น้ำมะเขือเทศ Mocktail ตรา "ดอยคำ"
เคยสงสัยมั้ยครับ ว่าน้ำมะเขือเทศที่ใครหลายๆคนก็นิยมดื่มกันนั้น ผสมอะไรบ้าง?
ส่วนประกอบโดยประมาณก็คงดูรู้กันแล้วนะครับ มาดูส่วนของสารเติมแต่งที่น่าสนใจ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์กันเลย
Maltitol - เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล หวานประมาณ 75-90% ของน้ำตาลทรายปกติที่เราบริโภคกัน แต่ให้พลังงานแค่ครึ่งเดียว และไม่ทำให้ฟันผุ ................................... หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ใส่ไปเยอะๆ แทนน้ำตาลทรายใช่มั้ยครับ ก็เพราะว่า maltitol จะมี cooling effect หรือก็คือจะเย็นติดลิ้นเล็กน้อย และถ้าบริโภคในปริมาณมาก ก็จะทำให้ท้องเสียได้ ซึ่งในสินค้าตัวนี้อาจจะใส่เพื่อให้ความหวานเพิ่มขึ้น และปรับรสชาติให้ดีขึ้นนั่นเองครับ
Collagen - เป็นโปรตีนในกลุ่มโปรตีนเส้นใย ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คิดเป็นประมาน 25-35% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย และยังเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง และเป็นโครงสร้างในส่วนที่ยืดหยุ่นของร่างกาย มีหลายชนิดตามชนิดของกรดอะมิโน และการเรียงตัว ผมจะไม่ลงลึกในแต่ละชนิดละกันนะครับ ซึ่งร่างกายเราจะสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้จากกรดอะมิโน และต้องอาศัยวิตามินซีช่วยในการสังเคราะห์ ............................. ทีนี้ ทุกคนก็คงจะบอกว่า ก็ดีสิ กินเข้าไปจะได้เพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายได้เอาไปใช้ แต่เดี๋ยวก่อนครับ! มันก็คงจะดีจริงถ้าหากร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้เลย แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อเรากินเข้าไป ร่างกายของเราก็ต้องย่อยมันให้เป็นกรดอะมิโนก่อนอยู่ดีเช่นเดียวกับโปรตีนที่เรากินจากเนื้อสัตว์ ถั่ว และอื่นๆ จากนั้นถึงจะไปสังเคราะห์ให้เป็นโครงสร้างโปรตีนชนิดต่างๆอีกรอบอยู่ดี และกรดอะมิโนที่เรียงกันเป็นคอลลาเจนส่วนใหญ่นั้นเป็นกรดอะมิโนไม่จำเป็น ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้อยู่แล้วนั่นเองครับ กินเข้าไปมากเกินที่ร่างกายต้องการ ร่างกายก็ขับออกอยู่ดี.... สำหรับการใช้ปรุงอาหาร เมื่อคอลลาเจนโดนความร้อนก็จะเสียสภาพ เป็นเจลาติน (gelatin) ที่เรารู้จักนั่นเอง จะทำให้เพิ่มความหนืด และให้เนื้อสัมผัสเป็นเจลนิดๆ
Lycopene (ไลโคพีน) เป็นรงควัตถุ หรือก็คือสารที่มีสีชนิดหนึ่งที่มีสีแดง พบได้ในผัก และผลไม้ที่มีสีแดง หรือชมพู โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นสีผสมอาหารที่มาจากธรรมชาติ และมีสรรพคุณทางยา เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ใยอาหาร ก็ใยอาหารนั่นแหละครับ ช่วยในการขับถ่าย ซึ่งก็มีหลายตัวที่ใช้กันในอุตสาหกรรม ในผลิตภัณฑ์นี้เขาไม่ได้บอกว่าใช้ตัวไหน แต่ละตัวมีคุณสมบัติต่างกัน เมื่อเติมลงไปแล้ว อาจทำให้เนื้อสัมผัสข้นขึ้น หนืดขึ้น หรือมีลักษณะเป็นเจล บางตัวอาจไม่ทำให้เนื้อสัมผัสเปลี่ยน แล้วแต่ชนิด ในอุตสาหกรรมอาหารจึงมักเติมลงไปเพื่อ เพิ่มใยอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค หรือปรับเนื้อสัมผัสช่วยไม่ให้ตกตะกอน หรือทั้งสองอย่าง
[ใยอาหาร = ไฟเบอร์]
ไปดูฉลากกันบ้างดีกว่าครับ
ทีนี้เราก็มาดูฉลากโภชนาการกันเลย อย่างกล่องนี้ก็เขียนว่า 1 กล่องมี 1 หน่วยนะ แล้วก็ตามที่เขาระบุ ThaiRDI กำหนดความต้องการพลังงานของคนเราอยู่ที่ 2000 กิโลแคลต่อวัน กินขาดไปก็ไม่ดี กินเกินก็ต้องออกกำลังกาย ไม่งั้นก็จะอ้วนนะครับ สำหรับกล่องนี้ให้พลังงาน 100กิโลแคล เยอะมั้ยก็คิดเอาเองละกันนะครับ 5555555 บริโภคก็จะได้สารอาหารตามนี้ ผมคิดว่าหลายๆคนคงอาจจะยังสงสัย ว่าสารอาหารที่เขาระบุมาแล้วเทียบเป็น% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเป็นเท่านี้ แล้วจริงๆแล้วในแต่ละวันเราควรได้รับสารอาหารแต่ละตัวในปริมาณเท่าไหร่นั้น เราก็สามารถอ้างอิงจากได้ ThaiRDI ที่อยู่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 182 ตามลิงค์ข้างล่างนี้เลยนะครับ
http://food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/4-4-2ThaiRDI.pdf
[ThaiRDI = Thai Recommended Daily Intakes = สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวัน สำหรับคนไทย]
มาดูด้านหน้ากล่องกันครับ
เคลมว่า วิตามินเอ และซี สูงงงงงง ใยอาหาร ก็สูงงงงงงงงง หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่าสูงนี้เทียบกับอะไร และเท่าไหร่ถึงเรียกว่าสูง และแน่นอนก็ต้องเทียบกับ ThaiRDI ครับ ซึ่งวิตามินและเกลือแร่(ไม่รวมโซเดียม) ในการจะกล่าวอ้างว่าผลิตภัณฑ์มีวิตามินและเกลือแร่สูงได้นั้น ต้องมีวิตามินชนิดกล่าวอ้างในผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 15% ของThaiRDI ต่อปริมาณ 100 มล. ส่วนใยอาหาร ต้องไม่น้อยกว่า 3 กรัม ต่อพลังงาน 100 กิโลแคล นั่นเองครับ สามารถหาดูการกล่าวอ้างโภชนาการได้จากลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ
elib.fda.moph.go.th/library/fulltext1/word/12578/ประกาศ8-4.doc
พล่ามแต่ข้างกล่องตั้งนาน มาดูตัวตัวผลิตภัณฑ์กันเลยดีกว่า 5555
สีก็ออกจะแดงปนส้มนิดหน่อย จากที่เห็นก็จะสังเกตุได้ว่าที่ขอบแก้วเหมือนมีเม็ดๆติดอยู่ ขยับแก้วดูก็มีความหนืดเล็กน้อย กลิ่นไม่ได้แรงมากเหมือนน้ำมะเขือเทศ 100% และมีกลิ่นหวานๆเปรี้ยวๆ
พอดื่มเข้าไปก็เป็นรสแบบน้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้ รสมะเขือเทศก็จะนำโดดมาแต่ไม่ได้แรงมาก รสชาติโอเคกินอร่อยอยู่ ก็จะรู้สึกว่าเนื้อสัมผัสมันหนืดกว่าน้ำผลไม้ทั่วไปเล็กน้อย และก็มีเม็ดๆสากๆรู้สึกได้ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นไฟเบอร์ หรือใยอาหารที่เติมลงไปมากกว่าจะเป็นเนื้อมะเขือเทศหรือผลไม้ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ากินเพื่อสุขภาพก็กินได้อร่อยอยู่ แต่จะคาดหวังว่ารสจะอร่อยแบบน้ำผลไม้ทั่วไปเลยก็คงจะไม่ใช่ สำหรับผมให้ 8/10 ครับ
จบแล้ววครับ ผิดพลาดยังไงก็ติชมกํนได้ครับ
ยังไงถ้าชอบ อยากอ่านเพิ่มเติมบทความอื่นก็สามารถติดตามได้ที่เพจ
https://www.facebook.com/Nawagro
ขอบคุณครับ
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก
-
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0727/collagen-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99
-
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2755/lycopene
-
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1102/dietary-fiber-%E0%B9%83%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3
-
http://www.vcharkarn.com/varticle/42058
-
https://en.wikipedia.org/wiki/Maltitol
- elib.fda.moph.go.th/library/fulltext1/word/12578/ประกาศ8-4.doc
-
http://food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/4-4-2ThaiRDI.pdf
[CR] รีวิว ผลิตภัณฑ์สไตล์เด็กอก. น้ำมะเขือเทศ Mocktail ตรา "ดอยคำ"
เคยสงสัยมั้ยครับ ว่าน้ำมะเขือเทศที่ใครหลายๆคนก็นิยมดื่มกันนั้น ผสมอะไรบ้าง?
ส่วนประกอบโดยประมาณก็คงดูรู้กันแล้วนะครับ มาดูส่วนของสารเติมแต่งที่น่าสนใจ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์กันเลย
Maltitol - เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล หวานประมาณ 75-90% ของน้ำตาลทรายปกติที่เราบริโภคกัน แต่ให้พลังงานแค่ครึ่งเดียว และไม่ทำให้ฟันผุ ................................... หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ใส่ไปเยอะๆ แทนน้ำตาลทรายใช่มั้ยครับ ก็เพราะว่า maltitol จะมี cooling effect หรือก็คือจะเย็นติดลิ้นเล็กน้อย และถ้าบริโภคในปริมาณมาก ก็จะทำให้ท้องเสียได้ ซึ่งในสินค้าตัวนี้อาจจะใส่เพื่อให้ความหวานเพิ่มขึ้น และปรับรสชาติให้ดีขึ้นนั่นเองครับ
Collagen - เป็นโปรตีนในกลุ่มโปรตีนเส้นใย ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คิดเป็นประมาน 25-35% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย และยังเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง และเป็นโครงสร้างในส่วนที่ยืดหยุ่นของร่างกาย มีหลายชนิดตามชนิดของกรดอะมิโน และการเรียงตัว ผมจะไม่ลงลึกในแต่ละชนิดละกันนะครับ ซึ่งร่างกายเราจะสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้จากกรดอะมิโน และต้องอาศัยวิตามินซีช่วยในการสังเคราะห์ ............................. ทีนี้ ทุกคนก็คงจะบอกว่า ก็ดีสิ กินเข้าไปจะได้เพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายได้เอาไปใช้ แต่เดี๋ยวก่อนครับ! มันก็คงจะดีจริงถ้าหากร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้เลย แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อเรากินเข้าไป ร่างกายของเราก็ต้องย่อยมันให้เป็นกรดอะมิโนก่อนอยู่ดีเช่นเดียวกับโปรตีนที่เรากินจากเนื้อสัตว์ ถั่ว และอื่นๆ จากนั้นถึงจะไปสังเคราะห์ให้เป็นโครงสร้างโปรตีนชนิดต่างๆอีกรอบอยู่ดี และกรดอะมิโนที่เรียงกันเป็นคอลลาเจนส่วนใหญ่นั้นเป็นกรดอะมิโนไม่จำเป็น ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้อยู่แล้วนั่นเองครับ กินเข้าไปมากเกินที่ร่างกายต้องการ ร่างกายก็ขับออกอยู่ดี.... สำหรับการใช้ปรุงอาหาร เมื่อคอลลาเจนโดนความร้อนก็จะเสียสภาพ เป็นเจลาติน (gelatin) ที่เรารู้จักนั่นเอง จะทำให้เพิ่มความหนืด และให้เนื้อสัมผัสเป็นเจลนิดๆ
Lycopene (ไลโคพีน) เป็นรงควัตถุ หรือก็คือสารที่มีสีชนิดหนึ่งที่มีสีแดง พบได้ในผัก และผลไม้ที่มีสีแดง หรือชมพู โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นสีผสมอาหารที่มาจากธรรมชาติ และมีสรรพคุณทางยา เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ใยอาหาร ก็ใยอาหารนั่นแหละครับ ช่วยในการขับถ่าย ซึ่งก็มีหลายตัวที่ใช้กันในอุตสาหกรรม ในผลิตภัณฑ์นี้เขาไม่ได้บอกว่าใช้ตัวไหน แต่ละตัวมีคุณสมบัติต่างกัน เมื่อเติมลงไปแล้ว อาจทำให้เนื้อสัมผัสข้นขึ้น หนืดขึ้น หรือมีลักษณะเป็นเจล บางตัวอาจไม่ทำให้เนื้อสัมผัสเปลี่ยน แล้วแต่ชนิด ในอุตสาหกรรมอาหารจึงมักเติมลงไปเพื่อ เพิ่มใยอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค หรือปรับเนื้อสัมผัสช่วยไม่ให้ตกตะกอน หรือทั้งสองอย่าง
[ใยอาหาร = ไฟเบอร์]
ไปดูฉลากกันบ้างดีกว่าครับ
ทีนี้เราก็มาดูฉลากโภชนาการกันเลย อย่างกล่องนี้ก็เขียนว่า 1 กล่องมี 1 หน่วยนะ แล้วก็ตามที่เขาระบุ ThaiRDI กำหนดความต้องการพลังงานของคนเราอยู่ที่ 2000 กิโลแคลต่อวัน กินขาดไปก็ไม่ดี กินเกินก็ต้องออกกำลังกาย ไม่งั้นก็จะอ้วนนะครับ สำหรับกล่องนี้ให้พลังงาน 100กิโลแคล เยอะมั้ยก็คิดเอาเองละกันนะครับ 5555555 บริโภคก็จะได้สารอาหารตามนี้ ผมคิดว่าหลายๆคนคงอาจจะยังสงสัย ว่าสารอาหารที่เขาระบุมาแล้วเทียบเป็น% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเป็นเท่านี้ แล้วจริงๆแล้วในแต่ละวันเราควรได้รับสารอาหารแต่ละตัวในปริมาณเท่าไหร่นั้น เราก็สามารถอ้างอิงจากได้ ThaiRDI ที่อยู่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 182 ตามลิงค์ข้างล่างนี้เลยนะครับ
http://food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/4-4-2ThaiRDI.pdf
[ThaiRDI = Thai Recommended Daily Intakes = สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวัน สำหรับคนไทย]
มาดูด้านหน้ากล่องกันครับ
เคลมว่า วิตามินเอ และซี สูงงงงงง ใยอาหาร ก็สูงงงงงงงงง หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่าสูงนี้เทียบกับอะไร และเท่าไหร่ถึงเรียกว่าสูง และแน่นอนก็ต้องเทียบกับ ThaiRDI ครับ ซึ่งวิตามินและเกลือแร่(ไม่รวมโซเดียม) ในการจะกล่าวอ้างว่าผลิตภัณฑ์มีวิตามินและเกลือแร่สูงได้นั้น ต้องมีวิตามินชนิดกล่าวอ้างในผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 15% ของThaiRDI ต่อปริมาณ 100 มล. ส่วนใยอาหาร ต้องไม่น้อยกว่า 3 กรัม ต่อพลังงาน 100 กิโลแคล นั่นเองครับ สามารถหาดูการกล่าวอ้างโภชนาการได้จากลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ
elib.fda.moph.go.th/library/fulltext1/word/12578/ประกาศ8-4.doc
พล่ามแต่ข้างกล่องตั้งนาน มาดูตัวตัวผลิตภัณฑ์กันเลยดีกว่า 5555
สีก็ออกจะแดงปนส้มนิดหน่อย จากที่เห็นก็จะสังเกตุได้ว่าที่ขอบแก้วเหมือนมีเม็ดๆติดอยู่ ขยับแก้วดูก็มีความหนืดเล็กน้อย กลิ่นไม่ได้แรงมากเหมือนน้ำมะเขือเทศ 100% และมีกลิ่นหวานๆเปรี้ยวๆ
พอดื่มเข้าไปก็เป็นรสแบบน้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้ รสมะเขือเทศก็จะนำโดดมาแต่ไม่ได้แรงมาก รสชาติโอเคกินอร่อยอยู่ ก็จะรู้สึกว่าเนื้อสัมผัสมันหนืดกว่าน้ำผลไม้ทั่วไปเล็กน้อย และก็มีเม็ดๆสากๆรู้สึกได้ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นไฟเบอร์ หรือใยอาหารที่เติมลงไปมากกว่าจะเป็นเนื้อมะเขือเทศหรือผลไม้ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ากินเพื่อสุขภาพก็กินได้อร่อยอยู่ แต่จะคาดหวังว่ารสจะอร่อยแบบน้ำผลไม้ทั่วไปเลยก็คงจะไม่ใช่ สำหรับผมให้ 8/10 ครับ
จบแล้ววครับ ผิดพลาดยังไงก็ติชมกํนได้ครับ
ยังไงถ้าชอบ อยากอ่านเพิ่มเติมบทความอื่นก็สามารถติดตามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/Nawagro
ขอบคุณครับ
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก
- http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0727/collagen-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99
- http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2755/lycopene
- http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1102/dietary-fiber-%E0%B9%83%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3
- http://www.vcharkarn.com/varticle/42058
- https://en.wikipedia.org/wiki/Maltitol
- elib.fda.moph.go.th/library/fulltext1/word/12578/ประกาศ8-4.doc
- http://food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/4-4-2ThaiRDI.pdf