คุณเชื่อไหม บางทีชีวิตคนเรา สิ่งที่เราคิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ แต่สิ่งที่เราคิดว่าไม่ใช่ แต่อาจจะเป็นสิ่งที่เราตามหาได้

คุณเชื่อไหม บางทีชีวิตคนเรา สิ่งที่เราคิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ แต่สิ่งที่เราคิดว่าไม่ใช่ แต่อาจจะเป็นสิ่งที่เราตามหาได้
ก่อนอื่นเลย ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ในชีวิตของผม ซึ่งผมมีเจตนาที่จะไห้แนวคิดสำหรับคนที่คิดว่า
ความรักที่ผิดพลาด  ทำให้ชีวิตเราไม่เหลืออะไรเลย ลองมาอ่านเรื่องราวของผมดูครับ

---*---
ผมเป็นคนต่างจังหวัด รูปร่างหน้าตา ถือว่าขี้เหล่ ตัวดำ
---*---
รักแรกของผม เกิดขึ้นตอนผมอายุ 12 ปี ซึ่งตอนนั้นถือว่าเด็กมาก
ซึ่งในตอนนั้น ผมแอบรักเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง ซึ่งเธอถือว่าเป็นสาวฮอท ประจำโรงเรียน แต่ แอบรักครั้งแรก ก็ตามระเบียบ
อกหักสิครับ จะเหลือหรา ไม่มีโอกาสแม้แต่ไห้เขาได้รู้ว่าเราแอบรัก ซึ่งในตอนนั้นก็ถือว่าเสียใจ แต่เด็กก็คือเด็ก ไม่นานก็ลืม
---*---
น้ำจิ้มจบลงเเล้ว ต่อไปจะเป็นควารักที่จริงจังขึ้น
---*---
ความรักครั้งที่ สอง เกิดขึ้น ตอนเข้าเรียน ม.1 ซึ่งรักครั้งนี้ จะบอกเกิดขึ้นโดยบังเอิญก็อาจจะเป็นไปได้ผมเข้าเรียน
และอยู่ห้อง ม. 1/1 ซึ่งคนที่ผมแอบชอบคนแรกก็เข้าเรียนที่เดียวกัน และมีเพื่อนต่างโรงเรียน
เข้ามาเรียนด้วยกัน ซึ่งเราไม่ค่อยรู้จักไคร  เธอคนนั้น(แทนชื่อเธอด้วยตัว p)นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าของผม
ซึ่งผมนั่งอยู่กลับเพื่อนผู้ชายที่อยู่โรงเรียนเดียวกะ p ซึ่งเขาและ p จะกวนกันอยู่บ่อยๆเวลาเรียน
เราก็เลยสงสัน เลย ถามเพื่อนผู้ชายว่า เป็นแฟนกันหรา เพื่อนเราตอบว่า "ไม่" ซึ่งต่อมา เรียนได้ประมาณกลางเทอม
เราก็เลยคิดที่จะจีบ p ผ่านทางเพื่อนเรา ซึ่งตอนนั้นอายมาก ไม่กล้าคุยกะเข้โดยตรง วิธีหราครับ โบราณมากๆๆ
เวลาที่ผมจะคุนกะ p เราจะเขียนจดหมายเล็กๆ ไปสอดไว้ไต้สมุดหรือได้โต๊ะ ในตอนเช้า ซึ่งทำแบบนั้นนานมาก
ผมก็ไม่กล้าไปคุยกะ p สักที ประมาณ 6 เดือนได้ที่เราทำแบบนั้น จนจบและขึ้น ม.2 ผมก็ได้รับจดหมาย ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเป็นแผ่นสุดท้าย
ที่เธอเขียนหาผม ซึ่งข้อความในนั้นแสนสั้นมาก "เราเลิกกันเถอะ'' ผมได้แต่เขียน ไปถามว่าทำไม p ไม่ยอมตอบ
และสุดท้าย p ก็ไม่ยอมคุยกะผม ซึ่งผมเอง ก็ งง สิครับ อยากรู้ เลยไปถานเพื่อนของ p ได้คำตอบว่า
p โกรษ ที่ผมไปคุยสนิทกะรุ้นน้อง (ซึ่งน้องคนนั้นเป็นแฟนกะเพื่อน สนิทผม) ในงานโรงเรียน ผมพยายามอธิบายแต่ p ก็ไม่ยอมหายโกรษผม
สุดท้ายแล้ว ผมกะ p ก็เลิกกัน ตอนนั้นผม เฮิร์ท มากๆ ลองคิดดู คุณต้องเรียนกะแฟนเก่า ในห้องเดียวกัน เป็นเดือน เป็นปี
(ซึ่งเราก็เรียนห้องเดียวกันจนจบ ม.6) สุดท้ายกว่าจะทำใจได้ ก็ถือว่านานพอสมควร
---*---
การก้าวเข้าสู่ความรักครั้งแรกแบบจริงๆ ก็เจ็บชะละ แต่เรื่องของผมยังไม่จบแต่นี้
แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ง่วงนอน หวังว่า ผู้อ่านคงไม่เบื่อกันก่อนนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่