อยากถามความเห็นว่า เทรนด์การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ๆในอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง
ระหว่างการเป็นเจ้าภาพประเทศเดียว กับการเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
อยากทราบด้วยว่า ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมนั้นมีประเด็นอะไรบ้างในการจัดการแข่งขัน (นอกเหนือจากการเข้ารอบลึกของเกาหลีใต้ที่มีข้อกังขาหลายประเด็น) ตอนนั้นยังเด็ก ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก โตมาเคยอ่านเจอเหมือนกันว่าการติดต่อประสานงานระหว่างฝ่ายจัดการแข่งขันของทั้งสองประเทศไม่ราบรื่นนัก ทำให้ฟีฟ่าอาจไม่ให้มีการเป็นเจ้าภาพร่วมอีก ชาติที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2018 คือเนเธอร์แลนด์กับเบลเยียม (เคยเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลยูโร 2000 มาแล้ว) กับสเปนและโปรตุเกส ก็ไม่ได้รับเลือก โดยรัสเซียเป็นฝ่ายได้สิทธิ์จัดการแข่งขันไป
แต่เหมือนเร็วๆนี้เหมือนฟีฟ่าจะอนุญาตให้แคนาดา, สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกันสำหรับปี 2026 แล้ว อีกชาติที่เสนอจัดคือโมร็อคโค โดยจะมีการมอบสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพในอนาคตต่อไป แล้วปี 2030 อุรุกวัย, ปารากวัย และอาร์เจนตินาก็เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกันด้วย
(ปี 2030 ครบรอบ 100 ปี การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ที่อุรุกวัยเป็นเจ้าภาพ และเป็นทีมชนะเลิศทีมแรก)
ระดับเอเชียมีครั้งเดียวที่เป็นเจ้าภาพร่วม คือ Asian Cup 2007 ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพร่วมกัน
เป็นครั้งที่น่าจะมีเจ้าภาพร่วมมากที่สุด (ตอนนั้นประมาณ ม.1 - ม.2 จำข่าวได้ว่าไทยเกือบไม่ได้จัดด้วย เพราะทาง AFC มาตรวจแล้วพบว่าเหมือนไม่พร้อม แต่ไทยก็พยายามปรับปรุงจนได้จัด)
ของฟุตบอลยูโรน่าจะมากที่สุดต่อไป คือปี 2020 จัดในหลายเมืองของยุโรปเลย ก่อนหน้านี้ปี 2000 เคยจัดที่เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ปี 2008 ที่สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย ปี 2012 ที่โปแลนด์และยูเครน
สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์ระดับภูมิภาค อย่าง AFF Suzuki Cup ช่วงหลังๆเหมือนเป็นเจ้าภาพร่วมอยู่แล้ว
คหสต. มองว่า เทรนด์น่าจะเป็นเจ้าภาพร่วมมากขึ้น เพื่อให้ประเทศเล็กถึงขนาดกลางมีโอกาสได้จัดบ้าง แต่ที่จริงถ้าเป็นไปได้ คิดว่าหลายประเทศก็อยากจัดเฉพาะที่ประเทศตัวเองเพียงประเทศเดียว เหมือนเป็นการแสดงถึงศักยภาพของประเทศไปในตัว
ใครมีความเห็นประการใดลองมาแสดงความเห็นกันดูครับ
เทรนด์การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการใหญ่ๆต่อไปจะเป็นอย่างไร
ระหว่างการเป็นเจ้าภาพประเทศเดียว กับการเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
อยากทราบด้วยว่า ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วมนั้นมีประเด็นอะไรบ้างในการจัดการแข่งขัน (นอกเหนือจากการเข้ารอบลึกของเกาหลีใต้ที่มีข้อกังขาหลายประเด็น) ตอนนั้นยังเด็ก ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก โตมาเคยอ่านเจอเหมือนกันว่าการติดต่อประสานงานระหว่างฝ่ายจัดการแข่งขันของทั้งสองประเทศไม่ราบรื่นนัก ทำให้ฟีฟ่าอาจไม่ให้มีการเป็นเจ้าภาพร่วมอีก ชาติที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมในปี 2018 คือเนเธอร์แลนด์กับเบลเยียม (เคยเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลยูโร 2000 มาแล้ว) กับสเปนและโปรตุเกส ก็ไม่ได้รับเลือก โดยรัสเซียเป็นฝ่ายได้สิทธิ์จัดการแข่งขันไป
แต่เหมือนเร็วๆนี้เหมือนฟีฟ่าจะอนุญาตให้แคนาดา, สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกันสำหรับปี 2026 แล้ว อีกชาติที่เสนอจัดคือโมร็อคโค โดยจะมีการมอบสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพในอนาคตต่อไป แล้วปี 2030 อุรุกวัย, ปารากวัย และอาร์เจนตินาก็เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกันด้วย
(ปี 2030 ครบรอบ 100 ปี การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ที่อุรุกวัยเป็นเจ้าภาพ และเป็นทีมชนะเลิศทีมแรก)
ระดับเอเชียมีครั้งเดียวที่เป็นเจ้าภาพร่วม คือ Asian Cup 2007 ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพร่วมกัน
เป็นครั้งที่น่าจะมีเจ้าภาพร่วมมากที่สุด (ตอนนั้นประมาณ ม.1 - ม.2 จำข่าวได้ว่าไทยเกือบไม่ได้จัดด้วย เพราะทาง AFC มาตรวจแล้วพบว่าเหมือนไม่พร้อม แต่ไทยก็พยายามปรับปรุงจนได้จัด)
ของฟุตบอลยูโรน่าจะมากที่สุดต่อไป คือปี 2020 จัดในหลายเมืองของยุโรปเลย ก่อนหน้านี้ปี 2000 เคยจัดที่เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ปี 2008 ที่สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย ปี 2012 ที่โปแลนด์และยูเครน
สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์ระดับภูมิภาค อย่าง AFF Suzuki Cup ช่วงหลังๆเหมือนเป็นเจ้าภาพร่วมอยู่แล้ว
คหสต. มองว่า เทรนด์น่าจะเป็นเจ้าภาพร่วมมากขึ้น เพื่อให้ประเทศเล็กถึงขนาดกลางมีโอกาสได้จัดบ้าง แต่ที่จริงถ้าเป็นไปได้ คิดว่าหลายประเทศก็อยากจัดเฉพาะที่ประเทศตัวเองเพียงประเทศเดียว เหมือนเป็นการแสดงถึงศักยภาพของประเทศไปในตัว
ใครมีความเห็นประการใดลองมาแสดงความเห็นกันดูครับ