PTT CHALLENGER SYNTHETIC
กับการทดสอบสุดขั้ว ในแบบฉบับของข้าพเจ้า
เป็นการเดินทางด้วยรถคู่ใจ HONDA CBR500R
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา เจ็ดโมงเช้า จนถึง ตีสาม
20 ชั่วโมงเต็มๆ กับระยะทางรวมทั้งสิ้น 1,667 กิโลเมตร

สถานีแรก : ทดสอบความทนทาน ภายใต้สภาวะรอบสูง
ใช้รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 7,000 - 8,000 กว่าๆ
262 กิโลเมตรจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเศษๆ
ก็มาถึงประตูสู่ภาคเหนือ สะพานเดชาติวงศ์
โชคดีของข้าพเจ้าในวันนี้ที่การจราจรคล่องตัว จุดกลับรถหลายๆจุดบนสายเอเซียถูกปิดใช้งาน
สามารถทำความเร็วได้ค่อนข้างต่อเนื่อง
เครื่องยนต์และน้ำมันเครื่อง ไม่มีอาการผิดปรกติฟ้องออกมา
ยังคงทำงานได้ราบเรียบ ตอบสนองต่อความเร็วที่ใช้ได้เป็นเวลานานๆ
สถานีที่ 2 : ตูดคงกระพัน
ระยะทางและเวลา ไม่มีผลอะไรกับกล้ามเนื้อแก้มก้นของข้าพเจ้า
ก่อนออกจากนครสวรรค์ แวะเติมน้ำมันที่ปั้มบางจากให้เต็มๆถัง
เนื่องด้วยสภาพการจราจรหนาแน่นและสภาพผิวถนนต่อจากนี้ไป
ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า จะเจอหลุมอุกกาบาตอะไรบ้าง

ขี่เร็วได้ ต้องช้าให้เป็น
3 ชั่วโมงจากนครสวรรค์-เถิน ระยะทาง 278 กิโลเมตร
ที่ข้าพเจ้าออกเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีหยุดพัก
ความเร็วยืนพื้น 110-120 km/h ได้อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 24 km/l
550 กิโลเมตรจากกรุงเทพ ก็มาถึงปตท.เถิน
5 ชั่วโมงที่ขี่รถมา ตูดของข้าพเจ้าไร้ความรู้สึก !
สถานีที่ 3 : ทดสอบระบบส่งกำลัง
บนเส้นทาง.....
เถิน - ลี้ - ดอยเต่า - ฮอด - แม่แจ่ม - ยอดดอยอินทนนท์
ระยะทางรวม 251 กิโลเมตร
PTT CHALLENGER SYNTHETIC
ให้การตอบสนองของอัตราเร่งที่ดี
เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบ เงียบ
ไม่ครางลั่น เมื่อต้องมีการเชนเกียร์ลงหนักๆ
คลัทช์ : จับตัวได้ดี ส่งต่อกำลังได้อย่างต่อเนื่อง
กระแทกคันเร่งออกจากโค้ง ไม่มีวืด สับเป็นโดด เร่งเป็นพุ่ง
ช่วงที่เป็นรอยต่อจากอำเภอแม่แจ่ม-ยอดดอยอินทนนท์ เมื่อต้องขี่ขึ้นทางชันๆ
อาการของคลัทช์ออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก คำว่า คลัทช์ลื่น ไม่มีในสารบบของวันนี้

เกียร์ : เข้าได้นุ่มนวล แม่นยำ
ถึงแม้จะเดินทางมาอย่างต่อเนื่องกว่า 800 กิโลเมตร
ก่อนถึงบนยอดดอยอินทนนท์
ยังคงสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล นุ่มนวลไม่ติดขัด
ไม่พบเจอเกียร์ว่าว

เกือบสิบชั่วโมงที่เดินทางมาอย่างต่อเนื่อง
ข้าพเจ้าได้ขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นบนยอดดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดของแดนสยาม
มือไม้แข็ง ปากสั่น ฟันขบกันลั่น พูดหายใจออกปากและจมูก
ข้าพเจ้าชวนมากินข้าวหน้าปากซอย ทำไมถึงไม่มา
พูด !!!!

พอลงมาจากยอดดอยได้ระยะนึง จนถึงที่ทำการ อช.อินทนนท์
อุณหภูมิในยามเย็นของวันนั้น อยู่ที่ 18 องศา
ตัวข้าพเจ้าไม่รู้สึกว่าเย็นเลย เพราะโดนอากาศโครตเย็นมาจากบนยอดดอยเป็นที่เรียบร้อย
สถานีสุดท้าย : ขีดสุดของพลัง
เชียงใหม่ - กรุงเทพ ระยะทาง 700 กิโลเมตร
หลังจากที่ลงมาจากดอยอินทนนท์ เพื่อมุ่งหน้าไปขี่รถชมเมืองในตัวจังหวัดเชียงใหม่
ทุกครั้งที่ได้มา ต้องขี่รถหลงอยู่เป็นประจำ หมุนวนไปเรื่อยจนเกือบไปออกอำเภอแม่ริม
หนึ่งทุ่มกว่าๆได้เวลาหาอะไรใส่ท้องสักหน่อย ขี่เพลินๆมาทั้งวันจนลืมหิว
มื้อแรกของวันนี้ เล็กหมูน้ำใส 40 บาท

สองทุ่มตรงได้เวลามุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวง
ข้าพเจ้าออกเดินทางจากเชียงใหม่ ตรงเข้าถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์
ร่างกายยังไม่อ่อนเพลีย บิดคันเร่งยาวๆเดินทางแบบต่อเนื่องได้
บนเขาอากาศหนาวเย็นมาก ข้าพเจ้าได้แต่ก้มหมอบมุดอยู่ใต้วินชิลด์
สายตาเพ่งดูแต่ถนนและกวาดมองสิ่งแวดล้อมที่อยู่ข้างหน้า
ดอยขุนตาล-สบปราบ พื้นถนนเป็นคอนกรีต
มีโค้งไฮสปีดที่ขี่ได้มันส์ อร่อยเหาะกันทีเดียว
ยางเดิมๆที่ติดรถมาจากโรงงาน ยังรับใช้ได้ดีอยู่
ถึงแม้จะผ่านการใช้งานมาแล้ว 30,000 กิโลเมตร
จนน้ำมันกระพริบเตือนที่จังหวัดตาก
ใช้เวลาไป 2.15 ชั่วโมง กับระยะทางเกือบๆ 300 กิโลเมตร
และในตอนนี้ข้าพเจ้า ขี่รถมาแล้ว 1,213 กิโลเมตร

เครื่องยนต์ยังไม่มีออกอาการอะไรที่ผิดปรกติ
PTT CHALLENGER SYNTHETIC
ยังคงตอบสนองกับบททดสอบ ภายใต้การใช้งานที่รอบสูงๆได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่ออกอาการสั่นสะท้าน แรงตกถดถอยแต่อย่างใด
เมื่อเริ่มออกมาจากจังหวัดตาก สายตาข้าพเจ้าเริ่มจะรับกับความเร็วสูงๆในตอนกลางคืนไม่ไหว
จะให้ซัดยาวๆต่อไปอีกนั้น บอกตามตรงว่า...กลัวตายครับ
จึงลดความเร็วที่ใช้ลงมาอีกหน่อย
สี่ชั่วโมงครึ่งจากเชียงใหม่ ข้าพเจ้าเพิ่งมาถึงสะพานเดชาติวงศ์
ราตรีนี้ยังอีกยาวนานนัก อีก 200 กว่ากิโลเมตรก็จะถึงบ้านพักที่กรุงเทพ

ก่อนถึงบ้านพักในกรุงเทพ ข้าพเจ้าได้พบเจออาการของเกียร์ ที่เริ่มแข็ง !
ตบคันเกียร์ลงยังนุ่มนวล แต่พองัดขึ้นเท่านั้น เริ่มแข็งโป๊ก

บทสรุปส่งท้ายเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องตัวนี้
คุ้มค่า สบายกระเป๋าสตางค์ และคุ้มเงินที่ได้จ่ายไปอย่างแน่นอน
สามารถตอบสนองต่อการใช้งานทางไกลๆได้แบบสุดขั้ว
ตลอดการเดินทาง น้ำมันเครื่องไม่มีอาการพร่องหาย
ระดับน้ำมันเครื่อง ยังคงเต็มๆขีดบนสุดอยู่ตลอด

ระยะที่ข้าพเจ้าประทับใจน้ำมันเครื่องตัวนี้ อยู่ที่ 1,800 กิโลเมตร
อายุเปลี่ยนถ่ายที่ทางบริษัทปตท.เคลมไว้ คือ 4,000 - 5,000 กิโลเมตร

ส่วนในวันนี้ ข้าพเจ้าขอตัวลาไปก่อน
รถเลอะโคลนมาเต็มเหนี่ยวเลยครับ
@_^

[SR] PTT CHALLENGER SYNTHETIC กับ การเดินทางในแบบฉบับของข้าพเจ้า... 1,667 กิโลเมตร
กับการทดสอบสุดขั้ว ในแบบฉบับของข้าพเจ้า
เป็นการเดินทางด้วยรถคู่ใจ HONDA CBR500R
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา เจ็ดโมงเช้า จนถึง ตีสาม
20 ชั่วโมงเต็มๆ กับระยะทางรวมทั้งสิ้น 1,667 กิโลเมตร
สถานีแรก : ทดสอบความทนทาน ภายใต้สภาวะรอบสูง
ใช้รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 7,000 - 8,000 กว่าๆ
262 กิโลเมตรจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเศษๆ
ก็มาถึงประตูสู่ภาคเหนือ สะพานเดชาติวงศ์
โชคดีของข้าพเจ้าในวันนี้ที่การจราจรคล่องตัว จุดกลับรถหลายๆจุดบนสายเอเซียถูกปิดใช้งาน
สามารถทำความเร็วได้ค่อนข้างต่อเนื่อง
เครื่องยนต์และน้ำมันเครื่อง ไม่มีอาการผิดปรกติฟ้องออกมา
ยังคงทำงานได้ราบเรียบ ตอบสนองต่อความเร็วที่ใช้ได้เป็นเวลานานๆ
สถานีที่ 2 : ตูดคงกระพัน
ระยะทางและเวลา ไม่มีผลอะไรกับกล้ามเนื้อแก้มก้นของข้าพเจ้า
ก่อนออกจากนครสวรรค์ แวะเติมน้ำมันที่ปั้มบางจากให้เต็มๆถัง
เนื่องด้วยสภาพการจราจรหนาแน่นและสภาพผิวถนนต่อจากนี้ไป
ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า จะเจอหลุมอุกกาบาตอะไรบ้าง
ขี่เร็วได้ ต้องช้าให้เป็น
3 ชั่วโมงจากนครสวรรค์-เถิน ระยะทาง 278 กิโลเมตร
ที่ข้าพเจ้าออกเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีหยุดพัก
ความเร็วยืนพื้น 110-120 km/h ได้อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 24 km/l
550 กิโลเมตรจากกรุงเทพ ก็มาถึงปตท.เถิน
5 ชั่วโมงที่ขี่รถมา ตูดของข้าพเจ้าไร้ความรู้สึก !
สถานีที่ 3 : ทดสอบระบบส่งกำลัง
บนเส้นทาง.....
เถิน - ลี้ - ดอยเต่า - ฮอด - แม่แจ่ม - ยอดดอยอินทนนท์
ระยะทางรวม 251 กิโลเมตร
PTT CHALLENGER SYNTHETIC
ให้การตอบสนองของอัตราเร่งที่ดี
เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบ เงียบ
ไม่ครางลั่น เมื่อต้องมีการเชนเกียร์ลงหนักๆ
คลัทช์ : จับตัวได้ดี ส่งต่อกำลังได้อย่างต่อเนื่อง
กระแทกคันเร่งออกจากโค้ง ไม่มีวืด สับเป็นโดด เร่งเป็นพุ่ง
ช่วงที่เป็นรอยต่อจากอำเภอแม่แจ่ม-ยอดดอยอินทนนท์ เมื่อต้องขี่ขึ้นทางชันๆ
อาการของคลัทช์ออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก คำว่า คลัทช์ลื่น ไม่มีในสารบบของวันนี้
เกียร์ : เข้าได้นุ่มนวล แม่นยำ
ถึงแม้จะเดินทางมาอย่างต่อเนื่องกว่า 800 กิโลเมตร
ก่อนถึงบนยอดดอยอินทนนท์
ยังคงสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล นุ่มนวลไม่ติดขัด
ไม่พบเจอเกียร์ว่าว
เกือบสิบชั่วโมงที่เดินทางมาอย่างต่อเนื่อง
ข้าพเจ้าได้ขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นบนยอดดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดของแดนสยาม
มือไม้แข็ง ปากสั่น ฟันขบกันลั่น พูดหายใจออกปากและจมูก
ข้าพเจ้าชวนมากินข้าวหน้าปากซอย ทำไมถึงไม่มา
พูด !!!!
พอลงมาจากยอดดอยได้ระยะนึง จนถึงที่ทำการ อช.อินทนนท์
อุณหภูมิในยามเย็นของวันนั้น อยู่ที่ 18 องศา
ตัวข้าพเจ้าไม่รู้สึกว่าเย็นเลย เพราะโดนอากาศโครตเย็นมาจากบนยอดดอยเป็นที่เรียบร้อย
สถานีสุดท้าย : ขีดสุดของพลัง
เชียงใหม่ - กรุงเทพ ระยะทาง 700 กิโลเมตร
หลังจากที่ลงมาจากดอยอินทนนท์ เพื่อมุ่งหน้าไปขี่รถชมเมืองในตัวจังหวัดเชียงใหม่
ทุกครั้งที่ได้มา ต้องขี่รถหลงอยู่เป็นประจำ หมุนวนไปเรื่อยจนเกือบไปออกอำเภอแม่ริม
หนึ่งทุ่มกว่าๆได้เวลาหาอะไรใส่ท้องสักหน่อย ขี่เพลินๆมาทั้งวันจนลืมหิว
มื้อแรกของวันนี้ เล็กหมูน้ำใส 40 บาท
สองทุ่มตรงได้เวลามุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวง
ข้าพเจ้าออกเดินทางจากเชียงใหม่ ตรงเข้าถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์
ร่างกายยังไม่อ่อนเพลีย บิดคันเร่งยาวๆเดินทางแบบต่อเนื่องได้
บนเขาอากาศหนาวเย็นมาก ข้าพเจ้าได้แต่ก้มหมอบมุดอยู่ใต้วินชิลด์
สายตาเพ่งดูแต่ถนนและกวาดมองสิ่งแวดล้อมที่อยู่ข้างหน้า
ดอยขุนตาล-สบปราบ พื้นถนนเป็นคอนกรีต
มีโค้งไฮสปีดที่ขี่ได้มันส์ อร่อยเหาะกันทีเดียว
ยางเดิมๆที่ติดรถมาจากโรงงาน ยังรับใช้ได้ดีอยู่
ถึงแม้จะผ่านการใช้งานมาแล้ว 30,000 กิโลเมตร
จนน้ำมันกระพริบเตือนที่จังหวัดตาก
ใช้เวลาไป 2.15 ชั่วโมง กับระยะทางเกือบๆ 300 กิโลเมตร
และในตอนนี้ข้าพเจ้า ขี่รถมาแล้ว 1,213 กิโลเมตร
เครื่องยนต์ยังไม่มีออกอาการอะไรที่ผิดปรกติ
PTT CHALLENGER SYNTHETIC
ยังคงตอบสนองกับบททดสอบ ภายใต้การใช้งานที่รอบสูงๆได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่ออกอาการสั่นสะท้าน แรงตกถดถอยแต่อย่างใด
เมื่อเริ่มออกมาจากจังหวัดตาก สายตาข้าพเจ้าเริ่มจะรับกับความเร็วสูงๆในตอนกลางคืนไม่ไหว
จะให้ซัดยาวๆต่อไปอีกนั้น บอกตามตรงว่า...กลัวตายครับ
จึงลดความเร็วที่ใช้ลงมาอีกหน่อย
สี่ชั่วโมงครึ่งจากเชียงใหม่ ข้าพเจ้าเพิ่งมาถึงสะพานเดชาติวงศ์
ราตรีนี้ยังอีกยาวนานนัก อีก 200 กว่ากิโลเมตรก็จะถึงบ้านพักที่กรุงเทพ
ก่อนถึงบ้านพักในกรุงเทพ ข้าพเจ้าได้พบเจออาการของเกียร์ ที่เริ่มแข็ง !
ตบคันเกียร์ลงยังนุ่มนวล แต่พองัดขึ้นเท่านั้น เริ่มแข็งโป๊ก
บทสรุปส่งท้ายเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องตัวนี้
คุ้มค่า สบายกระเป๋าสตางค์ และคุ้มเงินที่ได้จ่ายไปอย่างแน่นอน
สามารถตอบสนองต่อการใช้งานทางไกลๆได้แบบสุดขั้ว
ตลอดการเดินทาง น้ำมันเครื่องไม่มีอาการพร่องหาย
ระดับน้ำมันเครื่อง ยังคงเต็มๆขีดบนสุดอยู่ตลอด
ระยะที่ข้าพเจ้าประทับใจน้ำมันเครื่องตัวนี้ อยู่ที่ 1,800 กิโลเมตร
อายุเปลี่ยนถ่ายที่ทางบริษัทปตท.เคลมไว้ คือ 4,000 - 5,000 กิโลเมตร
ส่วนในวันนี้ ข้าพเจ้าขอตัวลาไปก่อน
รถเลอะโคลนมาเต็มเหนี่ยวเลยครับ
@_^