สวัสดีค่ะ กระทู้ที่ 3 แล้ว ครั้งนี้ไปเที่ยวเชียงดาวกัน(อีก)ดีกว่าเนาะ ทริปนี้เกิดจากอยากไปฉลองวันเกิด แต่ดันเกิดตรงกับวันทำงาน เอ้า..งั้นก็ก่อนวันเกิดก็ได้ จัดปุยๆๆๆ จขกท. เพิ่งไปมาเมื่อ ส-อา ที่ผ่านมานี่เองค่ะ 18-19 พ.ย. 2560
***
อุปกรณ์ถ่ายรูปทริปนี้ Gopro hero 5, Iphone6 และ Canon 1110D รูปอาจไม่ค่อยสวยนะคะ ไม่ได้ใช้แอพใดๆในการแต่งภาพ ***
ถ้าพูดถึงเชียงดาว ที่พักที่หลายคนรู้จักก็จะมี ระเบียงดาว บ้านลีซู บ้านวิวดอยหลวง เป็นต้น แต่ครั้งนี้ จขกท. ไปพักที่พักที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน และสวยมากที่นึงเลยค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ จขกท. ไปโดยขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกันเองค่ะ เผื่อว่าอยากจะแวะที่ไหนจะได้แวะได้ เตรียมจัดกระเป๋าให้พร้อม ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว เพราะที่นั่นไม่มีให้นะคะ
ล้อหมุนประมาณ 7.30 น. ค่ะ ขับกันไปเรื่อยๆชิวๆ การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 107 นะคะ ตรงอย่างเดียว จะมีแค่ทางแยกที่จะไปวัดถ้ำเชียงดาวแค่นั้นเองค่ะ เป็นแยกสุดท้าย
เริ่มหิวแล้วค่ะ แวะพักรถและหาอะไรทานกันก่อนดีกว่า ร้านนี้เลยค่ะ "กาแฟฮิมน้ำ แก่งปันเต๊า" เปิดแต่เช้าตรู่ อาหารอร่อย วิวดีมาก
สดชื่นสุดๆ
อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อค่ะ ปู๊นๆ
บรรยากาศข้างทางค่ะ มีแวะถ่ายรูปวัดถ้ำเชียงดาวนิดหน่อยค่ะ
แวะถ่ายรูปที่วัดถ้ำเชียงดาวนิดหน่อยค่ะ แล้วเดินทางกันต่อ เส้นทางค่อนข้างชันนะคะ แต่ไม่ถือว่าลำบาก ทางลาดยางอย่างดี แต่เล็กนิดนึง
ต้องบีบแตรกันแทบทุกโค้งเลย ถ้าจะเอารถมอเตอร์ไซค์ขึ้นแนะนำ ccไม่ต่ำกว่า 125 นะคะ ของ จขกท. นี่ขึ้นได้สบาย
และแล้วก็มาถึงแล้วค่ะ มาทางเดียวกันกับบ้านระเบียงดาวเลยนะคะ ขับตรงมาจะมีป้ายบอกค่ะ จขกท. ไปถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ
โอ้โห..... แดดเปรี้ยงเลยค่ะ ร้อนมาก
พอจอดรถแล้วเดินลงมาจะเจอบ้านเจ้าของโฮมเสตย์อยู่ซ้ายมือด้านหลังบ้านหลังใหญ่ในรูปนะคะ ที่พักที่นี่ มี 2 หลัง หลังใหญ่ 5-7 คน.
หลังเล็กประมาณ 3 คนค่ะ มีเต้นท์ตอนนี้ 5 เต้นท์ค่ะ อยู่สวนดอกไม้ จขกท. ทริปนี้นอนเต้นท์ค่ะ ตามลูกศรสีแดงเลย
บรรยากาศหน้าเต้นท์ค่ะ
(มีคนแอบเข้าไปนอน ไม่ร้อนรึไง)
บรรยากาศเวลานอนมองออกมาจากในเต้นท์ มันช่างฟินดีเหลือเกิน
เริ่มร้อนค่ะ เลยตัดสินใจกันเดินออกมาเที่ยว ไปไหนดีล่ะ บ้านระเบียงดาวดีกว่า แต่พอไปถึง โอ้ววว ร้อนไม่ต่างกัน แต่ยังดีค่ะที่มีซุ้มให้นั่ง
มีกาแฟ มีอาหารขาย เลยแวะนั่งที่นี่กันสักหน่อย
เที่ยงแล้วค่ะ ไปหาอะไรทานดีกว่า เจอแล้ว....ร้านนี้ไม่รู้ชื่อร้านอะไรนะคะ แต่เป็นร้านเดียวกับร้านที่มีหมูกระทะฟรีน้ำดื่มค่ะ รสชาติก็พอทานได้
มาแล้วกะเพราหมู+ไข่ดาว กับข้าวผัดหมูไข่ดาวค่ะ มื้อนี้หมดไป 110 บาท อิ่มแปร้
อ๊ะๆๆๆ!!!!! มีข่าวดีมาแจ้ง ผู้ใดใช้เครือข่าย Dtac ดีใจด้วย เพราะร้านนี้ ยาวไปจนถึงบ้านสายหมอกโฮมสเตย์ มีสัญญาณ 3G คร่า
แรงด้วย ตอนแรกได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้นมานี่ ดีใจสุดๆ 555 ต่อค่ะๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ก็กลับที่พักดีกว่า นั่งหลบแดดกันอยู่หน้าเต้นท์ ที่นี่แดดแรงอากาศร้อน แต่ลมพัดมาเรื่อยๆเย็นสบายมากๆค่ะ ได้เวลาแดดร่มลมตก ประมาณสักบ่าย 3 ครึ่ง ก็ชวนกันไปเดินเล่นดีกว่า มีอะไรน่าสนใจมั่งน้า
เดินมาจนสุดทางจะเจอระเบียงยื่นออกไปทางดอยหลวงเป็นของบ้านไหนไม่รู้ค่ะ แต่ชาวบ้านเรียกให้เข้าไปถ่ายรูปได้ บอกว่าเข้าไปถ่ายได้ทุกหลังเลยนะ ใจดีจัง
ที่บ้านสายหมอกนี่มีเครื่องดื่มคลายหนาวไว้จำหน่ายด้วยนะ และแล้วสายตาก็ไปเจอกับไวน์ชนิดนึงขวดละ 150 พี่เขาก็แนะนำว่ามีอะไรบ้าง
"นี่เลยน้อง ไวน์ลูกหม่อน เหลือขวดเดียวแล้ว" แสดงว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ....จัดมาเล้ยยยย
กลับมาถึงที่พัก อากาสเริ่มเย็นแล้วค่ะ ที่นี่ห้องน้ำรวมจะอยู่บริเวณด้านบนนู่นเลยค่ะ ตรงบ้านเจ้าของโฮมสเตย์ค่ะ มี 2 ห้อง สะอาดดีค่ะ อย่างที่รู้ๆกันที่นี่ไม่น้ำอุ่นนะคะ กลัวหนาวก็กลัวแต่กลัวตัวเหม็นมากกว่า เอาหน่า แปบเดียว อาบโลดค่ะ
อาบน้ำเสร็จสักพัก อาหารก็มาส่งค่ะ กับข้าวก็อย่างที่ทุกรีวิวบอกมาค่ะ ข้าวสวย ไข่เจียว ผัดผัก ต้มจืดและน้ำพริกลีซูอันแสนอร่อย
(อร่อยจริงๆนะแต่ก็เผ็ดมากจริงๆ)
กับข้าวอร่อยมากค่ะ กับข้าวธรรมดา แต่ผักมันสด หวาน กรอบ ข้าวร้อนๆ กับข้าวหอมๆ มันดีต่อใจจริงๆ น้ำพริกนี่ถ้าหมดแล้วขอเพิ่มได้นะ จขกท. ขอมาแล้ว อิอิ
ทานข้าวเสร็จแล้ว ประมาณเกือบๆทุ่ม หมูจุ่มก็มาส่งค่ะ อยากทานหมูจุ่มบอกเจ้าของที่พักได้เลย เดี๋ยวเขาจัดการให้ อยากให้มากี่โมงบอกได้เลย เซ็ตนี้ราคา 199 ค่ะ ปริมาณก็พอดีกับ 2 คน (ที่ทานข้าวมาก่อนแล้ว) ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่ก็ทานได้ค่ะ
และที่ขาดไม่ได้
ไวน์ลูกหม่อน
ด้วยคำเคลมว่าเหลือขวดสุดท้ายเลยน้อง ปริมาณแอลกอฮอลล์ 10% ดื่มไปอึกแรก มันหวานมากกกกก กินไปจนจะหมดขวด ยังไม่ขึ้นเลยอ่ะ 555 เอาเหอะไม่ซีเรียส เรามาพักผ่อน ดื่มกินเอาบรรยากาศ
กิจกรรมช่วงฟ้ามืดไม่มีอะไรนอกจาก นอนค่ะ แต่ก็มีอีกกิจกรรมนึงก็คือดูดาวค่ะ อยากบอกว่าดาวที่นี่สวยมาก สวยที่สุดกว่าทุกที่ที่เคยดูมาเลย เหมือนอยู่ใกล้เราแค่เอื้อมเองค่ะ เข้าใจคำว่าอลังการดาวล้านดวงก็วันนี้แหละค่ะ เกิดมาก็เคยเห็นทางช้างเผือกก็วันนี้ มีกลุ่มดาวให้เราดูเพลินๆ มีดาวตกด้วยค่ะ จขกท. เห็นดาวตกล่าสุดก็ตั้งแต่เด็กๆแล้ว โรแมนติกมากๆค่ะ
บรรยากาศที่พักยามค่ำคืน
ตื่นมาก่อน 6 โมง หมอกมาแล้วค่ะ น้ำค้างก็ด้วย เปิดเต้นท์มานี่ ร่วงใส่หัวเต็มเลย 555 หมอกมาอยู่ข้างหน้าเราเลย สวยงามสมชื่อม่านหมอกโฮมสเตย์จริงๆ
เดินถ่ายไปเรื่อยๆค่ะ
อัพๆ ให้คนอื่นอิจฉาเล่น
ถ่ายจนพอใจ 7 โมงแล้วค่ะ เดินกลับที่พักดีกว่า เพราะเดี๋ยวเขาจะเอาข้าวเช้ามาให้ทานแล้ว มาถึงก็ยกมาพอดีค่ะ เหมือนเดิมกับรีวิวอื่นๆ มีข้าวต้ม
1 หม้อ ไข่ต้มตามจำนวนคน กาแฟ โอวัลติน น้ำร้อน และน้ำพริกลีซูค่ะ
ข้าวต้มร้อนๆ จิบโอวัลตินอุ่นๆท่ามกลางบรรยากาสเย็นๆ มีสายหมอกอยู่ตรงหน้า เป็นใครก็ต้องอิจฉาเรา อิอิ.
กินอิ่มนอนอุ่นกันยังไม่ทันจุใจก็ต้องถึงเวลาโบกมือลาแล้วค่ะ มีคำคม (ไม่ทราบท่านใดกล่าวไว้ว่า) หากใจเราสะอาด น้ำที่อาบก็ไม่จำเป็น 5555 น้ำตอนเช้านี่สู้ไม่ไหวจริงๆ ขอยอมแพ้เลยค่ะ เลยคุยกันว่าเดี๋ยวกลับไปอาบที่บ้านกันก็ได้ เก็บของ เช็คเอ้าท์ เสร็จแล้ว ล้อก็หมุนลงจากดอยค่ะ คนขับอยากไปดูวัดบ้านเด่น เขายังไม่เคยไป อ่ะไปก็ไป
แดดอีกแล้วค่ะ แดดร้อนจริงๆนี่ 9 โมงกว่าเองนะคะ คือร้อนมาก ไม่แน่ใจว่านี่ฤดูอะไร วัดสวยจริงอะไรจริงค่ะ รีบดูรีบถ่าย
ปิดท้ายทริปก่อนกลับ ด้วยการทำบุญทอดผ้าป่าสักหน่อย สาธุ
ขอลาการรีวิวไปเพียวเท่านี้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน หวังว่าอาจเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวบ้างนะคะ
ขอบคุณค่ะ
[CR] หนาวคิดถึงเขา เหงาคิดถึงหมอก @ม่านหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว
*** อุปกรณ์ถ่ายรูปทริปนี้ Gopro hero 5, Iphone6 และ Canon 1110D รูปอาจไม่ค่อยสวยนะคะ ไม่ได้ใช้แอพใดๆในการแต่งภาพ ***
ถ้าพูดถึงเชียงดาว ที่พักที่หลายคนรู้จักก็จะมี ระเบียงดาว บ้านลีซู บ้านวิวดอยหลวง เป็นต้น แต่ครั้งนี้ จขกท. ไปพักที่พักที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน และสวยมากที่นึงเลยค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ จขกท. ไปโดยขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกันเองค่ะ เผื่อว่าอยากจะแวะที่ไหนจะได้แวะได้ เตรียมจัดกระเป๋าให้พร้อม ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว เพราะที่นั่นไม่มีให้นะคะ
ล้อหมุนประมาณ 7.30 น. ค่ะ ขับกันไปเรื่อยๆชิวๆ การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 107 นะคะ ตรงอย่างเดียว จะมีแค่ทางแยกที่จะไปวัดถ้ำเชียงดาวแค่นั้นเองค่ะ เป็นแยกสุดท้าย
สดชื่นสุดๆ
บรรยากาศข้างทางค่ะ มีแวะถ่ายรูปวัดถ้ำเชียงดาวนิดหน่อยค่ะ
แวะถ่ายรูปที่วัดถ้ำเชียงดาวนิดหน่อยค่ะ แล้วเดินทางกันต่อ เส้นทางค่อนข้างชันนะคะ แต่ไม่ถือว่าลำบาก ทางลาดยางอย่างดี แต่เล็กนิดนึง
ต้องบีบแตรกันแทบทุกโค้งเลย ถ้าจะเอารถมอเตอร์ไซค์ขึ้นแนะนำ ccไม่ต่ำกว่า 125 นะคะ ของ จขกท. นี่ขึ้นได้สบาย
และแล้วก็มาถึงแล้วค่ะ มาทางเดียวกันกับบ้านระเบียงดาวเลยนะคะ ขับตรงมาจะมีป้ายบอกค่ะ จขกท. ไปถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ
โอ้โห..... แดดเปรี้ยงเลยค่ะ ร้อนมาก
พอจอดรถแล้วเดินลงมาจะเจอบ้านเจ้าของโฮมเสตย์อยู่ซ้ายมือด้านหลังบ้านหลังใหญ่ในรูปนะคะ ที่พักที่นี่ มี 2 หลัง หลังใหญ่ 5-7 คน.
หลังเล็กประมาณ 3 คนค่ะ มีเต้นท์ตอนนี้ 5 เต้นท์ค่ะ อยู่สวนดอกไม้ จขกท. ทริปนี้นอนเต้นท์ค่ะ ตามลูกศรสีแดงเลย
บรรยากาศหน้าเต้นท์ค่ะ
เริ่มร้อนค่ะ เลยตัดสินใจกันเดินออกมาเที่ยว ไปไหนดีล่ะ บ้านระเบียงดาวดีกว่า แต่พอไปถึง โอ้ววว ร้อนไม่ต่างกัน แต่ยังดีค่ะที่มีซุ้มให้นั่ง
มีกาแฟ มีอาหารขาย เลยแวะนั่งที่นี่กันสักหน่อย
เที่ยงแล้วค่ะ ไปหาอะไรทานดีกว่า เจอแล้ว....ร้านนี้ไม่รู้ชื่อร้านอะไรนะคะ แต่เป็นร้านเดียวกับร้านที่มีหมูกระทะฟรีน้ำดื่มค่ะ รสชาติก็พอทานได้
มาแล้วกะเพราหมู+ไข่ดาว กับข้าวผัดหมูไข่ดาวค่ะ มื้อนี้หมดไป 110 บาท อิ่มแปร้
อ๊ะๆๆๆ!!!!! มีข่าวดีมาแจ้ง ผู้ใดใช้เครือข่าย Dtac ดีใจด้วย เพราะร้านนี้ ยาวไปจนถึงบ้านสายหมอกโฮมสเตย์ มีสัญญาณ 3G คร่า
แรงด้วย ตอนแรกได้ยินเสียงไลน์ดังขึ้นมานี่ ดีใจสุดๆ 555 ต่อค่ะๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ก็กลับที่พักดีกว่า นั่งหลบแดดกันอยู่หน้าเต้นท์ ที่นี่แดดแรงอากาศร้อน แต่ลมพัดมาเรื่อยๆเย็นสบายมากๆค่ะ ได้เวลาแดดร่มลมตก ประมาณสักบ่าย 3 ครึ่ง ก็ชวนกันไปเดินเล่นดีกว่า มีอะไรน่าสนใจมั่งน้า
เดินมาจนสุดทางจะเจอระเบียงยื่นออกไปทางดอยหลวงเป็นของบ้านไหนไม่รู้ค่ะ แต่ชาวบ้านเรียกให้เข้าไปถ่ายรูปได้ บอกว่าเข้าไปถ่ายได้ทุกหลังเลยนะ ใจดีจัง
ที่บ้านสายหมอกนี่มีเครื่องดื่มคลายหนาวไว้จำหน่ายด้วยนะ และแล้วสายตาก็ไปเจอกับไวน์ชนิดนึงขวดละ 150 พี่เขาก็แนะนำว่ามีอะไรบ้าง
"นี่เลยน้อง ไวน์ลูกหม่อน เหลือขวดเดียวแล้ว" แสดงว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ....จัดมาเล้ยยยย
กลับมาถึงที่พัก อากาสเริ่มเย็นแล้วค่ะ ที่นี่ห้องน้ำรวมจะอยู่บริเวณด้านบนนู่นเลยค่ะ ตรงบ้านเจ้าของโฮมสเตย์ค่ะ มี 2 ห้อง สะอาดดีค่ะ อย่างที่รู้ๆกันที่นี่ไม่น้ำอุ่นนะคะ กลัวหนาวก็กลัวแต่กลัวตัวเหม็นมากกว่า เอาหน่า แปบเดียว อาบโลดค่ะ
อาบน้ำเสร็จสักพัก อาหารก็มาส่งค่ะ กับข้าวก็อย่างที่ทุกรีวิวบอกมาค่ะ ข้าวสวย ไข่เจียว ผัดผัก ต้มจืดและน้ำพริกลีซูอันแสนอร่อย
(อร่อยจริงๆนะแต่ก็เผ็ดมากจริงๆ)
ทานข้าวเสร็จแล้ว ประมาณเกือบๆทุ่ม หมูจุ่มก็มาส่งค่ะ อยากทานหมูจุ่มบอกเจ้าของที่พักได้เลย เดี๋ยวเขาจัดการให้ อยากให้มากี่โมงบอกได้เลย เซ็ตนี้ราคา 199 ค่ะ ปริมาณก็พอดีกับ 2 คน (ที่ทานข้าวมาก่อนแล้ว) ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่ก็ทานได้ค่ะ
และที่ขาดไม่ได้
กิจกรรมช่วงฟ้ามืดไม่มีอะไรนอกจาก นอนค่ะ แต่ก็มีอีกกิจกรรมนึงก็คือดูดาวค่ะ อยากบอกว่าดาวที่นี่สวยมาก สวยที่สุดกว่าทุกที่ที่เคยดูมาเลย เหมือนอยู่ใกล้เราแค่เอื้อมเองค่ะ เข้าใจคำว่าอลังการดาวล้านดวงก็วันนี้แหละค่ะ เกิดมาก็เคยเห็นทางช้างเผือกก็วันนี้ มีกลุ่มดาวให้เราดูเพลินๆ มีดาวตกด้วยค่ะ จขกท. เห็นดาวตกล่าสุดก็ตั้งแต่เด็กๆแล้ว โรแมนติกมากๆค่ะ
ตื่นมาก่อน 6 โมง หมอกมาแล้วค่ะ น้ำค้างก็ด้วย เปิดเต้นท์มานี่ ร่วงใส่หัวเต็มเลย 555 หมอกมาอยู่ข้างหน้าเราเลย สวยงามสมชื่อม่านหมอกโฮมสเตย์จริงๆ
เดินถ่ายไปเรื่อยๆค่ะ
อัพๆ ให้คนอื่นอิจฉาเล่น
ถ่ายจนพอใจ 7 โมงแล้วค่ะ เดินกลับที่พักดีกว่า เพราะเดี๋ยวเขาจะเอาข้าวเช้ามาให้ทานแล้ว มาถึงก็ยกมาพอดีค่ะ เหมือนเดิมกับรีวิวอื่นๆ มีข้าวต้ม
1 หม้อ ไข่ต้มตามจำนวนคน กาแฟ โอวัลติน น้ำร้อน และน้ำพริกลีซูค่ะ
กินอิ่มนอนอุ่นกันยังไม่ทันจุใจก็ต้องถึงเวลาโบกมือลาแล้วค่ะ มีคำคม (ไม่ทราบท่านใดกล่าวไว้ว่า) หากใจเราสะอาด น้ำที่อาบก็ไม่จำเป็น 5555 น้ำตอนเช้านี่สู้ไม่ไหวจริงๆ ขอยอมแพ้เลยค่ะ เลยคุยกันว่าเดี๋ยวกลับไปอาบที่บ้านกันก็ได้ เก็บของ เช็คเอ้าท์ เสร็จแล้ว ล้อก็หมุนลงจากดอยค่ะ คนขับอยากไปดูวัดบ้านเด่น เขายังไม่เคยไป อ่ะไปก็ไป
แดดอีกแล้วค่ะ แดดร้อนจริงๆนี่ 9 โมงกว่าเองนะคะ คือร้อนมาก ไม่แน่ใจว่านี่ฤดูอะไร วัดสวยจริงอะไรจริงค่ะ รีบดูรีบถ่าย
ปิดท้ายทริปก่อนกลับ ด้วยการทำบุญทอดผ้าป่าสักหน่อย สาธุ
ขอลาการรีวิวไปเพียวเท่านี้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน หวังว่าอาจเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวบ้างนะคะ