ที่เล่าเรื่อง ผู้ชายคนหนึ่ง กับ ผู้หญิงคนหนึ่ง ให้คุณ cnck ฟังในวันนี้
เพราะผมเห็นว่า คุณ cnck เป็นผู้ชายที่หวงแหนปกป้องเกียรติผู้หญิงที่สุดในโลกครับ
เลยเอามาเล่าสู่ฟัง
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
สมมุตินะครับ ว่า "ผู้ชายคนหนึ่ง" นี้ ชื่อว่า นายสมจักร
และ "ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่อเมริกา" ชื่อว่า bird (อยู่เมืองฝรั่ง ก็สมมุตินามให้เข้าบรรยากาศครับ)
การเล่าเรื่อง จะใช้นาม สมจักร และ bird นะครับ
คุณ bird นี่ รู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งครับ รู้สึกว่าจะชื่อกลุ่ม นอกกะลอ
เขารู้จักสนิทสนมกันมานาน ติดต่อพูดคุยกันทางเฟซบุค ทางไลน์ กันอยู่เสมอ
เพราะมีแนวคิดทางการเมืองเหมือน ๆ กัน
ตามยุคตามสมัย อยู่ไกลไม่ใช่อุปสรรค
นายสมจักร ไม่รู้อีท่าไหนล่ะครับ คนนอกกะลอหลงคารม เชื่อมาดทุ่มเงิน
เปิดทางให้นายสมจักรเข้าร่วมกลุ่ม
และพอดี ตอนนั้น คุณ bird เดินทางมาประเทศไทยพอดี
เลยได้พบปะพูดคุยกัน
หลงมาดทันทีแหละครับ ไม่หลงได้ไง ก็ขนาดคนกลุ่มนอกกะลอหลายสิบยังเคลิ้ม
ได้พบปะพูดคุยกับนายสมจักรสองครั้ง คุณ bird ประทับใจมากว์
หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณ bird ก็ได้รับทอสับจากนายสมจักร
ว่า เพื่อนเดือดร้อนเรื่องเงิน ขอยืมห้าหมื่นบาท สองวันจะส่งคืน
ตามสไตล์ อ้างเพื่อน โอนเข้าบัญชีเพื่อน เพราะตัวเองเป็น NPL ล้มละลายทางการเงิน ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้
คุณ bird ด้วยความศรัทธาหลงเชื่อ เห็นว่ามีปัญหา ก็เต็มใจช่วย
บัญชีเงินไทยของเธอมีไม่ถึงห้าหมื่น มีแค่หมื่นกว่าบาท เธอก็ยืมเพื่อนอีกสามหมื่นกว่า แล้วโอนไปให้นายสมจักรทันที
เรื่องนี้ เกือบหวานคอแร้งครับ หากคุณ bird เธอเกรงใจมากกว่านี้ แบบไม่กล้าทวง
ผ่านไปสองวัน ที่นายสมจักรบอกว่าจะคืนเงินที่ยืม แต่เงียบกริบ ไม่มีการติดต่อจากนายสมจักร
คุณ bird ก็คิดว่า คงมีปัญหาบางอย่าง ยังคืนไม่ได้ ก็ใจเย็นรอ
วันที่ 4 ก็ยังเงียบกริบ คุณ bird เลยโทรหานายสมจักร
คำตอบที่ได้รับคือ อ้าว นึกว่าเพื่อนโอนคืนให้ไปแล้ว งั้นจะไปเร่งเพื่อนให้ ไม่เกินพรุ่งนี้ได้คืนแน่
วันที่ 5 เงียบกริบ โทรตามอีก บอกว่าเพื่อนกำลังหาเงินโอนคืนให้ ถ้าเพื่อนไม่คืน จะรับผิดชอบคืนให้เอง
เชิงสูงมาก เหลี่ยมจัดคอด ๆ
วันที่ 6 ก็ยังเฉย คุณ bird ก็ทวงอีก บอกว่า ต้องคืนแล้วนะ เลื่อนไม่ได้นะ
เพราะจะกลับอเมริกาแล้ว
วันที่ 7 คุณ bird ได้เงินคืน ก่อนบินกลับอเมริกา
หากไม่จิก ไม่ทวง ก็หวานคอแร้ง
หลังจากนั้นไม่นานครับ
นายสมจักรติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตหาคุณ bird บอกว่าจะมีการจัดกิจกรรมทำบุญที่ภาคเหนือ
ชักชวนบริจาคไหมสักหมื่นสองหมื่น
คุณ bird ที่เริ่มไม่วางใจในพฤติกรรมในสมจักร บอกแบ่งรับแบ่งสู้ไป ยังไม่รับปาก
ไม่กี่วัน นายสมจักรส่งข้อความเซ้าซี้ไปอีก ว่าร่วมบริจาคหน่อยสิ
คุณ bird รำคาญ โอนเงินให้ห้าพันบาท จากที่ชวนบริจาคหมื่นสองหมื่น
หลังจากนั้น เงียบกริบ ไม่มีการติดต่อ ไม่มีการบอกเล่าเรื่องกิจกรรม
คุณ bird เลยติดต่อหาเพื่อน ๆ ทางเมืองไทย ถามว่ามีกิจกรรมอะไรไหม
คำตอบคือ ไม่มีกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าทางการเมือง ไม่ว่าทางการกุศล
คุณ bird ก็ได้แต่สงสัย ว่า ห้าพันบาทตูไปตกบุญที่ไหนหว่า ?
...........
นายสมจักรนี่ มาดเสี่ยนะครับ พกเงินเป็นฟ่อน เลี้ยงไม่อั้น จ่ายไม่ห่วง
คนเชื่อไปหมด ไม่รู้ว่ามันใช้วิธีแบบนี้แหละ
คือจากทางนั้น จากคนโน้น มาวางมาดกับทางนี้ มาทำใจกว้างกับคนนั้น
แล้วก็ยืมจากทางนี้ ไปใช้หนี้ทางโน้น วางมาดเสี่ยกับทางโน้น
มันถึงต้องเป็นคนวิ่งหาคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เข้าหาทั่วไปหมด เพื่ออาศัยเป็นแหล่งหมุนเงิน
หมุนวนไปแบบนี้แหละ
ยืมแหลก จ่ายคืนบ้าง ไม่จ่ายคืนเยอะ ใครทวงใครตามจิกก็ได้ ใครเฉยก็หวาน
บางคน ถึงวันนี้ ห้าหกหมื่น ไม่ตามทวง มันก็เฉย ไม่คืนเขาสักบาท สามปีแล้ว
เสี่ยใหญ่ แต่ห้าพันบาทยังลงทุนเสียชื่อไปหลอกเอา
ถ้านายสมจักรผ่านมาอ่านกระทู้นี้ ไม่ต้องมโนนะว่า ผมไปรู้มาจากคนนั้นคนนี้
เพราะผมรู้จากคุณ bird เองนั่นแหละ
ผมกับคุณ bird รู้จักกันตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 19 ก.ย. 49
ติดต่อพูดคุยกันทางอีเมล์เรื่อยมา
แบบนี้แหละครับ คือคนหลายคน เขารู้จักกัน ติดต่อกันมานาน
นายสมจักรโดดเข้าสู่วงสังคมการเมืองทีหลัง มาดใหญ่ แต่ไม่รู้ลึกรู้ตื้นอะไร
อาศัยมาดเสี่ยให้คนหลงเชื่อ หลงศรัทธา
นายสมจักรไม่ระแวง คิดว่าคนแต่ละคน คนแต่ละกลุ่มเขาไม่รู้จักติดต่อกัน
ก็ใช้วิธีโจร คือพูดดีทางนี้ ให้ร้ายทางโน้น พอพูดกับทางโน้น ก็ยกว่าดี ให้ร้ายทางนี้
ทีนี้ พอนายสมจักรมีพฤติกรรมแย่ ๆ คนเขาก็บอกต่อ ๆ กันไป
ก็คนเขารู้จักกันอยู่นี่
ไปพูดให้ร้ายใครบ้าง เขาก็บอกเล่าสู่กันฟัง
ไปมีพฤติกรรมลวงโลกยังไงบ้าง คนเขาก็บอกต่อ ๆ กันไป
เช่น โดนเตะออกจากกลุ่มนอกกะลอ เพราะไม่มีใครคบ
ยังเอาไปพูดให้คนอื่นเสียหายว่า ออกจากกลุ่มเพราะโดนฉกฉวยผลประโยชน์ ไม่รู้ผลประโยชน์อะไร หนีหนี้เขาอยู่แท้ ๆ
หรือทำอะไรทราม ๆ ที่มีคนรู้เห็นนับสิบ
นายสมจักรนี่ เวลาไปโม้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ยังโพสต์หน้าตาเฉยว่า ไม่เคยทำอะไรทราม ๆ
นายสมจักรมีพฤติกรรมสับปรับ พูดกับนั้นอย่างหนึ่ง พูดกับคนนี้อย่างหนึ่ง
เช่น ต่อหน้ากลุ่ม ก ก็กลุ่ม ก ดี กลุ่ม ข ไม่ดี ต่อหน้ากลุ่ม ข กลุ่ม ก ไม่ดี
พฤติกรรมแบบนี้ ก็เลยเป็นรู้กันไปหมดในแวดวงคนการเมือง
ไม่เท่านั้น นายสมจักรยังชอบหาช่องทางเข้าหาคนมีชื่อเสียง แล้วเอามาโม้ ว่าตัวเองกว้างขวาง รู้จักคนนนั้นรู้จักคนนี้ไปหมด
ไม่ว่าแวดวงการเมือง วิชาการ ทั้งที่ความจริง คนที่นายสมจักรอ้างถึงนั้น ไม่รู้จักนายสมจัรกสักคนเลย
ทุกวันนี้ นายสมจักรหมดสภาพแล้วครับ ไม่มีใครเขาเชื่อ ไม่มีใครอยากคบหาแล้ว
เขาพูดด้วย คบด้วยบ้างก็ตามมารยาท แต่มันไม่รู้ตัว ยังเที่ยวใช้วิธีการเดิม ๆ คือวางมาด พูดลับหลังคนนั้นคนนี้เหมือนเดิม
พยายามเข้าหาบุคคลทางการเมือง บุคคลทางธุรกิจ แต่ก็ครั้งเดียว ไม่มีเขาเปิดโอกาสให้ครั้งที่สอง
เพราะเขารู้ไส้หมดแล้ว ที่ให้เข้าพบครั้งเดียวนั้นก็แค่มารยาท แค่เกรงใจคนประสาน
วันนี้ เหลือแค่ "คนหย่อมหนึ่ง" แถว ๆ นี้แหละครับ ที่ยังหลงบูชาอยู่ เพราะไม่รู้อะไรสักอย่าง
ได้รับข้อมูลแหลแหลกจากนายสมจักรก็เชื่อหัวปักหัวปำ ประกอบกับมีหน้าม้าตัวสองตัวคอยเชียร์ผสมโรง เลยเชื่อกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
เจอมาดเสี่ย เจอมาดใจกว้าง มาดปกป้อง มาดน่าเชื่อถือ เคลิ้มจนโดนครอบกันไปหมด
ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ติดต่อกับคุณ bird
เธอบอกว่า คุณหล่อรู้จักนายสมจักรไหมคะ ผมตอบว่า ไม่รู้จักครับ
คุณ bird บอกว่า แล้วไป นึกว่าคุณหล่อรู้จัก
เพราะหากคุณหล่อรู้จัก อยากฝากบอกนายสมจักรว่า
เงินห้าพันน่ะ เอาไปเหอะ ไม่เอาคืนหรอก
เอาไปซื้อวิกใส่หัวซะ
เป็นเรื่องขำ ๆ ครับ เอามาเล่าสู่คุณ cnck ฟัง
เผื่อคุณ cnck รู้จักนายสมจักรคนนี้ จะได้ช่วยคุณ bird ปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
นะครับ
คุณ cnck ครับ ผมมีเรื่องผู้ชายคนหนึ่ง กับ ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่อเมริกา มาเล่าสู่ฟังครับ รับรองสนุกมากว์ครับ
เพราะผมเห็นว่า คุณ cnck เป็นผู้ชายที่หวงแหนปกป้องเกียรติผู้หญิงที่สุดในโลกครับ
เลยเอามาเล่าสู่ฟัง
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
สมมุตินะครับ ว่า "ผู้ชายคนหนึ่ง" นี้ ชื่อว่า นายสมจักร
และ "ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่อเมริกา" ชื่อว่า bird (อยู่เมืองฝรั่ง ก็สมมุตินามให้เข้าบรรยากาศครับ)
การเล่าเรื่อง จะใช้นาม สมจักร และ bird นะครับ
คุณ bird นี่ รู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งครับ รู้สึกว่าจะชื่อกลุ่ม นอกกะลอ
เขารู้จักสนิทสนมกันมานาน ติดต่อพูดคุยกันทางเฟซบุค ทางไลน์ กันอยู่เสมอ
เพราะมีแนวคิดทางการเมืองเหมือน ๆ กัน
ตามยุคตามสมัย อยู่ไกลไม่ใช่อุปสรรค
นายสมจักร ไม่รู้อีท่าไหนล่ะครับ คนนอกกะลอหลงคารม เชื่อมาดทุ่มเงิน
เปิดทางให้นายสมจักรเข้าร่วมกลุ่ม
และพอดี ตอนนั้น คุณ bird เดินทางมาประเทศไทยพอดี
เลยได้พบปะพูดคุยกัน
หลงมาดทันทีแหละครับ ไม่หลงได้ไง ก็ขนาดคนกลุ่มนอกกะลอหลายสิบยังเคลิ้ม
ได้พบปะพูดคุยกับนายสมจักรสองครั้ง คุณ bird ประทับใจมากว์
หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณ bird ก็ได้รับทอสับจากนายสมจักร
ว่า เพื่อนเดือดร้อนเรื่องเงิน ขอยืมห้าหมื่นบาท สองวันจะส่งคืน
ตามสไตล์ อ้างเพื่อน โอนเข้าบัญชีเพื่อน เพราะตัวเองเป็น NPL ล้มละลายทางการเงิน ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้
คุณ bird ด้วยความศรัทธาหลงเชื่อ เห็นว่ามีปัญหา ก็เต็มใจช่วย
บัญชีเงินไทยของเธอมีไม่ถึงห้าหมื่น มีแค่หมื่นกว่าบาท เธอก็ยืมเพื่อนอีกสามหมื่นกว่า แล้วโอนไปให้นายสมจักรทันที
เรื่องนี้ เกือบหวานคอแร้งครับ หากคุณ bird เธอเกรงใจมากกว่านี้ แบบไม่กล้าทวง
ผ่านไปสองวัน ที่นายสมจักรบอกว่าจะคืนเงินที่ยืม แต่เงียบกริบ ไม่มีการติดต่อจากนายสมจักร
คุณ bird ก็คิดว่า คงมีปัญหาบางอย่าง ยังคืนไม่ได้ ก็ใจเย็นรอ
วันที่ 4 ก็ยังเงียบกริบ คุณ bird เลยโทรหานายสมจักร
คำตอบที่ได้รับคือ อ้าว นึกว่าเพื่อนโอนคืนให้ไปแล้ว งั้นจะไปเร่งเพื่อนให้ ไม่เกินพรุ่งนี้ได้คืนแน่
วันที่ 5 เงียบกริบ โทรตามอีก บอกว่าเพื่อนกำลังหาเงินโอนคืนให้ ถ้าเพื่อนไม่คืน จะรับผิดชอบคืนให้เอง
เชิงสูงมาก เหลี่ยมจัดคอด ๆ
วันที่ 6 ก็ยังเฉย คุณ bird ก็ทวงอีก บอกว่า ต้องคืนแล้วนะ เลื่อนไม่ได้นะ
เพราะจะกลับอเมริกาแล้ว
วันที่ 7 คุณ bird ได้เงินคืน ก่อนบินกลับอเมริกา
หากไม่จิก ไม่ทวง ก็หวานคอแร้ง
หลังจากนั้นไม่นานครับ
นายสมจักรติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตหาคุณ bird บอกว่าจะมีการจัดกิจกรรมทำบุญที่ภาคเหนือ
ชักชวนบริจาคไหมสักหมื่นสองหมื่น
คุณ bird ที่เริ่มไม่วางใจในพฤติกรรมในสมจักร บอกแบ่งรับแบ่งสู้ไป ยังไม่รับปาก
ไม่กี่วัน นายสมจักรส่งข้อความเซ้าซี้ไปอีก ว่าร่วมบริจาคหน่อยสิ
คุณ bird รำคาญ โอนเงินให้ห้าพันบาท จากที่ชวนบริจาคหมื่นสองหมื่น
หลังจากนั้น เงียบกริบ ไม่มีการติดต่อ ไม่มีการบอกเล่าเรื่องกิจกรรม
คุณ bird เลยติดต่อหาเพื่อน ๆ ทางเมืองไทย ถามว่ามีกิจกรรมอะไรไหม
คำตอบคือ ไม่มีกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าทางการเมือง ไม่ว่าทางการกุศล
คุณ bird ก็ได้แต่สงสัย ว่า ห้าพันบาทตูไปตกบุญที่ไหนหว่า ?
...........
นายสมจักรนี่ มาดเสี่ยนะครับ พกเงินเป็นฟ่อน เลี้ยงไม่อั้น จ่ายไม่ห่วง
คนเชื่อไปหมด ไม่รู้ว่ามันใช้วิธีแบบนี้แหละ
คือจากทางนั้น จากคนโน้น มาวางมาดกับทางนี้ มาทำใจกว้างกับคนนั้น
แล้วก็ยืมจากทางนี้ ไปใช้หนี้ทางโน้น วางมาดเสี่ยกับทางโน้น
มันถึงต้องเป็นคนวิ่งหาคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เข้าหาทั่วไปหมด เพื่ออาศัยเป็นแหล่งหมุนเงิน
หมุนวนไปแบบนี้แหละ
ยืมแหลก จ่ายคืนบ้าง ไม่จ่ายคืนเยอะ ใครทวงใครตามจิกก็ได้ ใครเฉยก็หวาน
บางคน ถึงวันนี้ ห้าหกหมื่น ไม่ตามทวง มันก็เฉย ไม่คืนเขาสักบาท สามปีแล้ว
เสี่ยใหญ่ แต่ห้าพันบาทยังลงทุนเสียชื่อไปหลอกเอา
ถ้านายสมจักรผ่านมาอ่านกระทู้นี้ ไม่ต้องมโนนะว่า ผมไปรู้มาจากคนนั้นคนนี้
เพราะผมรู้จากคุณ bird เองนั่นแหละ
ผมกับคุณ bird รู้จักกันตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 19 ก.ย. 49
ติดต่อพูดคุยกันทางอีเมล์เรื่อยมา
แบบนี้แหละครับ คือคนหลายคน เขารู้จักกัน ติดต่อกันมานาน
นายสมจักรโดดเข้าสู่วงสังคมการเมืองทีหลัง มาดใหญ่ แต่ไม่รู้ลึกรู้ตื้นอะไร
อาศัยมาดเสี่ยให้คนหลงเชื่อ หลงศรัทธา
นายสมจักรไม่ระแวง คิดว่าคนแต่ละคน คนแต่ละกลุ่มเขาไม่รู้จักติดต่อกัน
ก็ใช้วิธีโจร คือพูดดีทางนี้ ให้ร้ายทางโน้น พอพูดกับทางโน้น ก็ยกว่าดี ให้ร้ายทางนี้
ทีนี้ พอนายสมจักรมีพฤติกรรมแย่ ๆ คนเขาก็บอกต่อ ๆ กันไป
ก็คนเขารู้จักกันอยู่นี่
ไปพูดให้ร้ายใครบ้าง เขาก็บอกเล่าสู่กันฟัง
ไปมีพฤติกรรมลวงโลกยังไงบ้าง คนเขาก็บอกต่อ ๆ กันไป
เช่น โดนเตะออกจากกลุ่มนอกกะลอ เพราะไม่มีใครคบ
ยังเอาไปพูดให้คนอื่นเสียหายว่า ออกจากกลุ่มเพราะโดนฉกฉวยผลประโยชน์ ไม่รู้ผลประโยชน์อะไร หนีหนี้เขาอยู่แท้ ๆ
หรือทำอะไรทราม ๆ ที่มีคนรู้เห็นนับสิบ
นายสมจักรนี่ เวลาไปโม้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ยังโพสต์หน้าตาเฉยว่า ไม่เคยทำอะไรทราม ๆ
นายสมจักรมีพฤติกรรมสับปรับ พูดกับนั้นอย่างหนึ่ง พูดกับคนนี้อย่างหนึ่ง
เช่น ต่อหน้ากลุ่ม ก ก็กลุ่ม ก ดี กลุ่ม ข ไม่ดี ต่อหน้ากลุ่ม ข กลุ่ม ก ไม่ดี
พฤติกรรมแบบนี้ ก็เลยเป็นรู้กันไปหมดในแวดวงคนการเมือง
ไม่เท่านั้น นายสมจักรยังชอบหาช่องทางเข้าหาคนมีชื่อเสียง แล้วเอามาโม้ ว่าตัวเองกว้างขวาง รู้จักคนนนั้นรู้จักคนนี้ไปหมด
ไม่ว่าแวดวงการเมือง วิชาการ ทั้งที่ความจริง คนที่นายสมจักรอ้างถึงนั้น ไม่รู้จักนายสมจัรกสักคนเลย
ทุกวันนี้ นายสมจักรหมดสภาพแล้วครับ ไม่มีใครเขาเชื่อ ไม่มีใครอยากคบหาแล้ว
เขาพูดด้วย คบด้วยบ้างก็ตามมารยาท แต่มันไม่รู้ตัว ยังเที่ยวใช้วิธีการเดิม ๆ คือวางมาด พูดลับหลังคนนั้นคนนี้เหมือนเดิม
พยายามเข้าหาบุคคลทางการเมือง บุคคลทางธุรกิจ แต่ก็ครั้งเดียว ไม่มีเขาเปิดโอกาสให้ครั้งที่สอง
เพราะเขารู้ไส้หมดแล้ว ที่ให้เข้าพบครั้งเดียวนั้นก็แค่มารยาท แค่เกรงใจคนประสาน
วันนี้ เหลือแค่ "คนหย่อมหนึ่ง" แถว ๆ นี้แหละครับ ที่ยังหลงบูชาอยู่ เพราะไม่รู้อะไรสักอย่าง
ได้รับข้อมูลแหลแหลกจากนายสมจักรก็เชื่อหัวปักหัวปำ ประกอบกับมีหน้าม้าตัวสองตัวคอยเชียร์ผสมโรง เลยเชื่อกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
เจอมาดเสี่ย เจอมาดใจกว้าง มาดปกป้อง มาดน่าเชื่อถือ เคลิ้มจนโดนครอบกันไปหมด
ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ติดต่อกับคุณ bird
เธอบอกว่า คุณหล่อรู้จักนายสมจักรไหมคะ ผมตอบว่า ไม่รู้จักครับ
คุณ bird บอกว่า แล้วไป นึกว่าคุณหล่อรู้จัก
เพราะหากคุณหล่อรู้จัก อยากฝากบอกนายสมจักรว่า
เงินห้าพันน่ะ เอาไปเหอะ ไม่เอาคืนหรอก
เอาไปซื้อวิกใส่หัวซะ
เป็นเรื่องขำ ๆ ครับ เอามาเล่าสู่คุณ cnck ฟัง
เผื่อคุณ cnck รู้จักนายสมจักรคนนี้ จะได้ช่วยคุณ bird ปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
นะครับ