ชีวิตนี้สั้นนัก

เอาบทความดีๆ มาฝากครับ
ชีวิตเราไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี  อย่าโกรธ  เกลียด  และทำร้ายกันเลย
ให้อภัย  และเลือกทำในสิ่งที่เรามีความสุขกันดีกว่า
      

ชีวิตนี้...สั้นนัก ในทีนี้หมายถึง โอกาสในการสร้างความดีของมนุษย์เรามีอยู่อย่างจำกัด เพราะชีวิตขึ้นอยู่กับกาลเวลา เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ชีวิตของมนุษย์เราย่อมลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้ชีวิตมา จำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และอยู่ดีมีความสุข อีกทั้งใช้ชีวิตที่มีอยู่อย่างจำกัด สร้างคุณงามความดี เมื่อชีวิตจะต้องต่อสู้ดิ้นรนแข่งกับเวลาอย่างนี้แล้ว หากมัวแต่นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ตนเองไม่ชอบใจ เช่น คนโน้นเคยด่าเรา เคยทะเลาะกับเรา เราไม่ชอบหน้าคนโน้นคนนี้ นอกจากจะเป็นการเสียเวลาโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้ลืมหน้าที่ของตนเองว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำอีกด้วย และการย้ำคิดย้ำทำใเรื่องไม่ดีเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพจิตอีกด้วย



       ฉะนั้น ทางพุทธศาสนาจึงสอนย้ำเสมอว่า ชีวิตนี้สั้นนัก เป็นการเตือนสติให้เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาทในวัยและในชีวิต ดังนี้

๑.  ปฐมวัย ต้องขยันศึกษาหาความรู้ หรือเตรียมความพร้อมด้านการศึกษา เพราะการศึกษา คือ เครื่องมือนำไปสู่การสร้างโอกาสที่สำคัญที่สุดในชีวิต
๒.  มิชฌิมวัย ต้องขยันทำงานหาทรัพย์ รู้จักเก็บรักษาทรัพย์ที่หามาได้ และใช้จ่ายทรัพย์อย่างประหยัด และรู้พอเพียงสมกับฐานะของตนเอง
๓.  ปัจฉิมวัย ขยันสร้างบุญกุศล หาความสงบสุขทางใจ อันเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมเพื่อไปสู่ภพภูมิที่ดีเมื่อเราละจากโลกนี้ไป

  *** สรุปได้ว่า เราจะทำอะไรต้องรีบทำ เพราะชีวิตนี้สั้นนัก สมดังคำประพันธ์ที่นักปราชญ์กล่าวไว้ว่า

         
เวลาและวารี มิได้มีจะคอยใคร  เรือเมล์และรถไฟ มันก็ไปตามเวลา
       โอ้ เอ้ และอืดอาด ก็จะพลาดปรารถนา ชวดแล้วจะโศกา อนิจจาเราช้าไป



ขอบคุณที่มา http://tammastory.blogspot.com/2016/07/blog-post_25.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่