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบที่สูงกว่า
จะพ่วงเอา เรื่องราวของชาวบ้านในพื้นที่แนวก่อสร้างไม่ให้ความร่วมติดไปด้วยเสมอ
ถนนสายเบญจมนาพรุ ที่ทอดยาวเหนือใต้ มีจุดตัดกับคลองสำคัญที่นำน้ำไหลเข้าท่วมเขตตัวเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 3 สาย
ตัดกับคลองบ้านตลาด ที่บ้านวัดหญ้า (คลองวัดหญ้า)
ตัดกับคลองท่าดี ที่บ้านนาป่า (คลองนาป่า)
ตัดกับคลองหยวด ที่บ้านวัดพระเพรง(คลองหยวด)
และถนนสายนี้มีความกว้าง ตลอดสาย ประมาณ 60 - 70 เมตร โดยประมาณ
ในเมือชาวบ้านแนวคลอง ก็ไม่อยากตกเป็นจำเลยของ ชาวบ้านด้วยกัน
กรมชลประทานเองและผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็คงไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวเมืองนครศรีธรรมราช ว่าหมดหนทางในการจัดการกับปัญหา
ผมว่าการคุยกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ น่าจะคุยกันง่ายกว่าระหว่างรัฐกับชาวบ้าน ซึ่งคุยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ปี..
ก็ได้แต่หวังว่างานนี้(โครงการนี้) จะผ่านลุล่วงไปด้วยดีเมื่ออาจารย์ยักษ์ลงมาจัดการ..
https://www.isranews.org/isranews-other-news/53166-pnewspp-53166.html
อาจารย์ยักษ์ ช่วยด้วยเจ้าค๊ะ...ก่อนชาวนคร จะ...กับกลมชน
ประมาณ 150 ไร่ เอามาทำแก้มลิงรับน้ำ โครงการยังไม่ทันได้ลงมือก็เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ อีกครั้งในปี 2554
และตั้งแต่เกิดเหตุการน้ำท่วมปี 2554 เป็นต้นมาดูเหมือนว่าโครงการต่าง ๆ ที่เป็นโครงการป้องกันน้ำท่วมเขตเมือง ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
จะมีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ โดยมีกรมชลประทานเป็นแม่งานหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน
และมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายเป็นแม่งานหลักในการรับรายงานการปฏิบัติงาน ซึ่งตอนท้ายของการรายงานก็จะมีเรื่องเราวของอุปสรรค
ปัญหาในการเดินหน้าโครงการพ่วงท้ายด้วยเสมอ
โดยมีประเด็นหลักของปัญหาคือชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ โดยเฉพาะกับชาวบ้านที่ต้องสูญเสียที่ทำกิน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของผ็สูญเสียที่ไม่
เห็นด้วยกับโครงการที่ตนเอง ไม่ได้รับผลประโยชน์แต่ต้องเป็นผู้เสียสละ เข้าทำนอง
"เนื้อไม่ได้นั่ง หนังไม่ได้รอง แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ"
จากวันนั้นถึงวันนี้ จากน้ำท่วมปี 2553 ท่วมปี 2554 ท่วมปี 2559 ท่วมปี 2560 เมื่อมกราคม ท่วม 2560 เดือนธันวาคม อาทิตย์เดี่ยว 2 ครั้ง
รวมแล้ว 6 ครั้ง เฉลี่ยปีละ 1 หรือท่วมทุกปี จาก 13 ปีครั้ง มาเหลือ 10 ปี (2543-2553) และมาลดเหลือปีละครั้ง
โครงการป้องกันน้ำท่วมในเขตเมือง ยังไม่มีที่ท่าว่าจะได้ลงมือทำโดยทุกครั้งที่มีการรายงานโครงนี้ต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบที่สูงกว่า
จะพ่วงเอา เรื่องราวของชาวบ้านในพื้นที่แนวก่อสร้างไม่ให้ความร่วมติดไปด้วยเสมอ
ถนนสายเบญจมนาพรุ ที่ทอดยาวเหนือใต้ มีจุดตัดกับคลองสำคัญที่นำน้ำไหลเข้าท่วมเขตตัวเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 3 สาย
ตัดกับคลองบ้านตลาด ที่บ้านวัดหญ้า (คลองวัดหญ้า)
ตัดกับคลองท่าดี ที่บ้านนาป่า (คลองนาป่า)
ตัดกับคลองหยวด ที่บ้านวัดพระเพรง(คลองหยวด)
และถนนสายนี้มีความกว้าง ตลอดสาย ประมาณ 60 - 70 เมตร โดยประมาณ
ในเมือชาวบ้านแนวคลอง ก็ไม่อยากตกเป็นจำเลยของ ชาวบ้านด้วยกัน
กรมชลประทานเองและผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็คงไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวเมืองนครศรีธรรมราช ว่าหมดหนทางในการจัดการกับปัญหา
ผมว่าการคุยกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ น่าจะคุยกันง่ายกว่าระหว่างรัฐกับชาวบ้าน ซึ่งคุยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ปี..
ก็ได้แต่หวังว่างานนี้(โครงการนี้) จะผ่านลุล่วงไปด้วยดีเมื่ออาจารย์ยักษ์ลงมาจัดการ..
https://www.isranews.org/isranews-other-news/53166-pnewspp-53166.html