เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อของหนูเค้าไปมีเมียน้อยค่ะ แต่ว่าก็ยังไม่เคยจับกันได้แบบคาหนังคาเขาสักที สาเหตุที่ทำให้รู้ว่าเค้ามีเมียน้อยนั้นก็เกิดจากการที่ตัวเมียน้อยเองพยายามที่จะมาก่อกวนแม่ของหนู โดยการทั้งโทรแล้วก็ส่งข้อความมาข่มขู่ แม่ของหนูก็ตัดปัญหาโดยการไปแจ้งตำรวจค่ะ ซึ่งมันก็ทำให้เค้าเลิกก่อกวนไปได้สักระยะหนึ่ง พอเรื่องมันแดงขึ้นมาว่าพ่อเค้ามีเมียน้อย เค้าก็บอกว่าเค้าจะไปเลิกและเค้าก็บอกว่าเค้าจะเลิกแน่ๆ แต่หนูกับแม่ก็ยังไม่ได้สบายใจหรอกค่ะ
มีเรื่องนึงที่น่าตกใจคือหนูกับแม่เพิ่งจะมารู้กันภายหลังว่าก่อนที่เค้าจะเข้ามาก่อกวนแบบตรงๆเนี่ย เค้าเคยแอดมาเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คกับตัวหนู แม่และก็น้องด้วย ซึ่งมันก็เป็นระยะเวลานานมากแล้วก่อนที่เค้าจะมาเปิดเผยให้รู้ถึงตัวตนของเค้าเสียอีก นั่นก็ทำให้เป็นจุดที่น่าสนใจว่าพ่อกับผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์กันมากี่ปีแล้วกันแน่ เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ก็มีลูกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็น่าจะอายุราวๆ 4-6 ขวบ แม่กับหนูก็สงสัยว่าหรือเด็กคนนี้จะเป็นลูกของพ่อ เราไปถามพ่อกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเค้าก็บอกว่าไม่ใช่
ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้ว่าเชื่อพ่อมั้ยใจมันก็เอียงไปทางที่ไม่เชื่อเสียมากกว่า เพราะว่าคนเราถ้ามันไม่มีอะไรที่เป็นข้อผูกมัดกัน ถ้าบอกว่าเลิกกันจริงๆทำไมตัวผู้หญิงถึงยังต้องมาคอยวนเวียนก่อกวน ตามส่องครอบครัวของหนูอยู่ เพราะว่าเวลาแม่ของหนูโพสอะไรในเฟสบุ๊ค ผู้หญิงคนนี้ก็จะขึ้นสเตตัสเหมือนกับค่อนแคะแม่ พอแม่ไปถามพ่อเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้ทำไมต้องคอยตามส่องแล้วก็โพสแขวะแม่ด้วย เค้าก็จะบอกว่าไม่รู้ เลิกกันแล้ว อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนี้อีก และมันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ
แต่ตอนนี้ที่เปลี่ยนไปคือพ่อ จากที่เคยเอาแต่ปฎิเสธอย่างเดียว ตอนนี้เค้ากลับโมโห ทำลายข้าวของ ทำร้ายแม่ เวลาทะเลาะกันทีหนูก็สงสารแม่เหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าถามว่าเราผิดมั้ยที่ไปเก็บเอาเรื่องของผู้หญิงคนนั้นมาใส่ใจและไปคอยตามส่อง ก็ผิดแหละค่ะ แต่ด้วยนิสัยของผู้หญิงอ่ะเนาะมันก็ไม่แปลกหรอกที่จะระแวง บวกกับการทำตัวน่าสงสัยของพ่อด้วยที่หวงโทรศัพท์มากแถมยังมีโทรศัพท์อีกเครื่องนึงซ่อนไว้ในรถอีก พอแม่จับได้เค้าก็จะทะเลาะกันบ้านแตกทุกที และแม่ก็จะถูกทำร้ายตลอด แม่เคยถามหนูกับน้องนะว่าถ้าแม่จะขอหย่าได้มั้ย หนูกับน้องก็โอเคไม่ขัดข้อง เพราะไม่อยากเห็นแม่ต้องเจ็บอีก แต่พ่อเค้าไม่ยอมหย่าขนาดแม่ไปรอที่อำเภอเค้าก็ไม่ยอมไป
ตอนที่ดีๆคือพ่อเค้าก็ดีมากแหละค่ะ เค้ายอมหนูกับแม่ทุกอย่าง มันมาเสียเรื่องเดียวก็คือผู้หญิงคนนี้คนเดียวจริงๆ แต่ว่าเค้าโมโหคือน่ากลัวมากจริงๆ บางทีเค้าก็ตีอกชกตัวเองด้วย หนูอยากจะพาเค้าไปพบจิตแพทย์เหลือเกิน เพราะใจหนูตอนนี้คิดว่าเค้าอาจจะเป็นไบโพล่า พอพูดถึงจิตแพทย์ปุ๊บยังไงเค้าก็คงไม่ยอมไปแน่ๆล่ะ และเค้าก็จะสวนกลับมาทันทีเลยว่าเค้าไม่ได้บ้าทำไมต้องไปหาหมอ หนูกับแม่ส่งเค้าไปปฏิบัติธรรมก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังเจอแจ็คพอตอีกว่าวันที่เค้าไปปฏิบัติธรรมเมียน้อยก็ยังอัพรูปใส่ชุดขาวไปปฏิบัติธรรม ทีนี้แม่หนูก็ชอกช้ำเข้าไปใหญ่ เพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นจริงมั้ยคะ
อันนี้เป็นเรื่องคร่าวๆนะคะ รายละเอียดจริงๆมันเยอะมากเพราะเรื่องนี้มันเกิดแบบเรื้อรังมาตั้งกี่ปีจนถึงปัจจุบันแล้วก็ยังไม่จบ จนบางเรื่องหนูก็มีลืมๆไปบ้าง คือหนูอยากจะขอคำปรึกษาว่าควรทำยังไงกับเรื่องนี้ต่อไปดี ถามว่าใจลึกๆอยากให้หย่ากันมั้ยก็ไม่หรอกค่ะ แต่หนูสงสารแม่จริงๆ เพราะแม่จะไปสู้อะไรพ่อเค้าได้ ถ้าถึงขั้นจะให้แม่ไปฟ้องหย่านี่พ่อต้องอาละวาดบ้านพังแน่นอน ส่วนถ้าจะให้อยู่ด้วยกันต่อไปมันก็ไม่มีทางมีความสุขได้เลยเพราะต้องมาคอยระแวงกันตลอดเวลา
พ่อทำร้ายแม่เพราะเมียน้อยควรทำยังไงดีคะ?
มีเรื่องนึงที่น่าตกใจคือหนูกับแม่เพิ่งจะมารู้กันภายหลังว่าก่อนที่เค้าจะเข้ามาก่อกวนแบบตรงๆเนี่ย เค้าเคยแอดมาเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คกับตัวหนู แม่และก็น้องด้วย ซึ่งมันก็เป็นระยะเวลานานมากแล้วก่อนที่เค้าจะมาเปิดเผยให้รู้ถึงตัวตนของเค้าเสียอีก นั่นก็ทำให้เป็นจุดที่น่าสนใจว่าพ่อกับผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์กันมากี่ปีแล้วกันแน่ เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ก็มีลูกด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็น่าจะอายุราวๆ 4-6 ขวบ แม่กับหนูก็สงสัยว่าหรือเด็กคนนี้จะเป็นลูกของพ่อ เราไปถามพ่อกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเค้าก็บอกว่าไม่ใช่
ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้ว่าเชื่อพ่อมั้ยใจมันก็เอียงไปทางที่ไม่เชื่อเสียมากกว่า เพราะว่าคนเราถ้ามันไม่มีอะไรที่เป็นข้อผูกมัดกัน ถ้าบอกว่าเลิกกันจริงๆทำไมตัวผู้หญิงถึงยังต้องมาคอยวนเวียนก่อกวน ตามส่องครอบครัวของหนูอยู่ เพราะว่าเวลาแม่ของหนูโพสอะไรในเฟสบุ๊ค ผู้หญิงคนนี้ก็จะขึ้นสเตตัสเหมือนกับค่อนแคะแม่ พอแม่ไปถามพ่อเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้ทำไมต้องคอยตามส่องแล้วก็โพสแขวะแม่ด้วย เค้าก็จะบอกว่าไม่รู้ เลิกกันแล้ว อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนี้อีก และมันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ
แต่ตอนนี้ที่เปลี่ยนไปคือพ่อ จากที่เคยเอาแต่ปฎิเสธอย่างเดียว ตอนนี้เค้ากลับโมโห ทำลายข้าวของ ทำร้ายแม่ เวลาทะเลาะกันทีหนูก็สงสารแม่เหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าถามว่าเราผิดมั้ยที่ไปเก็บเอาเรื่องของผู้หญิงคนนั้นมาใส่ใจและไปคอยตามส่อง ก็ผิดแหละค่ะ แต่ด้วยนิสัยของผู้หญิงอ่ะเนาะมันก็ไม่แปลกหรอกที่จะระแวง บวกกับการทำตัวน่าสงสัยของพ่อด้วยที่หวงโทรศัพท์มากแถมยังมีโทรศัพท์อีกเครื่องนึงซ่อนไว้ในรถอีก พอแม่จับได้เค้าก็จะทะเลาะกันบ้านแตกทุกที และแม่ก็จะถูกทำร้ายตลอด แม่เคยถามหนูกับน้องนะว่าถ้าแม่จะขอหย่าได้มั้ย หนูกับน้องก็โอเคไม่ขัดข้อง เพราะไม่อยากเห็นแม่ต้องเจ็บอีก แต่พ่อเค้าไม่ยอมหย่าขนาดแม่ไปรอที่อำเภอเค้าก็ไม่ยอมไป
ตอนที่ดีๆคือพ่อเค้าก็ดีมากแหละค่ะ เค้ายอมหนูกับแม่ทุกอย่าง มันมาเสียเรื่องเดียวก็คือผู้หญิงคนนี้คนเดียวจริงๆ แต่ว่าเค้าโมโหคือน่ากลัวมากจริงๆ บางทีเค้าก็ตีอกชกตัวเองด้วย หนูอยากจะพาเค้าไปพบจิตแพทย์เหลือเกิน เพราะใจหนูตอนนี้คิดว่าเค้าอาจจะเป็นไบโพล่า พอพูดถึงจิตแพทย์ปุ๊บยังไงเค้าก็คงไม่ยอมไปแน่ๆล่ะ และเค้าก็จะสวนกลับมาทันทีเลยว่าเค้าไม่ได้บ้าทำไมต้องไปหาหมอ หนูกับแม่ส่งเค้าไปปฏิบัติธรรมก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังเจอแจ็คพอตอีกว่าวันที่เค้าไปปฏิบัติธรรมเมียน้อยก็ยังอัพรูปใส่ชุดขาวไปปฏิบัติธรรม ทีนี้แม่หนูก็ชอกช้ำเข้าไปใหญ่ เพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นจริงมั้ยคะ
อันนี้เป็นเรื่องคร่าวๆนะคะ รายละเอียดจริงๆมันเยอะมากเพราะเรื่องนี้มันเกิดแบบเรื้อรังมาตั้งกี่ปีจนถึงปัจจุบันแล้วก็ยังไม่จบ จนบางเรื่องหนูก็มีลืมๆไปบ้าง คือหนูอยากจะขอคำปรึกษาว่าควรทำยังไงกับเรื่องนี้ต่อไปดี ถามว่าใจลึกๆอยากให้หย่ากันมั้ยก็ไม่หรอกค่ะ แต่หนูสงสารแม่จริงๆ เพราะแม่จะไปสู้อะไรพ่อเค้าได้ ถ้าถึงขั้นจะให้แม่ไปฟ้องหย่านี่พ่อต้องอาละวาดบ้านพังแน่นอน ส่วนถ้าจะให้อยู่ด้วยกันต่อไปมันก็ไม่มีทางมีความสุขได้เลยเพราะต้องมาคอยระแวงกันตลอดเวลา