พูดจีนไม่ได้สักคำ แต่.. ลากกระเป๋าเที่ยวจีนเองได้ตั้ง 5 วัน !! ( รีวิวยาวเหยียดละเอียดยิบ วันที่ 5 )

สำหรับคนที่อยากอ่านของวันที่ 1 นะครับ
https://pantip.com/topic/37115732

วันที่ 2
https://pantip.com/topic/37121694

วันที่ 3
https://pantip.com/topic/37134014

วันที่ 4
https://pantip.com/topic/37134774

วันที่ 5 กลับบ้าน.. หมดเวลาสนุกแล้วสิ !

วันสุดท้ายของทริป ผมตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อมาถ่ายภาพทะเลสาบที่อยู่หลังโรงแรมสักหน่อย เพราะทุกครั้งที่ผ่านมากลับเข้าโรงแรมดึกทุกวัน จนไม่ได้มีเวลาถ่ายภาพทะเลสาบ Yundang ด้านหลังซึ่งมีรูปปั้นของเทพธิดาที่มีนกกระยางเกาะเป็น Landmark อยู่ด้วย และอีกอย่างที่ไม่เคยทำเลยตั้งแต่มาทริปครั้งนี้ คือ การตื่นมากินอาหารเช้าของโรงแรม




หลังจากทานอาหารเช้า และร่ำลากับพนักงงานโรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับเพื่อนก็เดินทางไปยังสนามบินทันทีด้วยกลัวว่ารถจะติด เพราะวันนี้เป็นวันทำงานของเมืองเซี้ยะเหมิน แต่.. ถึงไวเท่าเดิมครับ น่าแปลกใจมากที่เมืองนี้รถไม่เคยติดเลย และอากาศก็ไม่มีควันพิษเลย


เมื่อมาถึงสนามบินเซี้ยะเหมิน เราก็ตรงไปเคาเตอร์ check-in ซึ่งขากลับนี้ เราบินเครื่อง B737 กลับ ซึ่งมีเฉพาะชั้น Economy เท่านั้นนะครับ ดังนั้น ใครที่หวังจะไปเที่ยวที่เซี้ยะเหมินแล้วอยากจะนั่ง Business กลับต้องดูรายละเอียดตอนจองดีดีนะครับ ที่        สนามบินเซี้ยะเหมิน มีตู้ self check-in ไว้บริการหลายตู้เลยนะครับ ในกรณีว่ามีคนต่อคิว check-in เยอะ ก็สามารถใช้ตู้นี้ได้ ซึ่งผมกับเพื่อนก็ไปลองมา สุดท้าย ไปเคาเตอร์เหมือนเดิม





สนามบินเซี้ยะเหมิน เป็นสนามบินที่ค่อนข้างสงบ ถึงแม้ขนาดจะไม่เล็ก แต่ก็ไม่ได้มีร้านค้า หรือสินค้าแบรนด์เนมให้ชอปปิ้งมากนัก ผมเลยถ่ายร้านรวม ๆ เท่าที่จะถ่ายมาได้มาให้ดูนะครับ




ก่อนขึ้นเครื่องแอบเห็นป้าย lounge อยู่ เลยอยากลงไปเดินผ่านหน้าประตูสักหน่อย อีกเรื่องนึงที่ลืมเล่าไปเลยตลอดทริป คือ เพื่อนผมชาวต่างชาติที่เดินทางมาด้วยกันนั้น เค้าทำงานและได้แต้มสะสมจากการเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เลยได้บัตร Sky Team Elite Plus ก็เลยเป็นโชคดีของผม ที่ได้โอกาสเนียน ๆ เข้าไปใน lounge ของสายการบิน ถึงแม้ว่าพนักงานจะแอบเขม่น ๆ หน่อยก็ตาม ใครอยากรู้รายละเอียดของ Elite Plus แนะนำให้เข้าไปดูในเวปของ Xiamen Air เองละกันนะครับ











ผมเดินวน ๆ อยู่ใน lounge ได้ไม่น่า พนักงานก็แจ้งว่า boading time แล้ว ผมก็เลยขึ้นมาที่ gate และพบว่าแถวหายไปหมดแล้ว โอ้แม่เจ้า ! ไวอะไรกันขนาดนั้น ส่วนขากลับนั้น ผมบินกลับแบบ economy เลยเห็นความแตกต่างของของการเดินทางในทริปนี้อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ลองมาดูอาหารกันนะครับ




จริงๆ  ผมได้อาหาร 2 กล่องนะครับ !! ที่ได้สองกล่องก็เพราะพนักงานแอร์น้องใหม่เธอคงตื่นเต้น จนทำกล่องข้าวผมหกใส่กางเกง และรองเท้าผม จนหัวหน้าต้องมาขอโทษขอโพย แต่ผมก็บอกเธอไปแล้วว่าไม่เป็นอะไร เข้าใจว่าคนเราผิดพลากันได้ ก็มีโมเม้นท์ชุลมุนตอนนั้นเหมือนกัน




ระหว่างไฟล์ขาไปมี tablet มีหนังให้ดูเลือกได้ตามใจชอบ ขากลับก็บังคับดูแหละครับ หนังจีนที่คนจีนขำกันทั้งลำ ส่วนผมนั่งนิ่ง ๆ คุยนั่นคุยนี่กับเพื่อนจนหลับ ตื่นอีกที เตรียมแลนดิ้งสุวรรณภูมิแล้วครับ

เครื่องจอด ผ่าน ตม. นึกว่าจะแฮปปี้ เอนดิ้งทริปแล้ว .. ยังครับ ความตื่นเต้นยังมีอยู่ เมื่อเห็นกระเป๋าตัวเองออกจากสายพานมา และล้อหายไป 1 ล้อ เพราะมันหักครับ ! หักจริง ๆ ก็เลยต้องไปทำเรื่อง claim แทนที่จะได้ออกจากสนามบินเลยทันที หลังเห็นว่าล้อหายก็เลยโทรเข้า Call Center หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้เสนอ Compensate และได้แนะนำให้ไปทำเรื่อง Claim ก่อนกลับ ... แต่โชคดีนะครับ ที่กระเป๋าของผมมีประกันเพราะเพิ่งซื้อมา เคลมได้ 1 ปีฟรี ! ก็เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่.. เห้ออออ .. ทุกวันนี้ล้อใช้ได้ดีไม่มีปัญหาแล้วครับ


สรุปเลยนะครับ เล่ามาซะยาวยังกับไหนไตรภาค ผมคอนเฟิมว่าเที่ยวจีน ไม่เห็นต้องรู้ ต้องอ่านภาษาจีนได้ ก็เที่ยวได้ และเที่ยวได้ไกลด้วย เราเป็นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ต้องให้ชัดเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ นะครับ หวังว่ารีวิวนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนเดินทางท่องโลกกว้างแบบไม่ต้องกลัว หรือเริ่มต้นจากทริป Xiamen ตามผมก็ได้นะครับ หรือหลังไมค์มาถามได้ ไม่หวงครับ ยิ้ม


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่