สวัสดีครับทุกท่าน ได้เวลานำบทเฉลยของคดีฆาตกรรมในอนาคตของปลายฟ้ามาให้อ่านกันแล้วครับ ลองดูว่าตรงตามที่ทุกท่านคิดหรือไม่ครับ
ส่วนเรื่องยาวของปลายฟ้าตอนนี้ลงไว้แล้ว ใครสนใจตามนี้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปลายฟ้ากับปริศนาฆาตกรรม [Case 1 : ฆาตกรรมที่พิพิธภัณฑ์] - ตอนที่ 1 ปลายฟ้า พิทักษ์ธรรม์
https://pantip.com/topic/37066376
ใครที่จะอ่านตอนเก่าๆของปลายฟ้าคดีสั้น ตรงนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอน : ฆาตกรรมกลางทะเล (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30486935
ตอน : ฆาตกรรมกลางทะเล (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30495503
ตอน : สามศพปริศนา (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30506939
ตอน : สามศพปริศนา (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30524455
ตอน : ห้องปิดตายไม่ถึงนาที (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30575041
ตอน : ห้องปิดตายไม่ถึงนาที (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30629677
ตอน : ฝนสังหาร (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30679945
ตอน : ฝนสังหาร (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30711150
ตอน : ใครขโมย (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30738120
ตอน : ใครขโมย (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30766993
ตอน : สะพานมรณะ (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30794328
ตอน : สะพานมรณะ (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30823476
ตอน : เรื่องวุ่นวายในตลาด (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30859540
ตอน : เรื่องวุ่นวายในตลาด (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30890316
ตอน : ลิฟท์ข้ามมิติ (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/30943871
ตอน : ลิฟท์ข้ามมิติ (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/30988306
ตอน : นัดกับผี (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/31047636
ตอน : นัดกับผี (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/31109062
ตอน : เกมซ่อนหาของเจ
http://pantip.com/topic/31355573
ตอน : คำปริศนา
http://pantip.com/topic/31394826
ตอน : คนตายข้างบ้าน (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/31973141
ตอน : คนตายข้างบ้าน (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/32006740
ตอน : 3 หรือ 8 (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/32032272
ตอน : 3 หรือ 8 (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/32089188
ตอน : เสวนาฆาตกรรม (บทปัญหา)
http://pantip.com/topic/32130206
ตอน : เสวนาฆาตกรรม (บทเฉลย)
http://pantip.com/topic/32174416
ตอน : ตู้เซฟปริศนา
https://pantip.com/topic/34600132
ตอน : รถชนปริศนา [บทปัญหา]
https://pantip.com/topic/37021507
ตอน : รถชนปริศนา [บทเฉลย]
https://pantip.com/topic/37053118
ตอน : น้ำมหัศจรรย์ [บทปัญหา]
https://pantip.com/topic/37062851
ตอน : น้ำมหัศจรรย์ [บทเฉลย]
https://pantip.com/topic/37073299
ตอน : ฆาตกรรมในห้องปิดตาย พ.ศ. 2600 [บทปัญหา]
https://pantip.com/topic/37153858
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-2-
ในที่สุดปลายฟ้าก็รู้คำตอบของห้องปิดตายปริศนานี้แล้ว
สารวัตรวิทย์ได้แจ้งให้ ดร. ดำรงศักดิ์ ดร. เอกรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมารวมกันที่ห้องประชุมหนึ่งภายในสถาบันพันธุวิศวกรรมแห่งชาติ
แน่นอนทุกคนอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายอย่างสยดสยองของ ดร. เอกภพ และอยากรู้เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
นายตำรวจเกริ่นเริ่มต้นเล็กน้อยหลังจากที่ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว จากนั้นก็แนะนำปลายฟ้า ซึ่งเป็นนักสืบเอกชนในยุคนี้ แล้วค่อยมอบหน้าที่ให้เขาสรุปคดี
ปลายฟ้าก้าวเดินออกมาอย่างมาดมั่น ไม่ว่ายุคสมัยไหน เวลาเขารู้คำตอบแล้ว การก้าวเดินของเขาจะเต็มไปด้วยความมั่นใจ และที่สำคัญมักจะมีรอยยิ้มพร้อมความสนุกประกอบด้วย
“ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับผม ผมขอสรุปคดีนี้เลยละกัน” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้น จากนั้นเขาก็ผายมือไปด้านข้าง พลันภาพโฮโลแกรมของที่เกิดเหตุก็ปรากฏขึ้นมา เขาก็พูดต่อว่า “ทุกคนคงทราบดีว่า ดร. เอกภพ ถูกฆ่าตาย สภาพศพนี่ศีรษะถูกตัดขาดเลย ภาพที่เห็นอาจจะสยองสักหน่อยนะครับ”
ภาพของศพ ดร. เอกภพปรากฏขึ้นมาเป็นโฮโลแกรม ยังดีที่มีการเบลอภาพไว้บ้าง จึงไม่ได้ดูสยองตามความเป็นจริง
“โอ้.. มีเบลอภาพด้วย” ปลายฟ้าหันมองภาพโฮโลแกรมนั้น เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าทางเจ้าหน้าที่จะเซ็นเซอร์ภาพไว้ให้ “เราจะเห็นว่าสภาพศพนี้ ดร. ถูกฆ่าแน่นอน แถมเขาถูกฆ่าตายภายในห้องทำงานของตัวเองด้วย อย่างที่รู้ว่าห้องนี้ปิดล็อคด้วยระบบความปลอดภัยพิเศษ ต้องใช้การสแกนรูม่านตาของตัว ดร. เอกภพ กับการกรอกรหัสประกอบถึงจะเปิดประตูได้
“แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ ทุกคนคงคิดเหมือนกันว่า แล้วใครล่ะจะไปฆ่าเขาในห้องนี้ได้ มันต้องเป็นเรื่องยากอย่างมาก เพราะด้วยระบบป้องกันเช่นนี้ คงมีแค่ผู้ที่มีสิทธิ์เปิดประตูได้เท่านั้น ซึ่งนอกจาก ดร. เอกภพ แล้ว มีเพียงสองท่านที่เปิดประตูห้องนี้ได้คือ ดร. ดำรงศักดิ์ และ ดร. เอกรินทร์ ลูกชายของเขา”
ทุกคนคิดตามที่ปลายฟ้าอธิบาย ด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ พอปลายฟ้าพูด ก็จะปรากฏภาพโฮโลแกรมที่เกี่ยวข้องขึ้นมาประกอบโดยตลอด ทำให้การอธิบายสรุปของปลายฟ้าดูเข้าใจง่ายขึ้น
“แต่ว่าถึงทั้งสองท่านจะสามารถเปิดปิดประตูนี้ได้ แต่ว่าการตายของ ดร. เอกภพไม่เกี่ยวข้องกับทั้งสองท่านเลยครับ เพราะตายของ ดร. เอกภพนี้ เป็นฝีมือของ ดร. เอกภพ เองครับ”
เมื่อปลายฟ้าบอกเช่นนี้ ทุกคนย่อมงงและประหลาดใจกับสิ่งที่ปลายฟ้ากล่าว จน ดร. ดำรงศักดิ์ พูดขึ้นมาว่า
“คุณหมายความว่า ดร. เอกภพ ฆ่าตัวตายหรือ”
ปลายฟ้ายิ้มรับ “ไม่ใช่ครับ ดร. เอกภพไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ฆ่า ดร. เอกภพ ครับ”
ดร. ดำรงศักดิ์งงหนักกว่าเดิมเมื่อได้ฟังคำตอบของปลายฟ้า แน่นอนว่าเจ้าตัวคนตอบก็รู้ว่ากำลังลีลาเหมือนเช่นเคย เลยรีบอธิบายต่อว่า
“ผมหมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นแผนการของ ดร. เอกภพ เองแหละครับ”
ประโยคที่เอ่ยต่อนี้ไม่ได้ช่วยให้คลายความมึนงงเลย แต่ทุกคนก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะนักสืบผมตั้งจอมลีลาก็พูดต่อว่า
“ผมว่าทุกคนตอนนี้คงงงกับคำตอบของผม ผมจะขออธิบายเป็นลำดับให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ เริ่มแรกจากที่ภาพบันทึกของกล้องวงจรปิด เราจะเห็นได้ว่า ดร. เอกภพ ได้ขนกล่องขนาดใหญ่บางอย่างเข้ามาในห้อง นี่เป็นข้อเสียของระบบที่ไม่มีใครตรวจสอบว่าข้างในกล่องนี้คืออะไร แต่ว่าของข้างในนี้แหละเกี่ยวข้องกับการตายของ ดร. เอกภพมากที่สุด
พอ ดร. เอกภพ ขนกล่องนี้เข้าไปในห้องของตัวเอง เขาเปิดได้อยู่แล้วแหละครับ จากนั้นพอเรามาดูภาพจากกล้องที่บันทึกหลังจากนั้น จะเห็นว่าพอเวลาผ่านไปอีกสามชั่วโมง พบว่ามีคนออกมาจากห้องของ ดร. เอกภพ”
ภาพโฮโลแกรมแสดงบันทึกจากกล้องวงจรปิดประกอบการอธิบายของปลายฟ้าให้ทุกคนอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้เป็นภาพบุคคลที่กำลังออกจากห้องที่ใส่ชุดคลุมปิดบังใบหน้า
“ตรงนี้เราจะมองไม่ออกว่าเป็นใครครับ เพราะว่าคน ๆ นี้รู้อยู่แล้วว่ามีกล้องถ่ายไว้ ใส่ชุดเพื่อปิดบังกล้อง คน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นหรอกครับ เขาคือ ดร.เอกภพ เองนั่นแหละ ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็คงถอดชุดนี้ออก เปลี่ยนเป็นชุดอื่น แล้วเดินออกจากสถาบันไป ตรงนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนยันได้”
“แต่ว่าหลังจากนั้น ผมพบศพท่านถูกฆ่าในห้องนะ แบบนี้แสดงว่าท่านแอบกลับเข้ามาในห้องเหรอ” ดร. ดำรงศักดิ์พูดสวนขึ้นมา
“ท่านไม่ได้เข้ามาหรอกครับ จากที่ผมตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าท่านกลับมาที่สถาบันอีกเลย แต่เหตุใด คุณ ดร. ดำรงศักดิ์ ถึงพบ ดร. เอกภพเป็นศพ ถูกฆ่าตัดคออยู่ในห้องที่ปิดล็อคนั้น เรื่องนี้ผมมีคำตอบครับ แต่ก่อนที่เราจะรู้คำตอบ ผมขอให้ทุกคนดูนี่ก่อนครับ”
ปลายฟ้าหยิบรูปของ ดร. เอกภพขึ้นมา ซึ่งรูปนี้เป็นรูปภาพเดียวกับที่เขาตั้งโชว์ในห้อง พร้อมเหรียญรางวัล เป็นรูปสมัยเขาเป็นนักฟุตบอลตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษานั่นเอง ซึ่งระบบโฮโลแกรมก็ขึ้นภาพใหญ่ของรูปนี้ด้วย
“มันเกี่ยวอะไรหรือครับ” คราวนี้ ดร. เอกรินทร์พูดขึ้นบ้าง
ปลายฟ้ายิ้มเล็ก ๆ “เกี่ยวเลยแหละครับ ทุกคนลองดูช่วงขาของ ดร. เอกภพในรูปนี้ดี ๆ เราจะเห็นได้ว่า ที่บริเวณเข่าและหน้าแข้งของ ดร. เอกภพในรูปมีรอยแผล ผมว่าน่าจะมาจากการเตะฟุตบอล ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเป็นนักกีฬาแหละครับ ต้องมีบาดแผลกันบ้าง และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อได้ข้อมูลว่า สมัยก่อนท่านเลิกเป็นนักฟุตบอลเพราะบาดเจ็บ แบบนี้ที่บริเวณขาต้องมีแผลอย่างแน่นอน นี่แหละจุดสำคัญคราวนี้เรามาดูสภาพศพที่พบในห้องทำงานกันบ้างครับ ผมจะเอาภาพเฉพาะส่วนขาให้ดูละกัน”
ทุกคนรีบจ้องดูไปยังภาพบันทึกของสภาพศพส่วนขาของ ดร. เอกภพที่พบ จากนั้นปลายฟ้าก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ตัดภาพเฉพาะส่วนขาของภาพนี้มาเปรียบเทียบกับภาพขาสมัยเป็นนักฟุตบอลของ ดร. เอกภพ
“ไม่เหมือนกันนี่ ขาที่ศพ ไม่มีแผลเป็นเลย” ดร. ดำรงศักดิ์เอ่ยขึ้นมาทันที เมื่อเห็นภาพเปรียบเทียบของขาทั้งสองภาพนั้น
“ปิ๊งป่อง ใช่แล้วครับ ขาของสองภาพนี้แตกต่างกันมาก ขาในภาพสมัยเป็นนักฟุตบอลมีรอยแผลเป็น แต่ขาในภาพของศพ กลับไม่มี ตรงนี้แหละเป็นข้อมูลที่พาเราไปยังคำตอบครับ ในเมื่อเราพบศพ ดร. เอกภพภายในห้องทำงาน แต่ว่ามีคนเห็นว่าเขาออกไปจากห้องก่อนหน้านั้นแล้ว มันก็หมายความว่า ดร. เอกภพ มีสองคนครับเพียงแต่คนหนึ่งมีเพียงแค่ร่างเท่านั้น”
ทันทีที่ปลายฟ้าพูด ต่างคนต่างประหลาดใจมากขึ้น พยายามคิดตาม
“ต่อไปนี้เป็นสมมติฐานของผม ทุกคนลองคิดและวิเคราะห์ตามนะครับ” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นต่อ “จากที่ผมบอกว่า ดร. เอกภพ มีสองคน จริง ๆ มันก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอกครับ เพราะศพที่เราพบในห้องทำงานที่หัวขาดนั้น มันเป็นเพียงแค่ร่างโคลนนิ่งที่ไร้ความนึกคิดไร้ตัวตน อาจจะเรียกว่าเป็นสเต็มเซลล์ที่เป็นชิ้นส่วนของร่างกายทั้งร่างก็น่าจะได้ แต่ตรงนี้ผมก็ไม่รู้ชื่อเรียกที่ถูกต้องของมันหรอกครับ
ดร. เอกภพ สร้างร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่ทั้งร่างกายด้วยวิชาพันธุวิศวกรรมที่ตัวเองมี เขาชำนาญด้านสเต็มเซลล์ ด้านโคลนนิ่งอยู่แล้ว การสร้างร่างแบบนี้น่าจะพอทำได้ พอสร้างขึ้นมา ก็ขนย้ายเข้ามาให้ห้องทำงานตัวเอง คงอยู่ในกล่องทึบขนาดใหญ่ที่เข็นเข้าห้องมา แล้วเขานี่แหละเป็นคนหั่นคอร่างที่สร้างขึ้นมาเอง ทำให้ดูว่าตัวเองตายภายในห้องนี้ จากนั้นเขาก็แค่ปิดบังใบหน้า แล้วออกจากห้อง ออกจากสถาบันไป ปล่อยให้ทุกคนคิดว่าเขาถูกฆาตกรรมในห้องทำงานเช่นนั้น นี่แหละคำตอบของความจริงในสมมติฐานของผม ทุกอย่างมันลงตัวเป็นผลตามนี้ทั้งหมด และหลักฐานที่ยืนยันสมมติฐานของผมว่ามันเป็นจริงก็คือ รอยแผลเป็นที่ขานั่นแหละครับ เพราะร่างที่เป็นศพนั้น มันเป็นร่างที่สร้างขึ้นมาใหม่ มันจึงไม่มีรอยแผลเป็นอย่างที่เห็นในรูปนี้”
เสียงฮือฮาตอบรับการสรุปคดีของปลายฟ้าทันที แม้คำตอบของคดีนี้จะดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่จากหลักฐานทั้งหมดมันก็แสดงให้เห็นว่า ดร. เอกภพ สร้างร่างกายตัวเองขึ้นมาใหม่ด้วยวิชาความรู้ทางพันธุวิศวกรรมที่ตัวเองมี แล้วสังหารร่างนั้นภายในห้องตัวเอง ทำให้คนอื่นคิดว่าตัวเองถูกฆ่าภายในห้องทำงานที่ปิดล็อคนั้น
หลังจากนั้นปลายฟ้าก็อธิบายอีกเล็กน้อย แต่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่า ดร. เอกภพตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาทำเช่นนี้ไปทำไม
แน่นอนว่าสไตล์ปลายฟ้าไม่มาสืบเรื่องพวกนี้ อยากรู้ต้องให้ตำรวจไปหาคำตอบเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจริงตามที่ปลายฟ้าสรุป ภายหลังตำรวจพบเจอ ดร. เอกภพ เขาก็ให้การว่าที่ทำลงไปเพื่อให้ลูกชายได้รับเงินประกัน และรู้สึกอึดอัดที่วงการวิทยาศาสตร์ของไทยบางครั้งต้องหยุดยั้งโครงการดี ๆ ด้วยเหตุผลของผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ด้วยวิทยาศาสตร์ แทนที่จะได้พัฒนาก้าวไปข้างหน้าต่อไป
เมื่อหมดหน้าที่ ปลายฟ้าก็ยังเดินไปเดินมา รอคอยสารวัตรวิทย์ควบคุมเรื่องราวทั้งหมดเสร็จ แต่ว่าในตอนนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขายังหาคำตอบไม่ได้
เขามาอยู่ในยุคอนาคตนี้ได้อย่างไร
ขณะที่กำลังเดินออกไปจากห้องประชุมที่เพิ่งสรุปคดีนั้น อยู่ ๆ ปลายฟ้าก็รู้สึกว่าตัวเองไร้เรี่ยวแรง คล้ายอ่อนเพลียจากอาการเหนื่อยล้า
ภาพที่เห็นข้างหน้าเริ่มเบลอ จับโฟกัสไม่ได้ แล้วเขาก็ฟุบตัวลงพื้นอย่างไร้สาเหตุ
(มีต่อครับ)
ปลายฟ้ากับคดีปริศนา ตอน : ฆาตกรรมในห้องปิดตาย พ.ศ. 2600 [บทเฉลย]
ส่วนเรื่องยาวของปลายฟ้าตอนนี้ลงไว้แล้ว ใครสนใจตามนี้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครที่จะอ่านตอนเก่าๆของปลายฟ้าคดีสั้น ตรงนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
-2-
ในที่สุดปลายฟ้าก็รู้คำตอบของห้องปิดตายปริศนานี้แล้ว
สารวัตรวิทย์ได้แจ้งให้ ดร. ดำรงศักดิ์ ดร. เอกรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมารวมกันที่ห้องประชุมหนึ่งภายในสถาบันพันธุวิศวกรรมแห่งชาติ
แน่นอนทุกคนอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายอย่างสยดสยองของ ดร. เอกภพ และอยากรู้เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
นายตำรวจเกริ่นเริ่มต้นเล็กน้อยหลังจากที่ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว จากนั้นก็แนะนำปลายฟ้า ซึ่งเป็นนักสืบเอกชนในยุคนี้ แล้วค่อยมอบหน้าที่ให้เขาสรุปคดี
ปลายฟ้าก้าวเดินออกมาอย่างมาดมั่น ไม่ว่ายุคสมัยไหน เวลาเขารู้คำตอบแล้ว การก้าวเดินของเขาจะเต็มไปด้วยความมั่นใจ และที่สำคัญมักจะมีรอยยิ้มพร้อมความสนุกประกอบด้วย
“ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับผม ผมขอสรุปคดีนี้เลยละกัน” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้น จากนั้นเขาก็ผายมือไปด้านข้าง พลันภาพโฮโลแกรมของที่เกิดเหตุก็ปรากฏขึ้นมา เขาก็พูดต่อว่า “ทุกคนคงทราบดีว่า ดร. เอกภพ ถูกฆ่าตาย สภาพศพนี่ศีรษะถูกตัดขาดเลย ภาพที่เห็นอาจจะสยองสักหน่อยนะครับ”
ภาพของศพ ดร. เอกภพปรากฏขึ้นมาเป็นโฮโลแกรม ยังดีที่มีการเบลอภาพไว้บ้าง จึงไม่ได้ดูสยองตามความเป็นจริง
“โอ้.. มีเบลอภาพด้วย” ปลายฟ้าหันมองภาพโฮโลแกรมนั้น เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าทางเจ้าหน้าที่จะเซ็นเซอร์ภาพไว้ให้ “เราจะเห็นว่าสภาพศพนี้ ดร. ถูกฆ่าแน่นอน แถมเขาถูกฆ่าตายภายในห้องทำงานของตัวเองด้วย อย่างที่รู้ว่าห้องนี้ปิดล็อคด้วยระบบความปลอดภัยพิเศษ ต้องใช้การสแกนรูม่านตาของตัว ดร. เอกภพ กับการกรอกรหัสประกอบถึงจะเปิดประตูได้
“แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ ทุกคนคงคิดเหมือนกันว่า แล้วใครล่ะจะไปฆ่าเขาในห้องนี้ได้ มันต้องเป็นเรื่องยากอย่างมาก เพราะด้วยระบบป้องกันเช่นนี้ คงมีแค่ผู้ที่มีสิทธิ์เปิดประตูได้เท่านั้น ซึ่งนอกจาก ดร. เอกภพ แล้ว มีเพียงสองท่านที่เปิดประตูห้องนี้ได้คือ ดร. ดำรงศักดิ์ และ ดร. เอกรินทร์ ลูกชายของเขา”
ทุกคนคิดตามที่ปลายฟ้าอธิบาย ด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ พอปลายฟ้าพูด ก็จะปรากฏภาพโฮโลแกรมที่เกี่ยวข้องขึ้นมาประกอบโดยตลอด ทำให้การอธิบายสรุปของปลายฟ้าดูเข้าใจง่ายขึ้น
“แต่ว่าถึงทั้งสองท่านจะสามารถเปิดปิดประตูนี้ได้ แต่ว่าการตายของ ดร. เอกภพไม่เกี่ยวข้องกับทั้งสองท่านเลยครับ เพราะตายของ ดร. เอกภพนี้ เป็นฝีมือของ ดร. เอกภพ เองครับ”
เมื่อปลายฟ้าบอกเช่นนี้ ทุกคนย่อมงงและประหลาดใจกับสิ่งที่ปลายฟ้ากล่าว จน ดร. ดำรงศักดิ์ พูดขึ้นมาว่า
“คุณหมายความว่า ดร. เอกภพ ฆ่าตัวตายหรือ”
ปลายฟ้ายิ้มรับ “ไม่ใช่ครับ ดร. เอกภพไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ฆ่า ดร. เอกภพ ครับ”
ดร. ดำรงศักดิ์งงหนักกว่าเดิมเมื่อได้ฟังคำตอบของปลายฟ้า แน่นอนว่าเจ้าตัวคนตอบก็รู้ว่ากำลังลีลาเหมือนเช่นเคย เลยรีบอธิบายต่อว่า
“ผมหมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นแผนการของ ดร. เอกภพ เองแหละครับ”
ประโยคที่เอ่ยต่อนี้ไม่ได้ช่วยให้คลายความมึนงงเลย แต่ทุกคนก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะนักสืบผมตั้งจอมลีลาก็พูดต่อว่า
“ผมว่าทุกคนตอนนี้คงงงกับคำตอบของผม ผมจะขออธิบายเป็นลำดับให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ เริ่มแรกจากที่ภาพบันทึกของกล้องวงจรปิด เราจะเห็นได้ว่า ดร. เอกภพ ได้ขนกล่องขนาดใหญ่บางอย่างเข้ามาในห้อง นี่เป็นข้อเสียของระบบที่ไม่มีใครตรวจสอบว่าข้างในกล่องนี้คืออะไร แต่ว่าของข้างในนี้แหละเกี่ยวข้องกับการตายของ ดร. เอกภพมากที่สุด
พอ ดร. เอกภพ ขนกล่องนี้เข้าไปในห้องของตัวเอง เขาเปิดได้อยู่แล้วแหละครับ จากนั้นพอเรามาดูภาพจากกล้องที่บันทึกหลังจากนั้น จะเห็นว่าพอเวลาผ่านไปอีกสามชั่วโมง พบว่ามีคนออกมาจากห้องของ ดร. เอกภพ”
ภาพโฮโลแกรมแสดงบันทึกจากกล้องวงจรปิดประกอบการอธิบายของปลายฟ้าให้ทุกคนอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้เป็นภาพบุคคลที่กำลังออกจากห้องที่ใส่ชุดคลุมปิดบังใบหน้า
“ตรงนี้เราจะมองไม่ออกว่าเป็นใครครับ เพราะว่าคน ๆ นี้รู้อยู่แล้วว่ามีกล้องถ่ายไว้ ใส่ชุดเพื่อปิดบังกล้อง คน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นหรอกครับ เขาคือ ดร.เอกภพ เองนั่นแหละ ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็คงถอดชุดนี้ออก เปลี่ยนเป็นชุดอื่น แล้วเดินออกจากสถาบันไป ตรงนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนยันได้”
“แต่ว่าหลังจากนั้น ผมพบศพท่านถูกฆ่าในห้องนะ แบบนี้แสดงว่าท่านแอบกลับเข้ามาในห้องเหรอ” ดร. ดำรงศักดิ์พูดสวนขึ้นมา
“ท่านไม่ได้เข้ามาหรอกครับ จากที่ผมตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าท่านกลับมาที่สถาบันอีกเลย แต่เหตุใด คุณ ดร. ดำรงศักดิ์ ถึงพบ ดร. เอกภพเป็นศพ ถูกฆ่าตัดคออยู่ในห้องที่ปิดล็อคนั้น เรื่องนี้ผมมีคำตอบครับ แต่ก่อนที่เราจะรู้คำตอบ ผมขอให้ทุกคนดูนี่ก่อนครับ”
ปลายฟ้าหยิบรูปของ ดร. เอกภพขึ้นมา ซึ่งรูปนี้เป็นรูปภาพเดียวกับที่เขาตั้งโชว์ในห้อง พร้อมเหรียญรางวัล เป็นรูปสมัยเขาเป็นนักฟุตบอลตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษานั่นเอง ซึ่งระบบโฮโลแกรมก็ขึ้นภาพใหญ่ของรูปนี้ด้วย
“มันเกี่ยวอะไรหรือครับ” คราวนี้ ดร. เอกรินทร์พูดขึ้นบ้าง
ปลายฟ้ายิ้มเล็ก ๆ “เกี่ยวเลยแหละครับ ทุกคนลองดูช่วงขาของ ดร. เอกภพในรูปนี้ดี ๆ เราจะเห็นได้ว่า ที่บริเวณเข่าและหน้าแข้งของ ดร. เอกภพในรูปมีรอยแผล ผมว่าน่าจะมาจากการเตะฟุตบอล ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเป็นนักกีฬาแหละครับ ต้องมีบาดแผลกันบ้าง และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อได้ข้อมูลว่า สมัยก่อนท่านเลิกเป็นนักฟุตบอลเพราะบาดเจ็บ แบบนี้ที่บริเวณขาต้องมีแผลอย่างแน่นอน นี่แหละจุดสำคัญคราวนี้เรามาดูสภาพศพที่พบในห้องทำงานกันบ้างครับ ผมจะเอาภาพเฉพาะส่วนขาให้ดูละกัน”
ทุกคนรีบจ้องดูไปยังภาพบันทึกของสภาพศพส่วนขาของ ดร. เอกภพที่พบ จากนั้นปลายฟ้าก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ตัดภาพเฉพาะส่วนขาของภาพนี้มาเปรียบเทียบกับภาพขาสมัยเป็นนักฟุตบอลของ ดร. เอกภพ
“ไม่เหมือนกันนี่ ขาที่ศพ ไม่มีแผลเป็นเลย” ดร. ดำรงศักดิ์เอ่ยขึ้นมาทันที เมื่อเห็นภาพเปรียบเทียบของขาทั้งสองภาพนั้น
“ปิ๊งป่อง ใช่แล้วครับ ขาของสองภาพนี้แตกต่างกันมาก ขาในภาพสมัยเป็นนักฟุตบอลมีรอยแผลเป็น แต่ขาในภาพของศพ กลับไม่มี ตรงนี้แหละเป็นข้อมูลที่พาเราไปยังคำตอบครับ ในเมื่อเราพบศพ ดร. เอกภพภายในห้องทำงาน แต่ว่ามีคนเห็นว่าเขาออกไปจากห้องก่อนหน้านั้นแล้ว มันก็หมายความว่า ดร. เอกภพ มีสองคนครับเพียงแต่คนหนึ่งมีเพียงแค่ร่างเท่านั้น”
ทันทีที่ปลายฟ้าพูด ต่างคนต่างประหลาดใจมากขึ้น พยายามคิดตาม
“ต่อไปนี้เป็นสมมติฐานของผม ทุกคนลองคิดและวิเคราะห์ตามนะครับ” ปลายฟ้าเอ่ยขึ้นต่อ “จากที่ผมบอกว่า ดร. เอกภพ มีสองคน จริง ๆ มันก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอกครับ เพราะศพที่เราพบในห้องทำงานที่หัวขาดนั้น มันเป็นเพียงแค่ร่างโคลนนิ่งที่ไร้ความนึกคิดไร้ตัวตน อาจจะเรียกว่าเป็นสเต็มเซลล์ที่เป็นชิ้นส่วนของร่างกายทั้งร่างก็น่าจะได้ แต่ตรงนี้ผมก็ไม่รู้ชื่อเรียกที่ถูกต้องของมันหรอกครับ
ดร. เอกภพ สร้างร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่ทั้งร่างกายด้วยวิชาพันธุวิศวกรรมที่ตัวเองมี เขาชำนาญด้านสเต็มเซลล์ ด้านโคลนนิ่งอยู่แล้ว การสร้างร่างแบบนี้น่าจะพอทำได้ พอสร้างขึ้นมา ก็ขนย้ายเข้ามาให้ห้องทำงานตัวเอง คงอยู่ในกล่องทึบขนาดใหญ่ที่เข็นเข้าห้องมา แล้วเขานี่แหละเป็นคนหั่นคอร่างที่สร้างขึ้นมาเอง ทำให้ดูว่าตัวเองตายภายในห้องนี้ จากนั้นเขาก็แค่ปิดบังใบหน้า แล้วออกจากห้อง ออกจากสถาบันไป ปล่อยให้ทุกคนคิดว่าเขาถูกฆาตกรรมในห้องทำงานเช่นนั้น นี่แหละคำตอบของความจริงในสมมติฐานของผม ทุกอย่างมันลงตัวเป็นผลตามนี้ทั้งหมด และหลักฐานที่ยืนยันสมมติฐานของผมว่ามันเป็นจริงก็คือ รอยแผลเป็นที่ขานั่นแหละครับ เพราะร่างที่เป็นศพนั้น มันเป็นร่างที่สร้างขึ้นมาใหม่ มันจึงไม่มีรอยแผลเป็นอย่างที่เห็นในรูปนี้”
เสียงฮือฮาตอบรับการสรุปคดีของปลายฟ้าทันที แม้คำตอบของคดีนี้จะดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่จากหลักฐานทั้งหมดมันก็แสดงให้เห็นว่า ดร. เอกภพ สร้างร่างกายตัวเองขึ้นมาใหม่ด้วยวิชาความรู้ทางพันธุวิศวกรรมที่ตัวเองมี แล้วสังหารร่างนั้นภายในห้องตัวเอง ทำให้คนอื่นคิดว่าตัวเองถูกฆ่าภายในห้องทำงานที่ปิดล็อคนั้น
หลังจากนั้นปลายฟ้าก็อธิบายอีกเล็กน้อย แต่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่า ดร. เอกภพตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาทำเช่นนี้ไปทำไม
แน่นอนว่าสไตล์ปลายฟ้าไม่มาสืบเรื่องพวกนี้ อยากรู้ต้องให้ตำรวจไปหาคำตอบเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจริงตามที่ปลายฟ้าสรุป ภายหลังตำรวจพบเจอ ดร. เอกภพ เขาก็ให้การว่าที่ทำลงไปเพื่อให้ลูกชายได้รับเงินประกัน และรู้สึกอึดอัดที่วงการวิทยาศาสตร์ของไทยบางครั้งต้องหยุดยั้งโครงการดี ๆ ด้วยเหตุผลของผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ด้วยวิทยาศาสตร์ แทนที่จะได้พัฒนาก้าวไปข้างหน้าต่อไป
เมื่อหมดหน้าที่ ปลายฟ้าก็ยังเดินไปเดินมา รอคอยสารวัตรวิทย์ควบคุมเรื่องราวทั้งหมดเสร็จ แต่ว่าในตอนนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขายังหาคำตอบไม่ได้
เขามาอยู่ในยุคอนาคตนี้ได้อย่างไร
ขณะที่กำลังเดินออกไปจากห้องประชุมที่เพิ่งสรุปคดีนั้น อยู่ ๆ ปลายฟ้าก็รู้สึกว่าตัวเองไร้เรี่ยวแรง คล้ายอ่อนเพลียจากอาการเหนื่อยล้า
ภาพที่เห็นข้างหน้าเริ่มเบลอ จับโฟกัสไม่ได้ แล้วเขาก็ฟุบตัวลงพื้นอย่างไร้สาเหตุ
(มีต่อครับ)