ได้ดูกันยาวๆ ฟีฟ่าไฟเขียว World Cup 2026 กับ 48 ชาติ 104 นัด,โมร็อกโกเสนอเป็นเจ้าภาพ World Cup 2030 ร่วมกับสเปน,โปรตุเกส


ฟีฟ่า อนุมัติรูปแบบการแข่งขันใหม่ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2026 ที่จะเพิ่มจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม ซึ่งรูปแบบใหม่ จะมีการเพิ่มจำนวนการแข่งขัน เป็น 104 นัด ในรอบสุดท้ายสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แถลงการณ์ยืนยันว่า พวกเขาได้อนุมัติการแข่งขันรูปแบบใหม่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม

ทั้งนี้จะเพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีมเป็น 48 ทีม จะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 40 นัด และแผนดังกล่าวจะอนุมัติอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของ ฟีฟ่า ระหว่างวันที่ 13 - 17 มี.ค.นี้ (คาดว่าช่วงวันที่ 16 มี.ค.) ที่ประเทศรวันดา 

ฟีฟ่า เปิดเผยว่า รูปแบบการแข่งขันใหม่ในฟุตบอลโลก ในรอบแรกจะแบ่งเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และแชมป์กับรองแชมป์กลุ่ม และ 8 ทีมที่ได้อันดับ 3 ที่ดีที่สุดจะได้ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย

ส่งผลให้การแข่งขันจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 64 นัด เป็น 104 นัด เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 40 นัด ขณะเดียวกัน ฟีฟ่า ยังมีการจัดเตรียมช่วงเวลาพักผ่อนให้สมดุลระหว่างการแข่งขันของแต่ละทีม

ส่วนระยะเวลาใหม่ในการแข่งขันจะยาวนานถึง 39 วัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 32 ทีม จะใช้เวลาแข่งขันไม่ถึง 1 เดือน และนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.ปี 2026 โดยทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจะต้องลงเล่นทั้งหมด 8 นัด จากเดิม 32 ทีมจะต้องแข่งขันทั้งหมด 7 นัด

สกายสปอร์ต รายงานว่า การตัดสินใจเพิ่มจาก 64 นัด เป็น 104 นัด แทนที่จะเป็น 80 นัด ตามแผนเดิม จะทำให้ ฟีฟ่า มีรายได้เพิ่มตามเป้าหมายคือมากกว่า 9,000 ล้านปอนด์

Cr.Thai TBS


วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาจากการประชุมใหญ่ของฟีฟ่าที่รวันดา โมร็อกโกเตรียมเข้าร่วมกับสเปนและโปรตุเกสในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแทนที่ยูเครนที่เคยเสนอร่วมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว และถอนตัวเพราะปัญหาสงครามกลางเมืองที่ยังไม่ได้ยุติ ก่อนหน้าโมร็อกโกเคยเสนอเป็นเจ้าภาพเดี่ยว และเคบวางแผนเสนอร่วมกับแอลจีเรีย และตูนิเซีย 

ชากิบ เบนมูซา รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของโมร็อกโกเปิดเผยรายละเอียดของการเสนอราคาของประเทศในแอฟริกาเหนือเมื่อวันอังคาร โดยอ้างจดหมายจากกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งโมร็อกโก

“ผมขอประกาศว่าราชอาณาจักรโมร็อกโกได้ตัดสินใจร่วมกับสเปนและโปรตุเกส เพื่อเสนอการเสนอราคาร่วมกันเพื่อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2030” เขาอ่านจากจดหมาย อ้างอิงจากรอยเตอร์

ทั้งนี้การร่วมเป็นเจ้าภาพกับสเปนและโปรตุเกส เป็นรวมตัวของยุโรปและแอฟริกา และภูมิศาสตร์เดียวกันแถบทะเลเมติเตอร์เรเนียน เบนมูซาได้กล่าวอีกว่า  “มันยังจะดึงเอาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเราทุกคนออกมาด้วย ซึ่งเป็นผลจากการผสมผสานระหว่างอัจฉริยะ ความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์ และวิธีการ” และการประมูลว่า "เป็นประวัติการณ์ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล" ซึ่งก่อนหน้านั้นมี 2 กลุ่มที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพทั้งกลุ่มกรีซ ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ และกลุ่ม JUNTOS ประกอบไปด้วย อุรุกกวัย,อาร์เจนตินา,ปารากวัย และชิลี

รอดูกันต่อไปว่ากลุ่มไหนจะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในอีก 7 ปีข้างหน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่