▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวต่างประเทศ
นักท่องเที่ยว
ประเทศจีน
พูดจีนไม่ได้สักคำ แต่.. ลากกระเป๋าเที่ยวจีนเองได้ตั้ง 5 วัน !! ( รีวิวยาวเหยียดละเอียดยิบ วันที่ 2 )
https://pantip.com/topic/37115732
วันที่ 3 ครับ
https://pantip.com/topic/37134014
วันที่สอง .. แผนเดินทางเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
มาต่อกันวันที่สองนะครับ แผนของวันนี้คือ City Tour ชมเมือง และสถานที่สำคัญ ก็เลยโดดขึ้นรถบัสสายท่องเที่ยวที่พนักงานโรงแรมแนะนำมา สำหรับคนที่ต้องต่อเครื่องที่เซี่ยเหมินสามารถขึ้นได้ฟรีนะครับ อันนี้พนักงานโรงแรมเค้าบอกผมมา ซึ่งรถบัสสายท่องเที่ยวจะคล้ายรถเมล์ทั่วๆ ไป แต่จะจอดเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเท่านั้น พร้อมแผนเส้นทางการเดินรถ City Tour ซึ่งได้มาจากโรงแรมแบบอ่านแล้ว งง ๆ (บอกแล้วว่าเตรียมตัวมาน้อย) ก็เลย ปล่อยชิวเลยครับ ขึ้นรถไปก่อน แล้วตรงไหนสวยค่อยลง ปล่อยชิวเลยครับ เพราะ City Tour ของที่นี่ขึ้นหรือลงตรงไหนก็ได้ แต่เค้าแค่จะไม่หยุดรอเราแค่นั้น เราต้องรอรถรอบถัดไปเองเท่านั้น
โดยรถที่เค้าใช้ ก็เป็นรถโค้ทปรับอากาศแบบ 2 ชั้นครับ แล้วก็มีเสียงบรรยายภาษาจีนตลอดเวลา ทุกอย่างไม่มีภาษาอังกฤษ เราก็เน้นชมวิวสองข้างทาง ก็เลยหูทวนลมทำเป็นไม่ฟัง 555555 รถก็วิ่งไปเรื่อย ๆ ผ่านจุดสำคัญ ๆ ของเมือง ภูเขา ทะเล ซึ่งตอนที่กำลังวิ่งผ่านทะเลนี่คือ สวยมาก เป็นถนนบนทะเลที่สวยมากจริง ๆ เห็นอีกเป้าหมายหนึ่งของผมอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย นั่นคือ เกาะเปียโน
รถวิ่งไปเรื่อย ๆ จนไปเจอชายหาด ผมเลยคิดว่าตรงนี้น่าสนใจดี เพราะในรีวิวที่อ่านมา เค้าบอกว่าที่นี่มีหมู่บ้านชาวประมง เราก็คิดภาพไว้ว่าเหมือนเราไป มหาชัย หรือชลบุรี บางแสนแบบนั้น ก็เลยลงที่จุดนี้ แต่.. นี่คือ หมู่บ้านชาวประมง อีกหนึ่งจุดที่มีชื่อเสียงของเมืองเซี้ยะเหมินครับ
หมู่บ้านชาวประมงนี้ ตั้งอยู่บนถนน Huandao หรือว่าถนนรอบเกาะ โดยหมู่บ้านนี้จะเป็นซอยเล็ก ๆ ตรงข้ามกับทะเลที่รถวิ่งผ่านเมื่อสักครู่ เป็นทางเดินยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เข้าไปในหมู่บ้าน สองข้างทางเต็มไปด้วยอาหารทะเล น่ากินมากกกก กุ้ง หอย ทุกอย่างใหญ่มากครับ เลยอดใจไม่ได้ แวะกินร้านนึง ด้วยความอยากลองล้วน ๆ เลย
หมู่บ้านชาวประมง เหมาะกับคนชอบเดินเล่น ถ่ายรูป หาอะไรกินชิว ๆ ช่วงสาย หรือช่วงบ่าย แต่ผมแนะนำช่วงบ่ายน่าจะดีกว่านะครับ เพราะอากาศไม่ร้อนมาก ตรงนี้ขอไม่เล่าเยอะนะครับ ให้ภาพเล่าเรื่อง ...
อีกหนึ่งจุดหมายของวันนี้ คือ วัด Nanputuo (หนานผู่ถัว) แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเซี้ยะเหมิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านชาวประมงมากนัก แต่.. ด้วยความที่อ่านภาษาจีนไม่ออก เลยไม่รู้ว่าจะต้องขึ้นรถเมล์ฝั่งไหน สายไหน ก็เลย ตัดสินใจ ขึ้น Taxi แทนละกันครับ เป็นการขึ้น Taxi แบบไม่ต้องพูดคุยอะไรเยอะ ยื่นภาพให้ดู ว่าจะไปที่นี่ ชื่อวัดนี้ แค่นั้น สุดท้ายก็มาถึงวัด หนานผู่ถัวครับ ค่า taxi ประมาณ 70 บาท ไม่ไกลมาก
วัดหนานผู่ถัวเป็นวัดที่มีความร่มรื่น ดูไม่ค่อยเหมือนวัดเท่าไหร่ ตั้งอยู่หลังติดกับภูเขาเลย ตอนแรกเข้ามานึกว่าวัง หรือที่ประทับของใคร ภายในวัดก็จะเน้นรูปปั้นองค์ใหญ่ เสาไม้ต้นโต ๆ รวมถึงอาคารที่ไล่ระดับกันขึ้นไปในตั้งแต่หน้าวัด ไปจนถึงอาคารท้ายวัด ส่วนอาคารไหน มีไว้ทำอะไรบ้าง อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ ครับ จะรู้ก็แต่จุดสำคัญ ๆ เช่น เจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ในอาคารกลางวัด แค่นั้นครับ ถ้าใครจะมาเที่ยวที่นี่ลองเสิจหาข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องของวัดนี้จาก Google น่าจะดีกว่าครับ 5555
หลังจากเดินในวัดจนครบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผมกับเพื่อนก็ลองเปิด map และเห็นว่าติดกับวัดเลยนั้น คือ มหาวิทยาลัยเซี้ยะเหมิน(Xiamen University) ไหน ๆ ก็มาแล้ว เดินไปไม่กี่เมตรก็ถึง ก็ขอไปส่องนักศึกษาในมหาลัยหน่อยครับ
ทางเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ รัดกุมมาก มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจ และมีแถวทางเดินเข้าเป็นระเบียบ คนจีนเค้านิยมเที่ยวในมหาวิทยาลัยกันด้วยนะครับ เพราะมีสวนสวย ร่มรื่น และมีกิจกรรมให้ทำ(แต่ผมไม่รู้กิจกรรมอะไร) แต่ผมเดินเข้าไปได้แค่นิดเดียว ยอมแพ้ ! เพราะมหาวิทยาลัยใหญ่มาก มากจนไม่มีทางเดินหมดใน 1 วัน แถมอากาศก็ร้อนด้วย ก็เลยเปลี่ยนแผนตรงนี้เลยว่าจะไปหาอะไรเย็น ๆ กินแทน ! แต่คำถามกับเพื่อนตอนนั้นคือ แล้วจะไปที่ไหน ?
สุดท้ายนั่งงมกันอยู่หลายสิบนาที ก็เลยตัดสินใจว่า เราจะไปเกาะเปียโน ห้ะ ! อยู่ดีดีไปเกาะ 5555 ไม่รอช้าก็โบก taxi ไปเลยครับ โดยการเดินทางไปเกาะเปียโนนั้น จะต้องนั่งเรือข้ามฟาก ไม่ใช่สิ ! เรือเฟอรี่ไปเท่านั้น โดยต้องไปขึ้นที่ท่าเรือของเมือง Xiamen ที่มีไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ที่นี่ เค้าจะแยกท่าเรือ ท่ารถ ทุกสิ่งสำหรับคนในพื้นที่ และคนต่างพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน ต่อให้เป็นคนจีน แต่อยู่ต่างเมือง ไม่ใช่คนในเมืองนี้ ก็ต้องขึ้นแยก คนละท่าเรือกันทั้งหมด ซึ่งท่าเรือที่แยกกันนี้ ไม่ได้อยู่ติดกันนะครับ อยู่คนละฝั่งของเกาะเซี้ยะเหมินเลย อ่อ .. ถ้าคิดง่าย ๆ เซี้ยะเหมินก็คือ เกาะ ใหญ่ ๆ เกาะหนึ่ง เหมือนภูเก็ตบ้านเรา แต่เค้าใหญ่กว่าเยอะมากครับ
ไม่เกิน 10 นาที ก็มาถึงท่าเรือเฟอรี่ของเมืองเซี้ยะเหมิน ตอนแรกตกใจมาก นึกว่าสนามบิน ใหญ่โต หรูหรา และคนเยอะมาก แถมระบบรักษาความปลอดภัยคือ แน่นหนามาก ผมมาถึง ก็รีบเดินไปช่องจำหน่ายตั๋วที่ยาวเรียงกันหลายช่อง โดยผมก็พยายามพูดภาษาอังกฤษกับพนักงาน ซึ่งน้องเค้าก็น่ารักนะครับ พยายามทำความเข้าใจและยิ้มให้ตลอด 55555
ตั่วขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามจากท่าเรือเซี้ยะเหมิน ไปเกาะเปียโน มี 2 ราคาครับ 50 หยวนไปกลับ และ 35 หยวนไปกลับ ผมไม่รู้ว่าเค้าเขียนว่าอะไร หรือความแตกต่างคืออะไร แต่อยากลองแบบ 50 หยวนดู เพราะคิดว่าต้องมีอะไร พิเศษแน่ ๆ ก็เลยจัดมาครับ
การซื้อตั๋วเรือข้ามฟากที่จีนนี้ ต้องใช้ passport ด้วยนะครับ สำหรับคนจีนเองนั้น เค้าต้องใช้ ID Card ในการซื้อเหมือนกัน ไม่สามารถเดินดุ่ม ๆ เข้ามาซื้อแบบบ้านเราได้นะครับ
มาเจอแผนที่ที่เค้าคงพยายามบอกอะไรสักอย่าง ซึ่งมีวง ๆ รวมมาถึงประเทศไทยด้วย คือ เดานะครับ เค้าคงมีเรือที่มาเมืองไทยได้ รึป่าว ? 5555 อันนี้ใครทราบ รบกวนบอกด้วยนะครับ
มาดูลิฟต์ที่นี่กันบ้างครับ .. มีปุ่มชั้นติดลบด้วย แปลกดีนะ !
ด้วยความที่ผมต้องนั่งรอเวลาขึ้นเรือประมาณ 1 ชั่วโมง และในท่าเรือไม่มีค่อยมีเก้าอี้ให้นั่งเท่าไหร่ ผมก็เลยอยากหาไรกินสักหน่อย ก็เลยหาทางลงมาที่ชั้นใต้ดินของท่าเรือ เพราะหวังว่าจะมีโรงอาหารแบบบ้านเรา สุดท้าย ..
การสั่งอาหารที่นี่ ไม่ต้องเข้าใจว่าอะไร เป็นอะไรเลยครับ จิ้มภาพอย่างเดียว ไม่ต้องพูดแม้แต่ภาษาอังกฤษ เพราะเค้าจะตอบกลับมาเป็นภาษาจีนเหมือนเดิม และนี่คือ เมนูทั้งหมดสำหรับเที่ยงนี้ที่ผมได้มาครับ ขอตั้งชื่อว่า ข้าวผัดกะหล่ำปลี และต้มยำกุ้งน้ำข้นละกันนะครับ และด้วยความหิว อร่อยมั้ย ไม่รู้ แต่หมดทุกอย่างเหมือนเดิม
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง นั่นก็คือ เวลาขึ้นเรือของผม แต่ดูแถวทางเดินขึ้นเรือนะครับ เห็นแล้วไม่อยากไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแถวไหลไปได้ไวมาก และไม่ต้องรอนาน ซึ่งจะสามารถมองออกไปเห็นวิวของทะเล และความร้อนระอุของแดด 34 องศาในวันนั้นได้ สวย แต่ร้อนนมาก แต่โชคดีที่ในอาคารแอร์เย็นฉ่ำ แต่ฉ่ำอยู่ได้แปปเดียว เลยจากจุดตรวจตั๋ว และ passport มาก็เป็นส่วนของนอกตัวอาคาร ที่ร้อนเหมือนเดิม และ กลับมาต่อคิวรอขึ้นเรือตามเดิมครับ T-T
ที่เห็นข้างล่างนี่คือ โป๊ะ สำหรับรอขึ้นเรือนะครับ เรือที่นี่ยังตรงเวลาเลย ทุกอย่างตรงเวลาหมด ! พอเรือเทียบโป๊ะ คนจีนก็แห่กันขึ้นเรือ เพราะกลัวจะไม่มีที่นั่ง ส่วนผมคนไทย ขอถ่ายรูปเล่นแปปนึงก่อน และที่เห็นอยู่ตรงหน้านั่น ไม่ใช่บ้าน หรือห้องแถวนะครับ นั่นคือเรือข้ามฟากที่จะพาเราไปเกาะเปียโน นั่นเองงงงง
เรือออกละครับ .. ภาพถ่ายจากบนเรือ เมื่อมองย้อนกลับไปที่ตัวเมืองเซี้ยะเหมินนะครับ อ่อ .. สำหรับคนไทย ที่ชอบความเย็น เรือเฟอรี่จะมีออฟชั่นพิเศษให้คือ ขึ้นเรือมาแล้ว ไม่มีที่นั่ง หรือไม่อยากตากลมร้อน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 15 หยวนเพื่อนั่งในห้องแอร์ เหมือนกับที่ผมนั่งอยู่นี้ ตอนนั้น อะไรก็ยอมแล้วครับ เพราะร้อนมากไม่ไหว แถมมีของฝาก ของที่ระลึกขายด้วย ไม่เกิน 30 นาที ก็มาถึงท่าเรือเกาะเปียโนครับ
รวมภาพบนเรือ จนถึงท่าเรือเกาะเปียโน