ทำไงดี? อยากเลิกมีเพื่อนซี้

เรามีเพื่อนหลายคนค่ะ ถึงจะไม่ได้เยอะมาก แต่เราไปไหนมาไหนก็เจอคนรู้จักได้แทบตลอด ตอนแรกก็ไม่ได้อะไร จนหลัง ๆ รู้สึกว่า "ตอนเราอยู่คนเดียวดีกว่าเยอะเลย" ...
1.เราเพิ่มน้ำหนัก แล้วมาแย่งของว่างเรากินทั้งที่ก็รู้ว่าเราเพิ่ม มาแย่งสองสามชิ้นไม่ว่า นี้หายไปครึ่งจาน ปัจจุบันตอนนี้น้ำหนักขึ้นลง ไม่สมส่วนค่ะ

2.คนรู้จักเราภายนอกจะเห็นเราเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอค่ะ แต่พอสนิทแล้ว ถ้าใครเปิดประเด็นมาแล้วผิดต่อความคิดเรา เราขัดขึ้นเลยค่ะ เถียงไม่แคร์ความรู้สึกด้วย จนเพื่อนต้องห้าม ...เราก็ไม่พูดด้วยค่ะ ก็เงียบไป ตรง ๆ ว่ารำคาญ ถ้าจะพูดแล้วไม่ให้ใครขัดอะไรขนาดนี้ คือแบบ... เราก็พูดลอย ๆ ของเรา เขาก็มาขึ้นเสียงกับเราไรงี้อะค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
เพื่อน : เออ ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ชอบเชื่อเรื่องดวงวะ
เรา : ...สงสัยญาติเราไม่ใช่คนไทย (พูดเอาฮาแล้วก็ทำงานต่อไป)
เพื่อน : บอกว่าส่วนใหญ่ปะวะ!
เรา : เออ ก็นั้นแหละ จะขึ้นเสียงทำไมวะ
เพื่อน : ก็พูดขัดกูอะ!
เพื่อนคนอื่น ๆ : พวกพอเลย!
เพื่อน : เออ เมื่อวาน... บลา ๆ ๆ (พูดเรื่องอื่นต่อ)
เรา : ... (ไม่พูด ทำงานต่อ)

3.โดนเปรียบเทียบ คือเพื่อนเราในแก๊งก็เกรดน้อยและคะแนนสอบกว่าเราหลายคนนะคะ แต่เราไม่มีความรู้รอบตัวแบบพวกคนเข้าสังคม พอคนในบ้านเราเห็นเพื่อนเรามีความรู้นอกห้องเรียนก็มาติเรา เราก็เลยรู้สึกแอนตี้ ประมาณว่า "ส่งฉันเข้าเรียนห้องเรียนปกติก็ไม่ เวลาว่างก็น้อยกว่าคนอื่น และฉันไม่ชอบออกจากบ้าน ฉันจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ก็ไม่แปลก แถมฉันก็ไม่เห็นจะเจ็บป่วยเพราะไม่รู้"
4.เราเกลียด "สังคม" เพราะมันวุ่นวาย เข้าใจว่าหนีจากมันไม่ได้ แต่ก็เลี่ยงได้ปะวะ?!

5.แม้เพื่อนที่เข้ากันได้ที่สุด ยังมีโมเมนต์ที่เราอยากเอาหัวโขกโต๊ะ อยากเอามีดกรีดขาตัวเอง ยอมรับแหละค่ะว่ากลัวตายกลัวเจ็บเลยไม่ทำ แต่เราชอบจินตนาการเวลาตัวเองแอบอยู่คนเดียวในห้อง ทำรอยแผลตามตัวไปเรื่อย ๆ ด้วยคัตเตอร์บ้าง ไม้ฟาดตัวเองบ้าง มันก็แบบ...เหมือนมันช่วยลดให้เราสงบใจลงได้จริง ๆ ค่ะ ซึ่งโมเมนต์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ...
5.1 เพื่อนพูดสนับสนุนเรื่องที่เราแอนตี้ เช่น คู่จิ้นที่เราไม่ชอบ คนที่เราไม่ชอบ
5.2 เพื่อนมักจะเอาเรื่องผิดพลาดของเราขุดขึ้นมาพูดให้ปวดกบาล
5.3 เพื่อนมักจะสร้างความทรงจำแย่ ๆ และความกดดันไว้ในหัว
5.4 แข่งกันโดยไม่ต้องปริปาก ฯลฯ

6.เวลาที่เราเผลอคิดเรื่องในอดีตที่ตัวเองกลัว เกลียด หรือพยายามลืม ขึ้นมา เราจะเผลอคิดภาพตัวเองยิงหัวตัวเองแล้วเราก็สะดุ้งเหมือนสะดุ้งตื่น และพอหันไปมองคนข้าง ๆ ที่ไม่รู้ถึงอาการนั้นของเราเลย เราก็อึดอัดมากขึ้น เหมือนเกิดคำถามว่า เราควรเล่าให้ฟังไหมนะว่าเมื่อกีในหัวเราคิดอะไรอยู่? สุดท้ายก็ไม่พูดกับใครเลย...

7.พอมีเพื่อนแล้วไม่ว่างทำงาน คือเราเรียนพิเศษเกือบถึง 5 โมง บางวันก็เกือบ 4 ทุ่ม เราก็ไม่ค่อยมีเวลาทำงาน แล้วเพื่อนก้ชอบมาชวนคุย ชวนทำนู้นทำนี้ ไม่เป็นงานเป็นการ

8.ทำเหมือนของเราเป็นของตัวเอง เพราะเพื่อนเราชอบยืมของมากค่ะ และแทบทุกคนในแก๊งจะเป็นพวกยืมไม่คืน โดยเฉพาะปากกา ถ้ามันนาน ๆ ที ก็ไม่ว่าหรอก อันนี้จนเอาเงินที่ซื้อปากกาใหม่ไปซื้อของได้หลายอย่างละ และที่เกลียดมากคือดินสอกดและมือถือ ดินสอกด อย่าให้มันได้ยืมกลับบ้านเชียว ไม่คืนอีกจนกว่าจะเรียนจบปีนั้นหรืออาจตลอดไป ส่วนมือถือ กูแค่เอาหน้าฟีดตรงหัวข้อนี้ให้ดู ยิ้มหยิบมือถือจากมือกูไปเล่น

9.เพื่อนมาบ้านแล้ววุ่นวาย ยอมรับนะว่ามาแล้วสนุกอยู่เพราะมีบรรยากาศเปลี่ยน จากบ้านเงียบ ๆ ก็มีเสียงเฮฮา แต่ดูท่าว่าหลังงานปาร์ตี้จะเต็มไปด้วยขยะที่มีเพียงเราที่ตามเก็บ แถมอีเพื่อนผู้มีสาระ(เลว)บางคนก็ไม่ได้ให้เกียรติเจ้าบ้านเลยสักนิด...

10.ต้องเจอผู้ชายมากขึ้น ซึ่งผู้ชายพวกนี้ก็ไม่ได้สุภาพบุรุษกันเลย... นั้นสินะ ชีวิตในนิยายก็คงมีแต่ในนิยาย ไอ้โมเมนต์ผู้ชายดี๊ดีห้อมล้อมคงไม่มีวันเกิดกับเรา มีแต่พวกพวกนี้แหละ... (ไม่นับรุ่นพี่ชายนะ เพราะพวกรุ่นพี่ทั้งชายหญิงพึ่งได้ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรม ฯลฯ)

11.เราเข้าใจคนยาก ซึ่งเพื่อนมักจะพูดหรือเล่นมุกอะไรที่เราคิดไปนานมากจนหงุดหงิด (ถึงจะไม่ได้เข้าใจยากทุกมุก) แต่มุกส่วนใหญ่เป็นพวกเกี่ยวกับสรีระของผู้หญิง หัว ไหล่ นม ตูด หน้า เหล่านี้สามารถจำแนกเป็นมุกที่ฆ่าควายด้วยมือเปล่าได้ค่ะ

12.ตั้งแต่เราเรียนหนักขึ้นเราซีเรียสค่ะ ไม่อยากได้อะไรมากวนทั้งนั้น จะเรียนให้มากขึ้น เพื่อนก็มีพอมีช่วยกันทำงาน ไม่ต้องซี้ให้มาก

13.เราเป็นคนหยาบคายค่ะ โดยเฉพาะกับผู้ชาย ซึง่คนนำพาเรามาเจอผู้ชายพวกนี้ก็คือแก๊งเพื่อนสาวเราเองค่ะ ส่วนความหยาบของเราก็ระดับ... ถ้าเจอพวกผู้ชายพวกนั้นเดินมาทักก็จะชูนิ้วกลางใส่แล้ววิ่งหนีค่ะ วิ่งเอาเป็นเอาตายด้วยเพราะขยะแขยง จนครั้งหนึ่งวิ่งไม่ทันแล้วโดนตรึงคอเสื้อเกือบล้มหัวฟาดพื้น

14.โรคเกร็ดเลือดต่ำ... คิดว่ามันเป็นข้ออ้างให้ฉันสบายเหรอ? คิดผิดแล้ว การเป็นไอ้โรคที่คนชอบเข้าใจว่ามันเป็นโรคเลือดจางมันไม่ใช่เรื่องเล่นนะเว้ย อาหารการกินก้ต้องฝืนกินทั้งที่เราชอบนอนและเล่นเกมมากกว่ากินข้าว แต่พอน้ำหนักลดก็นอนร้องไห้ฟูมฟายอีก... #สารภาพไว้ตรงนี้ว่าอยากเล่นกล้ามค่ะ

15.หลายคนไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น โดยเฉพาะผู้ชาย (คือเรื่องราวของเรากับเพื่อนสาวอาจดูดีกว่านี้ถ้าไม่มีพวกมัน) คือเราเป็นคนที่อยากเป็นผู้ชายและชอบผู้ชายค่ะ (ว่าง่าย ๆ ว่าอยากเป็นเกย์) และนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราฟินเวลาเห็นนมตัวเองเล็ก (ถ้าไม่ติดว่าเอวคอดสะโพกใหญ่ เราจะหุ่นเหมือนผู้ชายผอมแห้งมาก) แต่พวกผู้ชายมักคิดว่าเราอยากอึ๋ม แล้วก็มักจะพูดใส่เราประมาณว่า "แกไม่มีวันอึ๋มหรอก 555" ...ชิบละ...นี่กู... ต้องเสียใจใช่ไหม? แล้วมันล้อมาควรพูดไงดีวะ? แกล้งทำเป็นเสียใจละกัน... หรือควรบอกตรง ๆ วะ? เขาพูดเพื่อเย้ยเรานะเว้ย เราก็น่าจะโมโหดิ... แต่มันต่างกับคำอวยพรตรงไหนวะ?! ก็คนเราเวลาพูดไรจากใจจริงมันต้องเป็นจริงสิ! มันต้องถือเป็นเรื่องดี...มั้ย?! สรุปไงวะ!? ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!! จากนั้นก็ระเบิดบึ้มแล้วสารภาพบาปทั้งหมดให้คนที่ล้อเราไป...

16.เพื่อน เป็นนักตอกย้ำที่เยี่ยมที่สุด กูมีปมไรก็พูดหมดเลย ตั้งแต่เรื่องแห้ง รสนิยมแปลก มีแฟนเดือนละคน(อันนี้มันล้อได้เกินจริงมาก ความจริงช่วงนั้นมีปัญหาเรื่องแฟนเลยคบ ๆ เลิก ๆ เฉย ๆ)

17.ใช้ความคิดตัวเองมากไปนะบางที... มันก้เป้นกันทุกคนแหละ นั้นแหละ!! ที่ทำให้เราอยากปลีกตัว!
18.ผู้ชายแต่ละคนที่ผู้หญิงในแก๊งรู้จักนี้... อยากรู้ว่ามีความเป็นผู้ชายตรงไหน? แตะเนื้อต้องตัวกูมากกว่าควรมากกกกกกกกกกก ...ไม่ได้ออกแนวลวนลามนะ แบบ... โดดขี่คอจนเกือบล้ม (ดีนะกูตัวสูง) กอดแล้วเหวี่ยง กอดจากด้านหลังตอนกำลังเคี้ยวอะไรในปาก (สำลักจนเกือบอ้วกมาแล้ว) จับเหวี่ยง หรืออย่างเลวร้ายมากก็...ดึงแขนเราไปล็อกไว้ แล้วเอาเทปแปะก่อนกระชากออก... (กรี๊ดแบบเอาเป็นเอาตาย) และไอ้พวกพวกนี้มักทำให้ครูดุเราทั้งที่สมควรดุมัน เพราะมันเป็นคนเริ่มเรื่องก่อน แต่ครูมักจะเข้ามาเห็นฉากเรายันมัน ชกมัน พยายามเอาศอกกระทุ้งมัน กระชากเสื้อ บีบคอ จิกแขน เอาหัวโขก... ครู!!!!!!!!!!

19.เรามักจะทักทายเพื่อนสาวที่วิ่งมากอดด้วยการยกเท้าเตะค่ะ แต่หลายครั้งอาจารย์ก็จะเห็นและดุ... ทำให้คิดว่าถ้าไม่มีเพื่อนซี้ แค่นี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ละ เพราะไม่มีใครให้ทำ

20.ต้องฟังเรื่องไร้สาระน่าเบื่อ... ที่รู้สึกว่าสามารถหาฟังได้ทั่วไปในโรงเรียน เพียงคุณหาที่นั่งที่ใกล้ที่ ๆ มีแก๊งสาวขี้เมาท์

ก็เลยอยากทราบว่าควรทำยังไงดีคะ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
แหม ถ้าจะขนาดนี้คงอยู่ด้วยยากนะเนี่ย ไม่มีอะไรที่จะได้ดังใจเราไม่ซะหมดหรอก ขนาดตัวเราเองยังเดินสะดุดขาตัวเองเลย จะให้คนอื่นมาเป็นในแบบที่เราต้องการไม่ได้หรอกเนอะ ไม่โอเคก็ถอย ไม่อยากเก็บขยะก็ไม่ต้องจัดปาร์ตี้ เราจะไปแก้ปัญหาจากคนอื่นได้ยังไง แก้ที่ตัวเองบังคับง่ายสุดละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่