ของป้องกันตัว

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอเขียนเรื่องราว ที่เราพบเจอมาให้อ่านกันนะคะ มันเป็นประสบการณ์ที่อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวสักเท่าไหร่ แต่มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกอย่างนึงสำหรับเราค่ะ

เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปช่วยงานรุ่นพี่ที่ชลบุรี ซึ่งก่อนหน้าจะไป พี่เค้าบอกว่ามีห้องพักให้พัก อยู่ช่วยงานเค้าเกือบๆเดือน แต่ตอนที่ช่วย ก็ไม่ได้ช้วยฟรีนะคะ มีค่าแรงให้
เราไปถึงวันแรก ที่ห้อง เปิดประตูเข้าไปมีเตียงนอนอยู่ขวามือ มีตู้เสื้อผ้าตรงกับประตูทางเข้า แล้วก็ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง
เราก็เอาเสื้อผ้าไปเก็บในตู้ เราเอาผ้าปูที่นอนมาเอง ก็เอาผ้าปูที่นอนมาปูที่เตียง บนหัวเตียง จะมีลิ้นชักอยู่ทางซ้ายและก็ขวา เราเลือกที่จะนอนทางด้านขวาของเตียง เพื่อจะได้นอนติดหน้าต่าง คืนแรกเรานอนไม่ได้สวดมนต์ เพราะเหนื่อยจากการนั่งรถ พอหลับไปก็ฝัน ฝันว่านอนอยู่บนเตียงเนี่ยแหละ แล้วก็รู้สึกเจ็บๆหัว ในฝันก็เลยแหงนหน้าดูบนหัวเตียง ก็เห็นเด็กผู้ชาย นั่งกระตุกผมเราอยู่ เราก็ตกใจสะดุ้งตื่น
สะดุ้งตื่นมาก็มองดูเวลาที่โทรศัพท์ เป็นเวลาตี5กว่าๆแล้ว เราก็เลยตื่นเลย ไม่นอนต่อและ
แต่เราก็ไม่ได้เอะใจกับฝันเมื่อคืนนะ แต่คิดว่าเราคงไม่ได้สวดมนต์ก่อนหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้
ตอนเช้าก็ไปช่วยงานปกติ แถวๆที่ทำงานก็จะมีวัดอยู่วัดนึง ที่คนแถวนี้เค้าศรัธทา วันแรกทำงานไปปกติ ก่อนจะกลับมาขึ้นห้องในตอนเย็น เจ้าของหอพัก เดินมาหาเรา ถามเราว่าเป็นไง นอนสบายมั้ยเมื่อคืน ปกติดีมั้ย
เราก็ไม่ได้เล่าความฝันให้ฟังนะ เราก็เลยบอกไปว่าปกติดีนะเจ๊ มีไรป่ะคะ เจ๊แกก็บอกเราว่า ห้องที่เราอยู่หนะ ก่อนที่เราจะมา เคยมีคนอยู่มาก่อน แล้วเค้าก็ย้ายออกไปไม่กี่วันก่อนที่เราจะย้ายมานะ ลองดูสำรวจหรือยัง เผื่อเค้ามีลืมของอะไรไว้หรือเปล่า
เราก็ตอบไปว่า ค่ะ เดี๋ยวจะดูนะคะ
ใจเราคิดอะว่า เจ๊แกก็เป็นเจ้าของหอ ตอนที่มีคนย้ายออกทำไมไม่มาดูเองตั้งแต่เค้าย้ายออกวะ แม่บ้านก็มี ทำไมไม่ให้แม่บ้านดูวะ เรางงในงง แต่ก็ช่างมัน
เย็นนั้นเราก็เลยสำรวจดูเลยว่ามีของอะไรตกค้างมั้ย เปิดตู้เสื้อผ้าดูก็ไม่มี ดูทุกที่ก็ไม่มี จนมานั่งบนเตียง แล้วนึกถึงความฝันเมื่อคืน เลยเปิดลิ้นชักตรงหัวเตียงดู
เปิดมา เราเจอรูปปั้นเหมือนปั้นด้วยดินเหนียว เป็นรูป้ด็กผู้ชายแก้ผ้า นั่งกอดเข่า แล้วก็มีพวงกุญแจ ในพวงกุญแจมีเบี้ยแก้และก็ลิงกอดปลัดขิก ไอพวงกุญแจหน่ะ เราไม่กลัวหลอก แต่เรากลัวหุ่นเด็กมากกว่า แต่ก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ เพราะเราก็เลี้ยงกุมารไว้องค์นึงเหมือนกัน ตอนที่เราเจอตอนนั้นมันเย็นแล้วไง ก็ไม่รู้จะเอาไง ก็เลยใส่ไว้หัวเตียงเหมือนเดิม
แล้วเราก็พูดกับกุมารของเรานะ กุมารเราชื่อปอเปี๊ยะ เราก็บอกว่า ปอเปี๊ยะลูก คืนนี้ช่วยคุ้มกันแม่ด้วยนะลูก อย่าให้มีอะไรมากวนนะ
คืนนั้นก็อาบน้ำนอนตามปกติ แต่ก็ยังฝันอีก ทีนี้ฝันว่า เด็กผู้ชายคนเมื่อคืน มานอนอยู่ข้างๆเราแล้วก็มาสะกิดแขนเรา บอกเราว่า หนูไม่มีคนดูแลแล้ว หนูขอไปอยู่ด้วยได้มั้ย ในฝันเราไม่ตอบอะไร แล้วก็ทำเป็นหลับต่อ ก็เลยไม่มีไรเกิดขึ้น พอเช้ามา วันนี้มันเป็นวันหวยออก เราก็นึกถึงฝันเมื่อคืนได้ เราหยิบหุ่นเด็กขึ้นมา แล้วก็พูดว่า ถ้าอยากอยู่ด้วย วันนี้เธอก็ทำให้เราถูกหวยสิ พูดกับหุ่นนั้นเสร็จ ประตูห่องน้ำที่มันอยู่ข้างหลังห้อง มันก็ปิดเองดังปัง สะดุ้งนิดนึงนะ
สักพักเราก็พูดกับปอเปี๊ยะว่า ปอเปี๊ยะลูกจ๋า หนูอยากมีเพื่อนมั้ย มีเด็กอีกคนมาขออยู่กับแม่ด้วย ถ้าหนูอยากมีเพื่อนหนูก็ไปคุยกับเด็กคนนั้นนะลูก ว่าจะให้อยู่เป็นเพื่อนด้วยมั้ย
พอตอนหวยออก ปรากฏว่าเราก็ไม่ถูกหวย ใจนึงก็โล่งใจที่จะได้มีแค่ปอเปี๊ยะองค์เดียว อีกใจนึงก็คิดหนักนะว่า จะเอาไงดีกับรูปปั้นนั้น
พอกลับห้องไป ก็ทำได้แค่หยิบรูปปั้นนั้นขึ้นมาดู แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร คืนนี้เป็นคืนที่3ที่เรานอนที่นี่
คืนนี้ไม่ฝันนะคะ แต่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้มาจากหัวเตียง ตอนนอนเราปิดไฟหมดทั้งห้องนะคะ แต่มันก็จะมีแสงไฟจากระเบียงทางเดินหน้าห้องสาดแสงเข้ามา
นี่ไม่ได้ฝันนะ เราแหงนหน้ามองขึ้นไป เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กมากเลย ตัวใหญ่กว่าแก้วน้ำเมเจอร์นิดนึงอะคะ นั่งกอดเข่าแล้วก็ร้องไห้อยู่
เรานี่โดดตัวออกจากที่นอนแทบไม่ทัน ถึงเราจะไม่ค่อยกลัวผีมากเท่าไหร่ แต่เห็นแบบนี้ใครก็ตกใจนะ ที่ตัวเรามีกุญแจของออฟฟิศอยู่ คืนนั้นเลยหอบหมอนกับผ้าห่มไปนอนที่ออฟฟิศเลย
เช้ามาเป็นวันหยุด แต่ในออฟฟิศจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ พี่เราเค้าดูกล้อง เค้าเลยโทรมาถามว่า ทำไมมานอนที่ออฟฟิศ เราเลยเล่าเรื่องเมื่อคืนให้พี่ฟัง เค้าก็แนะนำให้เราเอาของพวกนั้นไปหาเจ๊เจ้าของหอ เราก็ไปอาบน้ำแต่งตัวแบบรีบๆ ขนาดตอนเช้าแล้วนะ ยังหลอนเลย
ทำไรเสร็จ ก็หยิบของพวกนั้นลงมาให้เจ๊ดู เจ๊แกก็ถามว่า อะไรหรอ เอามาให้เจ๊ทำไม เราก็บอกว่า ก็ของที่เจ้าของเก่าเค้าลืมไว้ไงเจ๊ เจ๊แกก็ตอบกลับมา
แบบน่าหาไรตบปากจริงๆ แกบอกว่า มันไม่ใช่ของเจ๊ ถ้าไม่อยากเอาไว้ก็ไปคืนเจ้าของเค้าเองสิ
เอ้า! แล้วเราเพิ่งมาอยู่เนี่ย แล้วก็อยู่ไม่ถึงเดือนด้วย แล้วเราจะรู้มั้ยว่าคนก่อนหน้าเราเนี่ยมันเป็นใครอยู่ที่ไหน
เราเลยต้องถามเจ๊แกอีกว่า แล้วคนเก่าเค้าเป็นใครหละ เค้าย้ายไปอยู่ไหนแล้ว
อีเจ๊ก็บอกว่า เจ๊เป็นเจ้าของหอ มีหน้าที่แค่ดูแลหอ เก็บค่าเช่า ไม่ได้มีหน้าที่ต้องรู้ว่าคนเช่าจะย้ายไปไหน
จ้าาาาาาา เราโมโหอยู่นะ แต่ก็ไม่ตอบโต้อะไร
เราเลยต้องไปถามคนข้างห้องว่า คนเก่าเนี่ยพี่รู้จักมั้ย คนข้างห้องก็บอกแค่ว่าเค้าเป็นผู้ชายทำงานปกตินะ แต่ชอบเอาผู้หญิงมานอน อาทิตย์นึงนี่ไม่ซ้ำหน้าเลย
เรามีข้อมูลแค่นี่ เราก็เออช่างมัน บ่ายๆวันนั้น เราก็เอารถที่ทำงานขับไปที่วัดที่เราบอกตั้งแต่ต้น เป็นวัดที่คนแถวนี้เค้าศรัธทากัน แล้วก็เอารูปปั้นแล้วก็พวงกุญแจติดตัวไปด้วย ตอนเข้าไปวัดก็ไปจอดรถปกติ ตอนเดินจะเข้าไปไหว้พระในโบสถ์เนี่ย หมามาจากไหนไม่รู้สิบกว่าตัวเลย วิ่งมาทางเราแต่ไม่กัดนะ มันหอนกันเกรียวเลย นี่ขนาดกลางวันนะ
เรานี่รู้สึกขนลุกเลย เดินเข้าไปในโบสถ์เจอพระรูปนึง พระท่านถามว่า มีทุกข์มาหรอโยม เราก็พูดกับหลวงพ่อว่า ก็ไม่เชิงทุกข์นะคะหลวงพ่อ แต่แค่หนูมีไอพวกนี้มาด้วยค่ะ เราก็หยิบรูปปันแล้วก็พวงกุญแจให้ท่านดู  ท่านก็บอกเราว่า โยมคิดว่าถ้ามันอยู่กับโยม โยมจะให้เค้าอยู่ด้วยได้มั้ย เราก็บอกเลยว่า หนูมีแค่กุมารองค์เดียวพอแล้ว หนูไม่อยากได้อะไรมาอยู่เพิ่มแล้วค่ะ หลวงพ่อก็หัวเราะ บอกเราว่า เห้องั้นเอางี้ เอามาไว้ที่วัดแล้วกัน ให้มาอยู่ตรงโคนต้นไม้ของวัดแล้วกัน พระท่านก็เดินนำเราไป เราเดินตามไปตรงโคนต้นไม่ต้นนึง พระท่านบอกว่า ให้บอกกับสิ่งนี้ว่า เรากับเค้าไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ตอนนี้ขอฝากเธอไว้กับต้นไม้ต้นนี้ ที่อยู่ที่วัดนี้ แล้วก็อย่าตามกลับไปนะ พอเราวางเสร็จ หมาก็หอนกันเสียงดังเลย พระท่านบอกว่า ตอนก่อนออกจากประตูวัดก็พูดด้วยนะว่า เราเอาเธอมาอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องตามกลับไปนะ เดี๋ยวจะทำบุญให้ เราก็ทำตามที่พระท่านบอกค่ะ
จนเช้าวันจันทร์ เราก็ไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่หัวหน้าช่างคนนึงฟัง แกบอกว่าแกรู้จักกับเจ้าของห้องเก่านี้แหละ แกก็เล่าให้ฟังว่า ตอนที่มันอยู่ห้องนี้มันชอบเอาเมียชาวบ้านเค้ามานอนด้วย แล้วเคยมีเรื่องโดนกระทืบเกือบตาย แถมผัวของผู้หญิงที่เคยเอามานอนด้วยยังทำของใส่มันอีก มันก็เลยต้องไปหาของมาป้องกันตัวแหละมั้ง น่าจะประมาณนี้แหละเท่าที่พี่รู้มานะ
เราก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นประมาณนั้นนะ น่าจะมีของพวกนี้ไว้อยู่ด้วย
แล้วพอเราเอาของพวกนั้นไปไว้วัด คืนนั้นและคืนต่อๆมาจนถึงวันกลับ ก็หลับสบายตลอด
***เรามาเขียนให้อ่านนะคะ***
***เป็นความเชื่อ แล้วแต่บุคคล***
***เราไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อนะคะ***
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่